คือ การนำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกันเพื่อประโยชน์ของการสื่อสารรูปแบบการจัดวาง คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นที่ต่างกัน สามารถแบ่งตามลักษณะของการเชื่อมต่อหลักได้ดังนี้ Show
1.โครงสร้างเครือข่ายแบบแมช (mesh topology) เป็นรูปแบบของการเชื่อมต่อที่มีความนิยมมากและมีประสิทธิภาพสูงเนื่องจากถ้ามีเส้นทางของการเชื่อมต่อคู่ใดคู่หนึ่งขาดจากกัน การติดต่อสื่อสารระหว่างคู่นั้นยังสามารถติดต่อได้โดยอุปกรณ์จัดเส้นทาง (router) จะทำการเชื่อมต่อเส้นทางใหม่ไปยังจุดหมายปลายทางอัตโนมัติ การเชื่อมต่อแบบนี้มักนิยมสร้างบนเครือข่ายแบบไร้สาย รูปร่างเครือข่ายแบบแมช ระบบนี้ยากต่อการ เดินสายและมีราคาแพงมาก จึงยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก
2.โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว (star topology)
3.โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (ring topology)
4.โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (ring topology) เช่น วิทยาเขตขนาดเล็กที่ มีหลายอาคาร เครือข่ายของแต่ละอาคารอาจใช้แบบบัสเชื่อมต่อกับอาคารอื่นๆที่ใช้แบบดาว และแบบวงแหวน
Share this:
Like this:Like Loading... Leave a commentโครงสร้างของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีกี่รูปแบบ อะไรบ้าง ? Published by N'Mak (Content Creator) on พฤษภาคม 18, 2017พฤษภาคม 18, 2017 เมื่อเราได้ทำความรู้จักกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาบ้างแล้วว่าคืออะไร มีกี่ชนิด อะไรบ้าง ? วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเรื่องโครงสร้างแต่ละรูปแบบเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ว่าสามารถสร้างรูปแบบไหนได้บ้าง และในแต่ละโครงสร้างเหมาะสำหรับนำไปใช้ในทางด้านใด ? รวมทั้งข้อดี – ข้อเสียของแต่ละรูปแบบ รูปแบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 5 รูปแบบดังนี้
เครือข่ายแบบบัส (Bus Network)การเชื่อมต่อเครือข่ายใช้สายสัญญาณต่อเชื่อมกันแบบบัส (Bus) โดยสัญญาณจะถูกกระจายไปตลอดทั้งเส้นทางเป็นทางเดินร่วมกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง Bus network ที่มารูป : bbc ข้อดีแบบบัส (Bus Network)
ข้อเสียแบบบัส (Bus Network)
เครือข่ายแบบสตาร์ (Star Network)การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เข้าสู่คอมพิวเตอร์ที่เป็นศูนย์กลางโดยใช้ “ฮับ (Hub)” หรือ “สวิตช์ (Switch)” เป็นจุดเชื่อม โดยเราจะเรียกคอมพิวเตอร์ที่เป็นศูนย์กลางนั้นว่า “โฮสต์คอมพิวเตอร์ (Host Computer)” Star network ที่มารูป : bbc ข้อดีแบบสตาร์ (Star Network)
ข้อเสียแบบสตาร์ (Star Network)
เครือข่ายแบบริง (Ring Network)การเชื่อมต่อจะมีลักษณะเป็นวงแหวน (Ring Network) การติดต่อสื่อสารจะใช้ “โทเค็น (Token)” เป็นสื่อกลางการติดต่อภายในเครือข่าย Ring network ที่มารูป : bbc ข้อดีแบบริง (Ring Network)
ข้อเสียแบบริง (Ring Network)
เครือข่ายแบบผสม (Mesh Network)การเชื่อมต่อเครือข่ายที่ไม่มีรูปแบบแน่นอนเช่น ใช้เครือข่ายแบบบัสผสมกับเครือข่ายแบบสตาร์ เครือข่ายแบบไร้สาย (Wireless Network)เริ่มแรกนั้นสามารถรับส่งข้อมูลได้ 2 Mbps (Megabits Per Second) จนพัฒนาให้สามารถส่งข้อมูลได้ 11 Mbps สามารถส่งข้อมูลไปบนความถี่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ ซึ่งเรียกว่า “Spread Spectrum” โครงสร้างของเครือข่ายคืออะไรโครงสร้างของเครือข่าย คืออะไร
ด้วยสายเคเบิ้ลยาวต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ โดยจะมีคอนเน็กเตอร์เป็นตัวเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ เข้ากับสายเคเบิ้ลในการส่งข้อมูลจะมีคอมพิวเตอร์เพียงตัวเดียวเท่านั้น ที่สามารถส่งข้อมูลได้ในช่วง เวลาหนึ่งๆ การจัดส่งข้อมูลวิธีนี้จะต้องกำหนดวิธีการที่จะไม่ให้ทุกสถานีส่งข้อมูลพร้อมกัน เพราะจะทำ
โครงสร้างแบบเครือข่ายไร้สายแบ่งออกเป็นกี่แบบWireless Topology รูปแบบของระบบการสื่อสารไร้สาย แบ่งออกเป็น 2 ชนิดดังนี้ ระบบเครือข่ายแบบ Ad hoc. เป็นระบบเครือข่ายที่เหมือนกับระบบ Peer to Peer ของระบบเครือข่าย LAN อุปกรณ์เครือข่ายจะทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ใช้และผู้ให้บริการ ระบบนี้ไม่มีการรักษาความปลอดภัย และอาจมีความเร็วในการสื่อสารต่ำ
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (Ring Topology) คืออะไรเครือข่ายแบบวงแหวน เป็นการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาต่อเข้าด้วยกันด้วยสายเคเบิลให้เป็นวงแหวนหรือวงกลมนั่นเองโดยในการส่งข้อมูลในเครือข่ายนั้นเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่งข้อมูลมาก็จะส่งกันแบบวงกลมก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะส่งกันไปเรื่องๆเป็นวงกลมจนถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะตรวจสอบว่าตรงกับเครื่อง ...
|