Overdrive กับ distortion ต่าง กัน ยัง ไง

น้าอ้วนจะหา Compressor!

Show

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น หน่อยนะครับ คือ ในฐานะที่เป็น Rock & Roll boy คนหนึ่ง

Overdrive กับ distortion ต่าง กัน ยัง ไง
ผมไม่ค่อยชอบ Effect พวก Compressor ซักเท่าไร่อะครับ คือ Effect พวก Compressor สำหรับผมแล้วหลักการทำงานของมัน คือการ "เกลี่ยเสียง" กล่าวคือเกลี่ย หัวเสียงไปให้หางเสียงทำให้หางเสียงยาวขึ้น แต่สิ่งที่ตามมาคือ ความเป็นความเป็นธรรมชาติของเสียงกีต้าร์จะหายไป ยิ่งเวลาไปพ่วงกับเสียงแตกแล้วทำให้ความโหด ความดิบเถื่อนลดลง

ปัจจุบัน การเพิ่มหางเสียงกีต้าร์ของ นักดนตรี Rock & Roll เขานิยม "Boost" เสียงเสียมากกว่าครับ โดยใช้ Effect พวก Over Drive หรือพวกที่มีเสียงแตกแบบอุ่นๆน้อยๆมาช่วย วิธีการก็คือ ต่อแบบนี้อะครับ

Guitar>Overdrive>เสียงแตกที่ท่านชื่นชอบ>Amp

การต่อแบบนี้ OverDrive จะมีหน้าที่ช่วยขับเสียงทำให้เสียงมีพลังมากขึ้นและหางเสียงยาวขึ้นด้วย ตัว OverDrive เนี่ยปรับเสียงแตกน้อยๆนะครับหรือบางคนปิดเลย เพราะหน้าที่ของมันคือการเพิ่มพลังเสียงไม่ใช่ให้เสียงแตก

ถ้าจะเปรียบกัน
- หางเสียงการใช้ Compressor มันจะเปรียมหมือนการต่อหางเสียงโดยใช้เนื้อเสียงจาหัวเสียงมา เหมือนตัดเนื้อตรงโน้นมาต่อตรงนี้ จะทำหางเสียงได้ยาวกว่า
- หางเสียงจากการ Boost เสียง เปรียบเหมือนการเพิ่มพลังขับดันที่เสียงกีต้าร์ ทำให้หางเสียงยาวออกไป

พวก Compressor ได้ถูกนำมาใช้ด้วย ประโยชน์อย่างอื่น
- บางคนใช้เอามาเสริมตอนเล่น Technic พวก "Tapping" หรือ "จิ้ม" คือเวลาจิ่มแล้วความดังเบาของเสียงไม่เท่ากัน น้ำหนักมือไม่เที่ยง เอา Compressor มาช่วยเกลี่ย
- บางคนใช้ตอนเล่น Rythm Clean Sound น้ำหนักมือไม่เที่ยง เอา Compressor มาช่วยเกลี่ยอีก ทำให้การเล่น Perfect มากขึ้น

โดยส่วนตัวผมว่าก็ไม่เหมาะกับดนตรี Rock อะครับคือมันทำให้ขาดความดิบ ของ ดนตรี Rockไป

ทั้งหมดนี้ผมหวังว่าซักวัน น้า ยอด จะทำ Work Shop ไห้สมาชิกดูกัน

Overdrive กับ distortion ต่าง กัน ยัง ไง

สำหรับใครที่เล่นกีต้าร์ไฟฟ้ามาได้ซักพักแล้ว คงจะได้ยินเสียงกีต้าร์ไฟฟ้าในเพลงต่าง ๆ ที่ฟังดู มีมิติ มีลูกเล่น ต่างจากเสียงกีต้าร์ไฟฟ้าทั่วไปที่เคยเล่น เสียงที่มีลูกเล่นนั้นคือเสียงกีต้าร์ไฟฟ้าที่ผ่านเอฟเฟคกีต้าร์ นั้นเอง โดยเสียงเอฟเฟคนั้นมีหลายชนิด ทั้งเสียงแตก เสียงคอรัส เสียงดีเลย์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละเสียงมีเอกลักษณ์ต่างกัน และยิ่งไปกว่านั้นสามารถนำมาผสมกันได้อีกด้วย โดยเสียงแต่ละชนิดก็จะมี วิธีปรับเอฟเฟคกีต้าร์ ต่างกันออกไป

