แบตเตอรี่รถยนต์ควรมีกี่โวลต์

แบตเตอรี่รถยนต์ควรมีกี่โวลต์

ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ เลือกแอมป์สูงขึ้น ใหญ่ขึ้นดีไหม แบตรถยนต์ กี่แอมป์?

แอมป์แบตเตอรี่รถยนต์ คืออะไร?

แบตฯ 45 แอมป์, แบตฯ 60 แอมป์ ที่ช่างพูดถึงคืออะไ  ค่าแอมป์ แบตเตอรี่ คืออะไร มาขยายความให้รู้กันสักหน่อย กับคำว่า “แอมป์” ในแบตเตอรี่ มาจากคำว่า “Ah” ซึ่งแต่ละตัวอักษรมีความหมายดังต่อไปนี้

  • A คือหน่วยของกระแสไฟฟ้า เพื่อใช้ในการวัดปริมาณกระแสไฟฟ้า
  • h คือหน่วยของเวลา 1 ชั่วโมง

หน่วยของ Ah ที่ใช้เรียกสำหรับแบตเตอรี่นั้น คือหน่วยความจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่ (Battery Capacity) ใช้วัดปริมาณกระแสไฟฟ้าที่แบตเตอรี่จ่ายได้ใน 1 ชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ขนาด 45 Ah ก็หมายถึงแบตเตอรี่ลูกนั้นในหนึ่งชั่วโมงสามารถจ่ายกระแสไฟให้กับรถได้ 45 แอมป์นั่นเอง

หนึ่งส่วนสำคัญที่จะทำงานร่วมกับแบตเตอรี่นั่นคือ “ไดชาร์จ” รับแรงหมุนจากเครื่องยนต์เป็นพลังงานกลเพื่อมาสร้างกระแสไฟฟ้า พูดง่ายๆ เมื่ออุปกรณ์ต่างๆ ใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ตัวไดชาร์จนี้ก็จะทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าเติมกลับเข้าไปในแบตฯ เพื่อเก็บไว้ใช้ต่อไป โดยตลอดจนกว่าจะกระแสไฟฟ้าจะเต็มความจุของลูกแบตฯ หรือจนกว่าจะดับเครื่อง

แบตเตอรี่รถยนต์ควรมีกี่โวลต์

“ไดชาร์จ” ตัวปั่นกระแสไฟกลับเข้าไปให้แบตเตอรี่

วิธีดูแอมป์ แบตเตอรี่รถยนต์

เมื่อแบตฯ เริ่มเสื่อม ความสามารถในการเก็บประจุไฟน้อยลง ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตฯ ลูกใหม่ คำแนะนำของช่างให้เปลี่ยนแบตที่ใส่แบตใหญ่กว่าเดิม แอมป์มากขึ้นแต่ไม่ใหญ่เกินขนาดแบตฯ ลูกเดิมมากนัก แม้จะมีราคาแพงกว่าขนาดเดิมเพียงไม่กี่ร้อยแต่ประโยชน์ที่คุณจะได้รับมีมากกว่า ทั้งช่วยในเรื่องกำลังไฟที่แรงขึ้น และกระแสไฟฟ้ามีสำรองใช้มากขึ้น เพราะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อุปกรณ์ต่างๆ ล้วนแต่ใช้ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในการทำงานแทบทั้งสิ้น รวมไปถึงเครื่องยนต์ ระบบเบรค พวงมาลัย ต่างต้องพึ่งกระแสไฟฟ้าในการทำงาน การที่ตัวรถมีกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นย่อมช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำงานได้ดีกว่าเดิมหาก ถึงเวลารถติดๆ จอดนิ่ง เครื่องยนต์เดินเบาความสามารถในการชาร์จไฟของไดชาร์จทำได้ไม่เต็มที่เหมือนตอนรถวิ่ง ตัวรถก็ยังมีกระแสไฟฟ้าสำรองไว้ใช้มากขึ้นกว่าเดิม โดยรถยนต์ทุกรุ่นสามารถเลือกเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่มีแอมป์สูงขึ้นจากเดิมของโรงงานได้ประมาณ 10-30 แอมป์ เพราะขนาดของแบตฯ จะไม่ต่างจากเดิมมากนัก ยังสามารถใส่ช่องแบตฯ เดิมได้อยู่ไม่ต้องดัดแปลง

  • แบตเตอรี่รถยนต์ รู้ไว้ใช่ว่า...
  • 4 ข้อต้องคิด ก่อนซื้อ แบตเตอรี่รถยนต์

และแบบนี้ถ้าแบตฯ ลูกใหญ่ขึ้น แอมป์มากขึ้นก็เกิดคำถามต่อมาว่าจะทำให้การทำงานของไดชาร์จจะต้องรับภาระหนักขึ้นหรือเปล่า จะส่งผลให้ไดชาร์จพังไวขึ้นหรือเปล่า คำตอบคือเป็นไปได้! แต่เฉพาะในกรณีที่ว่าคุณใช้แบตฯ ลูกใหญ่กว่าเดิมมากๆ เท่านั้น เช่น จากความสามารถของตัวไดชาร์จที่ถูกออกแบบมาเพื่อสำหรับชาร์จแบตฯ ขนาด 45 แอมป์ แต่ต้องมาทำงานหนักกว่าเดิมเพราะต้องชาร์จไฟกับแบตฯ ลูกใหญ่ขนาด 100 แอมป์ อาจส่งผลในไดชาร์จต้องทำงาน “โอเวอร์โหลด” เกิดเป็นความร้อนสะสมภายในตัวไดชาร์จบ่อยครั้งจนสุดท้ายส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นกว่าที่ควรจะเป็น

แบตเตอรี่รถยนต์ควรมีกี่โวลต์

แบตเตอรี่รถยนต์ สูงสุดกี่แอมป์ ให้ใหญ่ขึ้นแค่เป็นขนาดที่ยังวางในช่องเก็บแบตฯ เดิมพอ แบตเตอรี่ แอมป์สูง ดีไหม?

