วิธีเชื่อมบลูทูธกับรถ toyota

โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อบลูทูธในรถไม่ได้ เมื่อเจอปัญหานี้จะแก้อย่างไรดี มาดูวิธีเชื่อมต่อที่ถูกต้องและวิธีแก้ปัญหากัน

วิธีเชื่อมบลูทูธกับรถ toyota

ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มักจะมาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์มือถือในตัว หรือหลายคนที่ใช้รถรุ่นเก่า ๆ ก็อาจซื้ออุปกรณ์บลูทูธในรถมาติดตั้งเพิ่ม แต่ในบางครั้งก็อาจเกิดปัญหาเชื่อมต่อไม่ได้ และไม่รู้จะแก้ยังไงดี วันนี้เราได้รวบรวมวิธีแก้ปัญหาสำหรับผู้ใช้รถยนต์และมือถือทั้ง Android และ iOS มาฝากกันแล้ว

วิธีแก้ปัญหาเชื่อมต่อบลูทูธในรถไม่ได้
สำหรับ Android

1. ลบชื่อรถยนต์ออกจากหน่วยความจำของโทรศัพท์

1. เปิดแอปฯ การตั้งค่าในโทรศัพท์

2. เลือกชื่อรถยนต์ที่เชื่อมต่อ > อุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ แต่ถ้าหากไม่มี "อุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ" ให้เลือก "บลูทูธ" แทน

3. หากเห็นชื่อรถยนต์หรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้ ตรงข้างชื่ออุปกรณ์แต่ละเครื่อง ให้เลือก การตั้งค่า > ไม่จำ > ไม่จำอุปกรณ์

4. หากเคยจับคู่โทรศัพท์ไว้กับรถยนต์ ตรงข้างชื่อรถ ให้เลือก การตั้งค่า > ไม่จำ > ไม่จำอุปกรณ์

2. ลบชื่อโทรศัพท์จากหน่วยความจำของรถยนต์

หากต้องการล้างโทรศัพท์ที่จับคู่กับรถยนต์ ให้ทำตามคู่มือการใช้งานของรถยี่ห้อและรุ่นนั้น ๆ โดยให้ทำ 2 สิ่งนี้

1. ลบชื่อโทรศัพท์ที่ไม่ได้ใช้

2. หากเคยจับคู่โทรศัพท์กับรถยนต์มาก่อน ให้ลบชื่อโทรศัพท์เครื่องนั้น

3. รีเฟรชรายชื่ออุปกรณ์ แล้วลองจับคู่อีกครั้ง

หากต้องการรู้ว่าควรใช้วิธีจับคู่จากโทรศัพท์หรือจากรถ ให้อ่านคู่มือการใช้งานของรถยนต์ก่อน จากนั้นทำตามนี้

จับคู่จากโทรศัพท์

1. เช็กว่ารถยนต์อยู่ในโหมดพร้อมจับคู่หรือยัง

2. เปิดแอปฯ การตั้งค่าในโทรศัพท์

3. เลือกชื่อรถยนต์ที่จะเชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้เลือกตัวเลือกนี้

4. เลือกจับคู่อุปกรณ์ใหม่ > ชื่อของรถยนต์

จับคู่จากรถ

1. เปิดแอปฯ การตั้งค่าในโทรศัพท์

2. เลือกชื่อรถยนต์ที่จะเชื่อมต่อ หากเห็น "บลูทูธ" ให้เลือกตัวเลือกนี้

3. เปิดหน้าจอนี้ค้างเอาไว้

4. ในรายชื่ออุปกรณ์ของรถยนต์ ให้เลือกชื่อของโทรศัพท์ 

5. เช็กว่า PIN ที่แสดงในโทรศัพท์และหน้าจอของรถยนต์ตรงกันไหม

6. กดให้สิทธิ์เข้าถึงรายชื่อติดต่อและประวัติการโทร.

7. เลือกจับคู่อุปกรณ์ "ยอมรับ" หรือ "ยืนยัน"

วิธีเชื่อมต่อบลูทูธในรถสำหรับ iOS

สำหรับผู้ที่ใช้ iOS แนะนำให้ลองเช็กดูว่าทำตามขั้นตอนวิธีเชื่อมต่อได้ถูกต้องหรือยัง โดยมีขั้นตอนดังนี้

การเชื่อมต่อกับรถยนต์ที่รองรับ CarPlay

1. กดปุ่มคำสั่งเสียงบนพวงมาลัยค้างไว้เพื่อตั้งค่า CarPlay หรือเช็กว่ารถยนต์อยู่ในโหมดการจับคู่แบบไร้สายหรือบลูทูธ

2. บน iPhone ให้ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > CarPlay > รถที่มี แล้วเลือกที่ชื่อรถยนต์ โดยอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากคู่มือที่มาพร้อมกับรถยนต์

