นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร

Cloud Computing คือ อะไรกันแน่ ?

หากพูดถึงคำว่า Cloud หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงบริการ iCloud, Dropbox, Google Drive หรือ Microsoft และ Onedrive กันใช่ไหม เพราะบริการเหล่านี้เป็นบริการที่เราคุ้นเคยกันดี เนื่องจากใช้กันอยู่เป็นประจำ เพื่อไว้ใช้จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ แต่ถ้าหากเราถามถึงคำว่า Cloud Computing คืออะไร หลายคนอาจยังสับสนและไม่แน่ใจว่า ต่างหรือเหมือนกันอย่างไรกันแน่ เชื่อว่าหลายคนอาจเดาว่าชื่อคล้ายกันเลยน่าจะคล้ายกันสิ ซึ่งคำตอบคือ ถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะบริการข้างต้นที่เราได้กล่าวกันมานั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของบริการ Cloud Computing เท่านั้น ซึ่งเป็นบริการที่เรียกว่า Cloud Storage

Show

“แล้วอย่างงี้ Cloud Computing ที่เราพูดถึงคืออะไรกันแน่ ?”

Cloud Computing คือ บริการที่ให้เราใช้หรือเช่าใช้ระบบคอมพิวเตอร์หรือทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ โดยครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล และระบบออนไลน์ต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งเราสามารถเลือกกำลังการประมวลผล เลือกจำนวนทรัพยากร ได้ตามความต้องการในการใช้งาน พูดง่าย ๆ คือ ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้นนั่นเอง นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าถึงข้อมูลบน Cloud จากที่ไหนก็ได้เรียกได้ว่าทั้งสะดวกสบายแถมยังประหยัดเวลาแบบสุด ๆ


ประเภทของ คลาวด์คอมพิวติ้ง มีแบบไหนบ้าง 

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร

Private Cloud

คือ การตั้งคลาวด์ส่วนตัว โดยแต่ละบริษัทหรือองค์กรจะลงทุนจัดตั้ง Hardware และ Software ที่ใช้เป็นพื้นฐานในการทำ Cloud Datacenter ขึ้นมาเป็นของตัวเอง เพื่อให้พนักงานในองค์กรใช้เท่านั้น

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร
  ข้อมูลปลอดภัยเพราะจัดเก็บอยู่ภายใน Datacenter ของตัวเอง

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร
ไม่สามารถ Scale Out แบบกะทันหัน เมื่อเกิด Workload Peak Time ได้เหมือนกับ Public Cloud และมีค่าใช้จ่ายสูงเพราะต้องลงทุนซื้อ Hardware และ Software รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบเองทั้งหมด

Public Cloud

คือ คลาวด์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ โดยจะมีผู้ให้บริการระบบคลาวด์เป็นคนตั้งระบบ Hardware และ Software ขึ้นมา แล้วให้แต่ระบริษัทหรือองค์กรเข้าไปเช่าใช้บริการ อาจจะจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร
 ประหยัดเงินได้มากกว่า เพราะไม่ต้องลงทุนตั้ง Cloud Datacenter เป็นของตัวเอง

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร
อาจมีปัญหาด้าน IT Policy Audit ในบางบริษัท เพราะบางบริษัทห้ามเก็บข้อมูลไว้นอกองค์กร

Hybrid Cloud

คือ เป็นการเอาข้อดีของระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud มาใช้ร่วมกัน เช่น การนำ Private Cloud มาใช้สำหรับเก็บข้อมูลภายในองค์กร และใช้ Public Cloud มาใช้เพื่อการ Scale Out ในการประมวลผลในช่วงที่เกิด Workload Peak Time เป็นต้น

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร
 เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการได้มากขึ้นและอุดข้อเสียของทั้ง 2 รูปแบบนั้นได้

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร
มีความยุ่งยาก เพราะรายละเอียดของ Cloud ทั้งสองแบบนั้นต่างกันมาก ต้องมีผู้เชี่ยวชาญปรับแต่งระบบให้ทำงานร่วมกันและทดสอบบ่อย ๆ เพื่อให้เกิดความเสถียร

Multi Cloud

คือ การใช้งานร่วมกันของ Cloud Provider ตั้งแต่ 2 ผู้ให้บริการขึ้นไป เพื่อลดความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ในการใช้งาน มีความแตกต่างจาก Hybrid Cloud ที่ใช้ร่วมกันระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร
เลือกใช้ทรัพยากรและบริการเฉพาะจากผู้ให้บริการหลายรายเพื่อได้รับประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน 

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร
ต้องมีผู้เชี่ยวชาญออกแบบและจัดทำ Solution ได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งานขององค์การ ทั้งในด้านการดูแลและการทำงานของระบบ Cloud Platforms รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลและ Hypervisor ที่ต่างกัน


บริการ ของคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Service Models) มีอะไรบ้าง

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร

Software as a Service (SaaS)

คือ บริการที่ให้ใช้หรือเช่าใช้บริการ Software และ Application ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยประมวลผลบนระบบของผู้ให้บริการโดยที่เราไม่ต้องกังวลหรือหาคนมาดูแล Infrastructure และคนมาสร้าง Application ให้เรา เพราะทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมมาโดยผู้ให้บริการเรียบร้อยแล้ว

ข้อดี คือ ไม่ต้องลงทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์เอง ซอฟต์แวร์จะถูกเรียกใช้งานผ่าน Cloud จากที่ไหนก็ได้