เสียงที่ผ่านเอฟเฟคเหล่านี้จะต้องมีการปรับแต่ง ซึ่งการปรับแต่งนั้นไม่มีถูกผิด ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ เปรียบเสมือนกับอาหารที่ปรุงแล้วแต่ความชอบ แต่ถ้าเราสามารถปรับเสียงให้เพราะและคนส่วนมากชอบได้ก็เปรียบเสมือนกับคนที่ทำอาหารได้อร่อย

ใครกำลังตามหามัลติเอฟเฟคกีต้าร์อยู่ ตามไปอ่านกันเลย! แนะนำ 10 มัลติเอฟเฟคกีต้าร์ไฟฟ้า รุ่นยอดนิยม มือกีต้าร์ต้องหามาใช้ 2019

หลักการสำหรับวิธีปรับเสียงเอฟเฟคกีต้าร์ มีอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟคประเภทไหนทั้ง มัลติเอฟเฟค หรือ เอฟเฟคก้อน ก็จะมีหลักการเดียวหากเป็นเอฟเฟคชนิดเดียวกัน โดยเสียงเอฟเฟคแต่ละชนิดจะมีวิธีการปรับแต่งที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับชนิดของเอฟเฟค ซึ่งจะมี Parameter (ตัวหมุนปรับแต่ง) คล้าย ๆ กันสำหรับเอฟเฟคเสียงเดียวกัน

โดยแต่ละยี่ห้ออาจจะใช้ชื่อเรียก Parameter คนละแบบแต่ว่าให้ผลที่เหมือนกัน ซึ่งในเอฟเฟคหนึ่งเสียงอาจจะมี Parameter ให้ปรับแต่งมากกว่า 2-3 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกันว่า Parameter แต่ละตัวบนเอฟเฟคชนิดต่าง ๆ มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง สำหรับเสียงเอฟเฟคพื้นฐานที่มือใหม่โดยเฉพาะมือกีต้าร์ควรรู้จักและควรหัดปรับแต่งให้ชำนาญนั้น มี 4 เสียงหลักๆด้วยกัน

4 เสียงเอฟเฟคพื้นฐาน ที่ควรปรับให้ชำนาญ

  1. เสียงแตก (Distortion/Overdrive)
  2. เสียงหน่วงหรือดีเลย์ (Delay)
  3. เสียงสะท้อนหรือรีเวิป (Reverb)
  4. เสียงคอรัส (Chorus)
  5. สรุปวิธีปรับเสียงเอฟเฟคกีต้าร์

4 เสียงนี้ถือเป็นเสียงเอฟเฟคหลักๆ ที่มือกีต้าร์ไฟฟ้าทั่วโลกใช้กันเป็นประจำ  หากเราสามารถปรับแต่งเสียงเหล่านี้ได้ลงตัว กลมกล่อม ย่อมที่จะทำให้เสียงกีต้าร์ของเราฟังดูมีมิติและลึกล้ำขึ้นมาอย่างแน่นอน

1. วิธีการปรับเอฟเฟคเสียงแตก (Distortion/Overdrive)

เสียงแตกถือเป็นเสียงเอฟเฟคแรก ๆ ที่มือกีต้าร์จะต้องรู้จักและหัดปรับใช้ให้เป็น เพราะส่วนใหญ่มักจะติดมากับแอมป์กีต้าร์อยู่แล้ว โดยในแอมป์กีต้าร์ส่วนใหญ่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แชลแนล คือ เสียงคลีนและเสียงแตก โดยเสียงแตกนั้นถือเป็นเอฟเฟคชนิดนึง ที่มือกีต้าร์จำเป็นจะต้องรู้ว่าต้องการเสียงแตกประมาณไหน สำหรับเพลงแบบไหน เพื่อที่สามารถจะปรับให้ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ได้ยิน