การเชื่อมต่อกับรถยนต์ทั่วไป

1. รีสตาร์ต iPhone ของคุณ

2. ไปที่การตั้งค่า > บลูทูธ แล้วปิดบลูทูธ รอประมาณ 5 วินาที แล้วเปิดบลูทูธใหม่

3. ดูข้อมูลเพิ่มเติมจากคู่มือที่มาพร้อมกับรถยนต์เกี่ยวกับวิธีจับคู่กับอุปกรณ์บลูทูธ รถโดยส่วนใหญ่ต้องมีการตั้งค่าโทรศัพท์บนจอแสดงผลในรถ

4. หากเชื่อมต่อโทรศัพท์หลายเครื่องกับสเตอริโอรถยนต์ ให้ลองเปลี่ยนชื่ออุปกรณ์ โดยไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ > ชื่อ แล้วกรอกชื่อใหม่ จากนั้นลองเชื่อมต่ออีกครั้ง

5. อัปเดต iOS เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

6. เช็กดูว่าสเตอริโอใช้เฟิร์มแวร์ล่าสุดจากผู้ผลิตรถยนต์ โดยดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในคู่มือของรถ

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากลองทำตามทุกวิธีที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วแต่ก็ยังเชื่อมต่อบลูทูธในรถไม่ได้ แนะนำให้ติดต่อกับบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือหรือรถยนต์ยี่ห้อนั้น ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป

ในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปีในประเทศไทย Toyota (โตโยต้า) ได้เปิดตัวรุ่น Limited ให้กับรถหลายรุ่นได้แก่ Yaris, Corolla Altis, Corolla Cross และ Camry ที่โดดเด่นยิ่งกว่าด้วย สีขาวมุกหลังคาดำ และขอแนะนำกิจกรรม “Hunt Your Uniqueness” เอาใจนักสะสมที่ชื่นชอบการตกแต่งด้วยการนำเสนอรถ Wrap สี Laminated Grey ด้วยฟิล์มลามิเนตคุณภาพระดับพรีเมียม มูลค่า 57,000 บาท เพียงโชว์รูมละ 1 คันเท่านั้น ที่สำคัญรถทุกคันจะได้รับการติดตั้งระบบ T- Connect เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ทันสมัย พร้อมรับกล่องกุญแจภายในบรรจุ Certificate
วงการรถยนต์และแฟชั่น ถือว่าอยู่คู่กันมาอย่างขาดไม่ได้เพราะสามารถช่วยเติมเต็มให้กันได้เป็นอย่างดีในด้านความสวยงาม จึงเป็นที่มาของคอลเลคชั่นชุดแต่งใหม่ของ Toyota (โตโยต้า) นั่นคือ Modellista x Asava ที่เป็นแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของประเทศไทย เราจะพาไปชมคันจริงกันทั้ง 3 รุ่นที่ได้ชุดแต่งนี้ ว่าเขาได้อะไรกันเพิ่มมาบ้าง Toyota Modellista x Asava คอลเลคชั่นพิเศษ Modellista x Asava นี้มีแนวคิดความทันสมัย, หรูหรา และใช้ได้ในชีวิตจริง ช่วยเสริมให้รถยนต์ดูมีความหรูหราขึ้นเป็นอย่างดี Toyoya Yaris Ativ Modellist

ยานพาหนะในปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพื่อให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีช่วยเหลือคนขับ ไปจนถึงระบบ infotainment สำหรับระบบบลูทูธคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้อย่างเป็นมาตรฐานทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถได้อย่างปลอดภัย อาทิ การรับสาย-โทรออก ตอบข้อความกลับ และเล่นเพลงจากโทรศัพท์

วิธีเชื่อมบลูทูธกับรถ toyota

เชื่อมบลูทูธกับรถ toyota ไม่ได้

แม้ว่าการเชื่อมต่อบลูทูธอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ที่รถยนต์เพิ่งทำได้ และได้มีการอัพเดทซอฟต์แวร์มาหลายรุ่นในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็สามารถทำให้รถยนต์ โทรศัพท์ และผู้ขับขี่เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง Toyota Sienta ก็ตอบโจทย์ในเรื่องของการเชื่อมต่อได้เป็นอย่างดี การเชื่อมต่อระบบบลูทูธในรถจะทำได้กับอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาต หรือที่จับคู่ (Pairing) กับระบบเรียบร้อยแล้วเท่านั้น โดยอุปกรณ์หนึ่งจะสามารถเชื่อมต่อได้ครั้งละ 1 เครื่อง แต่สามารถจับคู่อุปกรณ์ได้สูงสุด 5 เครื่อง ซึ่งสามารถสลับการใช้งานได้ตามความต้องการ วิธีเชื่อมบลูทูธกับรถ toyota Sienta มีขั้นตอนดังนี้

วิธีเชื่อมบลูทูธกับรถ toyota

เลือกการตั้งค่าที่หน้าจอ infotainment ของ Toyota Sienta

1. เปิด Bluetooth® ในโทรศัพท์ที่ต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์โดยไปที่การตั้งค่า และเปิดใช้งานรายการเมนูที่ระบุว่า "Bluetooth"