ตัวอย่างที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด เช่น Google Docs ที่มาในรูปแบบการใช้ซอฟต์แวร์ผ่านเว็บบราวเซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ลงบนเครื่อง หรือ Web-based Email Service ต่าง ๆ เช่น Hotmail, Gmail, Facebook, Twitter ที่มีการเก็บโปรแกรมและข้อมูลต่าง ๆ ไว้ที่ Host แล้วให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ Application ต่าง ๆ ผ่านทางเว็บได้ ถือว่าเป็นบริการประเภทนี้อีกเช่นเดียวกัน

Platform as a Service (PaaS)

คือ การให้บริการด้าน Platform สำหรับผู้ใช้งาน เช่น นักพัฒนาระบบ หรือ Developer ที่ทำงานด้าน Software และ Application โดยผู้ให้บริการ Cloud จัดเตรียมทรัพยากรสำหรับการพัฒนาระบบที่จำเป็น เช่น Hardware, Software และ ชุดคำสั่ง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถพัฒนาระบบได้อย่างสมบูรณ์แบบบนระบบ Cloud

ข้อดี คือ สามารถช่วยลดต้นทุนและเวลาที่ใช้ในการพัฒนาซอฟท์แวร์ได้

ตัวอย่างบริการทางด้านนี้ เช่น Google App Engine, Microsoft Azure ที่สามารถนำมาพัฒนาแอปพลิเคชันที่ให้บริการคนจำนวนมหาศาลได้ โดยใช้เวลาพัฒนาไม่นานด้วยทีมงานแค่ไม่กี่คน

Infrastructure as a Service (IaaS)

คือ บริการที่ครอบคลุมเฉพาะในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีได้แก่ ระบบเครือข่าย (Network), ระบบจัดเก็บข้อมูล (Database), ระบบประมวลผล (CPU) ไปจนถึงอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น Servers และ ระบบปฏิบัติการ (OS)ใ นรูปแบบระบบเสมือน (Virtualization) โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ Hardware ที่มีราคาแพง

ข้อดี คือ ไม่ต้องลงทุนซื้อเอง สามารถขยายได้ง่ายตามการเติบโตของบริษัทและมีความยืดหยุ่นสูง ลดความยุ่งยากในการดูแลระบบเอง แต่จำเป็นต้องมีผู้ดูแลระบบด้าน IT

ตัวอย่างของบริการให้เช่ากำลังประมวลผล บริการให้เช่าเซิร์ฟเวอร์เสมือน เพื่อใช้ลงและรันแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่เราต้องการเช่น OpenLandscape Cloud, Google Compute Engine, Amazon Web Services, Microsoft Azure เป็นต้น

สรุป

จะเห็นได้ว่าแท้จริงแล้ว Cloud Computing ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ไกลตัวและยังใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก หรือแม้กระทั้งโปรเจกต์เล็ก ๆ ของเราให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มศักยภาพทั้งในด้านของความรวดเร็ว ความยืดหยุ่น และความปลอดภัย รวมไปถึงยังสามารถช่วยลดต้นทุนและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากอีกด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่อยากรู้ว่า ประโยชน์ ของ Cloud Computing มีอะไรบ้างเราขอแนะนำบทความ : Cloud computing ประโยชน์ ที่ให้ได้มากกว่าความประหยัด

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร

ติดตามข่าวสารใหม่ๆ หรือข้อมูลน่ารู้อีกมากมายได้ที่

  OpenLandscape Fanpage | https://www.facebook.com/openlandscapecloud/   OpenLandscape Twitter | https://www.twitter.com/olscloud/   OpenLandscape Cloud | https://openlandscape.cloud/

นักเรียน สามารถ นำ การประมวลผล แบบ ค ลาว ด์ มา ประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวันของ นักเรียน ได้ อย่างไร

คลาวด์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของนักเรียนได้อย่างไร

Cloud Computing นั้นดีกับชีวิตประจำวันอย่างไร 1. มีพื้นที่สำหรับสำรองข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต หาก Harddisk บนเครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหาข้อมูลก็ยังอยู่ 2. แชร์ไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย 3. บาง App มีฟังก์ชั่นสำหรับ Upload ข้อมูลให้อัตโนมัติ 4. การโอนส่งไฟล์ไปมาระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับแท็ปเล็ต หรือสมาร์ทโฟนทำได้ง่ายขึ้น

เราสามารถนำการประมวลผลแบบคลาวด์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร

Cloud Computing สามารถช่วยในด้านของการเก็บ,จัดการ และแชร์ข้อมูลของผู้ป่วยได้ง่าย ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลได้ นอกจากนั้นแล้ว ในสถานพยาบาลบางแห่ง ผู้ป่วยยังสามารถเรียกดูข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาของตัวเองได้ผ่านอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือที่ติดตั้ง Application ของสถานพยาบาลนั่นเอง

นักเรียนใช้บริการประมวลผลแบบคลาวด์ ของที่ใดบ้าง

คลาวด์สาธารณะหมายถึงการบริการคลาวด์ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure, Google Cloud และ Google Drive, iCloud และ Dropbox ล้วนเป็นการบริการคลาวด์สาธารณะทั้งหมด ใครก็ตามที่ใช้ Dropbox จะเท่ากับว่าไปเช่าพื้นที่เซิร์ฟเวอร์ของ Dropbox บางส่วน คลาวด์สาธารณะเป็นสภาพแวดล้อมที่ใช้งานร่วมกัน ซึ่ง ...

แอพพลิเคชั่นใดบ้างที่ใช้การประมวลผลแบบคลาวด์

Google Apps for Education เป็นชุดโปรแกรมการประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการทำงานร่วมกัน และเป็นซอฟต์แวร์ซอฟต์แวร์ที่ Google ให้บริการสำหรับสถานศึกษาใช้งานได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งชุดโปรแกรมนี้รวมเว็บแอพลิเคชันยอดนิยมของ Google ต่างๆ เช่น Google Plus, Google Sites, Gmail, ...