Show
spider it �ѭ������ͧ��ê���ẵ iPhone �����ҹ�� �Ҩ�Դ��鹡Ѻ�����ҧ��� �ҧ���� �ѹ�������ҵ�ͧ�������ҹ�����ͧ�����ҧ��Ǩ�� ���ǡ羺�������������� ��Դ��Ҵ��� � ���� � ��ҹ���ͧ ��ԧ � ���� ������Դ�ѭ�Ң�� ��Ҥ���ͧ��Ǩ�礴��µ���ͧ�� �����鹵���仹�� ���кҧ�� ��ҡ�����ö����ѹ����µ���ͧ����ҹ ����蹵�ͧ������� �ѭ�ҷ���Դ��鹡Ѻ��ê���ẵ�����ҹ�� �� 2 ���˵� ��� ���˵بҡ�������� ������˵بҡ�Ϳ������ ���� iPhone �������Ѻ����ͧ���������� ͧ���Сͺ����ͧ ����������� ��ЫͿ�������� ����ö�繵��˵�����¡ѹ��駤�� ���������Դ�ѭ�Ң�鹡Ѻ��ê��� ������ẵ�ͧ�س�������������� �������ẵ�������ǡ��� �ͧ�Ӵѧ��� �Ըա�ù���仨Ѵ��� Back up ��� Reboot �ҡ�������
�س������ٻ����ͧ�ͻ��Ż�ҡ������ ��� iPhone �����ҹ�������� �Ըչ�������繡��ź�����ӵ�ҧ � ����Ѿ�� �����ҡ�س���ѧ�ӧҹ�������� ��������Ѿ��дѺŧ��� �س�������ö���¡�ѹ��Ѻ����� �ҡ�ͧ��Ǩ�� �����䢻ѭ�Ҵ����Ըէ���� ��ҧ�������ѧ������ �ѭ���Ҩ������������������ ��觵�ͧ������ͧ��ҫ��� ���㹡���觫������ ��ҧ ��е�ͧ�ͧ�ӵ���Ըբ�ҧ�鹡��蹡ѹ ��觶�Ҥس���ͧ����������� ����繢����ŷ��� �������������㹡�õ�Ǩ�ͺ����觫�������ŧ �͢ͺ�س ������ :www.gottabemobile.com spider it Home » Tip & Trick
April 22, 2022 1,263 Views ก่อนหน้านี้เราได้เคยเขียนบทความวิธีชาร์จมือถือที่ถูกต้องไปแล้ว แต่ด้วยความที่เขียนตั้งแต่ปี 2020 เราเลยจะมาอัพเดตให้เพื่อนๆ กันกับ “แนะนำวิธีชาร์จแบตที่ถูกวิธีในปี 2022 ชาร์จยังไงให้แบตเสื่อมช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ซึ่งแบตเตอรี่เสื่อมนั้นเป็นอะไรที่อยู่คู่กับเครื่องใช้ไฟฟ้ามาอย่างยาวนานและเป็นสิ่งที่ไม่มีทางแก้ได้ ดังนั้นการชะลอมันให้อยู่กับเราได้นานที่สุดจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด (แต่ถ้ามีเงินหน่อยก็ใช้วิธีเปลี่ยนเรื่อยๆ ก็ได้นะ)
ข้อมูลเรื่องแบตเตอรี่ที่รู้ไว้ก็ไม่เสียหายแบตเตอรี่มือถือในปัจจุบันนี้เป้นแบตเตอรี่แบบ Li-ion ซึ่งจะมีอายุการใช้งานตาม Charge Cycle หรือเรียกง่ายๆ ว่ารอบการชาร์จ ซึ่งโดยพืท้นฐานแล้วรอบการชาร์จแบตเตอรี่ในปัจจุบันนี้จะอยุ่ที่ 800 รอบ (ตอนนี้ที่เจอเยอะสุดคือแบตเตอรี่ใน OPPO FInd X5 Pro 5G ที่มีรอบการชาร์จมากถึง 1,600 รอบ) โดยรอบการชาร์จนี้จะนับเมื่อมีการชาร์จแบตเตอรี่สะสมครบ 100% เท่านั้นถึงจะนับเป็น 1 รอบ ดังนั้นไม่ว่าเราจะชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือกี่เปอเซ็นต์ก็จะยังไม่นับว่าเป้น 1 รอบจนกว่าเราจะชาร์จสะสมครบ 100% อย่างเช่นเราใช้แบตเตอรี่จาก 100% จนเหลือเพียง 50% นำไปชาร์จเพิ่มจนเต็มแล้วเอามาใช้ต่อและชาร์จกลับเข้าไปอีก 50% นั่นถึงจะนับเป็น 1 รอบการชาร์จนะ ซึ่งในอดีตเคยได้มีงานวิจัยเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ เพียงแต่ด้วยความที่เป็นข้อมูลที่เปิดเผยออกมาค่อนข้างนานแล้วอาจจะใช้กับในปัจจุบันไมาได้ แต่ก็ใช้อ้างอิงได้ในระดับหนึ่ง โดยในงานวิจัยนั้นมีทั้งงานวิจัยที่นับรอบการชาร์จจากการใช้แบตเตอรี่ และความเสื่อมของแบตเตอรี่เมื่อมีอุณหภูมิมาเกี่ยงข้อง โดยจะสามารถดูได้จากตารางดังนี้
