สำหรับใครที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ไปสักระยะแล้วรู้สึกว่าเครื่องอืด หน่วง อาจเป็นไปได้ว่ามีสาเหตุมาจากไฟล์ขยะ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ ทีมงาน Notebookspec จะมาแนะนำ 6 วิธี ลบไฟล์ขยะ ทำให้คอมพิวเตอร์ของเรากลับมาลื่นปรื๊ดเหมือนดังเดิม ไม่หน่วง และที่สำคัญ วิธีเหล่านี้ไม่ต้องลงโปรแกรมอื่นเพิ่มเติมอีกด้วย มาดูกันเลย Show
ไฟล์ขยะ คืออะไร ??ไฟล์ขยะ (Temp Files) คือ ไฟล์ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือไม่ได้ใช้งานแล้ว อาจเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติจากการทำงานของ Windows โดยเป็นไฟล์ที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้งานพื้นที่ Storage ไม่ว่าจะเป็น HDD หรือ SSD เพื่อการประมวลผลชั่วคราว (Cookie Temp) และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือในตอนที่เราทำการติดตั้งโปรแกรม ซึ่งเมื่อนานไปไฟล์ขยะเหล่านี้ก็มีขนาดใหญ้ขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจจะมารบกวนพื้นที่ใน Storage ของเรา ส่งผลให้คอมพิวเตอร์มีอาการหน่วง อืด ขึ้นมาได้ การกำจัดไฟล์ขยะจึงทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของเรากลับมาทำงานได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี Storage น้อย ๆ Advertisement
ไฟล์ขยะใน Windows เกิดขึ้นได้เสมอทุกเวลาที่เราใช้คอมพิวเตอร์ของเราทำงาน ไม่ว่าจะติดตั้งโปรแกรม, เข้าอินเตอร์เน็ต, โหลดไฟล์ต่าง ๆ จากอินเตอร์เน็ตเข้ามาในเครื่อง, ทิ้งไฟล์ไม่ใช้แล้วลง Recycle Bin แล้วไม่ได้ลบทิ้ง ฯลฯ ก็สร้างไฟล์ขยะขึ้นมาในเครื่องของเราได้เสมอ นอกจากนี้ตอนเราเรียกใช้งานบางโปรแกรมขึ้นมา โปรแกรมนั้น ๆ ก็จะสร้าง Temporary file ขึ้นมาเพื่อช่วยในการทำงานและถ้าเราเรียกใช้โปรแกรมนั้นบ่อย ๆ Temporary file ก็จะค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะว่า Windows 10 จะไม่ได้ลบไฟล์นั้นทิ้งให้โดยอัตโนมัติ และเราต้องมาจัดการลบไฟล์เหล่านั้นด้วยตัวเอง โดยไฟล์ขยะใน Windows 10 ที่เราลบไปได้เลยและไม่มีปัญหากับเครื่องเราอย่างแน่นอนได้แก่
1. ลบไฟล์ขยะ Windows 10 ด้วย Storage Senseในระบบปฏิบัติการ Windows 10 มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมายมาอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ หนึ่งในฟีเจอร์ที่ Windows 10 มี และดีมาก ๆ นั่นก็คือ Storage Sense ที่ทำให้เรากำจัดไฟล์ขยะในเครื่องได้โดยไม่ต้องไปหาดาวน์โหลดโปรแกรมอื่น ๆ เพิ่ม วิธีการนั้นง่ายมาก ๆ โดยการเข้าไปที่ ‘Start >> Settings >> System >> Storage’ จากนั้นจะปรากฏข้อมูลของหน่วยความจำ พื้นที่ที่ถูกใช้ไปแล้ว และคงเหลืออยู่ จากนั้นจะมีส่วนที่เขียนว่า ‘Temporary files’ ซึ่งเป็นที่ไฟล์ขยะของเราอยู่นั่นเอง ให้เราทำการกดเข้าไปแล้วเลือกกำจัดไฟล์ขยะได้เลย หากเราไม่ต้องการเข้าไปลบไฟล์บ่อย ๆ ก็สามารถเลือกตั้งค่าให้วินโดวส์สามารถแสกนหาไฟล์ขยะได้โดยอัตโนมัติ โดยสามารถเลือกได้ว่า เราจะกำจัดไฟล์ขยะแบบ Every day, Every week, Every month หรือจนกว่าพื้นที่ของเราจะเหลือน้อยก็ได้ โดย
2. จัดการไฟล์ขยะ ด้วย Disk Cleanupสำหรับวิธีนี้นั้น เป็นวิธีการลบและกำจัดไฟล์ขยะที่มีมานานและได้ผลมาก ๆ นั่นก็คือการจัดการกับไฟล์ขยะผ่าน Disk Cleanup นั่นเอง วิธีการก็ง่ายมาก ๆ เพียง
3. จัดการไฟล์ขยะ ใน Folder Tempวิธีการนี้จะเป็นการเข้าไปลบไฟล์ขยะจากในโฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์ขยะเหล่านี้ไว้โดยตรง วิธีการก็คือ
