การเตรียมตัวสัมภาษณ์เพื่อสอบเข้าทํางาน มีกี่ขั้นตอน

เป็นที่ชัดเจนแล้วหลังจากนี้การสัมภาษณ์พนักงานใหม่นั้นจะมีการใช้ช่องทางออนไลน์อย่างเช่นระบบ Video Conference ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการสัมภาษณ์งานเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก และยังเป็นการวัดผู้ถูกสัมภาษณ์ด้วยว่ามีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีทำงาน

ในบทความนี้ทีมงาน ADPT.news จึงได้สรุปถึงทุกสิ่งที่ทุกคนควรต้องเตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อให้ทุกการสัมภาษณ์งานออกมามีคุณภาพน่าประทับใจสำหรับผู้สัมภาษณ์ เพิ่มโอกาสการได้งานให้กับทุกท่านกัน ดังนี้

1. เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้สัมภาษณ์ให้พร้อม: คอมพิวเตอร์, กล้อง Webcam, หูฟัง, ไมโครโฟน และ Internet

สำหรับการสัมภาษณ์ออนไลน์ การเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่ทุกคนในปัจจุบันนี้ต้องเตรียมตัวเอาไว้ เพราะไม่ว่าจะสัมภาษณ์งานที่ใดหรือกี่ครั้งก็ตาม อุปกรณ์ชุดนี้จะกลายเป็นอุปกรณ์ชุดสำคัญที่ต้องใช้ทุกครั้งในการสัมภาษณ์ โดยสิ่งที่ต้องเตรียมตัวมีดังนี้

• เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องที่ใช้ควรเป็นเครื่องที่แรงพอจะใช้ระบบประชุมออนไลน์แบบเปิดกล้องได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ต้องมีสเป็คแรงปานกลาง เพื่อให้เครื่องไม่ค้างไประหว่างประชุม
• กล้อง Webcam ถ้าหากเครื่องที่เราใช้เป็น Notebook และมีกล้องในตัวอยู่แล้วก็สามารถใช้ได้เลย แต่ถ้าหากใช้ PC แล้วไม่มีกล้อง ก็ควรต้องไปซื้อ Webcam แบบ USB มาใช้งานเพิ่มเติม และหาวิธีการติดตั้งหรือวางให้อยู่ในมุมระดับสายตา เพื่อให้การสัมภาษณ์มีความเป็นธรรมชาติ
• หูฟัง ในการสัมภาษณ์ควรมีหูฟังแยกที่ไม่ใช่ลำโพง เพื่อลดโอกาสการเกิดเสียงสะท้อนหรือเสียงรบกวนโดยไม่จำเป็นในระหว่างประชุม
• ไมโครโฟน ถ้าหากในหูฟังมีไมโครโฟนอยู่แล้วและสามารถใช้งานได้หรือมีไมโครโฟนแยกเลยก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากจะใช้ไมโครโฟนใน Notebook ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ข้อควรระวัง คือ อาจมีเสียงรบกวนจากการพิมพ์หรือการคลิกเมาส์เข้าไประหว่างสัมภาษณ์งาน
• Internet อย่างน้อยควรต้องมี Internet ที่บ้านเอาไว้ใช้สัมภาษณ์ และมี Internet จากโทรศัพท์ Smartphone เอาไว้ใช้สำรอง พร้อมทั้งซ้อมการเชื่อมต่อใช้งานให้คล่อง รวมถึงถ้าเป็นไปได้ก็ควรเชื่อมต่อสาย LAN ในระหว่างสัมภาษณ์เพื่อให้การพูดคุยเป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่ Wi-Fi ในบ้านเดี๋ยวนี้ก็ใช้ได้ดีแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้อุปกรณ์ที่เลือกใช้โดยเฉพาะหูฟังและไมโครโฟนนั้นก็ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมต่อตำแหน่งงานที่สัมภาษณ์และมีความสุภาพเรียบร้อยมากเพียงพอ ซึ่งบางตำแหน่งหรือบางบริษัทก็อาจต้องการประเด็นนี้มาก ในขณะที่บางตำแหน่งหรือบางบริษัทก็อาจไม่ได้ซีเรียสกับประเด็นนี้นัก

