การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร

แนะนำตัวกันแบบคร่าว ๆ กันก่อน  (โปรยยิ้มพร้อม ยกมือไหว้สวัสดี นิ้วโป้งอยู่ที่ปลายจมูก) สวัสดีทุกคนค่ะ เจ๊ชื่อศิรินะคะ เจ๊เพิ่งมาทำงานใหม่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่เจ๊ก็แอบกรี๊ดอยู่ห่าง ๆ อย่างบ้าน my home นี้แหละ เพราะด้วยความเก่งและความสวย ของตัวเจ๊ ก็เลยได้รับตำแหน่งนี้ไป : ) งานนี้เป็นงานแรกของเจ๊ในนามสกุล my home

อะงั้นเข้าเรื่องกันเลย เจ๊เชื่อว่าทุกคนมีมักมีปัญหาที่ต้องแก้ ( เจ๊รู้จ้ะว่าจะตอบว่าเรื่องเงิน อันนี้เจ๊ไม่รับปรึกษานะจ๊ะเชิญป้ายหน้ายาว ๆ เลย ) ปัญหาที่เจ๊จะบอกเนี๊ย มันคือปัญหาของมวลมนุษย์แม่ทั้งหลาย ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ปัญหานี้มันก็ต้องเกิดอยู่ทุกวัน  ก็ปัญหาคราบเปื้อนบนเสื้อสีขาวนี้ไง นอกจากลูกจะขยันเรียนแล้ว ลูกยังขยันมีรอยเปื้อนใหม่ ๆ กลับมาฝากทุกวันจริง ๆ ค่ะ  วันนี้เจ๊เลยรวมวิธีกำจัด 10 คราบยอดฮิตบนเสื้อสีขาวของฝากจากเจ้าตัวเล็กมาบอกกัน  รับรองว่าง่าย รอย เปื้อนเสื้อ หนีกระจายแน่นอน เชื่อเจ๊!!

Show

1. หมึกปากกาลูกลื่น

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบปากกาลูกลื่น

ปากกาลูกลื่น ชื่อก็บอกอยู่ว่าลูกต้องเป็นคนใช้ (เห้ย!! ใช่ที่ไหนเล่า ) บางทีเจ้าตัวเล็กนี้ก็ยุ่งวุ่นวาย เผลอไปจับนู่น จับนี่ มาขีดมาเขียนอยู่เป็นประจำ อย่างปากกาลูกลื่นนี้ก็เหมือนจะถูกชะตากับเด็กมากเสียด้วย เจ๊รู้ตัวอีกที ก็มีลายเส้นสานขัดกันอย่างสวยงาม ราวกับลูกไปเรียนคอร์สความถนัดทางสถาปัตยกรรมมาอย่างนั้น แต่ไม่ต้องห่วงรอยเปื้อนจากหมึกปากกาลูกลื่นแบบนี้เอาออกง่าย เชื่อเจ๊ !!  แค่นำเสื้อที่เปื้อนมาวางทับไว้บนผ้าที่แห้ง และสะอาด จะเป็นผ้าเช็ดมือผืนใหม่ ๆ หน่อยก็ได้ค่ะ จากนั้นนำสำลีชุบแอลกอฮอล์ให้ชุ่ม ค่อย ๆ กดลงไปที่รอยเปื้อน ให้หมึกปากกาค่อย ๆ ละลายไป ขั้นตอนต่อไปผสมผงซักฟอกเข้ากับน้ำเล็กน้อย ละลายให้เป็นเนื้อครีม แล้วป้ายลงบนคราบอีกครั้ง ทิ้งไว้ให้ผงซักฟอกต่อสู้กับหมึกปากกาประมาณ 3 – 5 นาที แล้วขยี้ซ้ำเบา ๆ จากนั้นก็นำเสื้อที่เปื้อนไปซักได้ตามปกติเลย หรือถ้าแอลกอฮอล์เอาไม่อยู่ เปลี่ยนเป็นน้ำยาล้างเล็บแทนก็ได้นะคะ