โดยปกติบนเอฟเฟคเสียงแตกนั้นจะมีปุ่มให้หมุนอยู่ไม่มากนัก แต่ในบางรุ่นอาจจะมีให้ปรับแต่งย่านเสียงด้วยนอกจากเสียงที่แตกมากหรือน้อย ยังไงลองมาทำความรู้จัก knob ต่าง ๆ กัน

ปุ่มหลักบนเอฟเฟคเสียงแตก

  • Gain/Distortion/Overdrive ปุ่มนี้ไม่ว่าจะเรียกชื่อไหนก็ตามจะหมายถึงระดับความแตกของเสียง ว่าต้องการให้เสียงแตกมากน้อยขนาดไหน โดยจากรูปตัวอย่างจะเห็นว่าทั้งหมด มีปุ่มนี้ให้หมุน สำหรับมัลติเอฟเฟคก็จะมีค่านี้ให้ตั้งเหมือนกัน
  • Level/Output/Volume  เป็นอีกหนึ่งปุ่มที่ขาดไม่ได้บนเอฟเฟคทุกชนิด ซึ่งเป็นการปรับระดับความดังของเอฟเฟคนั้นเอง
  • Tone/Filter  เป็นการปุ่มในการเร่งหรือลดความถี่บางย่านลง ซึ่งจะขึ้นกับเอฟเฟคแต่ละรุ่น ถูกปรับแต่งมาไม่เหมือนกัน
  • Bass/Middle/Treble เป็นปุ่มที่ใช้เร่งหรือลดความถี่เหมือนกันกับปุ่ม Tone แต่จะสามารถเลือกย่านความถี่ที่ต้องการได้ มีความละเอียดมากกว่าปุ่ม Tone นั้นเอง

จากปุ่มทั้งหมดที่มีบนเอฟเฟคเสียงแตกอาจจะมีบางรุ่นที่มีมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดจะมีปุ่มที่ปรับระดับความแตกและระดับความดังของเสียงอย่างแน่นอน รวมไปถึงบนแอมป์กีต้าร์ก็จะมีปุ่มในที่เหมือนกัน

สิ่งที่มือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับเอฟเฟคเสียงแตก

เอฟเฟคเสียงแตกนั้นต้องยอมรับว่าเป็นเอฟเฟคที่แต่ละแบรนด์นั้นมีความแตกต่างกันชัดเจนมากในคาแรคเตอร์ของเสียง ทำให้หากเราได้ยินเสียงแบบนึงจากเอฟเฟคยี่ห้อนึง เราอาจจะไม่สามารถปรับได้กับเอฟเฟคที่เรามีอยู่เพราะว่าเอฟเฟคทั้ง 2 รุ่นถูกออกแบบมาให้แตกต่างกัน

2. วิธีการปรับเสียงเอฟเฟคดีเลย์ (Delay)

หลักการทำงานของเสียงดีเลย์ คือการทำซ้ำเสียงเดิมแล้วปล่อยเสียงนั้นตามออกมาหลังจากเสียงจริงได้ปล่อยออกไปแล้ว ทำให้ได้ยินเสียงที่ดังซ้ำ ๆ วนไปเรื่อย ๆ นั้นเอง ซึ่งดีเลย์เป็นเอฟเฟคที่ถ้ามือกีต้าร์คนไหนสามารถปรับให้ชำนาญและนำมาใช้ได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา จะสามารถสร้างมิติและความหวือหวาให้กับเพลงได้อย่างมากเลยทีเดียว

ปุ่มหลักบนเอฟเฟคเสียงดีเลย์

  • Delay/Time ปุ่มที่ปรับเวลาการหน่วงของเสียงถัดไปที่จะออกมา โดยการปรับควรจะปรับให้เข้ากับจังหวะของเพลง เพื่อให้สัญญาณที่ตามออกมาตรงกับจังหวะด้วย
  • Feedback/Sustain ปุ่มที่กำหนดระยะเวลาการให้เสียงที่เล่นซ้ำออกมานานแค่ไหน ถ้าปรับไว้สั้นเสียงที่ต้องการจะให้ซ้ำก็จะออกมาเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ถ้าต้องการให้เสียงนั้นออกมาซ้ำๆ วนไปเรื่อยๆ ก็ให้ปรับให้นานขึ้นตามต้องการ
  • Level/Mix/Volume ปุ่มระดับความดังของเอฟเฟคว่าต้องการให้เสียงที่ดีเลย์นั้น มีความดังเบาแค่ไหนขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เล่น

