ยาคุมฉุกเฉิน หลักๆ จะแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ ยาคุมฉุกเฉินแบบหนึ่งเม็ด และยาคุมฉุกเฉินแบบสองเม็ด เหมาะใช้ในกรณีที่ฉุกเฉินในบางกรณี เช่น ถุงยางรั่ว ถุงยางแตก หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ซึ่งช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ระดับหนึ่ง Show
วิธีการกินยาคุมฉุกเฉิน- กรณีที่เป็นแบบสองเม็ด
- กรณีที่เป็นแบบหนึ่งเม็ด ให้ทานหนึ่งเม็ดทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์
ยาคุมฉุกเฉิน กินหลังมีเพศสัมพันธ์การกินยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่ควรเกิน 3 วันหรือ 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยรีบทานเม็ดแรกภายในระยะเวลาที่กำหนด บรรยายใต้ภาพ: พบวัยรุ่น-ผู้ใหญ่ใช้ยาคุมฉุกเฉินแบบไม่รู้จริง กินประจำแทนยาคุมธรรมดา เพราะขี้เกียจ หาง่าย ราคาถูก หวั่นมีเพิ่มสูงขึ้น แพทย์ชี้ไม่ควรใช้ "ยาคุมฉุกเฉิน เกิน 2 ครั้งในชีวิต เพราะเสี่ยงต่อมะเร็งและผลข้างเคียงต่อร่างกาย ย้ำใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น แฉเคยมีเด็กถูกแฟนหลอกให้กินหลังมีเพศสัมพันธ์สวัสดีค่ะ อยากทราบประสิทธิภาพและผลของยาคุมฉุกเฉิน คือถ้ากินสองกล่องภายใน1 เดือนผลกระทบจะเยอะมั้ยคะ แล้วประสิทธิภาพจะยังโอเคอยู่รึเปล่า กังวลมากเลยค่ะ ทั้งสองครั้งกินหลังทีเพศสัมพันธ์ไม่เกินครึ่งชั่วโมงค่ะ คือฉุกเฉินจริงๆอ่ะค่ะ 😭😭😭 กลัวมากเลย แพทย์หญิงสลิล ศิริอุดมภาส แพทย์ Aug 15, 2017 at 09:28 AM สวัสดีค่ะ คุณ kilomio, ประสิทธิภาพของการทานยาคุมฉุกเฉินในแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ว่าเร็วแค่ไหน หากทานได้เร็วภายใน 12 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ สามารถที่จะป้องกันได้ประมาณ 95% หากทานภายใน 12-24 ชั่วโมง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 85% หากทานภายใน 48-72 ชัว่โมง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 58% การทานยาคุมฉุกเฉินไป 2 ครั้ง อาจส่งผลให้มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดได้ และอาจส่งผลต่อการมาของประจำเดือน ที่อาจทำให้คลาดเคลื่อนได้ โดยส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 ครั้งต่อเดือน เพราะอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงกับรังไข่ในระยะยาวได้ หากยังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ ควรเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นต้น kilomioสมาชิก Aug 16, 2017 at 08:58 PM แล้วถ้าทานแล้วมีเลือดออกใน 7 วันจะถือว่าไม่ท้องได้เลยมั้ยคะ หรือว่ายังไม่ชัวร์อยู่ดี แล้วถ้าท้องจะมีอาการอะไรแสดงใหเห็นก่อนมั้ยคะ แพทย์หญิงสลิล ศิริอุดมภาส แพทย์ Aug 18, 2017 at 07:12 AM การมีเลือดออกในช่วงประมาณ 1 สัปดาห์หลังทานยาคุมฉุกเฉิน เป็นผลข้างเคียงจากการทานยา ไม่ได้เป็นการบอกว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ อาการของการตั้งครรภ์ ที่สำคัญคือการขาดประจำเดือนค่ะ ส่วนอาการอื่นๆ บางรายอาจไม่มีเลยก็ได้ค่ะ อีกทั้งอาการก็ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นอาการของการตั้งครรภ์ค่ะ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มึนหัว เวียนหัว เหม็นอาหาร อยากกอนของแปลกๆ คัดตึงเต้านม ปัสสาสะบ่อย เป็นต้น Phanuphong Neverdie สมาชิก Oct 28, 2017 at 12:10 PM หมอคับ แล้วอย่างแฟนผม ละคับ มีประจำเดือนสามครั้งแล้วในเดือนนี้ รอยแรกมาแบบปกติคือต้นเดือน หลังจากนั้นวันที่15 มี พสพ กันแบบไม่ป้องกัน ผมเลยให้กินยาคุมฉุกเฉิน หลังจากกินเสด5วัน ปจดแฟนก้อมา ได้3วันคับ คือ20-22 และวันที่23เราก้อมีไรกันอีกที แต่ก้อไม่ได้ป้องกัน ผมเลยให้กินยาคุมฉุกเฉินอีกรอบ แล้ววันที่ 28 ต.