2. ซอสมะเขือเทศ

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบซอสมะเขือเทศ

เหมือนเป็นความเชื่อของเด็ก ๆ ไปแล้วว่าอาหารจะอร่อยได้ ต้องมีซอสมะเขือเทศ ทานเคียงคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นเมนูสุดฮิต ที่เจอเมื่อไหร่ต้องดีดดิ้นจะกินให้ได้ อย่างพวก ไส้กรอกแบบต่าง ๆ , มักกะโรนีผัดซอส , สปาเก็ตตี้ซอสไก่สับ หรือจะเป็นเฟร้นช์ฟรายด์ของโปรด ก็ล้วนแล้วแต่ต้องจิ้มซอสมะเขือเทศทั้งนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติให้เจ้มจ้นมากขึ้น และอย่างที่แม่ ๆ ก็รู้กันอยู่ ว่าทุก ๆ มื้ออาหาร ต้องมีรอยเปื้อนกลับมาเสมอ มันแทบไม่มีครั้งไหนเลยที่จะไม่มีรอยเปื้อน คราบเปื้อนจากบรรดาซอสต่าง ๆ กำจัดได้ง่ายมากด้วยการแช่ผ้าที่เปื้อนไว้ในน้ำที่ผสมกับเบกกิ้งโซดา แช่ไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ถ้าคราบซอสนั้นยังดื้อดึงไม่ออกไปดี ๆ หล่ะก็ เจ๊ต้องใช้ไม้แข็ง !! ด้วยการใช้น้ำยาฟอกขาว  หรืออาจจะใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ก็ได้ ผสมเข้ากับน้ำส้มสายชู แล้วทาลงบนคราบ ขยี้เบา ๆ พอให้ไม่เหนื่อย แล้วนำไปซักได้ตามปกติ แต่วิธีไม้แข็งนี้แนะนำให้ทำเฉพาะผ้าขาวเท่านั้นนะ ขืนเอาไปใช้กับผ้าสีด้วยหล่ะก็ เสื้อได้ออกมาเป็นลายใหม่แน่นอน มันจะไม่เก๋เอาเด้อ

3. ช็อคโกแลต

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบช็อคโกแลต

ของโปรดของมนุษย์ลูกกว่าครึ่งโลก ต้องยกตำแหน่งให้ช็อคโกแลตเลยจ้า  ได้กินแต่ละทีก็ดีใจจนออกนอกหน้า แอคติ้งเบอร์ใหญ่ เบอร์โต ดีดดิ้นจนเผลอทำหกเลอะเสื้อก็บ่อย ถ้าเจ๊อยู่ตรงนั้นพอดี เจ๊จะรีบพุ่งตัวด้วยความเร็วสูงไปเช็ดออกด้วยทิชชู่เปียก หรือถ้าไม่มีก็ใช้น้ำค่อย ๆ หยอดลงไปตรงที่มีรอยเปื้อน แล้วขยี้เบา ๆ ให้คราบจางลงก่อน 1 สเต็ป  พอถึงบ้านค่อยใช้มะนาวฝานครึ่งลูก มาถู ๆ ตรงที่เป็นรอยเปื้อน จากนั้นนำไปแช่ในน้ำผสมผงซักฟอก ปล่อยผ้าทิ้งไว้ชั่วอึดใจ อาศัยตอนโฆษณาของละครหลังข่าว แล้วค่อยนำไปซักตามปกติ ถ้าเกิดเป็นคราบที่ค่อนข้างฝังแน่นให้ใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาผสมเข้ากับผงซักฟอก แช่เสื้อทิ้งไว้ 1 คืน แล้วค่อยนำไปซัก