2. เตรียมซอฟต์แวร์สำหรับสัมภาษณ์ และซ้อมการใช้งานให้คล่อง

เมื่อฮาร์ดแวร์พร้อมแล้ว ขั้นถัดไปก็เป็นเรี่องของซอฟต์แวร์ โดยสิ่งที่ควรต้องเตรียมตัวล่วงหน้านั้น ได้แก่

• เตรียม Windows 10 หรือ macOS ให้พร้อม อัปเดตเครื่องให้เรียบร้อยก่อนสัมภาษณ์งานเสมอเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ติด Windows Update ก่อนเวลาสัมภาษณ์ 10 นาที โดยควรใช้ซอฟต์แวร์แท้ที่ไม่ใช่ลิขสิทธิ์เถื่อนในเครื่องเพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาที่คาดไม่ถึง รวมถึงซอฟต์แวร์อื่น ๆ ในเครื่องด้วยเพื่อไม่ให้เกิดการแจ้งเตือนเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ระหว่างสัมภาษณ์
• จัดการกับซอฟต์แวร์ที่มี Notification ในเครื่องให้ดี ระวังการมีเสียงแจ้งเตือนหรือมีกล่องข้อความแจ้งเตือนรบกวนการสัมภาษณ์
• ติดตั้งซอฟต์แวร์ Video Conference ที่ต้องใช้สัมภาษณ์เอาไว้ให้เรียบร้อย ทั้ง Microsoft Teams, Zoom, Google Meet ถึงแม้หลาย ๆ ระบบจะสามารถใช้ผ่านเว็บได้ แต่ก็ต้องมีการลง Plugin ก่อน
• ติดตั้งซอฟต์แวร์เดียวกันนี้ใน Smartphone เผื่อเอาไว้ด้วยเป็นการสำรอง

ข้อแนะนำหนึ่ง คือ ถ้าหากต้องมีการสัมภาษณ์วันใด ผู้ถูกสัมภาษณ์อาจต้องเตรียมเปิดเครื่องและโปรแกรมที่จะใช้สัมภาษณ์มาอัปเดตล่วงหน้าก่อนวันสัมภาษณ์ 1-2 วัน และในวันสัมภาษณ์จริงก็ลองเปิดมาทดลองอีกครั้งก่อนสัมภาษณ์ซัก 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดการอัปเดตที่ไม่คาดฝันในนาทีที่ต้องเริ่มสัมภาษณ์

3. ฝึกออกกล้องซ้อมสัมภาษณ์กับตัวเอง สื่อสารผ่านกล้องให้ดี พูดคุยให้รู้เรื่อง

ก่อนการสัมภาษณ์งาน การเตรียมตัวให้คุ้นเคยกับเครื่องมือที่ต้องใช้ในการสัมภาษณ์ให้เรียบร้อยก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ โดยคำแนะนำในการซ้อม ได้แก่

• ซ้อมการวางมุมกล้องและซ้อมพูดคุยโดยมองกล้อง เพื่อให้เกิด Eye Contact ในระหว่างการสัมภาษณ์ออนไลน์ ซึ่งโดยปกติแล้วตำแหน่งของกล้องนั้นจะอยู่เหลื่อม ๆ กับหน้าจอเล็กน้อย ทำให้หลาย ๆ ครั้งเวลาสัมภาษณ์ สายตาของเรามักจะมองไปที่ภาพของผู้สัมภาษณ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น การฝึกให้มองกล้องเป็นจังหวะในระหว่างที่พูดหรือฟังสลับกันไปจึงจะเป็นอีกสิ่งที่ทำให้การสัมภาษณ์งานมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงยังต้องฝึกการยิ้มให้กับกล้องให้เป็นธรรมชาติด้วย
• ซ้อมการจัดการกับฉากหลังและสถานที่ โดยฉากหลังที่ใช้ในระหว่างสัมภาษณ์ควรมีความสุภาพ ดูเป็นมืออาชีพ และพื้นที่ที่ใช้ควรมีแสงสว่างในระดับที่เพียงพอและมีมุมที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาย้อนแสง หน้ามืด หรือมีเงาบนหน้ามากจนเกินไป
• ซ้อมการจัดการกับระบบเสียงและการแชร์หน้าจอ หลายครั้งที่การประชุมออนไลน์มักพบปัญหาเรื่องเสียงไม่ออก ไม่ได้ยินเสียง หรือแชร์หน้าจอไม่ได้ การซ้อมเรื่องการจัดการว่าซอฟต์แวร์ใดต้องไปปรับค่าในส่วนนี้ตรงไหนให้มั่นใจทุกครั้งก่อนเข้าสัมภาษณ์งานจริงก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ดูเป็นมืออาชีพได้ดี เพราะหากระหว่างสัมภาษณ์เกิดปัญหาส่วนนี้ขึ้นมาและไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ ก็ย่อมสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีแก่ผู้สัมภาษณ์แน่นอน
• ซ้อมการออกเสียงพูดคุยให้ดังชัดเจนเป็นธรรมชาติ ทดสอบให้มั่นใจว่าต้องออกเสียงดังประมาณใดอีกฝ่ายจึงจะได้ยินเสียงชัด สำหรับคนที่มีไมโครโฟนในหูฟังหรือมีไมโครโฟนแยกมักไม่มีปัญหา แต่สำหรับอุปกรณ์ที่เป็น Bluetooth หรือการใช้ไมโครโฟนในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์อาจต้องให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากหน่อย
• เตรียมตัวแจ้งคนที่บ้านให้เรียบร้อย ว่าจะมีการสัมภาษณ์งานตอนช่วงเวลาใด และบอกวิธีการปฏิบัติตัวเช่น อย่าทำกิจกรรมที่ส่งเสียงดัง หรืออย่าเปิดประตูห้องหรือเคาะประตูห้องระหว่างนั้น เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนระหว่างสัมภาษณ์งาน

