'อาหารกระป๋อง' เลือกให้ปลอดภัย เก็บให้ถูกต้อง Show
ช็อปปิ้งวันหยุดฉบับมนุษย์เงินเดือน นอกจากข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าแล้ว อาหารก็เป็นปัจจัยหลักที่เราต้องบริโภคในชีวิตประจำวัน ซึ่ง "อาหารกระป๋อง" เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมบริโภค เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย สะดวกต่อการบริโภคและพกพาช็อปปิ้งวันหยุดฉบับมนุษย์เงินเดือน นอกจากข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าแล้ว อาหารก็เป็นปัจจัยหลักที่เราต้องบริโภคในชีวิตประจำวัน ซึ่ง "อาหารกระป๋อง" เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมบริโภค เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย สะดวกต่อการบริโภคและพกพา การนำอาหารมาบรรจุในกระป๋อง ใช้เทคโนโลยีการให้ความร้อนเพื่อทำลายเชื้อจุลินทรีย์ ทำให้อาหารที่อยู่ในกระป๋องปลอดเชื้อจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสาเหตุของการเน่าเสีย ช่วยให้มีอายุการเก็บนานเป็นปีที่อุณหภูมิห้อง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1.กลุ่มอาหารที่เป็นกรด (acid foods) คืออาหารที่มีค่าพีเอชต่ำกว่า 4.5 ส่วนมากเป็นผลไม้กระป๋อง เช่น สับปะรด ส้ม หรือผักที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะเขือเทศ กระเจี๊ยบแดง เป็นต้น 2.กลุ่มอาหารที่เป็นกรดต่ำ (Low acid foods) คืออาหารที่มีค่าพีเอชสูงกว่า 4.5 โดยส่วนมากจะเป็นอาหารกระป๋องจำพวกเนื้อสัตว์ และผักต่างๆ เช่น เนื้อ หมู ปลา ข้าวโพดฝักอ่อน และหน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น
การเลือกซื้อเลือกบริโภคอาหารกระป๋องให้ปลอดภัย
การเก็บรักษาอาหารกระป๋องที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ มีข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้แนะนำหลัก “3 ฉ.” เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคอาหารกระป๋อง ดังนี้ ฉ…ฉลาก ต้องอ่านฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง โดยฉลากต้องแสดงประเภทอาหารเลขสารบบอาหารอยู่ในกรอบเครื่องหมาย อย. ชื่อและที่ตั้งสถานที่ผลิต ปริมาตรหรือน้ำหนักสุทธิ และที่สำคัญควรสังเกตวันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุ ฉ…ฉลาด ในการซื้อ เช่น สังเกตที่ฉลากโภชนาการ หรือสูตรส่วนประกอบ ซึ่งไม่ควรมีน้ำตาล ไขมัน หรือเกลือสูงเกินไป ฉ…เฉลียว โดยต้องตรวจสอบสภาพของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งความสะอาดทุกครั้ง โดยภาชนะจะต้องไม่ยุบ ไม่เป็นสนิม และไม่มีรอยรั่ว ภาพ : freepik ช่วงนี้ถ้าหลายๆท่านคงเริ่มกักตุนอาหารกันแล้ว แต่จะมีใครสงสัยกันไหมคะว่าเราจะรู้ได้ไงว่าอาหารแต่ละชนิดสามารถเก็บไว้ได้นานแค่ไหน เพราะบางคนอาจจะตุนของกินมากเกินไป จนสุดท้ายแล้ว ของกินเหล่านั้นอาจเน่าเสีย และหมดอายุได้ อาหารแต่ละชนิดจะมีอายุเท่าไหร่กันบ้าง ไปชมกันเลยค่าาา
สามารถเก็บได้นานถึง 5 เดือน แต่ต้องอยู่ในที่แห้ง แล้วไม่ร้อน และควรดูวันหมดอายุข้างห่อด้วยนะคะ (Photo credit: makroclick) 2. ไข่ไก่ - ไข่ที่เก็บไว้ข้างนอกสามารถอยู่ได้ โดยประมาณ 28 วันค่ะ (Photo credit: makroclick) 3. อาหารกระป๋อง เก็บในที่เย็นและพ้นแสงอยู่ได้นาน 1-2 ปี และควรดูวันหมดอายุที่บรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: tops) 4. นม - นมพาสเจอร์ไรส์ สามารถเก็บได้นาน 10 วัน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก - นมกล่องสามารถเก็บได้นาน 6 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: tops) 5. น้ำดื่ม - ถ้าเปิดขวดแล้ว สามารถเก็บได้นานไม่เกิน 2 อาทิตย์ (Photo credit: makroclick) 6. ซีเรียล ถ้ายังไม่เปิดกล่อง ภายใน 6 เดือน-1 ปี และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 7. โยเกิร์ต สามารถเก็บได้นาน 15 วัน เช็ควันหมดอายุตามระบุที่บรรจุภัณฑ์ และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 8. น้ำผลไม้ (Photo credit: fiercebook.com) 9. น้ำปลา - หากยังไม่ได้เปิดขวด สามารถเก็บได้นาน 1-2 ปี (Photo credit: makroclick) 10. ซอสถั่วเหลือง สามารถเก็บได้นาน 3 ปี และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 11. น้ำมันมะกอก สามารถเก็บได้นาน 2 ปี และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 12. น้ำผึ้ง น้ำผึ้งควรเก็บในอุณหภูมิห้องปกติ โดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น จะมีอายุได้ 1-2 ปี และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 13. ไส้กรอก - ถ้าแช่เย็นสามารถเก็บได้นาน 9 วัน - ถ้าแช่แข็ง สามารถเก็บได้นาน 1 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: tops) 14. เบคอน สามารถเก็บได้นาน 1 เดือนในช่องแช่แข็งและควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 15. เนื้อหมู - ถ้าเก็บในตู้เย็น สามารถเก็บได้นาน 3-5 วัน - เก็บในช่องแช่แข็ง สามารถเก็บได้นาน 3 สัปดาห์และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 16. เนื้อไก่ - แช่เย็นสามารถเก็บได้นาน 2-3 วัน - แช่แข็งได้ 3 สัปดาห์และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 17. เนื้อวัว - แช่เย็น สามารถเก็บได้นาน 1-2 วัน - แช่แข็งสามารถเก็บได้นาน 3 สัปดาห์และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 18. ปลาและ อาหารทะเล แช่แข็งแล้ว สามารถเก็บได้นาน 3-6 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: envato.com) 19. เส้นสปาเก็ตตี้ หากยังไม่เปิดเก็บได้นาน 1 ปี และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: fiercebook.com) 20. ขนมปัง ขนมปังเก็บได้ 3-7 วัน เช็ควันหมดอายุที่บรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 21. ข้าว ข้าวขาวขัดสี สามารถเก็บได้นาน 5 ปี (Photo credit: makroclick) 22. กระเทียม สามารถเก็บได้นาน 8 สัปดาห์ (Photo credit: tops) 23. ผักประเภทกระหล่ำ สามารถเก็บได้นาน 5-8 วัน (Photo credit: envato.com) 24. ชีส สามารถเก็บได้นาน 1 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 25. ซอสมะเขือเทศ สามารถเก็บได้นาน 6 เดือนและควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 26. น้ำตาลกับเกลือ ควรเก็บไว้ในที่แห้งและห่างไกลจากความชื้น จะมีอายุได้ 1-3 ปี และควรดูวันหมดอายุที่บรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 27. เครื่องเทศ สามารถเก็บได้นาน 2 ปี และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 28. ผงโรยข้าว เก็บได้นาน 12 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: fiercebook.com) 29. กาแฟผง กาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) ให้ดูอายุสินค้าที่ระบุข้างขวดเป็นหลัก แต่เมื่อเปิดฝาแล้วให้เก็บในที่เย็นและแห้ง จะสามารถเก็บได้ถึง 12 เดือน หรือไม่เกินอายุที่ระบุข้างขวด (Photo credit: makroclick) 30. หมูแผ่น สามารถเก็บได้นาน 60 วัน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: fiercebook.com) 31. แครอท ถ้าแช่เย็นสามารถเก็บได้นาน 7-14 วัน (Photo credit: tops)
