ฉันไม่ได้ทํางาน ฉันเรียนอยู่ ภาษาอังกฤษ

หลายคนฝันอยากทำงานต่างประเทศ มีไม่กี่อย่างที่ทำให้คนเราตื่นเต้นกังวลได้เหมือนการสัมภาษณ์งาน มันเป็นเรื่องน่ากลัวที่จะต้องนั่งลงแล้วเล่าเรื่องตัวเองกับฝ่ายบุคคล มันเป็นสิ่งที่คน 99% ต้องเจอ แต่อย่าได้กลัว! ฝึกอีกสักหน่อย (และพกสำนวนกันพลาดเข้าไปด้วย) คุณจะผ่านการสัมภาษณ์ไปได้อย่างเลิศๆสวยๆ

เพื่อช่วยคุณเตรียมตัว เรารวบรวมสำนวนภาษาอังกฤษที่เป็นประโยชน์มาสำหรับหัวข้อที่มักจะถูกถามในการสัมภาษณ์งาน: บุคลิก, จุดแข็ง, ประสบการณ์ และแน่นอน ทำไมถึงอยากได้งานนี้

บรรยายบุคลิก

เมื่อนั่งลงกับผู้สมัคร ผู้สัมภาษณ์ (ว่าที่เจ้านาย) กำลังเล็งว่าผู้ให้สัมภาษณ์ (ตัวคุณ) จะเข้ากับทีมที่มีอยู่แล้วได้มั้ย นี่เป็นเวลาที่จะโชว์ให้เห็นว่าคุณเป็นใคร และทำไมคุณถึงน่าร่วมงานด้วย คำพวกนี้คือคำคุณสรรพที่น่าใช้:

  • Easy-going: คนที่ผ่อนคลาย เข้ากับคนได้ง่าย

  • Hard-working: คนที่ทำงานได้ดีและไม่ขี้เกียจ

  • Committed: คนที่ซื่อสัตย์ต่องานและคน

  • Trustworthy: คนที่สามารถพึ่งพาได้

  • Honest: คนที่พูดความจริง

  • Focused: คนที่ไม่วอกแวกง่าย

  • Methodical: คนที่ใส่ใจกับรายละเอียด และทำงานอย่างมีเหตุมีผล

  • Proactive: คนที่ทำงานให้เสร็จได้โดยไม่ต้องมีคนคอยควบคุม

พูดได้ว่า: I’m (easy-going), or I’m a/an easy-going person/employee/worker. (ฉันเป็นคนง่ายๆ)

ถ้าอยากปล่อยหมัดฮุค ลองใช้คำที่ทำให้แรงขึ้นอย่าง very (มาก), extremely (อย่างสุดขั้ว), really (จริงๆ) (“I’m very trustworthy,” “I’m an extremely focused employee.”)

บรรยายจุดแข็ง

ผู้สัมภาษณ์จะอยากรู้ว่าคุณทำอะไรได้ดี ทำไมน่ะหรอ ก็เพราะงานที่คุณสมัครนั้นต้องอาศัยทักษะบางอย่าง – นี่เป็นเวลาให้เล่าว่าคุณทำอะไรได้มั่ง

ทักษะและลักษณะทางบวกที่นายจ้างมองหามีดังนี้:

  • Organization ทำงานเป็นระบบ

  • The ability to multitask ความสามารถในการทำงานหลายๆอย่างได้พร้อมกัน

  • Perform to a deadline ทำงานภายใต้ระยะเวลาจำกัด

  • Solve problems แก้ไขปัญหา

  • Communicate well สื่อสารได้ดี

  • Work in an international environment and with people from all over the world ทำงานในสิ่งแวดล้อมที่มีความเป็นนานาชาติกับคนจากทั่วโลก

  • Speak foreign languages พูดภาษาต่างประเทศได้

  • Enthusiasm กระตือรือล้น

ใช้สำนวนอย่าง: I’m good at/I’m skilled at multitasking/working under pressure/working to a deadline, หรือ My strength is/are my ability to problem solve/be enthusiastic/speak fluent English ฯลฯ

บรรยายประสบการณ์

ถ้าเคยทำงานมาก่อนแสดงว่าคุณมีประสบการณ์อันมีค่าที่สามารถนำมาใช้ในตำแหน่งนี้ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานที่สมัคร การศึกษาอาจเป็นสิ่งน่าพูดถึงด้วย พวกนี้เป็นสำนวนที่ใช้ได้:

  • I have five years’ experience as a waitress/in retail/as a teacher ฉันมีประสบการณ์ในการเป็นพนักงานเสิร์ฟ/พนักงานขาย/ครูมา 5 ปี

  • I worked in retail for seven years and was promoted to manager in my second year ฉันทำงานเป็นพนักงานขายมา 7 ปี และได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการในปีที่สองของการทำงาน

  • I studied at the University of Queensland ฉันเรียนจบจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลน

  • I worked for Anderson and Assoc. as a lawyer ฉันทำงานให้บริษัทแอนเดอร์สันในฐานะทนายความ

เตรียมตัวให้พร้อมที่จะอธิบายประเด็นหลักในใบซีวีของคุณ ใช้โอกาสนี้ในการขยายความสิ่งที่อยู่บนซีวีและให้รายละเอียดเพิ่มเติม

บรรยายเป้าหมายในอนาคต และทำไมถึงต้องการงานนี้

นี่เป็นโอกาสที่จะบอกผู้สัมภาษณ์ว่าทำไมถึงอยากได้งานตำแหน่งนี้ บางทีคุณอาจจะอยากเพิ่มประสบการณ์ในสายงานนี้ เรียนรู้ทักษะบางอย่าง คุณมั่นในว่าจะเข้ากับบริษัทนี้ได้ดี หรือนับถือตัวบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ สำนวนเหล่านี้ช่วยได้:

  • I’m looking to further my skills as a barista/in hospitality, as a childcare worker/in early childhood education ฉันกำลังอยากพัฒนาทักษะในการเป็นนักชงกาแฟ/การโรงแรม/การดูแลเด็ก/การศึกษาเด็กเล็ก

  • I’m want to further my career in physiotherapy/as a physiotherapist, in administration/as an administrator, in retail/as a branch manager ฉันอยากก้าวหน้าในสายงานนักกายภาพบำบัด/งานเสมียณ/ผู้จัดการสาขา

  • I believe your company is an important player in its industry ฉันเชื่อว่าบริษัทของคุณเป็นผู้เล่นคนสำคัญในอุตสาหกรรมนี้

  • I feel my skills set is a perfect fit for your team and I can contribute by… ฉันรู้สึกว่าทักษะของฉันจะเข้ากับทีมของคุณได้ดีเยี่ยม และฉันจะช่วยด้วยการ…

จุดสุดท้ายนี้สำคัญมาก – คุณต้องทำให้ผู้สัมภาษณ์เชื่อให้ได้ว่าคุณต้องการงานนี้จริงๆ อย่าทำให้เกินพอดี แต่ก็ทำให้แน่ใจว่าคุณพูดจุดนี้ได้ชัดเจน

สำหรับคนที่กำลังฝึกฝนกาพูดภาษาอังกฤษอยู่แต่ไม่รู้จะพูดยังไง ใช้ประโยคไหนถึงจะดี ขอบอกว่าไม่ต้องห่วงเลยจ้า!

เพราะคราวนี้ Scholarship.in.th มี 95 ตัวอย่างประโยคในภาษาอังกฤษที่เอาไว้ใช้ในการทำความรู้จักกับผู้อื่นได้ง่ายๆ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย!

ฉันไม่ได้ทํางาน ฉันเรียนอยู่ ภาษาอังกฤษ

คุณเป็นอเมริกันใช่ไหม?
Are you American?

คุณจะมาตอนเย็นนี้ใช่ไหม?
Are you coming this evening?

คืนนี้คุณว่างไหม?
Are you free tonight?

คุณกำลังจะไปโดยเครื่องบินหรือรถไฟ?
Are you going to take a plane or train?

คุณหิวไหม?
Are you hungry?

คุณแน่ใจไหม?
Are you sure?

พรุ่งนี้คุณทำงานไหม?
Are you working Tomorrow?

ธุรกิจเป็นสิ่งที่ดี.
Business is good.

สู้ สู้!
Cheers!

เมื่อวานหิมะตกไหม?
Did it snow yesterday?

คุณได้รับเมล์ฉันไหม?
Did you get my email?

คุณทานยาของคุณแล้วหรือยัง ?
Did you take your medicine?

คุณรู้สึกดีขึ้นแล้วหรือยัง?
Do you feel better?

คุณไปฟลอริดาบ่อยไหม?
Do you go to Florida often?

คุณมีอีกอันหนึ่งไหม?
Do you have another one?

คุณรู้ไหมว่ามีร้านไหนขายผ้าขนหนูบ้าง?
Do you know where there’s a store that sells towels?

คุณชอบที่นี่ไหม?
Do you like it here?

คุณชอบหนังสือไหม?
Do you like the book?

คุณต้องการอะไรอีกไหม?
Do you need anything?

คุณเล่นกีฬาไหม?
Do you play any sports?

คุณขายยาใช่ไหม? (ร้านค้า)
Do you sell medicine?

คุณเรียนภาษาอังกฤษใช่ไหม?
Do you study English?

คุณอยากมากับฉันไหม?
Do you want to come with me?

คุณอยากไปกับฉันไหม?
Do you want to go with me?

ขอโทษ
Excuse me.

โทรหาฉัน
Give me a call.

พี่ชายของคุณ เคยไปแคลิฟอร์เนียไหม?
Has your brother been to California?

พวกเขาเคยเห็นเธอหรือยัง?
Have they met her yet?

คุณเคยทำสิ่งนี้ มาก่อนไหม?
Have you done this before?

คุณอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?
How long have you been here?

คุณอยู่ที่อเมริกานานแค่ไหน?
How long have you been in America?

คุณอยู่ที่นี่นานเท่าไรแล้ว?
How long have you lived here?

คุณมีลูกกี่คน?
How many children do you have?

คุณพูดได้กี่ภาษา?
How many languages do you speak?

มีคนในครอบครัวของคุณกี่คน?
How many people do you have in your family?

คุณอยากจะให้ราคาเท่าไหร่?
How much would you like?

คุณอายุเท่าไร?
How old are you?

ฉันซื้อเสื้อเชิ้ตเมื่อวาน
I bought a shirt yesterday.

ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี
I don’t feel well.

ฉันเจ็บที่แขนของฉัน
I have pain in my arm.

ฉันจะต้องซักเสื้อผ้า
I have to wash my clothes.

ฉันมี (พี่สาว หรือ น้องสาว) 2 คน
I have two sisters.

ฉันจำได้
I remember.

ฉันพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย
I speak a little English.

ฉันจะบอกเขาว่าคุณโทรมา
I’ll tell him you called.

ฉันอายุ 32
I’m 32.

ฉันสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว
I’m 6’2″.

ฉันไซส์ 8
I’m a size 8.

ฉันแพ้อาหารทะเล
I’m allergic to seafood.

ฉันเป็นคนอเมริกัน
I’m American.

ฉันก็ดี แล้วคุณล่ะ?
I’m fine, and you?

ฉันไม่กลัว
I’m not afraid.

ฉันป่วย
I’m sick.

บ้านของคุณ คล้ายหลังนี้ไหม?
Is your house like this one?

สามีของคุณมาจากบอสตันด้วยหรือ?
Is your husband also from Boston?

มันไม่แพงมาก
It’s not very expensive.

ฉันเคยอยู่ที่นั่น
I’ve been there.

มาแชร์กันเถอะ
Let’s share.

ลูกสาวของฉันอยู่ที่นี่
My daughter is here.

พ่อของฉันเคยไปที่นั่น
My father has been there.

พ่อของฉันเป็นทนายความ
My father is a lawyer.

คุณยายของฉันเสียเมื่อปีที่แล้ว
My grandmother passed away last year.

ฉันชื่อจอห์น สมิธ
My name is John Smith.

ลูกชายของฉันเรียนคอมพิวเตอร์
My son studies computers.

ลูกชายของฉัน
My son.

ไม่ ฉันเป็นคนอเมริกัน
No, I’m American.

ไม่ นี่เป็นครั้งแรก
No, this is the first time.

ลูกๆ ของเราอยู่ในอเมริกา
Our children are in America.

เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญ
She’s an expert.

เธออายุมากกว่าฉัน
She’s older than me.

รถยนต์คันนั้นคล้ายรถยนต์ของฉัน
That car is similar to my car.

นี่คือคุณสมิธ
This is Mrs. Smith.

นี่คือแม่ของฉัน
This is my mother.

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่
This is the first time I’ve been here.

เรามีลูกผู้ชาย 2 คน และลูกผู้หญิงอีกหนึ่ง
We have two boys and one girl.

คุณ กำลังจะทำอะไร คืนนี้?
What are you going to do tonight?

งานอดิเรกของคุณคืออะไร?
What are your hobbies?

คุณเรียนอะไร?
What do you study?

คุณอยากทำอะไร?
What do you want to do?

คุณเรียนที่โรงเรียนอะไร?
What school did you go to?

ภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณคืออะไร?
What’s your favorite movie?

นามสกุลของคุณคืออะไร?
What’s your last name?

คุณชื่ออะไร?
What’s your name?

เสื้อยืดอยู่ที่ไหน ?
Where are the t-shirts?

คุณไปที่ไหนมา?
Where did you go?

คุณเรียนภาษาอังกฤษที่ไหน?
Where did you learn English?

คุณทำงานที่ไหนมาก่อนคุณจะมาที่นี่?
Where did you work before you worked here?

คุณอาศัยอยู่ที่ไหน?
Where do you live?

คุณไปอยู่ที่ไหนมา?
Where were you?

ใครส่งจดหมายนี้?
Who sent this letter?

คุณอยากจะซื้ออันนี้ไหม?
Would you like to buy this?

คุณพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก
You speak English very well.

ลูกๆ ของคุณเรียบร้อยดีมาก
Your children are very well behaved.

ลูกสาวของคุณ
Your daughter.

คุณเก่งกว่าเขา
You’re smarter than him.

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นนะจ๊ะ ก่อนจะเอาไปใช้จริงก็อย่าลืมการปรับเปลี่ยนบางข้อมูลให้เป็นของตัวเองล่ะ

แล้วก็ การฝึกฝนใช้เท่านั้นที่จะช่วยให้การใช้ภาษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพนะ! อิอิ

ที่มา: Yenta4

ร่วมแสดงความคิดเห็นกันจ้า...