ปุ่มทั้ง 3 นี้เป็นเพียงปุ่มหลัก ๆ ของเอฟเฟคดีเลย์เท่านั้น ในบางรุ่นอาจจะมีปุ่มสำหรับการปรับเวลาที่ละเอียดขึ้น กำหนดเวลาได้เป็นวินาที หรืออาจจะมีปุ่มในการหยุดเสียงให้ค้าง เป็นต้น  ดังนั้นจะต้องขึ้นกับรุ่นที่เลือกซื้อหากันมาใช้ แต่ปุ่ม 3 ปุ่มนี้ถือเป็นปุ่มที่จะต้องมีอย่างแน่นอนบนเอฟเฟคดีเลย์

สิ่งที่มือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับเอฟเฟคดีเลย์

เอฟเฟคดีเลย์ นั้นจะมี 2 ชนิดหลักๆ ด้วยกันคือแบบ Analog และ Digital ซึ่งย่อมแน่นอนว่าสำหรับเอฟเฟคประเภทนี้แล้วแบบ digital จะทำงานได้ดีกว่าเพราะสามารถกำหนดค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดโดยสามารถกดจังหวะให้ได้ตรงกับเพลงก็ได้ เรียกว่ามีลูกเล่นดีกว่าอย่างชัดเจน

3. วิธีการปรับเสียงเอฟเฟครีเวิป (Reverb)

เป็นเสียงที่จำลองการสะท้อนของเสียงในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เสียงนั้นมีความรู้สึกก้อง กังวาน ดูใหญ่ขึ้น ซึ่งถ้าปรับเสียงรีเวิปได้ดีแล้ว จะทำให้เสียงกีต้าร์ของผู้เล่นดูมีความลึกมากขึ้น และทำให้เสียงกีต้าร์ของเรานั้นดูไม่แห้งหรือแฉะจนเกินไป

ปุ่มหลักบนเอฟเฟคเสียงรีเวิป

  • Reverb/Level เป็นปุ่มค่าความก้อง ให้ความรู้สึกว่าเสียงมีการสะท้อนมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เล่น เป็นตัวกำหนดค่าความสะท้อน เปรียบเสมือนการกำหนดพื้นผิวของห้องที่เล่นอยู่ว่าสะท้อนมากน้อยแค่ไหน
  • Decay/Time/Delay ปุ่มปรับค่าเวลาของเสียงสะท้อน ที่ต้องการให้เสียงสะท้อนค้างไว้นานแค่ไหน โดยจะสามารถปรับให้สั้นหรือยาวก็ได้ตามต้องการ
  • Tone เป็นปุ่มเพิ่มหรือลดความถี่บางย่านที่อยู่ในเสียงสะท้อน อย่างเช่นเสียงต่ำที่เมื่อสะท้อนแล้วอาจจะล้น ทำให้เสียงหนาเกินไปก็สามารถปรับแต่งได้จากปุ่มนี้

บนเอฟเฟครีเวิปอาจจะปุ่มที่สามารถปรับชนิดของรีเวิปได้อีกด้วย ทำให้มีความสะดวกมากขึ้นในการปรับแต่งเอฟเฟคให้ได้เสียงตามที่ต้องการ ดังนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับรุ่นอีกเช่นกัน เพราะในแต่ละรุ่นของเอฟเฟคนั้นถูกออกแบบมาไม่เหมือนกัน

สิ่งที่มือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับเอฟเฟครีเวิป

เอฟเฟครีเวิปจะสามารถพบได้ในแอมป์กีต้าร์ อาจจะมีติดมาให้ในตัวแอมป์เลยและสามารถปรับแต่งได้โดยมักจะเป็นปุ่ม Reverb ที่จะมากำหนดค่าความก้องเพียงเท่านั้นอาจจะไม่สามารถปรับแต่งอย่างอื่นได้ โดยเอฟเฟครีเวิปในแอมป์กีต้าร์จะเป็นรีเวิป ชนิดที่เรียกว่า Spring Reverb

