คอนแทคเลนส์ค่าอมน้ำเท่าไรถึงจะดี

ใส่คอนแทคเลนส์ทีไร มีปัญหาตาแห้งทุกที ทำอย่างไรดี

Date Jan 14, 2020


คอนแทคเลนส์ค่าอมน้ำเท่าไรถึงจะดี

หลายคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์สายตา หรือคอนแทคเลนส์แฟชั่นเพื่อความสวยงาม เมื่อต้องใช้สายตาทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ อยู่ในห้องปรับอากาศที่อุณหภูมิเย็น หรือออกข้างนอกเจอแสงแดด ลม มักจะเกิดอาการตาแห้งมากขึ้น สาเหตุเป็นเพราะคอนแทคเลนส์จะดึงน้ำที่ตาออกมา

เพื่อทำให้ตัวคอนแทคเลนส์สามารถคงความใสและนิ่มอยู่ได้นั่นเอง ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์แล้วเคืองตา แสบตา กระพริบตาแล้วรู้สึกฝืดๆ บางครั้งอาจมีน้ำตาไหลร่วมด้วย หรือรู้สึกว่าเวลามองภาพแล้วชัดบ้าง มัวบ้าง บางคนเป็นบางเวลา บางคนเป็นตลอดเวลา หรือมีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมคล้ายทรายหรือฝุ่นอยู่ในตา รู้สึกระคายเคืองตา ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ บ่งบอกว่าคุณมีอาการตาแห้งจากการใส่คอนแทคเลนส์มาเยือนแล้ว แต่ไม่ต้องกังวลใจ วันนี้เรามีทริคการเลือกคอนแทคเลนส์เพื่อลดปัญหาอาการตาแห้งมาฝากกันค่ะ

1. เลือกคอนแทคเลนส์จาก % ค่าอมน้ำ (Water content) %ค่าอมน้ำ คือ ความสามารถในการอมน้ำของคอนแทคเลนส์ ซึ่งคอนแทคเลนส์ที่มี %ค่าอมน้ำสูง จะให้ความรู้สึกชุ่มชื้นสบายตาขณะใส่ได้ดีกว่า โดยเฉพาะในชั่วโมงแรกที่ใส่ ซึ่งคอนแทคเลนส์รายวันจะมีค่าอมน้ำที่สูงกว่าคอนแทคเลนส์รายเดือนเสมอ หากคุณใส่คอนแทคเลนส์รายเดือนมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวันและเริ่มรู้สึกไม่สบายตา ตาแห้ง ลองเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์รายวันที่มี %ค่าอมน้ำสูงกว่าดูค่ะ

2.เลือกคอนแทคเลนส์ที่ความหนา-บาง (Centre Thickness) เพราะคอนแทคเลนส์ที่บางมาก จะปล่อยให้ออกซิเจนซึมผ่านเข้าดวงตาได้มากกว่าคอนแทคเลนส์หนา  การใส่คอนแทคเลนส์ที่บาง จึงทำให้ดวงตารู้สึกผ่อนคลาย เสมือนดวงตาหายใจได้สะดวกขึ้น

3.เลือกจากวัสดุการผลิต (Material) กระจกตาของเรานั้นโปร่งใสและไม่มีหลอดเลือดนำออกซิเจนมาเลี้ยง โดยปกติออกซิเจนจากอากาศจะละลายในน้ำตาและแพร่กระจายเข้าสู่กระจกตาโดยตรง แต่เมื่อมีการสวมคอนแทคเลนส์จะเหมือนมีวัตถุมากั้น ทำให้ปริมาณของออกซิเจนที่สามารถเข้าถึงกระจกตาลดลง คอนแทคเลนส์ที่ผลิตจากวัสดุ Silicone Hydrogel ซึ่งเป็นวัสดุรุ่นใหม่ มีค่า DK/T หรือปริมาณที่ยอมให้ออกซิเจนซึมผ่านได้มากกว่าวัสดุชนิดอื่น ทำให้ใส่แล้วลดปัญหาตาแห้งได้ แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยการที่คอนแทคเลนส์ซึ่งผลิตจากวัสดุ Silicone Hydrogel จะหนากว่าวัสดุชนิดอื่น การเปลี่ยนมาใช้วัสดุรุ่นนี้ในช่วงเดือนแรกจึงอาจรู้สึกไม่สบายตาได้ นอกจากนี้ซิลิโคนไฮโดรเจลยังมีราคาสูงกว่าคอนแทคเลนส์ชนิดอื่นด้วยค่ะ

4.เลือกคอนแทคเลนส์ที่มีคุณภาพและผ่านการรับรองคุณภาพจากองค์การอาหารและยา เพราะดวงตาคุณมีแค่คู่เดียว อย่าเสี่ยงซื้อคอนแทคเลน์ที่ไม่มีฉลากหรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งหากนำมาใช้อาจก่อให้เกิดโรคหรือปัญหากับดวงตาโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นคุณจึงควรซื้อคอนแทคเลนส์ที่มีฉลากรับรองมาตรฐานจากร้านแว่นตาที่น่าเชื่อถือเพื่อถนอมดวงตาให้อยู่กับเราไปนานๆ แม้จะเลือกคอนแทคเลนส์ตามเคล็ดลับข้างต้นแล้ว แต่หากยังมีอาการตาแห้งจากการใส่คอนแทคเลนส์อยู่ คุณสามารถหยดน้ำตาเทียมหรือน้ำตาหล่อลื่นระหว่างวันได้ และคุณควรพักดวงตาโดยการใส่แว่นสายตาแทนคอนแทคเลนส์อย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ ด้วยเทคนิคง่ายๆเพียงเท่านี้ คุณก็สามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้อย่างสบายตา ไม่ต้องทนกับอาการตาแห้งระคายอีกต่อไป

คนตาแห้ง ต้องใส่คอนแทคเลนส์ ค่าอมน้ำสูงหรือต่ำ

หาข้อมูลหลายที่ บางที่ก็บอกว่าตาแห้งต้องค่าอมน้ำเยอะๆๆ บางที่ก็บอกว่าตาแห้งต้องค่าอมน้ำต่ำๆ สรุปว่าเราควรใช้แบบไหนกันแน่ค่ะ

ใครใช้ยี่ห้อไหน บอกหน่อยจ้า แล้วค่าอมน้ำเท่าไหร่กันบ้าง เผื่อเป็นแนวทาง

ปล.ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ตลอดนะคะ มีใส่แว่นซะส่งนมาก

0

คอนแทคเลนส์ค่าอมน้ำเท่าไรถึงจะดี

คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ

กระทู้ที่คุณอาจสนใจ

คอนแทคเลนส์ค่าอมน้ำเท่าไรถึงจะดี

วันนี้ KT จะมาแนะนำ วิธีอ่านค่าสายตา Diameter บนกล่องคอนแทคเลนส์

👀 วิธีอ่านค่าข้างกล่องคอนแทคเลนส์

ในปัจจุบัน มีการใช้คอนแทคเลนส์กันอย่างแพร่หลาย ทั้งเพื่อความสวยงาม แบบมีค่าสายตาและไม่มีค่าสายตา  และเพื่อแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง ให้สามารถมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น KT OPTIC จึงมีวิธีการอ่านค่าหรือข้อมูลต่างๆข้างกล่องก่อนที่จะเริ่มใส่คอนแทคเลนส์มาฝากกันค่ะ

คอนแทคเลนส์ค่าอมน้ำเท่าไรถึงจะดี

✨ ตัวย่อข้างกล่องคอนแทคเลนส์

👉 D ย่อมาจาก Diopters : หมายถึง “ ค่าสายตา ”  

  • ถ้าสายตาสั้นจะมีเครื่องหมาย ลบ (-) กำกับไว้
  • ในขณะที่สายตายาวจะเป็นเครื่องหมาย บวก (+)

คอนแทคเลนส์ค่าอมน้ำเท่าไรถึงจะดี

👉 BC ย่อมาจาก Base Curve  หมายถึง “ ค่าความโค้งของคอนแทคเลนส์ ”  