4. รอยดินสอ

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบเปื้อนดินสอ

วันดีคืนดีลูกของดิฉันก็สวมวิญญาณแวนโก๊ะจิ๋วขึ้นมา หยิบดินสอเริ่มบรรเลงผลงานชิ้นเอกลงบนกระดาษอย่างเมามันส์ คนเป็นแม่เห็นก็ภูมิใจค่ะ ( หยิบทิชชู่มาซับน้ำตาที่รื้น ๆ อยู่ ) แต่ลูกเอ๊ยยยย ! ขีด ๆ เขียน ๆ ลงบนกระดาษก็น่าจะพอแล้วมั้ง ทำไมถึงมีผลงานมาฝากแม่บนเสื้อด้วยหล่ะลูก  เห็นขาว ๆ เหมือนกันแต่มันไม่เหมือนกันเด้อ  (สูดหายใจเข้า 1 เฮือกใหญ่ ) วางใจได้เลยสำหรับคุณแม่ที่มีลูกสายติส แถมยังสร้างผลงาน เปื้อนเสื้อ เก่งแบบลูกเจ๊ พวกรอยดินสอที่ลูกฝากไว้นั้น สามารถกำจัดไปได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยดินสอ แล้วขยี้เบา ๆ จนรอยดินสอเริ่มจางหายไป จากนั้นก็นำเสื้อไปซักได้ตามปกติเลย ต่อจากนี้จะมีรอยใหม่มากี่รอย แม่ก็รับไหว สบ๊ายยย!!

5. เลือด

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบเลือด

นอกจากเลือดในอกแม่จะผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกินจนโตวิ่งปร๋อแล้วเจ้าเด็กแสบก็มีพลังเหลือล้น จนเกินจะห้ามไหว  ปีนนั่น เล่นนี่ กระโดดตรงนู้นตรงนี้ จนแม่คิดว่า นี่ฉันมีลูกเป็นลิงพันธุ์ขนน้อยหรือเปล่านะ !?  ขนาดนักรบยังมีรอยแผล แล้วเจ้าลิงน้อยของแม่จะไปรอดได้ยังไง ทุกการเรียนรู้ก็ต้องมีเลือดตก ยางออกกันบ้าง ดูหลักฐานได้จากลูกมะนาวที่ทิ้งไว้ให้เป็นอนุสรณ์บนหัว และรอยคราบเลือดที่เสื้อให้เป็นของฝากแม่ เจ้ารอยคราบเลือดบนเสื้อขาวนี้ สามารถกำจัดให้พ้นออกไปได้ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาผสมเข้ากับน้ำเย็นเล็กน้อย กวนจนเป็นเนื้อครีม แล้วนำมาถูเบา ๆ ตรงที่เป็นรอย ทิ้งไว้ให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วก็ปัดเอาเศษเบกกิ้งโซดาออก แล้วก็โยนลงถังซักได้ตามปกติเลยค่ะ ถ้าหากเพิ่งเป็นรอยเลือดใหม่ ๆ ก็ให้ตั้งสติทำแผลให้ลูกก่อนแล้วค่อยมากำจัดคราบที่เสื้อ โดยการใช้น้ำเย็นจัด ๆ ราดลงบนคราบเลือดโดยตรง ถูตรงบริเวณที่เป็นคราบซ้ำ ๆ จนกว่ารอยจะจางลง แล้วค่อยนำไปซัก

