ก่อนที่พวกเราจะออกไปใช้รถใช้ถนนร่วมกัน การสอบเป็นเหมือนการวัดความสามารถในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง และเพื่อนร่วมทาง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนความเข้าใจกฏจราจร และป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อเตือนการขับขี่ของเราให้ปลอดภัย ในการเดินทาง เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ก่อนเราจะได้ใบขับขี่เราจะต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง Show
ขั้นที่ 1 จองคิวการเข้าอบรม และทดสอบทำใบขับขี่หลังจากเกิดการระบาดของโรคโควิท 19 ทำให้การอบรม และสอบภาคทฤษฎี เพื่อขอรับใบขับขี่ก็เปลี่ยนจากการต่อคิวรับใบลำดับการให้บริการ เป็นการจองในแอพพลิเคชั่น DLT Smart Queue ที่ทำโดยกรมขนส่งทางบกเพื่อจองคิวนัดหมายการเข้ารับการอบรม และทดสอบขอรับใบขับขี่ หลังจากเราเข้าจอง และได้ลำดับการเข้ารับอบรมแล้ว อย่าลืมบันทึกหน้าจอที่แสดงลำดับการเข้ารับมดสอบไว้ด้วย เพื่อความสะดวกในการเข้ารับคิวเมื่อถึงวันการเข้ารับอบรม ขั้นที่ 2 เตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อขอรับใบขับขี่หลังจากที่เราได้รับวันในการอบรม และเข้ารับการทดสอบเพื่อขอรับใบขับขี่แล้ว ถึงขั้นตอนที่จะต้องเตรียมความพร้อมของเอกสารการขอรับใบขับขี่ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน 2.1 บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง 2.2 สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด 2.3 ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน) ขั้นที่ 3 เข้าทดสอบสมรรถนะร่างกายเมื่อเข้าถึงวันอบรมสิ่งแรกที่เราต้องทกสอบ คือ การทดสอบสมรรถนะร่างกาย 4 อย่าง 3.1 ทดสอบตาบอดสี (เขียว-เหลือง-แดง) : การทดสอบนี้จะเป็นการทดสอบเพื่อเช็คสมรรถนะการแยกแยะสี ด้วยการมองเห็นโดยผู้ทดสอบจะใช้บอร์ดที่มีสีแทรบกันอยู่ตามภาพ และชี้ให้ผู้ทดสอบขานสีที่เห็น เพื่อตรวจสอบสมรรถนะ 3.2 ทดสอบสายตาทางลึก : การทดสอบการมองทางลึกเพื่อวัดความสามารถการมองเห็นในทางลึกของตาทั้งสองข้าง ด้วยการปรับให้หลักที่เคลื่อนที่(หลัก A) หยุดข้างๆหลักที่หยุดนิ่ง(หลัก B) พอดี ด้วยการใช้รีโมทปรับการเคลื่อนที่ของหลัก 3.3 ทอสอบสายตาทางกว้าง : การทดสอบสายตาทางกว้าง เพื่อวัดสมรรถนะการมองเห็นในมุมกว้างสุดที่สายตามองเห็น การทดสอบนี้บางที่จะมีเครื่องทดสอบ โดยผู้คุมสอบจะยื่นป้ายมาที่มุมสายตา และให้ผู้สอบขานสีที่เห็นจากมุมสายตา 3.4 ทดสอบการตอบสนองของเท้า : เป็นการทดสอบปฎิกริยาการตอบสนองของสายตา และปฎิกริยาความไวของเท้า โดยผู้ทดสอบจะต้องเหยีบตำแหน่งคันเร่งจำลอง เพื่อรอสัญญาณการเบรกเมื่อสัญาณเปลี่ยนเป็นสีแดง ให้เปลี่ยนการเหยียบคันเป็นเบรกทันทีผ่านในเวลาที่กำหนด ขั้นที่ 4 ผ่านการอบรมภาคทฤษฎีหลังจากผ่านการทดสอบสมรรถนะร่างกายเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้รับคิวเพื่อมาเข้าอบรมภาคทฤษฎี และทำการสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี 50 ข้อ โดยเนื้อหาการอบรม พร้อมทั้งการสอบนั้นจะมีเนื้อครอบคลุมในการใช้รถ และถนน
ขั้นที่ 5 ผ่านการสอบภาคปฏิบัติการสอบภาคปฎิบัติเป็นการสอบด้านความสามาตรในการขับขี่ ตามแบบทดสอบของการสอบ 3 อย่าง ดังนี้
ค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาต สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว รวม 205 บาท ดังนี้
เมื่อจบทั้ง 6 ขั้นตอนนี้ก็จะถือว่าเสร็จสิ้น และได้รับใบขับขี่เพื่อเป็นหลักฐานการผ่านการทดสอบ ติดตามข้อมูลรถยนต์ ยางรถยนต์ และเทคโนโลยี พร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆได้ที่YOUTUB CHANNAL WEBSIDE FACEBOOKอายุ17ทําใบขับขี่รถจักยานยนต์ได้ไหมอายุของผู้ขับขี่ระหว่าง 15 - 18 ปีบริบูรณ์ สามารถขอรับ ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 110 ซีซี ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
อายุ19ทําใบขับขี่รถยนต์ได้ไหมใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ, ใบขับขี่รถยนต์สามล้อสาธารณะ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี ใบขับขี่รถบดถนน, ใบขับขี่รถแทรกเตอร์ และใบขับขี่รถชนิดอื่นตามมาตรา 43 ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
ใบขับขี่ มอ ไซ ค์ ทํา ได้ อายุ เท่าไรอายุระหว่าง 15 - 18 ปี สามารถทำใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคลได้ แต่ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 110 ซีซี อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป สามารถทำใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคลชั่วคราวได้ในรถทุกรูปแบบ อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป สามารถทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะได้
อายุ60ทําใบขับขี่ใหม่ได้ไหมQ : อายุ 60 ปีต่อใบขับขี่ได้หรือไม่ A : ต่อได้ไม่จำกัดอายุ Q : เปลี่ยนชนิดใบขับขี่จาก บ.2 เป็น ท.2 ต้องทำอย่างไร A : นำบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง ใบรับรองแพทย์ และใบขับขี่ฉบับเดิม มายื่นขอเปลี่ยนชนิดใบขับขี่จาก บ.2 เป็น ท.2.
|