Skip to content Show
สวัสดิการของประชาชน > ผู้สูงอายุ > เปรียบเทียบสิทธิรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานหลังเกษียณ จะบัตรทองหรือไปต่อกับประกันสังคมดีกว่ากัน เปรียบเทียบสิทธิรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานหลังเกษียณ จะบัตรทองหรือไปต่อกับประกันสังคมดีกว่ากัน1 พฤษภาคม 202226 สิงหาคม 2022
บทความที่เกี่ยวข้องคุณให้คะแนนบทความนี้เท่าไหร่ขอบคุณสำหรับคะแนน ต้องการแนะนำเพิ่มเติมหรือไม่ ?
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณแชร์ข้อมูลหรือคำแนะนำเพิ่มเติม ?ความเห็นของคุณสำคัญกับเรา เพื่อปรับปรุงคุณภาพบทความ ให้มีประโยชน์กับทุกๆคนมากขึ้น
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณเมื่อเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นค่ารักษาพยาบาลในแต่ละครั้งใช้เงินเยอะ ดังนั้น การวางแผนค่าใช้จ่ายทั้งค่ารักษาพยาบาลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เนื่องจากตอนที่ยังทำงานอยู่เราใช้สวัสดิการรักษาพยาบาลของบริษัท แต่เมื่อลาออกหรือเกษียณแล้ว เราจะมีสิทธิใช้สวัสดิการค่ารักษาอะไรบ้างนอกจากการซื้อประกัน นั่นก็คือสิทธิประกันสังคมและบัตรทอง ที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ไปได้ แล้วระหว่าง 2 สิทธินี้มีข้อแตกต่างกันอย่างไร แต่ละสิทธิมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรกันบ้าง วันนี้ cruisemate จะมาตอบข้อสงสัยเหล่านี้กัน สารบัญเนื้อหา ความหมาย ใครลงทะเบียนได้บ้าง ความแตกต่างระหว่างสิทธิรักษาพยาบาล
เงื่อนไขการใช้สิทธิ สถานที่ใช้รักษาพยาบาล การย้ายสิทธิ์สถานพยาบาล ข้อดี-ข้อเสีย สรุป ความหมายประกันสังคม คือ เป็นการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม โดยที่ผู้ประกันตนจ่ายเอง หรือจ่ายรวมกับนายจ้างและภาครัฐ ขึ้นอยู่ตามมาตรา 33 39 และ40 ที่ผู้ประกันเลือกลงทะเบียนไว้
บัตรทอง คือ สวัสดิการที่รัฐมอบให้กับคนไทยทุกคนที่ไม่มีสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิข้าราชการ แต่เมื่อมีสิทธิการรักษาอย่าใดอย่างหนึ่ง สิทธิประกันสุขภาพจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ กลับสู่สารบัญ
ใครสามารถลงทะเบียนได้บ้างประกันสังคม ให้สิทธิ์กับคนที่เป็นลูกจ้างที่บริษัทได้ส่งเงินสมทบกองทุนให้โดยที่ไม่ต้องสมัครเอง
(ตามมาตรา 33) บัตร 30 บาท ให้สิทธิ์กับคนไทยทุกคนตั้งแต่แรกเกิด ไม่ได้เป็นข้าราชการ ไม่ใช่บุตรของข้าราชการ หรือไม่มีสวัสดิการอะไรเลย กลับสู่สารบัญ ความแตกต่างระหว่างสิทธิรักษาพยาบาลใช้สิทธิ์ได้ในโรงพยาบาลที่เลือกลงทะเบียนไว้ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่จำกัดจำนวนครั้งและจำนวนเงินค่ารักษาพยาบาล ส่วนในกรณีที่ต้องหยุดงานพักรักษาตัวมีสิทธิได้รับเงินชดเชยรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ใช้สิทธิ์ได้กับโรงพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสปสช. เข้ารักษาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ในกรณีฉุกเฉินเป็นผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอนใช้ได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี ใช้สิทธิ์ที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ไม่จำกัดจำนวนครั้งทั้งในกรณีฉุกเฉินและอุบัติเหตุ (เฉพาะสถานพยาบาลของสปสช. จะไม่มีค่าใช้จ่าย) หากเป็นสถานพยาบาลที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับสปสช. (ผู้ป่วยต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด) เหมาจ่ายค่าคลอดบุตรต่อครั้ง ไม่เกิน 2 ครั้ง และได้เงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มอัตราร้อยละ 50 ของเงินเดือน เป็นเวลา 90 วัน ใช้สิทธิ์ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง รักษาที่โรงพยาบาลรัฐได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถเข้าโรงพยาบาลเอกชนได้ แต่เบิกจ่ายได้ตามที่กำหนดเท่านั้น ได้รับเงินทดแทนรายได้ 50%ของค่าจ้าง จ่ายให้ตลอดชีวิต เข้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และค่าพาหนะรับส่งกรณีฉุกเฉินเพื่อส่งตัวรักษาอาการต่อ ใช้สิทธิถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนได้ไม่เกิน 900 บาท/ปี ฟันเทียมได้ทั้งในสถานพยาบาลและคลินิกทันตกรรมที่ร่วมรายการ ใช้สิทธิถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ฟันทียม รักษาโพรงประสาทฟันน้ำนม เฉพาะสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนเท่านั้น สามารถใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งและไม่มีวงเงิน ไม่คุ้มครองกรณีไตวาย การปลูกถ่ายไตรวมถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังมาก่อน แต่มีสิทธิรักษามีสิทธิรักษาได้ไม่เกิน 60 วัน คุ้มครองไตวายรักษาได้ตลอด และการปลูกถ่ายไต ทั้งกรณีที่เป็นและไม่ได้เป็นไตวายมาก่อน เบิกได้เฉพาะยาในบัญชีเท่านั้น การรักษาและบริการที่ไม่คุ้มครองการรักษาและบริการของทั้ง 2 สิทธิจะไม่คุ้มครองในกรณี ดังนี้
นอกเหนือจากนั้นประกันสังคมยังไม่คุ้มครองโรค อุบัติเหตุที่เกิดจากสารเสพติด และปลูกถ่ายอวัยวะ ปลูกถ่ายไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ไขกระดูกสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะตา ส่วนสิทธิประกันสุขภาพ ไม่คุ้มครองโรคหรืออุบัติเหตุที่เกิดจากสารเสพติด การปลูกถ่ายอวัยวะ ยกเว้นสิทธิเฉพาะผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย หากเป็นผู้ป่วยใน สามารถใช้สิทธิรักษาเกิน 180 วัน เฉพาะที่โรคเกิดจากภาวะแทรกซ้อน กลับสู่สารบัญ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทั้งประกันสังคมและบัตรทอง “สามารถเข้ารักษาพยาบาลได้ที่โรงพยาบาลใกล้ที่สุดทั้งรพ.รัฐและเอกชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่ต้องสำรองจ่าย รัฐจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดภายใน 72 ชั่วโมง” หากหลังจาก 72 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะถูกย้ายไปโรงพยาบาลตามสิทธิ์ที่ตนเลือกไว้ ยกเว้นกรณีที่โรงพยาบาลต้นสังกัดที่เลือกลงทะเบียนไว้ที่มีสิทธิ์ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยเพิ่มได้ ไม่มีเตียง หรืออาการผู้ป่วยยังไม่ดีขึ้น กองทุนจะจ่ายให้ หากย้ายได้ แต่ผู้ป่วยไม่ย้าย จะต้องเสียค่าใช้จ่ายหลังจากนั้นเองทั้งหมด กลับสู่สารบัญ กรณีส่งต่อผู้ป่วยหากต้องรับหรือส่งตัวผู้ป่วยไปวินิจฉัยต่อสถานพยาบาลอื่น ที่ไม่ใช่สถานพยาบาลตามสิทธิที่ลงทะเบียนไว้ สามารถเบิกค่าพาหนะภายในจังหวัดเดียวกันไม่เกิน 500 บาทต่อครั้ง กรณีข้ามเขตจังหวัดคิดระยะทางกิโลเมตรละ 6 บาท หากส่งต่อผู้ป่วยทางเฮลิคอปเตอร์ สิทธิประกันสังคมจะไม่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ส่วนในกรณีของบัตรทอง สามารถเบิกจ่ายค่าพาหนะโดยขึ้นอยู่กับในแต่ละประเภทของพาหนะ
กลับสู่สารบัญ เงื่อนไขการใช้สิทธิต้องส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมตามเงื่อนไขตามระยะเวลาในแต่ละกรณี ถึงจะสามารถใช้สิทธินั้นๆได้ ส่วนบัตร 30 บาท ลงทะเบียนเรียบร้อย จึงสามารถเข้าใช้สิทธิได้ทันที โดยไม่ต้องมีกำหนดระยะเวลา กลับสู่สารบัญ สถานที่ใช้รักษาพยาบาลประกันสังคม ใช้กับโรงพยาบาลที่เลือกสิทธิ์ไว้ตอนลงทะเบียน ส่วนในกรณีฉุกเฉินสามารถเข้าที่ไหนก่อนก็ได้ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ทั้งในภาครัฐและเอกชน บัตรทอง ใช้กับโรงพยาบาลในชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลงทะเบียน หากไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่มีแพทย์เชี่ยวชาญได้ กลับสู่สารบัญ การย้ายสิทธิ์สถานพยาบาลสามารถแจ้งย้ายสิทธิ์ได้ 3 ช่องทาง หากเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ต้องแจ้งฝ่ายบุคคลที่บริษัทเปลี่ยนให้ ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 และ 40 เปลี่ยนได้เองที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือแอพพลิเคชั่น ซึ่งสามารถแจ้งย้ายได้ปีละครั้ง ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. ทุกปี บัตรทองสามารถทำได้ 4 ครั้งต่อปี โดยเตรียมเอกสารเหมือนกับที่ใช้ลงทะเบียนตอนแรกเลยครับ กลับสู่สารบัญ ข้อดี-ข้อเสียประกันสังคม จำเป็นต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน แต่มีสวัสดิการเพิ่มจากบัตร 30 บาท เช่น กรณีเสียชีวิต ชราภาพ เกษียณ รวมถึงชดเชยรายได้ สิทธิประกันสุขภาพ จะไม่มีค่าใช้จ่ายและได้รับสิทธิรักษาฟรีอัตโนมัติโดยทันที มีการรักษาครอบคลุม แต่รอคิวนานมาก การบริการไม่ค่อยดี เพราะบุคลากรมีจำกัด อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง ไม่มีวันหมดอายุและไม่จำเป็นต้องส่งเงินเข้าสมทบกองทุน กลับสู่สารบัญ หมายเหตุ ไม่สามารถลงทะเบียนทั้ง 2 สิทธิได้พร้อมกัน ต้องเลือกใช้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น สรุปความแตกต่างผลประโยชน์ของประกันสังคมและบัตรทองจะเห็นได้ว่าสิทธิในการรักษาพยาบาลของทั้ง 2 สิทธิ ได้สิทธิในการรักษาคล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือในกรณีว่างงาน เกษียณ เสียชีวิตและชดเชยรายได้ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่ประกันสังคมมอบให้ และสิทธิของบัตร 30 บาทไม่มีให้ในส่วนนี้ ซึ่งโดยรวมแล้วสิทธิประกันสังคมมีประโยชน์และคลอบคลุมมากกว่า อย่างไรก็ตามสิทธิแต่ละอย่างมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเราเองว่าต้องการแบบไหน กลับสู่สารบัญ ออกจากประกันสังคมใช้บัตรทองได้ไหมผู้ที่สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ ต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และไม่มีสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลอื่นใดที่รัฐจัดให้ ได้แก่ สิทธิประกันสังคม (กรณีขาดส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมจนหมดสิทธิประกันสังคมจะสามารถใช้สิทธิบัตรทองได้) / สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น / ...
ประกันสังคมมาตรา 40 ต่างจาก บัตรทอง อย่างไรโฆษกกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า การสมัครมาตรา 40 ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง (สปสช.) รวมทั้งสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ แต่อย่างใด และสิทธิที่เคยได้รับยังเหมือนเดิม และมีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตจากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย
บัตรทองมีวงเงินไหมการใช้บริการ - โรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่ที่ผู้ป่วยลงทะเบียนไว้เท่านั้น (ในกรณีที่ไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้) การเจ็บป่วยโรคร้ายแรง - คุ้มครองไม่ว่าจะเป็นโรคมาก่อนหรือไม่ บริการด้านทันตกรรม - ไม่มีจำกัดจำนวนเงินและใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ใครมีสิทธิ์ใช้บัตรทองผู้มีสิทธิได้รับบัตรทองคือ ประชาชนคนไทยทุกคนที่ยังไม่มีสิทธิใดๆ จากหลักประกันอื่น ยกเว้น 1. ผู้มีสิทธิตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เช่น ลูกจ้างที่ทำงานในกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ยกเว้น ลูกจ้างทำงานบ้าน หาบเร่ แผงลอย
|