6. คราบไคล

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบไคล

กิจกรรมเยอะ พลังก็เยอะเหลือเกินค่ะสำหรับเด็ก ๆ ในวัยกำลังซนแบบนี้ แอบดูเขาวิ่งเล่นกับเพื่อน หัวเราะคิกคักกันใหญ่ เจ๊ก็ชื่นใจ แต่คราบเหงื่อไคลที่เด็ก ๆ พกกลับบ้านมาเป็นของแถมให้นี่ก็นะ … หนักใจเหลือเกิน เหงื่อไหลตรงไหน ยกแขนเสื้อป้ายตรงนั้น  เป็นไงหล่ะจากแขนเสื้อขาว ๆ กลับมาเป็นทางม้าลายเลยยยจ้า สงสัยแฟชั่นนี้เขายังฮิตกันอยู่ เพราะตอนเจ๊ตัวเท่านั้น เจ๊ก็ทำ เหมือนเห็นภาพสะท้อนเงาตัวเองไม่มีผิด แบบนี้เรียกลูกไม้หล่นใต้ต้นเลยจ้า 55555 คราบเหงื่อไคลที่ติดมาตามแขนเสื้อ และคอปกเสื้อนั้น  กำจัดให้หายวั๊บไปกับตาได้ง่าย ๆ เพียงแค่ นำเสื้อที่เปื้อนไปแช่ลงในน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชู  ¼  ถ้วย แล้วทิ้งไว้ให้น้ำส้มสายชูต่อสู้กับคราบประมาณ 10 – 15 นาที นำขึ้นมาขยี้ที่คราบเบา ๆ ก่อนนำไปซักตามปกติด้วยผงซักฟอก หรือถ้าเป็นคราบเหงื่อไคลที่ค่อนข้างฝังแน่น วางรากฐานอยู่มานาน  ในขั้นตอนการซักนั้น ให้ผสมน้ำมะนาวและยาแก้ปวด 2 เม็ดลงไปด้วยก็ช่วยเวนคืนความขาวกลับมาได้ค่ะ

7. คราบโคลน

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบโคลน

เจ๊ก็พอเข้าใจได้ว่าบ่อโคลน กับบ่อช็อคโกแลตในจินตนาการของหนูมันใกล้กันมากกกก เจ๊เข้าใจจ้ะ  แต่หนูไม่ต้องเอาทั้งตัวลงไปคลุก หรือต้องกระโดดเช็คอินบ่อโคลนทุกบ่อ ให้สายน้ำมันกระเด็นออกมาสวยงามดั่งกำลังถ่ายโฆษณายางรถยนตร์อยู่ก็ได้ลูกกก เปิดประตูกลับบ้านมาทีแม่นี้ก็ต๊กกะใจ นึกว่าหนูหลุดไปโรงงานช๊อคโกแลตของคุณชาลีมาซะอีก เฮ้อออออ คราบโคลนที่เปื้อนเสื้อ ยิ่งทิ้งไว้นาน ยิ่งเอาออกยาก  แต่เหนือจากมนุษย์ลูกสุดแสบ ก็มีมนุษย์แม่นี้แหละ ที่ทั้งสวย ทั้งเก่งสุดๆ เสกคราบหนัก ๆ อย่างคราบโคลนให้หายวั๊บไปกับตา ด้วยการใช้น้ำยาซักผ้าขาว ป้ายลงบนคราบ ทิ้งไว้ให้น้ำยาซักผ้า ต่อสู้กับคราบโคลนซัก 15 นาที ค่อยปล่อยกองทหารม้าลงไปเสริมทัพด้วยการใช้แปรงซักผ้าขัดลงไปเบา ๆ  แล้วนำไปซักตามปกติได้เลย เสื้อที่เปื้อนโคลนแนะนำให้ตากแดดจัด ๆ นะคะ นอกจากจะทำให้ผ้าหอมสดชื่นแล้ว แดดยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่มากับโคลนได้ด้วย เจ๋งปะหล่ะ