การเลือกขนาดแอมแปร์แบตเตอรี่รถยนต์
แน่นอนอยู่แล้วว่า แบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมแปร์มากกว่า จะใช้งานได้ทนทานกว่าแบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมแปร์น้อยกว่า แล้วแต่กับความต้องการของผู้ใช้รถ เพื่อเลือกแอมแปร์ให้พอดีหรือมากกว่านิดหน่อย ดังนี้

  • รถเก๋ง ญี่ปุ่น เครื่อง 1200-1900 ซี.ซี. อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45-60 แอมป์
  • รถเก๋ง ญี่ปุ่น เครื่อง 2000-3000 ซี.ซี. อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60-75 แอมป์
  • รถเก๋ง ยุโรป เครื่อง 2000-3000 ซี.ซี. อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด  75 แอมป์ ขั้วจม
  • รถเก๋ง ยุโรป เครื่อง 2800-4000 ซี.ซี.  อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 100 แอมป์ ขั้วจม
  • รถกระบะ เครื่อง 2000-3000 ซี.ซี. อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 70-90 แอมป์

ดังนั้นถ้าเปลี่ยนแบตเตอรี่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดของแบตฯ ได้ แต่ไม่ควรน้อยกว่าที่ใช้อยู่ และไม่เปลี่ยนเป็นแบตฯ ที่ลูกใหญ่เกินไป เลือกปรับขนาดของแบตฯ ที่ลูกใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อยใหญ่พอที่จะใส่กลับเข้าช่องใส่แบตเตอรี่เดิมได้ เท่านั้นก็เพียงพอ เช่น จากเดิมรถใช้แบตฯ 45 แอมป์สามารถปรับขนาดไปใช้ขนาด 60 แอมป์ได้, จากเดิมรถใช้ 60 แอมป์ ก็ปรับขนาดไปใช้ 75 แอมป์ได้, ขนาด 70 แอมป์เดิมก็ไปใช้แบตฯ ขนาด 90 แอมป์ได้ เป็นต้น นอกจากไม่ส่งผลเสียต่อการทำงานของอุปกรณ์ชิ้นอื่นอย่างไดชาร์จแล้วนั้น ยังช่วยให้การทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์
แบตเตอรี่รถยนต์ปัจจุบันนี้แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

  1. แบตเตอรี่รถยนต์เปียก (กรดตะกั่ว) จุดเด่นของแบตเตอรี่ประเภทคือ มีราคาถูก ถ้าดูแลอย่างสม่ำเสมอจะมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด   แบตเตอรี่รถยนต์เปียกเหมาะกับผู้ที่ดูแลรักษารถเป็นประจำและใช้รถเป็นประจำทุกวัน เพราะต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย อย่างน้อยก็ควรเดือนละครั้ง รักษาปริมาณน้ำกลั่นให้เหมาะสม
  2. แบตเตอรี่รถยนต์กึ่งแห้ง MF (Maintenance Free) มีจุดเด่นราคาปานกลาง อายุการใช้งานปานกลาง สะดวกที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น Maintenance Free พัฒนามาจากแบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำกลั่น ถูกออกแบบมาให้มีการสูญเสียน้ำกลั่นน้อยมาก (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) ด้วยการคิดสูตรผสมแผ่นธาตุใหม่ผสมแคลเซียม (calcium) ทำให้การระเหยของไอกรดต่ำ เรียกกันภาษาปากว่าแบตแห้งเพราะแทบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลยหากไม่มีปัญหา 
  3. แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free Car Battery) ราคาแพงกว่าแบตเตอรี่อื่นๆ อายุการงานปานกลาง และเหมาะสำหรับรถยนต์ยุโรป แบบแห้งของเมืองนอกจะใช้เจลหรือซิลิโคนแทนน้ำกรด ด้วยเหตุผลทางอุณภูมิของอากาศที่มีความหยาวเย็นถึงขั้นองศาติดลบ ส่วนใหญ่รถยนต์ยุโรปถูกออกแบบมาให้ใช้กับแบตเตอรี่ชนิดนี้

แล้วครั้งต่อไปที่รถของคุณจะต้องแบตเตอรี่รถยนต์กี่แอมป์ อย่าลืมนำเทคนิคในการเลือกขนาดแบตนี้ไปใช้กันด้วยนะ

ดูเพิ่มเติม

  • 7 สัญญาณเตือน เมื่อถึงเวลาเปลี่ยน แบตเตอรี่รถยนต์
  • Honda เดินหน้าพัฒนาแบตเตอรี่โซลิด-สเตท รายล่าสุด