ก่อนที่จะเริ่ม เขียน CV (Curriculum Vitae) เพื่อสมัครงาน หรือ เรียนต่อ นั้น เราจะต้อง หา ตัวอย่าง CV ที่ มาเป็น CV ตัวอย่าง สำหรับ การเขียนในการสมัครงาน หรือ สมัครเรียน ของเราก่อน เพื่อเป็นแนวทาง ว่าเราจะเขียน CV ของเราให้ออกมาเป็น รูปแบบไหน Show
โดยเฉพาะ สายงานที่ ต้องการความเฉพาะเจาะจง ในรายละเอียด ของประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เพื่อให้ กรรมการ บริษัท หรือ อาจารย์ ใน มหาวิทยาลัย ได้พิจารณา ประวัติโดยย่อ ของเราอย่างละเอียด เอกสาร CV จะเอามาใช้เป็นอย่างมาก ในการสมัครงาน ในต่างประเทศ อย่าง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือ แคนนาดา ซึ่งจะเอามาใช้แทน การยื่น เรซูเม่ โดยใน CV จะมีข้อมูล อื่นๆ เฉพาะทาง ที่เราต้องการนำเสนอ มากกว่าในเรซูเม่ เช่น Office Address/Professional Membership/Post Graduate Training /Licensure and Certification/Honors and Awards/Teaching Experience เป็นต้น CV คืออะไร มีความสำคัญยังไง ในการ สมัครเรียนต่อ หรือ สมัครงาน?CV ย่อมาจาก Curriculum Vitae คือ เอกสารที่นำเสนอประวัติส่วนตัว และ ประสบการณ์การทำงาน และ ทักษะทางวิชาชีพ ผลงานทางวิชาการ และ การวิจัย ประกาศณียบัตร รางวัลที่ได้รับ และ ใบอนุญาติ หรือ ข้อมูลอื่นๆที่จำเป็น โดยจะต้อง เขียน เรียงลำดับ ให้ อ่านง่าย มี Format เดียวกันทั้งหมด เพื่อ นำเสนอ ให้กับ บริษัท หรือ มหาวิทยาลัย ในการพิจารณาเราเข้าไปเรียนต่อ หรือ ไปทำงานด้วย ซึ่ง CV มักจะใช้ใน การสมัครเรียนต่อ หรือ สมัครเข้าไปทำงาน ในสาขาที่เป็นวิชาการ เช่น แพทย์ นักวิจัย อาจารย์ หรือ สายงานเฉพาะ ความแตกต่างระหว่าง CV กับ Resume
Resume คือ เอกสารที่ระบุ ประวัติส่วนตัว ของคุณ ซึ่งจะมีความยาว 1-2 หน้ากระดาษ มากสุด โดยเนื้อหาใน Resume จะระบุ จุดเด่นๆ ของคุณในการทำงาน ประสบการณ์การทำงาน ประวัติการศึกษา และ ทักษะที่จำเป็น รางวัลที่เคยได้รับ ความสามารถพิเศษในการทำงาน หรือ หัวข้ออื่นๆ ที่เป็นจุดเด่น ของเรา เพื่อ ยื่น Resume ให้กับ นายจ้าง (HR ฝ่ายบุคคล) หรือ ยื่นให้กับ มหาวิทยาลัย ที่ต้องการ CV หรือ Curriculum Vitae คือ เอกสาร ที่ระบุ ประวัติส่วนตัวของคุณเช่นกัน หัวข้อต่างๆ ก็จะเหมือนกับการเขียน Resume แต่เรา สามารถเพิ่ม มีหัวข้ออื่นๆ ที่จำเฉพาะ และ จำเป็น กับสายงานของคุณ แบบลงรายละเอียด ได้มากกว่า มักนิยมใช้ สำหรับบุคคล ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านวิชาการ โดยความยาวของ CV สามารถเขียนยาวกี่หน้าก็ได้ แล้วแต่ ประสบการณ์ทำงาน และ สิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่คุณต้องการระบุ นิยมนำมาใช้ สำหรับงาน ตำแหน่ง วิชาการ เช่น หมอ พยาบาล การไปเรียนต่อ Fellowship Program เป็นต้น CV เหมาะ กับ ใครเหมาะกับ บุคคล ที่มีประสบการณ์การทำงานเฉพาะด้าน และ ประสบการณ์เหล่านั้น มีผล ต่อการสมัครเรียน ต่อยอด หรือ สมัครเข้าทำงาน เฉพาะทาง ซึ่งจะมี หัวข้อที่ย่อย ลงออกไป CV นิยมเขียน ด้วยโปรแกรมอะไรCV นิยมเขียนด้วย โปรแกรม Microsoft Word จะมี รูปถ่ายสมัครงาน หรือ ไม่มีรูปถ่ายสมัครงาน ก็ได้ สำหรับ ผู้ที่มี