ค คืวันนี้ แฟนบอกว่าทีปจด มานิดหน่อย แต่อาการก่อนมีปจดของแฟนคือ ปวดขาคับ แล้วเมื่อคืนวันที่27 แฟนก้อบอกว่าปวดขาเหมือนมาเมน และวันนี้ที่28 ปจด แฟนก้อมาไม่เยอะอ้ะคับ มันจะเปนไรมั้ยคับจะท้องมั้ย หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือไม่ได้ตั้งใจแล้ว ผู้หญิงบางคนอาจไม่รู้ว่ายาคุมฉุกเฉินกินตอนไหนถึงจะปลอดภัยต่อร่างกาย แถมยาคุมฉุกเฉินก็มีหลายชนิดให้เลือกใช้จึงอาจทำให้หลายคนสับสนได้ บทความนี้จะช่วยคลายความสงสัยและความวิตกกังวลไปพร้อมกัน ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่ายาคุมฉุกเฉินชนิดเม็ดนั้นไม่ใช่ยาที่ทำให้แท้งบุตร แต่กลไกหลักจะช่วยชะลอหรือป้องกันไข่ตกในช่วงวันตกไข่ ซึ่งเป็นช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น หมายความว่าหากไข่ไม่ตกตามปกติ อสุจิก็ไม่อาจปฏิสนธิกับไข่ได้ จึงไม่เกิดการตั้งครรภ์ตามมานั่นเอง นอกจากนี้ ยังอาจมีส่วนช่วยป้องกันการฝังตัวที่ผนังมดลูกอีกด้วย ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหนยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหนเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย คำตอบคือควรกินในกรณีจำเป็นเท่านั้น เช่น หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือไม่ตั้งใจ เกิดความผิดพลาดในการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น หรือลืมกินยาคุมกำเนิดชนิด 21 หรือ 28 เม็ด โดยควรกินยาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะตัวยาจะมีประสิทธิภาพสูงสุดหากรับประทานภายในระยะเวลาประมาณ 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งปล่อยเวลาทิ้งไปมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินจะยิ่งลดต่ำลงเท่านั้น โดยเฉพาะหากหลุดกรอบเวลาที่กำหนดไว้บนฉลากไปแล้ว นอกจากนี้ น้ำหนักตัวมากหรือโรคอ้วนอาจส่งผลให้ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพต่ำลงด้วย หากพบสัญญาณที่บ่งบอกยาคุมฉุกเฉินอาจใช้ไม่ได้ผล อย่างประจำเดือนไม่มาตามเวลาปกติเกิน 1 สัปดาห์ ควรตรวจการตั้งครรภ์โดยเร็ว ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรโดยเร็ว ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่ใช้กันในปัจจุบันมีอยู่ 2 ชนิด แต่ละชนิดจะมีปริมาณยา จำนวนเม็ดยา และระยะเวลาใช้ยาที่เหมาะสมต่างกันไป ดังนี้ 1. ยาคุมฉุกเฉินที่มีตัวยาลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel)ยาลีโวนอร์เจสเตรลเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ในกลุ่มโพรเจสติน (Progestins) ที่นิยมใช้กันในประเทศไทย โดยมีจำหน่ายใน 2 ปริมาณ ได้แก่
ในกรณีที่อาเจียนยาออกมาใน 2 ชั่วโมง ควรขอคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร เพราะอาจจำเป็นต้องกินยาคุมฉุกเฉินซ้ำ 2. ยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive Pills: COCs)ยาคุมฉุกเฉินชนิดนี้มีส่วนผสมของยาลีโวนอร์เจสเตรล 0.5 มิลลิกรัม และยาเอทินิลเอสตราไดออล (Ethinylestradiol) อีก 100 มิลลิกรัม แนะนำให้กินทั้งหมด 2 เม็ด โดยกินเม็ดที่ 1 ภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นเว้นระยะห่าง 12 ชั่วโมง แล้วจึงกินเม็ดที่ 2 ข้อควรรู้เกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉินการใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่มักปลอดภัยต่อร่างกาย แต่ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันเป็นประจำ เพราะยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีปริมาณฮอร์โมนสูง หากใช้ในปริมาณที่กำหนดอาจพบผลข้างเคียงโดยเฉพาะในช่วง 2–3 วันหลังการใช้ยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ประจำเดือนคลาดเคลื่อน มีเลือดออกทางช่องคลอดกะปริดกะปรอย อีกทั้งคนที่รับประทานซ้ำหลายครั้งอาจเกิดผลข้างเคียงที่อันตราย เช่น เกิดความผิดปกติที่รังไข่หรือเยื่อบุโพรงมดลูก และอาจมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกสูงขึ้นกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ ยาคุมฉุกเฉินยังมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดต่ำกว่ายาคุมทั่วไปที่แผงละ 21 หรือ 28 เม็ด จึงไม่ควรใช้คุมกำเนิดในระยะยาว และแม้ว่าจะกินยาคุมถูกต้องถูกวิธีแล้ว ก็อาจจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เช่นกัน นอกจากทราบแล้วว่ายาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน ยังมีข้อควรระวังอีกหลายประการที่ควรศึกษาก่อนใช้ยา หากมีข้อสงสัยในการใช้ยาคุมฉุกเฉินหรือ |