4. เตรียม Resume และกระดาษเอาไว้ เพื่อให้การตอบคำถามมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในระหว่างการสัมภาษณ์ออนไลน์นั้นอาจมีการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ใน Resume หรือถามคำถามที่มีความซับซ้อน การเตรียมพิมพ์ Resume และข้อมูลต่างๆ ของเราเองที่เคยส่งไปตอนสมัครงานเผื่อเอาไว้นั้นก็จะช่วยให้การพูดคุยสื่อสารราบรื่นมากขึ้นในระหว่างสัมภาษณ์ และไม่ต้องสลับหน้าจอไปมาหรือเปิดข้อมูลทันทีซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ และการมีกระดาษก็จะทำให้เราสามารถจดคำถามหรือประเด็นสำคัญๆ ที่ควรต้องพูดคุยกันได้โดยไม่เกิดเสียงรบกวนจากการพิมพ์คีย์บอร์ดหรือคลิกเมาส์

5. เตรียมเนื้อหานำเสนอหรือข้อมูลสำหรับการแชร์

ถ้าหากการสัมภาษณ์งานนั้น ๆ อาจต้องมีการอธิบายงานที่เราเคยทำหรือแชร์เรื่องราวต่าง ๆ การเตรียมข้อมูลในส่วนนี้เอาไว้ให้พร้อมเลยก็ถือเป็นการเตรียมตัวที่ดี เช่น ทำสไลด์ PowerPoint ที่มี Diagram อธิบายงานของเราเอาไว้และเปิดรอเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มสัมภาษณ์ หรือเปิดหน้า GitHub ที่เป็นผลงานของเราเอาไว้ตั้งแต่แรก ก็จะช่วยให้เราสามารถแบ่งปันข้อมูลตรงนี้ให้กับผู้สัมภาษณ์ได้อย่างทันท่วงทีและไม่ผิดพลาด สร้างความประทับใจเพิ่มเติมให้กับการสัมภาษณ์ได้

อย่างไรก็ดีผู้ถูกสัมภาษณ์นั้นควรต้องบริหารการนำเสนอในส่วนนี้ให้ดี เพราะผู้สัมภาษณ์บางทีอาจไม่ได้เตรียมเวลามาดูผลงานของเรานานมากนัก หรือบางท่านก็อาจอยากให้เจาะลึกเพิ่มเติมและพูดคุยกับเนื้อหาส่วนนี้เป็นหลัก ซึ่งก็ควรต้องสอบถามผู้สัมภาษณ์ให้ชัดเจนว่ามีเวลามากน้อยเพียงใดในการรับชมเนื้อหาในส่วนที่เตรียมเอาไว้นี้