ประสบการณ์การทำงานให้หา งานที่เราเคยทำแล้ว ประสบความสำเร็จ ได้ผลประโยชน์ ที่ดีต่อ บริษัท ทั้งด้าน การเงินทอง เพิ่มชื่อเสียงที่ดีขึ้นของบริษัท การเพิ่มยอดขาย คำชมจากลูกค้า ผ่าน หน้าที่การทำงานของเรา ที่ได้รับมอบหมาย ในตำแหน่งงานนั้นๆ โดยเราสามารถ เขียน อธิบาย และ บรรยาย ว่า ใน เหตุการณ์ดีๆ เหล่านั้น ตอนนั้น เราทำอะไรไปบ้าง โดยให้เน้น ใช้คำศัพท์ ที่แสดงผลของการกระทำ ในเชิงบวก คำศัพท์ ที่นิยม นำมาเขียน บรรยาย และ อธิบาย ประสบการณ์การทำงาน ในเรซูเม่ ภาษาอังกฤษ จะเน้น คำศัพท์ที่ แสดงให้เกิดผลของของการกระทำ ตัวอย่างคำศัพท์ ที่ใช้เขียน บรรยาย ประสบการณ์การทำงาน
อะไรที่เรียกว่า เป็น Feedback ที่ดี ได้รับคำชม จาก เจ้านาย ลูกค้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมทีม ในบริษัท ให้ดึงออกมา เขียน อธิบาย ตรงจุดนั้น เพราะเป็น การแสดง ความสามารถ ที่คุณมี ด้วยผลงาน ที่เป็นหลักฐาน ไม่ได้พูดออกมา ลอยๆ สำหรับ ผู้ที่ไม่มี ประสบการณ์การทำงาน (นักศึกษาจบใหม่)สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงาน เวลาเขียน เรซูเม่ ให้นำ ประสบการณ์การทำงานร่วมกันกับผู้อื่น เช่น โปรเจคงานกลุ่ม งานอาสาสมัคร การฝึกงาน ที่อาจจะไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ได้ทำงานเป็นกลุ่ม เป็นทีม มาเขียน แทน และแนะนำให้เลือก เทมเพลต เรซูเม่ ที่โชว์ ทักษะด้านอื่นๆ ด้วยการใช้ infographic มาช่วย อาทิเช่น
ซึ่งจะช่วยให้ เราได้นำเสนอ จุดเด่น ด้านอื่นๆ ของเราออกมา ประวัติการทํางาน มีอะไรบ้าง Personal Information – ข้อมูลส่วนตัว ประกอบไปด้วย ชื่อ-นามสกุล,วันเดือนปีเกิด,อายุ,ส่วนสูง,น้ำหนัก,ที่อยู่,เบอร์โทร หรืออีเมล์,เงินเดือนปัจจุบัน,เงินเดือนที่ต้องการ,วันสามารถเริ่มงานได้ ส่วนเรื่องของสัญชาตินั้น ไม่จำเป็นต้องใส่ ถ้าเราสมัครงานในประเทศไทย สถานประกอบการทราบอยู่แล้วว่าผู้สมัครเป็นคนไทย
Curriculum Vitae เขียนยังไงวิธีเขียน CV Resume สำหรับคนที่จบใหม่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย. 1. ระดมสมอง ... . 2. อย่าโกหก (มากเกินไป) ... . 3. นำเสนอว่าเรามีสมอง ... . 4. หาประสบการณ์ทำงานเพิ่มเติม ... . 5. อย่าเขียนยาวเกินไป ... . 6. ใส่ตัวอย่างเข้าไปเยอะๆ ... . 7. จัดรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ. ประวัติการทำงานควรเขียนยังไงหลักการเขียน “ประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้อง” นี้ ให้เขียนเรียงลำดับตามช่วงเวลา ให้ช่วงเวลาล่าสุดขึ้นต้น โดยเขียนระยะเวลา (วัน/ เดือน/ ปี) ตามด้วยลักษณะการทำงาน (ชื่อหรือตำแหน่ง) และเขียนรายละเอียดหน้าที่ความรับผิดชอบ รวมถึงทักษะที่ใช้ในการทำงาน (ทักษะทั่วไปและทักษะเฉพาะทางด้านเทคนิค) แต่ต้องเขียนให้สั้น กระชับ ได้ใจ ...
ส่งประวัติการทำงานยังไงวิธีเขียนเรซูเม่สมัครงาน. 1. ชื่อ นามสกุล ... . 2. อีเมล เบอร์โทร และ ที่อยู่ ... . 3. ตำแหน่งงาน เงินเดือนที่ต้องการ ... . 4. ประสบการณ์ทำงาน ... . 5. ประวัติการศึกษา ... . 6. ประวัติการอบรม / รางวัลที่เคยได้รับ ... . 7. ความสามารถทางภาษา ... . 8. ความสามารถทางคอมพิวเตอร์. |