นักเรียนจะปฏิบัติตนตามกฎหมายจราจรได้อย่างไรบ้าง

ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า แทบทุกบ้านจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ถึงแม้จะดูไม่สมดุลกับสภาพการจราจรและถนนหนทางบ้านเราเท่าไหร่นัก แต่ด้วยการเดินทางด้วยระบบสาธารณะยังไม่ตอบโจทย์คนเมืองได้เท่าใดนัก คนไหนที่ไม่ได้ขับรถก็มักจะต้องเดินทางหลายต่อ ส่วนคนที่ขับรถก็มีความสะดวกสบายขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่จะประมาทไม่ได้เลยก็คือ “อุบัติเหตุบนท้องถนน” มีคนกล่าวไว้ว่า “ขับรถ ถ้าเราไม่ชนเขา เดี๋ยวก็มีคนมาชนเรา” ก็เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่า จะมีรถยนต์ จักรยานยนต์ คน สัตว์ หรือสิ่งของอะไรลอยเข้ามาหา เราก็ควรจะต้องรู้กฎจราจรเพื่อดูแลตัวเอง และช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุภายนอก

ทวนกฎหมายจราจรเบื้องต้นกันหน่อย

  • ลักษณะของรถที่ใช้บนท้องถนน รถที่เราขับควรจะอยู่ในสภาพที่ดี แข็งแรง มีการตรวจเช็คสภาพรถ ลมยาง และน้ำมันอยู่เสมอ ต้องติดแผ่นป้ายทะเบียน เลี่ยงการขับขี่ด้วยรถที่สร้างฝุ่นละอองหรือควัน เพราะจะสร้างทัศนวิสัยที่ไม่ดีให้แก่ผู้ร่วมทางจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้
  • สัญญาณและเครื่องหมายจราจร ไฟจราจร 3 สีต้องจำให้แม่น สีเขียวคือไปได้ สีเหลืองให้เตรียมหยุดไม่ใช่เตรียมเร่ง และสีแดงคือให้หยุดหลังเส้นให้หยุดรถ เพราะถ้าฝ่าไฟแดงก็เตรียมรับรูปเจ้าของและรถสวย ๆ ที่บ้านได้เลย หากเจอไฟสีแดงกระพริบที่ทางแยก ให้ชะลอรถหยุดแล้วมองทางให้มั่นใจว่า ปลอดภัยแล้วจึงค่อยขับต่อไป เสียงนกหวีดจากเจ้าหน้าที่ การเป่ายาวหนึ่งครั้งให้ผู้ขับหยุดรถทันที และการเป่านกหวีดสั้น ๆ สองครั้งคือให้ขับรถผ่านไปได้ สำหรับมือใหม่สิ่งที่ควรทำบ่อย ๆ คือ นำหนังสือกฎและเครื่องหมายจราจรมานั่งอ่านเพื่อทบทวนเพิ่มความมั่นใจ เพราะบางครั้งอาจจะไปเจอเครื่องหมายจราจรที่ไม่คุ้นชิน ทางที่ดีพกไว้บนรถเลยก็ได้
  • การใช้ไฟหรือเสียงสัญญาณ หากแสงสว่างไม่พอ มองเห็นได้ไม่ชัดเจนในระยะ 150 เมตร ก็ควรเปิดไฟหน้ารถ และเมื่อบีบแตรก็ควรมีเสียงดังไกลไม่น้อยกว่า 60 เมตร เพื่อส่งเสียงไปยังสิ่งกีดขวางข้างหน้าได้ทันท่วงที
  • การขับแซง ให้สัญญาณรถคันหน้าเสมอก่อนจะขับแซงขึ้นไปโดยการแซงขวาเท่านั้น รักษาระยะห่างพอสมควร เมื่อแซงผ่านแล้วก็ต้องเข้าเลนซ้าย ห้ามแซงคันที่กำลังเปิดไฟเลี้ยวขวา ห้ามแซงขณะรถขึ้นสะพานหรืออยู่ทางโค้ง มีทัศนวิสัยที่ไม่ดีก็ไม่ควรแซง
  • การขับรถออกจากที่จอด ถ้ามีรถขวางควรให้สัญญาณมือหรือไฟสัญญาณ เมื่อจะเลี้ยวรถต้องชะลอและเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวไม่ต่ำกว่า 30 เมตร ให้กลับรถในทางที่ปลอดภัย ไม่กลับรถบนสะพานหรืออย่างน้อย 100 เมตรจากทางราบเชิงสะพาน
  • การหยุดรถและจอดรถ ให้หยุดหรือจอดรถในทางที่ปลอดภัยไม่กีดขวางผู้อื่น จอดรถชิดซ้ายกับขอบทางในระยะห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร ห้ามจอดรถบนทางเท้า บนสะพาน ในอุโมงค์ ทางแยก หรือตรงที่มีป้ายห้ามจอด

ข้อควรปฏิบัติเมื่อรักจะขับรถ

  • ทำตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด พกใบขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอ ขับขี่ด้วยความปลอดภัย ไม่ขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนด
  • ขับขี่แบบใจเขาใจเรา เดินทางสายกลาง ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวบนท้องถนน และไม่ประมาท
  • ก่อนขับต้องปรับตัวให้พร้อม นอกจากสภาพรถที่ต้องพร้อมแล้ว ผู้ขับขี่ก็ควรพักผ่อนให้เพียงพอ การหลับในเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของอุบัติเหตุ เมื่อรู้สึกว่าง่วง ก็ควรจอดรถพักผ่อน หรือเปลี่ยนกะ
  • ไม่ขับขี่รถยนต์ขณะมึนเมา รือมีการดื่มสุราบนรถ
  • ฝนตกถนนลื่นปราบเซียน ระวังเรื่องการลื่นไถล ควรขับด้วยความเร็วต่ำแต่ใช้เกียร์สูงเพื่อป้องกันการลื่นเสียการทรงตัว ไม่เหยียบเบรกแบบฉุกละหุก
  • เกิดอุบัติเหตุแล้วไม่หนี เพราะการสันนิษฐานแรก คือ ผู้ที่ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุแล้วขับหนี ผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำผิด สิ่งที่ต้องทำ คือ หยุดรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ประกัน และหาเครื่องหมายสัญญาณแจ้งว่าเป็นพื้นที่อุบัติเหตุ เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อนจากรถที่ตามมา
  • ทำประกันไว้ อุ่นใจกว่า เพราะเดี๋ยวนี้ประกันหลายตัว ครอบคลุมการดูแลในเรื่องค่ารักษา ผู้เกิดอุบัติเหตุไม่ต้องออกค่ารักษาก่อน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็มีประกันรับผิดชอบค่าเสียหาย เช่น ผู้ทำประกันฯ ชั้น 1 ก็อาจได้รับการดูแลทั้งฝ่ายถูกและฝ่ายผิด รวมทั้งประกันบางตัว มีการดูแลรับผิดชอบไปถึงเรื่องรถยนต์สูญหาย ถูกขโมย และเกิดเหตุไฟไหม้ นอกจากนี้ยังมีบริการให้รถสำรองขับในขณะที่ซ่อมคันเก่าอยู่ และประกันสมัยนี้ก็ขยันขันแข็งทำงานกัน 24 ชั่วโมง และมาถึงที่เกิดเหตุเร็วเสียด้วย

การมีรถขับแม้จะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น แต่การขับขี่อย่างไม่ประมาทนับเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด เพราะสาเหตุหลัก ๆ ของอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นเกิดมาจาก “คน” เมื่อเราไม่ประมาทแล้ว ก็เหลือเพียงปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ก็ควรวางแผนในเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุให้ดี การทำประกันภัยรถยนต์จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีที่สุด

ลักษณะสำคัญประการหนึ่งของกฎหมายก็คือ  กฎหมายต้องเป็นคำสั่ง  หรือข้อบังคับที่ใช้ได้เสมอไป  (Continuity)  หมายความว่ากฎหมายเมื่อประกาศมีผลบังคับใช้แล้วก็ใช้ได้ตลอดไปจนกว่าจะถูกแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก  โดยกระบวนการที่ถูกต้องตามขั้นตอนในภายหลัง  เพราะตราบใดที่ยังไม่มีการยกเลิกก็ต้องถือว่ากฎหมายนั้นยังมีอยู่   จะหยิบยกขึ้นมาใช้เมื่อใดก็ยังคงมีผลบังคับใช้ได้ดังสุภาษิตกฎหมายที่กล่าวว่า  “กฎหมายนอนหลับบางคราวแต่ไม่เคยตาย” (The Laws Sometime Sleep, Never die)   การบังคับใช้ กฏหมายการจราจรบนท้องถนน จะมีการปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลง   เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรอยู่ตลอดเวลา   จึงจำเป็นต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

การกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการจราจรเป็นการกระทำผิดที่มีโทษทางอาญาประเภท  Mala Prohibita    ซึ่งหมายถึงการกระทำผิดที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ว่าเป็นความผิด   กล่าวคือการกระทำนั้น ๆ  ไม่ได้เป็นความชั่วหรืออาชญากรรมด้วยตัวของมันเองแต่อย่างใด  เช่น  การที่ผู้ขับขี่รถยนต์จะเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวาก็ย่อมสามารถกระทำได้โดยอิสระหากขับขี่ในบ้านของตนเอง   แต่หากขับขี่ไปบนท้องถนนแล้วฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรบังคับห้ามเลี้ยวซ้ายเข้า  ก็จะเป็นความผิดทันที  ทั้ง ๆ  ที่การเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาก็ไม่ได้เป็นการชั่วหรือเป็นอาชญากรรมแต่อย่างใด

กฎจราจรมีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนและแม้กระทั่งคนเดินเท้าก็ต้องปฎิบัติตามกฎจราจรเช่นเดียวกัน กฎจราจรของคนเดินเท้าก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น การเดิมข้ามถนนจะต้องเดินข้ามตรงทางม้าลายหรือสะพานลอยเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้คนเท้าเองและผู้ขับขี่รถยนต์ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคนเดินเท้า คือการข้ามถนนไม่ตรงจุดที่กำหนดให้คือทางม้าลายหรือสะพานลอยนั้นเอง

นักเรียนจะปฏิบัติตนตามกฎหมายจราจรได้อย่างไรบ้าง

ประโยชน์ของการปฏิบัติตาม กฏหมายการจราจรบนท้องถนน

  • ทำให้การจราจรบนท้องถนนไม่ติดขัด เมื่อทุกคนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดในการขับขี่ยานพาหนะแต่ละคนก็ขับขี่ไปตามเส้นทางของตน ตามกันข้าม ถ้ามีบางคนไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดขึ้นได้รถยนต์
  • การปฏิบัติตามกฎจราจรจะเป็นการปัองกันอุบัติเหตุที่จะน่ามาซึ่งความสูญเสียชีวิตทั้งร่างกายและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติในปัจจุบันนี้ยังมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรอยู่เสมอ จะเห็นได้จากข่าวอุบัติเหตุตามท้องถนนสายต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด นักเรียนเป็นผู้หนึ่ง

ความหมายกฎจราจรของคำที่ควรทราบ

  • การจราจร หมายความว่า การใช้ทางของผู้ขับขี่ คนเดินเท้าหรือคนที่จูง ขี่หรือไล่ต้อน สัตว์
  • ทาง หมายความว่า ทางเดินรถ ช่องเดินรถประจำทางไหล่ทาง ทางเท้า ทางข้าม ทางร่วม
  • ทางแยก ทางลาด ทางโค้ง สะพาน และลานที่ประชาชนใช้ในการจราจร และให้หมาย ความรวมถึงทางส่วนบุคคลที่เจ้าของยินยอมให้ประชาชนใช้ในการจราจร หรือเจ้าพนักงานจราจร
  • ได้ประกาศให้เป็นทางตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย แต่ไม่รวมไปถึงทางรถไฟ
  • เขตปลอดภัย หมายความว่า พื้นที่ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจน
  • ทุกเวลา สำหรับให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอหรือให้คนที่ขึ้น หรือลงรถหยุดรอก่อนจะข้ามทางต่อไป
  • ที่คับขัน หมายความว่า ทางที่การจราจรพลุกพล่าน หรือมีสิ่งกีดขวางหรือในที่ซึ่งมองเห็นหรือ
  • ทราบได้ล่วงหน้าว่าอาจเกิดอันตราย หรือความเสียหายแก่รถหรือคนได้ง่าย
  • รถฉุกเฉิน หมายความว่า รถดับเพลิงและรถพยาบาลและรถพยาบาลของราชการบริหารส่วนกลาง ราชการบริหารส่วนภูมิภาค และราชการบริหารส่วนท้องถิ่นหรือรถอื่นที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ให้ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ หรือให้ใช้เสียงสัญญาณไซเรนหรือเสียงสัญญาณอื่นตามที่จะกำหนดให้
  • สัญญาณจราจร หมายความว่า สัญญาณใด ๆ ไม่ว่าจะแสดงด้วยธงไฟฟ้า มือ แขน เสียงนกหวีด หรือวิธีอื่นใดสำหรับให้ผู้ขับขี่ คนเดินเท้า หรือคนที่จูงขี่หรือไล่ต้อนสัตว์ ปฏิบัติตามสัญญาณนั้นเครื่องหมายจราจร หมายความว่า เครื่องหมายใด ๆ ที่ได้ติดตั้งไว้หรือทำให้ปรากฏใน
  • ทางสำหรับให้ผู้ขับขี่ คนเดินเท้า หรือคนที่จูง ขี่ หรือไล่ต้อนสัตว์ ปฏิบัติตามเครื่องหมายนั้น
  • ขอบทาง หมายความว่า แนวริมของทางเดินรถ
  • ไหล่ทาง หมายความว่า พื้นที่ที่ต่อจากขอบทางออกไปทางด้านข้าง ซึ่งยังมิได้จัดทำเป็นทางเท้า
  • ทางเท้า หมายความว่า พื้นที่ที่ทำไว้สำหรับคนเดินซึ่งอยู่ข้างใดข้างหนึ่งของทาง

หรือทั้งสองข้างของทาง หรือส่วนที่อยู่ชิดขอบทางซึ่งใช้เป็นที่สำหรับคนเดิน

การปฏิบัติตนตามกฎจราจรเป็นการปฏิบัติตามข้อใด

การปฏิบัติตามกฎจราจรจะเป็นการปัองกันอุบัติเหตุที่จะน่ามาซึ่งความสูญเสียชีวิตทั้งร่างกายและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติในปัจจุบันนี้ยังมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรอยู่เสมอ จะเห็นได้จากข่าวอุบัติเหตุตามท้องถนนสายต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด นักเรียนเป็นผู้หนึ่ง

การปฏิบัติตนตามกฎหมายจราจรก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไร

#ประโยชน์จากการปฏิบัติตามกฎจราจร ดังนี้ 1. ทำให้การจราจรบนท้องถนนไม่ติดขัด เมื่อทุกคนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดในการขับขี่ยานพาหนะแต่ละคนก็ขับขี่ไปตามเส้นทางของตน ตามกันข้าม ถ้ามีบางคนไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดขึ้นได้ รถยนต์

กฎหมายจราจรมีความสําคัญอย่างไร

กฎจราจรมีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนและแม้กระทั่งคนเดินเท้าก็ต้องปฎิบัติตามกฎจราจรเช่นเดียวกัน กฎจราจรของคนเดินเท้าก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น การเดิมข้ามถนนจะต้องเดินข้ามตรงทางม้าลายหรือสะพานลอยเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้คนเท้าเองและผู้ขับขี่รถยนต์ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคนเดินเท้า คือการข้ามถนน ...

กฎหมายจราจรที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามคืออะไร

กฎหมายจราจรมีความสำคัญกับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน รวมไปถึงคนเดินเท้าก็ต้องปฏิบัติตามเช่นเดียวกัน กฎหมายจราจรเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายหลัก ในการบังคับควบคุมการจราจรให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย โดยกฎหมายจราจรที่ประเทศไทยใช้เป็นหลักก็คือ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2535 หรือ พ.ร.บ. จราจร ซึ่ง ...