8. น้ำผลไม้

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบจากน้ำผลไม้

ใคร ๆ ก็รู้ว่าผลไม้เป็นแหล่งวิตามินที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก แม่อย่างเราก็เลยเลือกให้มีผลไม้อยู่ในทุกมื้ออาหาร ถ้าไม่มีผลไม้สด ก็ต้องมีน้ำผลไม้มาเป็นตัวแทนอยู่ดี   วิตามินดี ๆ แบบนี้มาพร้อมรอยเปื้อยเสมอเลยค่ะ ไม่ว่าจะป้องกันด้วยวิธีไหน ลูกก็ทำเลอะเก่งเหลือเกิน ไหนจะน้ำผลไม้ที่ไหลย้อยยย ยืดดดลงมาที่คาง ลามมาที่เสื้อ เสื้อขาวเกลี้ยง ๆ กลายเป็นลายจุดได้ในพริบตา สร้างงานสร้างอาชีพเก่งจังเลย แต่ลูกจ๋า…แม่เก่งกว่าคราบอีกจ้ะ ( หันไปหัวเราะกับกล้องสอง ด้วยโทนเสียงสู้งงง ) ไม่ว่าจะน้ำส้ม แตงโม หรือจะเป็นคราบจากผลไม้ชนิดไหน ก็กำจัดได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ด้ายการใช้มะนาวผ่าซีกขยี้ลงบนคราบ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น  จากนั้นนำไปซักตามปกติ หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ถูลงไปที่คราบนะ เพราะไขมันจากสบู่ จะยิ่งทำให้คราบติดแน่นเข้าไปอีก แต่ถ้าตั้งใจอยากได้เสื้อลายแบบแปลก ๆ ก็ทำเถอะจ้ะ

9. คราบกาว

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบกาว

ลูกคุณแม่นักประดิษฐ์อย่างเจ๊ ก็ต้องมีร่องรอยสงครามกันบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่รอยแผลจากกรรไกร หรือคัดเตอร์นะจ๊ะ ใจเย็นๆ แต่ร่องรอยประวัติศาสตร์ของนักรบนักประดิษฐ์ที่เจ๊ว่าก็คือคราบกาว ที่นอกจากจะเปื้อนมือแล้ว ลูกคนดีของเจ๊ยังเอามือที่เปื้อนกาวไปเช็ดเสื้ออีกจ้า “ ก็คุณแม่สอนไว้ว่ามือเปื้อนต้องเช็ดทำความสะอาดนี่คะ ” มือสะอาด แต่เสื้อเปื้อนไงหล่ะลูกก!! คราบกาวดูเป็นคราบที่พลังการทำลายล้างน้อยสุดในบรรดาคราบเปื้อนยอดฮิตทั้งหมด วิธีการกำจัดคราบก็ง่ายม้ากกกกก เพียงแค่ใช้น้ำส้มสายชูเทลงตรงที่เป็นคราบ แล้วนำผ้าไปแช่น้ำที่เย็นจัด คราบกาวจะค่อย ๆ หลุดออก จากนั้นก็นำไปซักตามปกติได้เลย

การขจัดรอยเปื้อนเหงื่อไคล ควรทำอย่างไร
คราบจากสนิม

ถ้าสนามเด็กเล่นคือขุมพลังของลูกฉันใด ความสุขที่ได้เห็นเขายิ้ม เขาหัวเราะ ร่าเริงก็เป็นความสุขของแม่ ๆ ฉันนั้น ( ยิ้มมุมปากพร้อมเอียงหน้า 45 องศารับแดดแบบสวย ๆ ) หลังจากก้าวเท้าพ้นสนามเด็กเล่นออกมา ก็พบว่า เสื้อสีขาวตัวเดิมเหมือนหายไปตอนไหนไม่รู้ ถูกแทนที่ด้วยเสื้อขาวลายสีส้มแทน นี่ถ้าเป็นลิปสติกก็คงเป็นเฉดที่สวยมาก แต่นี้บนเสื้อไงลูก !!! สีส้มเฉดแบบนี้อยู่บนริมฝีปากแม่ได้เท่านั้น ไม่ใส่บนเสื้อ ยูโนว์  กลับบ้านรีบเดินเข้าครัวไปเตรียมมะนาวมา คั้นน้ำกระดกดื่มเอาฤกษ์เอาชัยเพิ่มพลังกันหน่อย จากนั้นนำเปลือกของมะนาวมาขัด ๆ ถู ๆ ลงบนคราบ บีบน้ำมะนาวที่เหลืออยู่ลงไปนิดหน่อย ทิ้งไว้ 15 – 20 นาที แล้วนำไปซัก ขณะซักก็นำเกลือป่นมาทาลงบนคราบอีกครั้ง คราวนี้ใส่น้ำส้มสายชูลงไปด้วย ใช้แปรงซักผ้าช่วยขัดอีกแรง เท่านี้ก็ช่วยให้คราบจางลงได้เยอะเลยจ้า

ไม่ว่าจะมีอีกซักกี่คราบกลับมาบ้าน เจ๊ก็เอาอยู่ด้วยเคล็ดลับการทำความสะอาดแบบง่าย ๆ ที่ไม่ต้องเปลืองแรง ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียเงินมากขนาดนั้น ดูซิคราวนี้ก็มีเวลาไปนอนดูซีรีย์ ช็อปปิ้งต่อได้อีกเพียบเลย : )

Story : คุณศิริ
ภาพประกอบ : หนึ่งนุช คล้ายดอน


8 วิธีซักผ้าขาวคืนชีวิตให้ผ้าขาว กลับมาขาวจั๊วะเหมือนใหม่

วิธีรีดผ้าให้เรียบกริ๊บ กับเนื้อผ้า 4 ประเภท

เป็นเพื่อนกันเราได้ใน [email protected] : https://line.me/R/ti/p/%40slo7204x

ผ้าที่เปื้อนคราบสกปรกขนาดซักควรทำอย่างไร

ก่อนซักเสื้อผ้าให้ผสมน้ำมะนาวและน้ำเปล่าในปริมาณที่เท่ากับคราบ และนำไปป้ายลงบนคราบ จากนั้นขัดเบา ๆ จนคราบหลุดออกแล้วนำไปซักอีกครั้ง เสื้อก็จะกลับมาขาวสะอาด วอดก้า ผสมวอดก้ากับน้ำเปล่าในปริมาณเท่ากัน เทใส่ขวดสเปรย์เพื่อฉีดพ่นลงบนคราบเหล่านั้น ทิ้งไว้สักพัก แล้วนำไปซักทำความสะอาดตามปกติให้เสื้อผ้ากลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง

การขจัดคราบเหงื่อไคลที่ติดเสื้อควรปฏิบัติด้วยวิธีใด

ถ้าคราบเหลืองจากเหงื่อไคลนั้นเพิ่งเป็นคราบเกิดใหม่หรือเป็นคราบเบา แนะนำให้ผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง ไม่ต้องคนให้ส่วนผสมละลายจนหมด ใช้ฟองน้ำชุบแล้วขัดลงบนคราบเปื้อนเหล่านั้น จนกว่าคราบจะจางหายไปแล้วนำไปซักทำความสะอาดก็พอค่ะ

นักเรียนมีวิธีการกำจัดรอยเปื้อนอย่างไรบ้าง

การกำจัดรอยเปื้อนต่างๆ บนเสื้อผ้า.
รอยเปื้อนกาว ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปกติ.
รอยเปื้อนขี้ผึ้ง วางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน เปลี่ยนกระดาษจนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด สำหรับผ้าเนื้อบางหรือผ้าไหมให้ใช้กระดาษทิชชูซับแทนกระดาษธรรมดา และใช้เตารีดที่ไม่ร้อนมาก.

คราบฝังแน่นซักยังไง

ตามมาดู 10 วิธีกำจัดคราบบนเสื้อผ้า ฝังแน่นแค่ไหนก็กลับมาสะอาดได้ดั่งเดิม 1. ยาล้างแผล (Hydrogen peroxide) 2. น้ำส้มสายชู 3. เกลือ 4. แชมพู หรือ น้ำยาล้างจาน 5. เบกกิ้งโซดา 6. วอดก้า 7. ยาแอสไพริน (Aspirin) 8. น้ำยาบ้วนปาก 9. น้ำร้อนเดือด 10. น้ำยาล้างเล็บ.
รู้หรือไม่? กลิ่นตัวเกิดจากสาเหตุอะไร?.