2. กดปุ่มBluetooth® บนหน้าจอ infotainment ของ Toyota Sienta

3. เลือกการตั้งค่า Bluetooth® ในโทรศัพท์ และกดเลือกสแกนหาอุปกรณ์

4. เลือก “ชื่ออุปกรณ์ของรถ” เพื่อเชื่อมต่อ จากนั้นไอคอน Bluetooth® จะปรากฏบนรถยนต์ และโทรศัพท์ของคุณ

5. หน้าจอของ Toyota จะแจ้งให้กดอนุญาตการเข้าถึงอุปกรณ์โทรศัพท์

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วย Toyota Entune ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่ออกแบบมาเพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่างรถ และอุปกรณ์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่สำหรับแอปพลิเคชั่นนี้ยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย โดยมีขั้นตอนในการเชื่อมต่อ ดังนี้

รถจะต้องจอดนิ่งอยู่กับที่ก่อนจะจับคู่โทรศัพท์กับ Bluetooth ของ Toyota Sienta จากนั้น

1. เปิด Bluetooth ใน iPhone

  • เข้าไปที่เมนู SETTINGS
  • เลือก BLUETOOTH
  • เปิดสวิตช์ Bluetooth ไปที่ตำแหน่ง ON

2. เปิดบลูทูธ ในระบบ Toyota Entune

  • เข้า APPS Entune
  • เลือก SETUP
  • กด BLUETOOTH
  • เลือกเพิ่มเพื่อเชื่อมต่อกับ iPhone

3. เชื่อมต่อ Toyota Entune กับ iPhone

  • เลือก TOYOTA VEHICLE จากรายการอุปกรณ์ Bluetooth
  • ระบบ Entune จะยืนยันว่ามีการจับคู่กับ iPhone แล้ว
  • ยืนยันรหัส PIN ให้ตรงกันทั้งหน้าจอ Entune และ iPhone

วิธีเชื่อมบลูทูธกับรถ toyota

สำหรับ Toyota Sienta ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การประกอบจากโรงงาน แต่เกิดจากปัญหาของซอฟต์แวร์เสียมากกว่า

แต่อย่างไรก็ตามระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth ของ Toyota Sienta ก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน ซึ่งมีเหตุผลมาจากเรื่องของการรองรับระบบปฏิบัติการ iOS แต่ไม่รองรับระบบปฏิบัติการ Android และได้มีการตั้งกระทู้ถามปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ในเว็บไซต์พันทิป ว่า

“Toyota Sienta ปัญหาของการต่อ Bluetooth: ใช้เชื่อมต่อกับ HUAWEI Mate 9 หน้าจอของเครื่องเสียงมีขึ้นสามอย่าง หนึ่งในนั้นมีคำว่า AppManu: ล้มเหลว และในตั้งค่า Bluetooth ของโทรศัพท์ก็ขึ้นว่า เชื่อมต่อแล้ว (ยกเว้นเสียงสื่อ) พยายามทำตามคู่มือ ทำทุกอย่าง ตั้งค่าให้ระบบรับแอนดรอยด์ แล้วก็แล้ว ก็เป็นเหมือนเดิม ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรครับ มีใครเป็นเหมือนกันมั้ยครับ ต้องทำไงครับ”

และได้มีคำตอบดังนี้ ความคิดเห็นที่ 1: เพื่อนผม ลิ้งก์ แค่เสียงใช้ได้อยู่ แต่เป็นซัมซุง

ความคิดเห็นที่ 2: ลองใช้ยี่ห้ออื่นดูครับ ถ้าไม่หายก็เข้าศูนย์ครับ

และความคิดเห็นที่ 3: ซัมซุง s5 ผมก็เป็นเหมือนกันครับ ผ่านทุกอย่าง ยกเว้น AppManu ผมลองไอโฟน 7 ของเพื่อน เชื่อมต่อ มันผ่านหมดทุกอย่างเลยครับ

สำหรับการใช้งานจริงของผู้เขียนสามารถเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android กับ Toyota Sienta ได้ แต่จะมีการเชื่อมต่อที่ช้ากว่าระบบปฏิบัติการ iOS ของ iPhone รวมถึงเมื่อดับเครื่องไปแล้ว การเชื่อมต่ออีกครั้งก็จะทำได้ช้ามาก หรือบางครั้งต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์อีกรอบหนึ่งเลย

ดูเพิ่มเติม
บอกเล่าเก้าสิบ ประสบการณ์คนใช้ TOYOTA SIENTA​
เม้าท์มอยปัญหาเสียงดังแก๊กๆของ Toyota Sienta​

สรุปได้ว่าปัญหาของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth ของ Toyota Sienta กับโทรศัพท์มือถือที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของซอฟต์แวร์อุปกรณ์ที่ไม่สามารถรองรับระบบปฏิบัติการ Android ได้ 100% แม้ว่าล่าสุดจะเพิ่งมีการอัพเดทระบบปฏิบัติการของ infotainment ไป ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์เชื่อมต่อกันได้เร็วขึ้น แต่ก็ยังมีติดขัดอยู่บ้างในบางครั้ง สำหรับบทความต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรอย่าลืมติดตามกันได้ที่ Chobrod.com นะคะ