เก็บในขวดพลาสติกสามารถเก็บได้นาน 10-15 วัน (Photo credit: tops) 33. พริก สามารถเก็บได้นาน 2 สัปดาห์ แช่เย็นสามารถเก็บได้นาน 1 เดือน (Photo credit: tops) 34. ผักใบ สามารถเก็บตู้เย็นได้นาน ประมาณ 1-3 วัน (Photo credit: makroclick) 35. หอมหัวใหญ่ สามารถเก็บได้นาน 8 เดือนในที่แห้งและเย็น (Photo credit: tops) 36. พริกแกง แช่ฟรีซเก็บได้นาน 1 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 37. แอปเปิ้ล ถ้าแช่เย็นสามารถเก็บได้นาน 7-12 วัน (Photo credit: tops) 38. ส้ม ถ้าแช่เย็นสามารถเก็บได้นาน 7 วัน (Photo credit: tops)
สามารถเก็บได้นาน 6 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: makroclick) 40. ช็อคโกแลต สามารถเก็บได้นาน 2-3 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: fiercebook.com)
ถ้าแช่เย็นสามารถเก็บได้นาน 1-2 วัน (Photo credit: tops)
สามารถเก็บได้นาน 2-3 เดือน (Photo credit: tops)
ถ้าแช่เย็นสามารถเก็บได้นาน 3-5 วัน (Photo credit: tops)
เปิดฝาแล้วแช่เย็นสามารถเก็บได้นาน 3 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก (Photo credit: tops) ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นอายุของอาหารทั้งหมดที่เฟียร์ซคิดว่าทุกคนควรรู้ก่อนที่จะกักตุนสินค้าเพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากการซื้อ และไม่นำไปทิ้งในตอนสุดท้ายนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้น เฟียร์ซขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพและระวังตัวเองกันให้ดีๆด้วยนะคะ Tags : Lifestyle อัพเดทสถานการณ์ 'ไวรัสโคโรน่า' ความรู้ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ไวรัสโคโรน่า สถานการณ์ ไวรัส "โควิด-19" กักตุนอาหาร อาหารอยู่ได้นานแค่ไหน อาหารแช่แข็ง ปลากระป๋องอยู่ได้กี่ปีปลากระป๋อง คือ ปลาที่ผ่านการบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ เช่น กระป๋องดีบุกและให้ความร้อนเพื่อทำให้อาหารสุก, การบรรจุกระป๋องเป็นวิธีถนอมอาหารอย่างหนึ่งและสามารถขยายระยะเวลาการเก็บได้ถึง 1-5 ปี
เราจะทราบได้อย่างไรว่าอาหารกระป๋องที่ซื้อหมดอายุหรือไม่อย่างไร๖. วันเดือนปีที่ผลิต และวันเดือนปีที่หมดอายุสามารถดูได้จากฉลากที่ติดอยู่ที่ตัวผลิตภัณฑ์เรื่องวันเดือน ปีถือเป็นสิ่งส าคัญดังนั้นควรดูทุกครั้งที่ท าการเลือกซื้อ เพราะถ้าอาหารกระป๋องที่ซื้อมาหมดอายุ แล้วเรา รับประทานเข้าไปจะท าให้เกิดเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้ และควรเลือกกระป๋องที่ยังผลิตมาไม่นานโดยดูที่ วันเดือนปีที่ ...
วิธีการเก็บอาหารกระป๋องควรเก็บอย่างไรอาหารกระป๋องที่เปิดแล้วและเหลือใช้ ควรถ่ายใส่ภาชนะอื่น เช่น ภาชนะแก้วมี ฝาปิดแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น ไม่ควรเก็บอาหารกระป๋องไว้นาน ควรเลือกบริโภคอาหารกระป๋องที่ยังอยู่ใน สภาพดี ถ้าเก็บไว้นานๆ ควรสังเกต วัน เดือน ปี ที่หมดอายุด้วย
ผงโรยข้าว เก็บได้กี่วัน28. ผงโรยข้าว เก็บได้นาน 12 เดือน และควรเช็ควันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก
|