หน่วยที่ ๓ เรื่องละครไทย ละครไทยจะต้องมีทักษะในการแสดงที่หลากหลายรูปแบบ ในการสื่อความหมายในการแสดง ละครไทย มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในแต่ละยุค หน่วยที่ 4 เรื่องการชม วิจารณ์ และประเมินคุณภาพการแสดง การชม วิจารณ์ และประเมินคุณภาพการแสดง จะต้องวิจารณ์การแสดงตามหลักนาฏศิลป์และการละคร ตลอดจนพัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินการแสดง คุณลักษณะนี้ถูกปิดใช้งานโดยผู้ดูแล Lesson: บุคคลสำคัญในวงการละครของไทย
About Lesson ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี
ครูรงภักดี (เจียร จำรุจรณ)
Exercise Files No Attachment Found หน่วยที่ ๓ เรื่องละครไทย ละครไทยจะต้องมีทักษะในการแสดงที่หลากหลายรูปแบบ ในการสื่อความหมายในการแสดง ละครไทย มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในแต่ละยุค หน่วยที่ 4 เรื่องการชม วิจารณ์ และประเมินคุณภาพการแสดง การชม วิจารณ์ และประเมินคุณภาพการแสดง จะต้องวิจารณ์การแสดงตามหลักนาฏศิลป์และการละคร ตลอดจนพัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินการแสดง คุณลักษณะนี้ถูกปิดใช้งานโดยผู้ดูแล บุ ค ค ล สำ คั ญ หม่อมครูอึ่ง หสิตะเสน จัดทำโดย หม่อมครูอึ่ง หสิตะเสน อึ่ง หสิตะเสน เดิมคือ เจ้าจอมอึ่ง เป็นอดีตพระสนม ประวัติชีวิต อึ่งเป็นธิดาของหม่อมหลวงชม อภัยกุล ต่อมาได้เข้ามาเป็นตัว ต่อมาจากกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญทิวงคตแล้วได้กราบบังคมทูลลา 1. ปริก (ช.) เป็นพระอาจารย์สอนตีขิมแก่เจ้านายหลายพระองค์ ผลงานและศิษย์เอก วิชาความรู้จากหม่อมครูอึ่งที่ถ่ายทอดผ่านมายังวังสวนกุหลาบ โดยมีศิษย์ คุณครูลมุล ยมะคุปต์ ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี คุณครูเฉลย ศุขะวณิช ผลงานและศิษย์เอก
และการเรียนการสอนในหลักสูตรนาฏศิลป์ไทยของกระทรวงศึกษาธิการ ผลงานและศิษย์เอก ภาพคณะละครวังสวนกุหลาบ
ถ่ายหน้าเรือนกินนรรำ ในวัง (แต่ยังคงใช้ชื่ อคณะละครวังสวนกุหลาบอยู่) พระโอรสของทูลกระหม่อมติ๋ว ชีวิตหม่อมครูอึ่งจากบทสัมภาษณ์คุณ ” หม่อมครูอึ่ง กับ หม่อมครูนุ่ม เป็นหม่อมละคร ชีวิตหม่อมละครมัก อาภัพ เมื่ออยู่ที่วังสวนกุหลาบท่านได้เบี้ยเลี้ยงเดือนละไม่กี่บาท พอทูล กระหม่อมอัษฏางค์สิ้น ท่านก็ออกมาอยู่ข้างนอก ไม่มีลูกหลานคอย ตอบแทนพระคุณด้วยการเอื้อเฟื้ อค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งให้กับหม่อมครูทั้ง สงครามกันไปหมด หม่อมครูจึงจากโลกนี้ไปอย่างเดียวดาย เป็นเส้นทางชีวิต ที่ทำคุณประโยชน์เพื่อผู้อื่น โดยเฉพาะแก่ประเทศชาติ แต่ชีวิตอาภัพนัก ถ้า ไม่มีหม่อมครูอึ่ง พวกเราชาวนาฏศิลป์ก็ไม่มีท่ารำตัวพระสวยสง่าไว้รำกัน หรอกป่านนี้คงรำกันอย่างหัวมังกุท้ายมังกร” ครูนุ่ม |