การพัฒนาตนเอง สามารถ ทำได้ กี่ วิธี อะไร บ้าง

แนวคิดพื้นฐานในการพัฒนาตนเอง

1.   มนุษย์ทุกคนมีเอกลักษณ์ มีศักยภาพ มีคุณค่าสามารถฝึกหัดพัฒนาตนได้ในทุกเรื่อง

2.  ไม่มีใครที่มีความสมบูรณ์ไปหมดทุกด้าน

3.  แม้จะไม่มีใครรู้จักตัวเองได้ดีเท่าตัวเอง แต่ในบางเรื่องตนเองก็ไม่สามารถจัดการปรับเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง

4.   การควบคุมสิ่งแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคม กับการควบคุมความคิด ความรู้สึกและการกระทำของตนเอง มีผลกระทบซึ่งกันและกัน

5.  อุปสรรคสำคัญของการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง คือ การที่บุคคลไม่ยอมปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการปฏิบัติ ไม่สร้างนิสัยและฝึกทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็น

6.  การพัฒนาตนเองดำเนินการได้ทุกเวลาเมื่อต้องการหรือพบปัญหาข้อบกพร่อง

 หลักการพัฒนาตนเอง

1.  หลักการพัฒนาตนเองตามแนวคิดจิตวิทยาพฤติกรรมนิยม

1)    หลักการพัฒนาตนเองตามแนวพฤติกรรมนิยมที่เป็นการเรียนรู้อันเนื่องจากผลกรรมหรือเงื่อนไขของการกระทำ ซึ่งมีทั้งผลกรรมเชิงบวก ได้แก่ การเสริมแรง และผลกรรมเชิงลบ คือ การลงโทษ

2)    หลักการพัฒนาตนเองตามแนวพฤติกรรมนิยมที่เป็นการเรียนรู้ทางสังคม แบนดูร่า (Bandura, 1969) ได้พัฒนาแนวคิดนี้จากความเชื่อถือที่ว่า บุคคลสามารถเรียนรู้พฤติกรรมใหม่จากประสบการณ์ตรงหรือประสบการณ์ทางอ้อม โดยบุคคลเรียนรู้จากผลกรรมและวิธีการเลียนแบบ แบนดูร่าให้ความสำคัญในกระบวนการเรียนรู้จากผลกรรม ซึ่งทำหน้าที่หลายประการ ทั้งเป็นการให้ข้อมูล การจูงใจและการเสริมแรงด้วย ส่วนการเลียนแบบ ประกอบด้วยการใส่ใจ การจำ การกระทำทางกาย และการจูงใจ นอกจากนั้นแบบดูร่ายังเน้นด้วยว่า การเรียนรู้ทางสังคมเป็นกระบวนการทางปัญญาด้วย  โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญได้แก่ ความเชื่อมั่นในเงื่อนไข ความคาดหวังในความสามารถของตนและผลที่เกิดขึ้น

 เทคนิคการพัฒนาตนเองตามแนวพฤติกรรมนิยม  ได้แก่การมุ่งปรับพฤติกรรมการปรับปรุงตนเอง ด้วยเทคนิคการปรับพฤติกรรมที่สำคัญ คือ การควบคุมตนเอง (Self control)   ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลายวิธีประกอบกัน

                 ตัวอย่างเช่น การระงับพฤติกรรมทางกายหรือการใช้เครื่องมือ ได้แก่ การหลับตา ไม่รับรู้ภาพที่มากระทบ หรือปิดห้องทำงานงดการติดต่อกับผู้อื่นในบางครั้ง หรือใช้นาฬิกาปลุกเดือนแรก การควบคุมสิ่งเรา เช่น การปิดเครื่องรับโทรศัพท์ เพื่อลดเวลาการติดต่อกับผู้อื่น การงดอาหารเพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุล รวมไปถึงการวางเงื่อนไขผลกรรมของตนเอง โดยลงโทษตนเอง เมื่อไม่สามารถปรับปรุงตนได้ด้วยวัตถุประสงค์ และชื่นชมกับการบรรลุวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงและการพัฒนาตนเองด้วย

2.  หลักการพัฒนาตนเองตามแนวพุทธศาสตร์

การพัฒนาคนตามหลักพุทธศาสตร์มุ่งการกระทำให้ตนมีความสุขด้วยตนเองมากกว่าการพึ่งพาวัตถุ  พระเทพเวทีได้เสนอวิธีการที่จะพัฒนาตนไปสู่การมีวิถีชีวิตที่ดีงามถูกต้อง ซึ่งเรียกว่าเป็นรุ่งอรุณแห่งการพัฒนาตน มี  7 ประการ  ดังนี้

                ประการที่ 1   รู้จักเลือกหาแหล่งความรู้และแบบอย่างที่ดี ได้แก่ การรู้จักใช้สติปัญญาในการวิเคราะห์ พิจารณาและเลือกแหล่งความรู้ที่ดี เริ่มจากการเลือกคบคนดี เลือกแบบอย่างที่ดี เลือกบริโภคสื่อและข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ ที่มีคุณค่า การพัฒนาชีวิตเช่นนี้ เรียกว่าความมีกัลป์ยานมิตร (กัลยาน มิตตา)

                ประการที่ 2   รู้จักจัดระเบียบชีวิต และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเรียบร้อย มีการวางแผนและจัดการกิจการงานต่าง ๆ อย่างมีระบบ ระเบียบ เรียกว่า ถึงพร้อมด้วยศีล (ศีลสัมปทา)

                ประการที่ 3   ถึงพร้อมด้วยแรงจูงใจให้สร้างสรรค์ หมายถึง มีความสนใจ มีความพึงพอใจ มีความต้องการจะสร้างสรรค์ กิจการงานใหม่ ๆ ที่เป็นความดีงาม หรือยังประโยชน์ต่อชีวิต และสังคม เรียกว่า ถึงพร้อมด้วยฉันทะ (ฉันทสัมปทา)

                ประการที่ 4  ความมุ่งมั่นพัฒนาตนให้เต็มศักยภาพ มนุษย์มองภาพไม่ดีของตนว่าสามารถพัฒนาได้  ก็จะมีความงอกงามจนที่ที่สุดแห่งความสามารถของตน  เรียกว่า  ทำตนให้ถึงพร้อม (อัตคสัมปทา)

                ประการที่ 5  ปรับทัศนคติและค่านิยมให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตที่ดีงาม เอื้อต่อการเรียนรู้ และทำให้สติปัญญางอกงามขึ้น เรียกว่า กระทำความเห็นความเข้าใจให้ถึงพร้อม (ทิฏฐิสัมปทา)

                ประการที่ 6  การมีสติ กระตือรือร้น ตื่นตัวทุกเวลา หมายถึง การมีจิตสำนึกแห่งความไม่ประมาท เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของชีวิตและสภาพแวดล้อม เห็นคุณค่าของเวลา และใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เรียกว่า ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท (อัปปมาทสัมปทา)

                ประการที่ 7  การรู้จักแก้ปัญหาและพึ่งตนเอง จัดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยความคิดวิจารณญาณญาณตามเหตุปัจจัยด้วยตัวเอง เรียกการคิดแบบนี้ว่า โฮนิสสมนสิการ (โฮนิโสมนสิการสัมปทา)