  • ปกติจะมีตั้งแต่ 8.0 – 10.0
  • ควรเลือกค่าความโค้งที่เหมาะกับดวงตา เพื่อไม่ให้คอนแทคเลนส์บีบรัด หรือลื่นหลุดได้
  • Contact Lens โค้งกว่าตา ก็จะบีบดวงตามากเกินไปทำให้ปวดตาได้
  • แต่ถ้า Contact Lens โค้งน้อยกว่าดวงตา คอนแทคเลนส์ก็จะไม่เกาะที่ดวงตา ทำให้ตัวคอนแทคเลนส์เลื่อนไปมาไม่เกาะติดกับดวงตา จึงทำให้เกิดอาการเคืองตาได้

คอนแทคเลนส์ค่าอมน้ำเท่าไรถึงจะดี

👉 CYL ย่อมาจาก Cylinder  หมายถึง  “ ค่าสายตาเอียง ”  ซึ่งจะมีคอนแทคเลนส์บางรุ่นที่ผลิตออกมาเพื่อแก้ปัญหาสายตาเอียงด้วย

คอนแทคเลนส์ค่าอมน้ำเท่าไรถึงจะดี

👉 DIA ย่อมาจาก DIA Diameters  หมายถึง คือเส้นผ่านศูนย์กลางของคอนแทคเลนส์

  • ซึ่งจะบอกค่าความใหญ่ของคอนแทคเลนส์ เมื่อเทียบกับตาดำของเรา มี 4 ขนาดด้วยกัน
  • 0 และ 14.2 ขนาดเท่าตาดำปกติ
  • 5 จะใหญ่กว่าตาดำเล็กน้อย
  • 0  จะใหญ่กว่าตาดำปกติ

👉 Axis คือแกนองศาของค่าสายตาเอียงปริมาณAxisมีค่าตั้งแต่ 1 – 180 องศา
ตัวเลข 90 หมายถึง เส้นแนวตั้งของตา
และตัวเลข 180 หมายถึงเส้นแนวนอน

👉 EFF ย่อมาจาก Effect  หมายถึง เป็นค่าเอฟเฟกต์ของคอนแทคเลนส์เพื่อความสวยงาม ที่บอกความโตของลายบนคอนแทคเลนส์ ว่าใส่ออกมาจะเท่าตาดำจริงของเรา หรือใหญ่กว่าตาจริง ซึ่งสามารถดูได้จากค่า Eff. ของลายนั้น ๆ  โดยค่า EFF. มีดังนี้

– 14 ใส่ออกมาแล้วจะเท่าตาดำปกติ

– 16 ใส่ออกมาแล้วจะใหญ่กว่าตาดำปกตินิดนึง

– 18 ใส่ออกมาแล้วจะโตกว่าตาดำปกติ Bigeye

👉 ค่าอมน้ำ : แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการอุ้มน้ำของคอนแทคเลนส์ ยิ่งค่าอมน้ำสูงเลนส์ก็จะยิ่งนิ่มใส่สบาย ซึ่งมีผลต่อการให้ออกซิเจนไหลผ่าน ถ้ายิ่งมากก็จะลดโอกาสปัญหาตาแห้ง หรือระคายเคืองเวลาใส่ไปนาน ๆ  โดยปกติแล้วค่าอมน้ำจะเป็นไปตามอายุการใช้งานของคอนแทคเลนส์  โดยค่าอมน้ำของคอนแทคเลนส์ จะมีดังนี้

  1. 38% เหมาะสำหรับการใช้งานรายเดือนและรายปี
  2. 42% เหมาะสำหรับการใช้งานรายสัปดาห์และรายเดือน
  3. 55% เหมาะสำหรับการใช้งานรายวันและรายสัปดาห์
  4. 60% เหมาะสำหรับการใช้งานรายวัน

ทั้งนี้ความสบายตาก็ขึ้นอยู่กับวัสดุ หรือขนาดของคอนแทคเลนส์ด้วยนะคะ
สำหรับคนที่ใส่แว่น และต้องการเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์  หรือต้องการใส่คอนแทคเลนส์เป็นครั้งแรก
สามารถปรึกษา , ตรวจวัดสายตา และรับคอนแทคเลนส์ทอลอง กับ KT OPTIC ได้เลยค่ะ