4. ลบไฟล์ขยะ ใน Recycle Binเข้าไปที่ Recycle Bin ให้เราดูว่ามีไฟล์ในถังขยะไฟล์ไหนที่เราเคยกดลบแล้วต้องการ restore หรือไม่ หากไม่มีก็ให้ทำการลบออกให้หมด โดยการคลิกขวาที่ Icon ของโปรแกรม Recycle Bin แล้วเลือก Empty Recycle Bin 5. ลบ Cache Files บน Windows Storeใน Microsoft Store ของ Windows (ที่มีมาตั้งแต่ Windows 8) นั้น มี Cache Files หรือไฟล์ขยะ เป็นของตัวเองเช่นกัน ซึ่งก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของเราหน่วงและอืดได้ เราจึงต้องมีการล้างไฟล์ขยะเหล่านี้ออกไป รวมไปถึงการรีเซ็ตระบบของ Microsoft Store อีกด้วย โดยเฉพาะกับใครที่มีปัญหา Microsoft Store ค้างหรือไม่โหลด วิธีทำก็ง่าย ๆ เพียงแค่เข้าหน้า Run หรือกดปุ่ม Windows + R >> พิมพ์ ‘ WSReset.exe ‘ จากนั้นจะมีหน้าต่าง ‘C:\WINDOWS\system32\WSReset.exe’ ขึ้นมา >> ให้รอสักครู่จนกว่า Microsoft Store จะปรากฏ เพียงเท่านี้ก็ทำการ Reset Windows Store และจัดการกับ Cache Files ใน Microsoft Store ได้แล้ว 6. ล้างบางไฟล์ขยะ ใน Tempวิธีการที่ง่ายมาก ๆ และทำให้เราได้พื้นที่ในคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ การเข้าไปลบไฟล์ขยะ ในโฟลเดอร์ Temp นั่นเอง วิธีการก็ง่ายมาก ๆ เลย
และทั้งหมดนี้คือ 6 วิธีลบไฟล์ขยะ ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมให้ยุ่งยาก และที่สำคัญเราสามารถจัดการกับไฟล์ขยะที่เข้ามารกเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้ด้วยตัวเอง ให้คอมฯ กลับมาลื่นเหมือนเดิม ไม่หน่วง ไม่อืด อีกต่อไป อ่านบทความเพิ่มเติม/เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
In this article:cache files, junk files, tips, Windows 10, Windows Tips, ลบไฟล์ขยะ Click to comment
Advertisement Trending PostPC ZoneNucBox 9 mini-PC มาพร้อม AMD Ryzen 5 5600U และ 16 GB RAMรีวิว Lenovoรีวิว Lenovo Legion 5i Pro หัวใจ Intel 12th Gen แรงทรงพลังพีซีอาย!! เอาอยู่ทุกเกมจบได้ทุกงาน ราคา 89,990 บาทBuyer's Guideจัดสเปคคอม งบ 20000 แต่งภาพ เล่นเกมลื่น การ์ดจอ RTX เกมเมอร์อัพเกรดเพิ่มได้Buyer's Guide7 โน๊ตบุ๊ค 2022 ราคาไม่เกิน 15000 บาท ซื้อเอาไว้ทำงานหรือเรียนออนไลน์ก็โอเคนะ มั่นใจว่าผู้ใช้หลายๆ คนมองหาโน๊ตบุ๊ค 2022 ราคาไม่เกิน 15000 บาท เอาไว้ใช้สักเครื่อง นั่นเพราะโน๊ตบุ๊คระดับราคานี้เป็นกลุ่มที่สเปคและราคาสมเหตุผล ไม่แพงเกินไปจนซื้อไม่ไหวแล้วได้สเปคในระดับที่ใช้ทำงานออฟฟิศทั่วไปได้โดยไม่มีปัญหา เปิดไฟล์เอกสาร, เบราเซอร์และอื่นๆ ได้ดีไม่มีปัญหา และหากใครต้องการทดลองใช้งานโน๊ตบุ๊คที่เป็นระบบปฏิบัติการอื่นนอกจาก Windows ก็มีโน๊ตบุ๊ค Chome OS ให้เลือกไปลองใช้งานได้ด้วย... โปรแกรม Disk Defragment มีไว้ทําอะไรการทำ Defrag ฮาร์ดดิสก์หรือ Disk Defragmenter ก็คือการทำการจัดเรียงข้อมูลของไฟล์ต่าง ๆ ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์ ให้มีความต่อเนื่องหรือเรียงเป็นระบบต่อ ๆ กันไป ประโยชน์ที่จะได้รับคือ ความเร็วในการอ่านข้อมูลของไฟล์นั้น จะมีการอ่านข้อมูล ได้เร็วขึ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นถ้าหากมีไฟล์ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์ ที่มีการเก็บ ...
Disk Cleanup ทำอย่างไรการเรียกใช้โปรแกรม Disk Cleanup. เรียกใช้โปรแกรม Disk Cleanup โดยการกดเลือกที่ Start Menu เลือกที่ Programs และเลือก Accessories เลือกที่ System Tools และเลือก Disk Cleanup ตามรูปตัวอย่าง กดเลือกที่ Disk Cleanup เพื่อเริ่มต้นการทำงานของโปรแกรม ครั้งแรก ให้ทำการเลือกฮาร์ดดิสก์ ที่ต้องการทำการ Cleanup ก่อนและกดปุ่ม OK.
โปรแกรมที่ใช้ในการจัดพื้นที่ฮาร์ดดิสก์คืออะไรanswer choices. ก. เมื่อต้องการจัดระเบียบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ ให้ใช้โปรแกรม Disk Defragmenter.
ข้อใดคือ สิ่งที่เป็นอันตรายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สำคัญสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สำคัญก็คือลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ ความร้อน แสงแดด ฝุ่นละออง น้ำ กระแสไฟฟ้า หรือสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลายคนมองข้ามไปแต่ที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดอันตรายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างมาก ดังนี้
|