ดนตรีมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างไร

เราทุกคนเติบโตมาพร้อมกับเสียงดนตรีในทุกช่วงขณะ ในทุกวันของการทำกิจกรรมใด ๆ  ก็ตาม ดนตรีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตของมนุษย์แทบจะทุกคน ดนตรีอยู่ใกล้ชิดกับเราตั้งแต่เมื่อเราลืมตาตื่นขึ้นมา ระหว่างการเดินทางไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ และสำหรับใครหลายคนดนตรีอาจเหมือนเพื่อนสนิทที่สามารถทำให้เรามีความสุข และช่วยทำให้เราเกิดความผ่อนคลายเมื่อเราต้องเจอกับความกังวลหรือความทุกข์ ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ นอกจากนี้ดนตรียังเป็นเหมือนสื่อกลางที่สามารถทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักกันมารู้จักกันได้ โดยผ่านท่วงทำนองของดนตรี พลังของดนตรีสามารถทำให้เรามีทั้งความสุขหรือถูกปลุกเร้าให้เราลุกขึ้นมาต่อสู้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และช่วยบรรเทาความกังวลของเรา

ดนตรีให้อะไรกับเรามากกว่าแค่ความรื่นรมย์ หรือแค่ความบันเทิงใจ หากแต่นักมานุษยวิทยาและนักสังคมวิทยาเคยศึกษาและพบว่าวัฒนธรรมต่าง ๆ ตามเส้นทางของประวัติศาสตร์นั้น ดนตรีคือส่วนหนึ่งของมนุษย์ตั้งแต่โบราณกาล อาทิเช่น วัฒนธรรมหรืออารยธรรมของชนเผ่าดั้งเดิมและพิธีกรรมทางศาสนา ต่างได้ใช้ดนตรีเป็นพื้นฐาน เป็นสื่อกลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร นอกจากนี้ ดนตรียังถูกนำมาใช้เพื่อการรักษาโรคทางร่างกายบางชนิด รวมถึงความเจ็บป่วยทางจิตใจก็มักใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือในการสมานแผลด้วยกันทั้งสิ้น ยังมีผลการวิจัยที่พบว่า ดนตรีมีผลกระทบต่อสมองของมนุษย์ด้วย เห็นได้ชัดว่าดนตรีไม่เพียงแต่เข้าถึงเราในระดับสติปัญญาทางสังคมและอารมณ์ความรู้สึกเท่านั้น เครื่องดนตรีและเพลงประเภทต่าง ๆ สามารถทำให้เกิดสภาวะทางจิตวิทยาในทั้งนักดนตรีและผู้ฟังอย่างคาดไม่ถึง ดนตรีสามารถนำเรากลับมาสู่ความเป็นตัวเรา เหมือนเป็นกระจกสะท้อนให้เราเห็นด้านหนึ่งของเราที่อาจหลงลืมไปนานแล้ว ให้กลับมาปรากฎอีกครั้ง ดนตรีมีพลังและมีความหมายมากกว่าแค่เสียงและคำพูด ดนตรีมีพลังมากจนมีอำนาจในการจัดการและโน้มน้าวบุคคลได้ไม่ว่าจะในทางบวกหรือทางลบ

นอกจากนี้ความหมายมากมายในบทเพลงสามารถบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของศิลปินหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาและแม้แต่ความคิดเห็นของนักแต่งเพลงในมุมมองของพวกเขาก็ถูกถ่ายทอดมายังเนื้อเพลงด้วย บางครั้งนักแต่งเพลง นักดนตรียังใช้ดนตรีเพื่อประกาศความคิดเห็น ความอิสระ และเสรีภาพ ได้หยิบยก กลั่นกรอง เขียนเนื้อเพลงและทำนองรูปแบบต่าง ๆ ด้วย ดนตรีบางประเภทมีผลต่อความรู้สึกของผู้คนในระดับต่าง ๆ กันไป เช่นเพลงช้า ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มีความมั่นคง ในขณะที่เพลงแร็พและร็อคอาจทำให้รู้สึกสนุกสนาน หรือเกรี้ยวกราด

และด้วยเหตุผลที่ว่าดนตรีมีพลัง นั่นก็เพราะมันสามารถเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนคิดและรู้สึก หากเรามีความเข้าใจและความซาบซึ้ง หรือสัมผัสกับมันได้อย่างเต็มที่และถูกวิธี รวมถึงมีความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับพลังของดนตรีว่าสามารถมีอิทธิพลต่อชีวิตได้อย่างไรบ้าง เราจะสามารถนำดนตรีมาใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตนเองและสังคม

ดนตรีคือศิลปะอีกรูปแบบหนึ่งที่แทรกซึมอยู่ในทุกกิจกรรมของชีวิต ดนตรีเป็นตัวกลางในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและร่างกาย ที่มีการเชื่อมต่อกันอย่างน่าประหลาด นอกจากนี้ดนตรียังสามารถใช้ในการบำบัดเพื่อการรักษาโรคต่าง ๆ ด้วย หลายเหตุการณ์ที่มนุษย์นิยมใช้ดนตรีในการสื่อสารพูดคุย แม้จะอยู่คนละประเทศ พูดจาคนละภาษา แต่สามารถเข้าใจกันและกันได้ โดยการใช้ดนตรีในการสื่อความหมาย ยังมีอีกหลายอย่างที่ทำให้เรารู้ว่า ดนตรีมีความสำคัญต่อชีวิตมากเพียงใด