4. วิธีปรับเอฟเฟค เสียงคอรัส (Chorus)

เป็นเสียงเอฟเฟคที่ทำให้เสียงกีต้าร์ของเรานั้นสั่น เหมือนมีลูกคอ โดยหลักการทำงานของเอฟเฟคคอรัสคือการนำความถี่ไปผสมกับเสียงกีต้าร์ ทำให้เกิดการสั่นของเสียง ทำให้เสียงของกีต้าร์ดูไม่แข็งและมีความนุ่มขึ้น โดยเราสามารถปรับแต่งความถี่ที่จะถูกนำมาผสมได้ ทำให้เสียงกีต้าร์ของเรามีการสั่นในรูปแบบต่าง ๆ

ปุ่มหลักบนเอฟเฟคเสียงคอรัส

  • Level/ Fx Level/Mix ปุ่มที่ใช้ปรับระดับความดังเอฟเฟคคอรัสที่ต้องการผสมเข้าไปในเสียงหลัก ถ้าหมุนให้ดังมากก็จะทำให้ได้ยินเสียงคอรัสชัดและดังกว่าเสียงหลัก แต่ถ้าต้องการให้เสียงคอรัสเบา ก็สามารถปรับได้จากปุ่มนี้
  • Rate ปุ่มที่กำหนดความถี่ที่ต้องการจะผสมเข้าไปในเสียงหลัก ยิ่ง Rate มากก็จะทำให้เสียงกีต้าร์นั้นสั่นถี่และเร็วขึ้นนั้นเอง
  • Depth/Width ปุ่มทีกำหนดความกว้างของความถี่ ทำให้เสียงที่สั่นมีความกว้างหรือแคบขึ้นอยู่กับปุ่มนี้ ซึ่งจะทำให้เสียงคอรัสดูกว้างและใหญ่ขึ้น
  • Tone/Filter ปุ่มที่ปรับแต่งความถี่ของเสียงคอรัส โดยอาจจะเพิ่มหรือลดบางย่านเสียงลง โดยในบางรุ่นอาจจะแยกออกเป็นย่านเสียงสูง-ต่ำไว้ให้แยกกัน

เสียงเอฟเฟคคอรัสถือเป็นอีกเสียงที่ถ้าปรับแต่งให้ได้ดีแล้ว จะสามารถสร้างเสียงกีต้าร์ใหม่ ๆ ออกมาได้เลยทีเดียว ทำให้เป็นอีกหนึ่งเสียงที่มือใหม่ควรจะต้องเรียนรู้และปรับให้คล่องแคล่ว

สิ่งที่มือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับเอฟเฟคคอรัส

คอรัสเป็นเอฟเฟคที่เรียกว่าขาดไม่ได้สำหรับโซโล่กีต้าร์ เรียกว่าแทบจะทุกโซโล่ของกีต้าร์ไฟฟ้ามักจะมีเอฟเฟคนี้ติดอยู่ อาจจะเบาบ้างดังบ้าง ก็อยากจะให้ทุกคนลองฝึกสังเกตเสียงคอรัสของกีต้าร์กันดู

สรุปวิธีปรับเสียงเอฟเฟคกีต้าร์

เอฟเฟคทุก ๆ รุ่น ไม่ว่าเสียงเอฟเฟอะไรก็ตามนั้นถูกออกแบบมาไม่ให้เหมือนกัน ทุกยี่ห้อจะพยายามทำให้มีคาแรคเตอร์เสียงของตัวเอง ดังนั้นวิธีการปรับเอฟเฟคกีต้าร์แต่ละรุ่นนั้นจะแตกต่างกันออกไป ถึงแม้ว่าปุ่มจะให้ผลเดียวกัน แต่เสียงที่ออกมาจะมีคาแรคเตอร์ต่างกันชัดเจนจากการออกแบบ ดังนั้นผู้เล่นควรทำความคุ้นเคยกับเอฟเฟคกีต้าร์ของตัวเอง รู้จักอุปกรณ์ของตัวเองให้ดีที่สุด ก็จะสามารถทำให้การปรับนั้นได้เสียงตามที่ใจต้องการ