แนะนำวิธีชาร์จแบตที่ถูกวิธีในปี 20221. เสียบอะแดปเตอร์กับปลั๊กไฟก่อนถึงค่อยเสียบสายชาร์จกับตัวเครื่องสิ่งแรกเลยที่ต้องพูดถึงและเป็นสิ่งทีหลายๆ คนทำผิดกันเป็นประจำเลยก็คือลำดับการเสียบปลั๊กและสายชาร์จ โดยทั่วๆ ไปที่เรามักจะทำกันก็คือเสียบสายชาร์จกับตัวเครื่องก่อนแล้วค่อยเอาอะแดปเตอร์ไปเสียบกับปลั๊กไฟ และทุกครั้งที่เสียบปลั๊กไฟเราจะเห็นประกายไฟเล็กกับมีเสียงช๊อตเบาๆ ซึ่งปกติหลายๆ คนจะเมินมันไปเพราะคิดว่าไม่ได้ส่งผลอะไร แต่ทว่าเหตุการณืเหล่านั้นส่งผลต่อตัวแบตเตอรี่นะเออและอย่างเลวร้ายที่สุดก็จะทำให้มือถือระเบิดไฟลุกได้เลย เพื่อป้องกันปัญหฟานั้นสิ่งที่ต้องทำมี 2 รูปแบบขึ้นอยู่กับเงื่อนไข โดยเงื่อนไขก็คือปลั๊กไฟที่จะเอาอะแดปเตอร์ไปเสียบนั้นมีไฟอยู่หรือไม่ ถ้าไม่ได้เปิดไฟอยู่จะเสียบอย่างไรก็ได้ แต่ถ้ามีการเปิดไฟอยู่ก็ให้ทำการเสียบอะแดปเตอร์ก่อนค่อยเสียบสายชาร์จกับตัวเครื่องนะ เนื่องจากการทำแบบนั้นจะทำให้ไม่เกิดประกายไฟนั่นเอง (ประกายไฟเกิดจากการที่ไฟจากแบตเตอรี่ไหลมาชนกับไฟในปลั๊กนั่นเอง) 2. ถึงจะมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ แต่ก็ไม่ควรเสียบสายชาร์จค้างไว้ในปัจจุบันนี้อะแดปเตอร์ชาร์จที่ใช้ชาร์จมือถือนั้นไม่ว่าจะเป็นของที่แถมมาให้ในกล่องหน้าของที่ไปซื้อเพิ่มมาต่างก็มีฟีเจอร์ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเร็วอยู่ ทำให้ถึงแม้จะเสียบชาร์จทิ้งไว้ก็ไม่ส่งผลกับตัวเครื่อง แต่ว่าๆ ตัวระบบชาร์จนั้นจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อแบตเตอรี่ลดจาก 100% ต่อให้ตัวมือถือมีแบตเตอรี่ 99% ก็จะทำงานขึ้นมาอยู่ดี ซึ่งการปล่อยให้มันวนลูปไปแบบนั้นจะส่งผลต่อรอบการชาร์จโดยรวมของแบตเตอรี่ด้วยนะเออ เนื่องจากรอบการชาร์จจะนับการชาร์จ 100% เป้น 1 รอบ ถ้าเกิดการชาร์จ 1% วนไป 100 รอบก็จะทำให้เสียบรอบการชาร์จไฟฟรีๆ 1 รอบด้วยนั่นเอง ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็อย่างพยายามเสียบสายชาร์จทิ้งไว้นานๆ นะ 3. อยากชาร์จเมื่อไรก็ชาร์จได้ตามใจ จะชาร์จบ่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อยก็ได้ในการชาร์จแบตเตอรี่นั้นด้วยสามัญสำนึกส่วนมากเรามักจะชาร์จแบตเตอรี่มือถือตอนแบตเตอรี่ใกล้จะหมดหรือแบตเตอรี่หมดไปแล้ว ซึ่งการทำแบบนั้นจะทำให้อายุแบตเตอรี่สั้นลงได้นะเออ เนื่องจากการใช้จนเหลือน้อยแล้วค่อยมาชาร์จจะทำให้รอบการชาร์จครบรอบเร็วขึ้นนั่นเอง แถมในจังหวะที่ต้องใช้จริงๆ แล้วแบตเตอรี่เหลือน้อยก็อาจจะเป็นปัญหาได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากมีจังหวะให้ชาร์จได้ก็ชาร์จๆ ไปเลย และถ้าให้ดีเมื่อแบตเตอรี่เหลือสัก 40% – 50% ก็เริ่มชาร์จได้แล้ว เพราะถ้าปล่อยให้ลดไปมากกว่านี้จะไปลดอายุการใช้งานแบตเตอรี่เอา แถมไม่ต้องกลัวด้วยว่าการชาร์จบ่อยๆ จะส่งผลต่อแบตเตอรี่ไหม เนื่องจากแบตเตอรี่มือถือในปัจจุบันนี้เป็น Li-ion ที่จะมีอายุการใช้งานตามรอบการชาร์จ ถ้ายังมีรอบการชาร์จเหลือก้ไม่เสื่อมง่ายๆ แน่นอน (รอบการชาร์จมาตราฐานจะอยู่ที่ 800 รอบ แต่บางแบรนด์อาจจะพัฒนาให้มีรอบมากกว่านั้นก็ได้) 4. ความร้อนนี่แหละศัตรูตัวฉกาจในการใช้งานปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ นั้นไม่ว่าอย่างไรก็หลีกเลี่ยงความร้อนไม่ได้ ซึ่งถึงแม้ในมือถือและแท็บเล็ตทุกเครื่องจะมีระบบระบายความร้อนติดมาด้วย ทว่าความร้อนเหล่านั้นต้องแผ่ไปถึงชิ้นส่วนต่างๆ ก่อนที่จะระบายเสร็จสิ้นแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้งานที่สถานที่ๆ มีอุณหภูมิสูงอย่างประเทศไทย หรือไม่ก็มีการใช้งานระหว่างการชาร์จ ซึ่งความร้อนเหล่านี้จะไปส่งผลต่อซีลยาง, แผงวงจี และสารเคมีที่อยู่ในตัวแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าซีลต่างๆ หรือสารเคมีในแบตเตอรี่เกิดเสื่อมขึ้นมาจะทำให้ตัวแบตเตอรี่บวมขึ้นมาได้ ต่อให้รอบการชาร์จยังไม่หมดก็ตาม และถ้าปล่อยเอาไว้ก็จะส่งผลต่อตัวมือถือด้วย โดยที่เห็นชัดๆ เลยก็คือหน้าจอที่จะถูกดันขึ้นมา ถ้าปล่อยให้ดันไปแบบนั้นชิ้นส่วนหน้าจอจะเกิดการงอหรืออย่างแย่คือเสียหายไปเลย ทำให้อาจจะต้องเสียค่าซ่อมแพงยิ่งขึ้นก็ได้ 4. อย่าให้เครื่องโดนแรงกระแทกไม่ว่าจะแบบไหนก็ตามอย่าให้เครื่องโดนแรงกระแทก คำพูดนี้อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็ฯไปไม่ได้เลยก็ได้ เพราะยังไงมนุษย์เราก็ต้องมีจังหวะเผลอบ้างอะไรบ้าง ถึงแม้การตั้งสติจะช่วยลดอัตราการเกิดเหตุได้บ้างแต่ก็ใช่ว่าจะหมดไป ตัวเลือกที่พอจะช่วยบรรเทาได้ก็คือการใส่เคสกันกระแทก ซึ่งจะช่วยลดแรงกระแทกต่อตัวเครื่าองให้น้อยลงได้ ซึ่งการที่บอกว่าอย่าให้มีการกระแทกใดๆ ก็เป้นผลมาจากชิ้นส่วนต่างๆ ในตัวมือถือนั้นต่างก็ติดด้วยกาว หรือไม่ก็ใช้วิธีเชื่อม ซึ่งชิ้นส่วนเหล่านั้นเรียกได้ว่าบอบบางสุดๆ ถ้าเกิดแรงกระแทกในระดับนึงก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดความเสียหายได้ แบตเตอรี่เองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เรียกได้ว่าบอบบางเช่นกัน เพราะโครงสร้างภายในตัวแบตเตอรี่นั้นมีความบางแบบสุดๆ ซึ่งถ้าเกิดความเสียหายก็อาจจะทำให้แบตเตอรี่บวมหรือระเบิดได้เลย 6. อย่าเห็นแก่ของถูก เพราะมันอาจเพิ่มความเสียหายได้อีกอย่าเห็นแก่ของถูก