ดนตรีเป็นหัวใจหลักในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ดนตรีเติมพลังให้จิตใจและช่วยขับเคลื่อนพลังความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น เหล่านักคิดผู้มีชื่อเสียงของโลก เช่น Mozart หรือ Frank Lloyd Wright พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่มีลักษณะร่วมกัน นั่นคือพลังความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งก็ได้รับพลังงานมาจากดนตรีบรรเลงนั่นเอง การได้ยินเสียงดนตรีบรรเลง ท่วงทำนองที่พลิ้วไหวไปตามตัวโน้ต สามารถทำให้เราร้อยเรียงเรื่องราวและความรู้สึกจากท่วงทำนองความรู้สึกเหล่านั้นผ่านเสียงเพลงโดยไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งใดออกไป นอกจากนี้ดนตรียังช่วยในการพัฒนาสมองซีกขวา รวมถึงการสร้างและพัฒนาสติปัญญาให้ดีขึ้นอีกด้วย

การใส่ดนตรีเข้าไปในวิชาเรียนทำให้มีความสนุกและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ดนตรีมีบทบาทสำคัญในห้องเรียน หลายวิชาคุณครูได้นำดนตรีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการสอน ทำให้เด็ก ๆ มีความสนุกมากยิ่งขึ้น เช่น การท่องสูตรคูณ การเรียนในวิชาประวัติศาสตร์ ทำให้นักเรียนจดจำรายละเอียดเรื่องราวและข้อมูลต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ดนตรียังทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นกับสิ่งรอบ ๆ ตัว จะเห็นได้ว่ายุคปัจจุบัน พ่อแม่มักนิยมพาบุตรหลานของตนไปเรียนดนตรีอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ เพราะเป็นการฝึกสมาธิและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์นั่นเอง แต่อีกแง่มุมหนึ่ง ดนตรีบางประเภทก็อาจส่งผลกระทบในทางลบกับเด็ก ๆ ได้เช่นเดียวกัน อาทิเช่น เนื้อเพลงที่มีเนื้อหารุนแรง หรือยุยงให้กระทำความผิด ดังนั้นเราจึงต้องคอยเลือกและคัดกรองเพลงในลักษณะต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก ๆ ที่จะฟังด้วย

ดนตรีมีพลังแห่งจิตวิญญาณ ดนตรีมีต้นกำเนิดมาจากมนุษยชาติ และหนึ่งในการใช้ดนตรีที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด คือการใช้ดนตรีประกอบกับพิธีทางศาสนา ความเชื่อต่าง ๆ ในบางประเทศ ดนตรีอาจถูกนำมาใช้เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะจากสงคราม หรือแม้แต่การประกอบพิธีฝังศพของบุคคลที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ก็มีหลักฐานว่าดนตรีถูกนำมาใช้ประกอบในพิธีกรรมเช่นเดียวกัน

ดนตรีสามารถสร้างความรู้สึกทางอารมณ์ การฟังดนตรีประเภทต่าง ๆ เนื้อเพลงที่แตกต่าง จังหวะทำนองที่ต่างกันออกไป มีผลต่ออารมณ์ของผู้ฟังในขณะนั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

จากเหตุผลข้างต้น จึงกล่าวได้ว่าแท้จริงแล้วดนตรีได้ฝังอยู่ในตัวตนของพวกเราทุกคน และเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อให้ทุกคนเข้ามาให้มีความรู้สึกเดียวกัน ผ่านเสียงเพลงที่บรรเลงและดำเนินไปจึงนับว่าดนตรีมีความสำคัญต่อมนุษย์เราเป็นอย่างมาก

ดนตรีมีบทบาทในชีวิตประจำวันด้านใดบ้าง

เสียงดนตรีเป็นภาษาสากลที่ให้สื่อสารกันทั่วโลก สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของมนุษย์จึงเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำวัน มนุษย์มีความคุ้นเคยกับดนตรี ทั้งในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การแสดงออก การแสดงความสามารถชั้นสูงที่บุคคลพึงกระทำได้ กิจกรรมดนตรีช่วยระบายอารมณ์ เป็นการผ่อนคลายความเครียดขณะทำงาน หรือเวลาว่าง กล่าวโดย ...

นำดนตรีมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง

ในศาสนา และพิธีกรรมตามความเชื่อของ แต่ล่ะบุคคล ดนตรีได้ถูกนำมาใช้ เช่น ใช้ในบทสวด หรืออธิษฐานขอพร การบวงสรวง บูชา ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ใช้ทำสมาธิ และใช้เป็นส่วนประกอบของพิธีการต่างๆ เช่น การเปิดงาน ปิดงาน

ดนตรีเกี่ยวข้องกับชีวิตนักเรียนอย่างไรบ้าง

ดนตรี กับการศึกษา ในการเรียน การสอน ได้นำดนตรีมาใช้เป็นสื่อให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เกิดความสนุกสนาน พัฒนาสติปัญญา ความรู้ ความเข้าใจในการเรียน ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ดนตรียังช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถพิเศษทางด้านดนตรี นาฏศิลป์ และการขับร้องอีกด้วย

ดนตรีมีความสําคัญต่อชีวิตอย่างไร

7 ประโยชน์ของดนตรี ช่วยพัฒนาของลูกน้อย.
1 ช่วยพัฒนาด้านสมอง เสียงเพลงจะช่วยให้เด็กๆรู้สึกผ่อนคลายและกระตุ้นการทำงานของสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มที่.
2 ช่วยพัฒนาภาษา ... .
3 ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อ ... .
4 ช่วยให้จิตใจมั่นคง ... .
5 บำบัดอาการป่วยได้ ... .
6 ช่วยให้กล้าแสดงออก ... .
7 ช่วยเข้าสังคมได้ง่ายขึ้น.