ทั้งนี้ การเตรียมเนื้อหาที่เป็นวิดีโอนั้นอาจมีความเสี่ยง เพราะการแชร์หน้าจอที่เล่นวิดีโอนั้นอาจกระตุกหรือทำให้เครื่องค้างได้หากคอมหรือเน็ตเราไม่แรงพอ ดังนั้น การอัปโหลดทิ้งไว้เป็น YouTube หรือพื้นที่อื่น ๆ และส่งให้ผู้สัมภาษณ์สามารถเปิดดูในคอมของตนเองได้นั้นก็จะเป็นอีกวิธีที่ลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาลักษณะนี้ได้

6. เตรียมตัวตอบคำถามต่าง ๆ ในการสัมภาษณ์ให้ดี เหมือนการสัมภาษณ์งานทั่วไป

หลังจากที่เตรียมเครื่องมือและข้อมูลต่างๆ พร้อมแล้ว ก็อย่าลืมซักซ้อมการถามตอบต่าง ๆ ในการสัมภาษณ์งานเอาไว้ให้ดีด้วย ทั้งคำถามทั่วไป, คำถามวัดความรู้และประสบการณ์, การนำเสนอ ไปจนถึงการวัดภาษาต่างประเทศ หรือการทำแบบทดสอบต่าง ๆ ที่จำเป็น

7. ทำใจให้สบาย ทำตัวเหมือนประชุมออนไลน์กับลูกค้าหรือทีมงาน แต่งตัวให้ดี เข้าร่วมห้องสัมภาษณ์ล่วงหน้าเล็กน้อย

ในการสัมภาษณ์งานออนไลน์นั้นผู้ถูกสัมภาษณ์ควรเตรียมตัวเหมือนการไปสัมภาษณ์งานจริง เช่น การแต่งตัวให้เหมาะสมต่อตำแหน่งงานที่สัมภาษณ์ มีการพูดคุยทักทายยกมือไหว้แนะนำตัวตามความเหมาะสม รวมถึงเข้าลิงค์ห้องสัมภาษณ์ออนไลน์ล่วงหน้าเล็กน้อยให้สามารถเตรียมตัวจังหวะสุดท้ายได้

ทั้งนี้ การพูดคุยสัมภาษณ์งานออนไลน์นี้บรรยากาศหรือความรู้สึกก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากการสัมภาษณ์งานจริง จุดสำคัญ คือ อย่าเกร็งหรืออย่าตื่นเต้นจนเกินไป โดยหากเกิดความผิดพลาดที่ไม่คาดฝันจากการประชุมที่บ้านขึ้น เช่น ลูกเข้ามาระหว่างประชุม หรือสัตว์เลี้ยงหลุดเข้ามา การแก้ไขปัญหาโดยสุภาพและพูดคุยให้เข้าใจนั้นก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของผู้ถูกสัมภาษณ์ดีขึ้นได้ เป็นต้น

8. เตรียมแผนสำรองและช่องทางการติดต่อทีมสัมภาษณ์เอาไว้เสมอ

สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ไม่คาดฝันนั้นอาจเกิดขึ้นได้เสมอและการเตรียมแผนสำรองเอาไว้ให้ดีก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เช่น

• เตรียม Smartphone หรือ Tablet สำรองเอาไว้หากเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ โดยต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ที่จำเป็นเอาไว้ให้เรียบร้อย และสามารถเข้าถึงลิงก์การประชุมที่อาจถูกส่งมาทางอีเมลหรือทางช่องแชตได้เพื่อให้สามารถเปิดเข้าไปได้เลย และต้องเคยซ้อมการใช้งานบนอุปกรณ์เหล่านี้มาบ้างเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
• เตรียม Internet สำรองเอาไว้ เช่น การเชื่อม 4G/5G จากโทรศัพท์ไปยังคอมพิวเตอร์แทน สำหรับกรณีที่ Internet หลักที่ใช้งานมีปัญหา ซึ่งก็ควรต้องซักซ้อมวิธีการเหล่านี้เอาไว้ให้ดี
• มีช่องทางการติดต่อผู้สัมภาษณ์เอาไว้ เผื่อเกิดกรณีที่ไม่คาดฝัน เช่น ไฟดับระหว่างประชุม จะได้สามารถติดต่อชี้แจงและเลื่อนนัดประชุมหรือสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ต่อได้เลยถ้าหากจำเป็น

สำหรับผู้ที่กำลังหางานด้าน IT ไม่ว่าจะเป็นงานเชิง Engineer หรืองานขายและการตลาด สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://jobs.techtalkthai.com/ เพื่ออัปเตดตำแหน่งงานใหม่ ๆ ได้ทุกวัน