นี่อาจจะเป็นคำพูดที่มีการพูดกันอยุ่เรื่องๆ แต่ก็ไม่อาจห้ามใจได้ เพราะยังไงของราคาถูกมันก็ดึงดูดใจอยู่ดี ซึ่งอะแดปเตอร์และสายชาร์จนั้นก็เป็นของที่พบเจอได้ทั่วไป มีทั้งถูกและแพง ซึ่งพวกของแพงๆ ก็จะมีระบบป้องกันต่างๆ อย่างดีอยู่แล้ว แต่ของถูกๆ นี่ถ้าดูไม่เป็นหรือโชคไม่ดีก็อาจจะได้ของไม่ได้มาตราฐานมา (คนขายมักจะพูดว่าเป็นของแท้จากโรงงานทำให้ดูค่อนข้างน่าเชื่อถือ) ซึ่งการใช้ของที่ไมไ่ด้มาจราฐานมาชาร์จแบตเตอรี่นั้นมันส่งผลต่อตัวแบตเตอรี่เอาเรื่องเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายไฟที่ไม่คงที่ การที่ไม่มีระบบตัดไฟเมื่อชาร์จเต็ม หรือแม้กระทั่งการที่งานประกอบไม่ดีจนชิ้นส่วนผิดรูป ฯลฯ ปัญหาต่างๆ เหล่านี้จะส่งผลต่ออายุของแบตเตอรี่รวมไปถึงอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุแบตเตอรี่ระเบิดได้ด้วย ดังนั้นการเลือกใช้ของที่พอมีราคาหน่อย หรือซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือจะช่วยยืดอายุการใช้งานมือถือให้ยืนยาวไปได้อีกนาน
ผู้เขียนYachirOไอโฟนควรชาร์จแบตยังไง6 วิธีชาร์จแบตเตอรี่เพื่อสุขภาพของแบต iPhone. 1. หลีกเลี่ยงการใช้งานอะแดปเตอร์ และสายชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน ... . 2. เลี่ยงการชาร์จไปพร้อม ๆ กับการใช้งาน ... . 3. อย่าปล่อยให้ตัวเครื่องเกิดความร้อน ... . 4. อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ ... . 5. เปิดฟีเจอร์ การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่ iOS 13 ขึ้นไป. ไอโฟน 12 ควรชาร์จแบตตอนไหน1. ควรชาร์จโทรศัพท์เมื่อใด
คุณต้องทำให้แบตเตอรี่ของคุณมีพลังงานเหลืออยู่ระหว่าง 30 – 90% เกือบตลอดเวลาในระหว่างวัน ดังนั้นคุณควรชาร์จเมื่อมันมีแบตต่ำกว่า 50% และให้ถอดที่ปลั๊กออกก่อนที่จะถึง 100% แต่ขั้นตอนที่ยุงยากเพราะคุณจะต้องคอยดูระดับแบตเตอรี่บ่อย ๆ คุณจึงเลือกที่จะชาร์จแบบทิ้งไว้ข้ามคืนไปเลยใช่มั้ยคะ?
ไอโฟน12 มีที่ชาร์จแบตไหมจากการที่ Apple เปิดตัว iPhone 12 แล้วมีเพียงสายชาร์จ USB-C to Lightning แถมมาเพียงอย่างเดียวนั้นทาง Apple เขาอ้างเหตุผลว่าการหยุดแถมหัวชาร์จและหูฟังนั้น จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมบนโลกได้มากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องของขยะและเรื่องของการขนส่งเพราะขนาดกล่องที่เล็กลง แต่ทางด้านนักวิเคราะห์ของ CFRA Research ได้ออกมาเปิดเผยว่า ...
จะรู้ได้ไงว่าไอโฟนแบตเต็ม1. สำหรับใครที่เปิดใช้เปอร์เซนต์แบตเตอร์รี่ไว้ให้ดูตรงเปอร์เซ็นต์แบบในภาพในภาพได้เลยถ้าเต็มแล้วจะขึ้น 100% ถ้าต้องการเปิดการใช้งานเปอร์เซนต์แบตเตอร์รี่ ให้ไปตั้งค่าที่ Settings > General > Usage > Battery Percentage > ON ครับ
|