                นอกจากนี้  พระธรรมปิฏก ได้ให้แนวทางการพัฒนาชีวิตที่ยั่งยืน พอประมวลเป็นเทคนิคการพัฒนาตนที่บุคคลพึงฝึกหัดพัฒนา ได้แก่ ความเชื่อในการฝึกฝนพัฒนาคน การมีศีลและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของสังคม ฝึกการเพิ่มภาวะอิสระจากวิกฤตภายนอก บริจาคและสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน ฝึกสมาธิเพื่อการสร้างพลังจิตที่เข้มแข็ง ฝึกพัฒนาปัญหาให้มีความเข้าใจชีวิตและโลกที่แท้จริง เพื่อนำไปสู่ความเป็นอิสระเหนือความสุขและความทุกข์  คือ  การฝึกวิปัสสนากรรมฐาน  ผู้สนใจควรศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องการฝึกสมาธิและวิปัสสนากรรมฐานจากแนวการพัฒนาจิตตามหลักพุทธศาสตร์ได้อย่างกว้างขวาง

 ขั้นตอนการพัฒนาตนเอง

1.  สำรวจพิจารณาตนเอง

2.  วิเคราะห์ จุดเด่น - จุดบกพร่อง

3.  กำหนดปัญหาและพฤติกรรมเป้าหมาย

4.  รวบรวมข้อมูลพื้นฐาน

5.  เลือกเทคนิควิธีและวางแผน

6.  ทดลองปรับปรุงพัฒนา

7.  ประเมินผลและขยายผลการพัฒนา

    ปัจจัยการพัฒนาตนเอง

 1)  แนวคิดความเชื่อเกี่ยวกับการพัฒนา ตนเอง

 2)  ผลการสำรวจพิจารณา ตนเอง

 3)  ผลการวิเคราะห์ตนเอง

 4.) พฤติกรรมเป้าหมาย

 5) เทคนิควิธีพัฒนาตนเอง

 6) แผนการพัฒนาตนเอง

 ผู้เขียนขอขอบคุณผู้ที่ให้ข้อมูลเพื่อการพัฒนาตนเองในครั้งนี้

 

การพัฒนาตนเองด้านใดบ้าง

10 เคล็ดลับ พัฒนาตนเอง สู่ความสำเร็จ.
แก้ไขอุปนิสัยทำลายความสำเร็จ.
1.หยุดผัดวันประกันพรุ่ง ... .
2.เลิกคิดลบ ... .
3.เลิกเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น ... .
4.หยุดนึกถึงอดีตที่ล้มเหลว ... .
5.เลิกตั้งเป้าหมายเพ้อฝัน ... .
เพิ่มอุปนิสัยแห่งความสำเร็จ.
1.ฝึกทำสิ่งที่มีความหมายสำหรับคุณ.

แนวทางในการพัฒนาตนเองมี 4 ด้านอะไรบ้าง

การพัฒนาตนหรือการการฝึกฝนตนถือว่าเป็นหลักของบัณฑิตผู้ฉลาดมีปัญญาในโลก นี้ก็จะต้องฝึกฝนตนเองเพื่อความเจริญก้าวหน้าด้วยคุณธรรมต่างๆดังที่พระพุทธศาสนาใช้ หลักพุทธธรรมเพื่อพัฒนาตนตามแบบโลกิยะคือภาวนา4อันได้แก่กายภาวนาสีลภาวนาจิตต ภาวนาและปัญญาภาวนาและหลักพุทธธรรมเพื่อการพัฒนาตนตามแบบโลกุตตระคือภาวนา 2อันได้แก่การเจริญการ ...

แนวทางในการพัฒนาตนเองมีคุณลักษณะกี่ด้าน อะไรบ้าง

1. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 2. มีหลักการและเหตุผล 3. มีความละเอียดรอบคอบ 4. มีความสามารถในการตัดสินใจ.
เก่งคิด.
เก่งคน.
เก่งงาน.

การพัฒนาตนเองมีความสําคัญอย่างไร

การพัฒนาตนเอง คือ เป็นการพัฒนาศักยภาพของตนด้วยตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม เหมาะสมกว่าเดิม ซึ่งการพัฒนาตนเองสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างความรู้ ทักษะ หรือเพิ่มพูนความสามารถด้านอื่น ๆ ให้แก่ตนเอง นอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ยังช่วยให้คุณปรับตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต