การถือลูกขนไก่

การฝึกตีลูกขั้นต้นให้หัดตีลมไปก่อน ความมุ่งหมายก็เพื่อฝึกการใช้ข้อมือ เพราะแบดมินตันเป็นกีฬาที่ใช้ข้อมือ ขณะ ขณะเดียวกันต้องหัดฟุตเวอร์ค เพื่อฝึกความว่องไวของเท้า วิธีฝึกโดยให้ยืนอยู่กึ่งกลางสนามแล้วเคลื่อนที่โดยการสไลด์ไปทางซ้าย ขวา ข้างหน้า และถอยหลังสลับกันไป ขณะสไลด์ให้ฝึกเหวี่ยงแร็กเก็ตตามไปด้วย บางครั้งทำท่าคล้ายกับการวิ่งเข้าไปรับลูกที่ฝ่ายตรงกันข้ามตีมาในทิศทางต่าง ๆ เมื่อเสร็จจากการวิ่งแต่ละครั้งให้วิ่งกลับมายืนที่เดิม ให้พยายามทรงตัวให้ดี สายตาจับอยู่ที่ลูก การตีควรตีลูกกลับไปยังเป้าหมายที่ห่างตัวผู้รับให้มาก และตีไปในที่ปลอดภัยที่สุดที่ฝ่ายรับจะโต้กลับมาไม่ได้ หรือฝ่ายรับมีโอกาสจำกัดในการรับลูก

การตีลูกจากทางด้านเดียวกันกับมือที่ถือแร็กเก็ต เรียกว่า การตีลูกหน้ามือ (Forehand Stroke) ขณะที่ตีลูกเท้าซ้ายจะวางข้างหน้าเท้าขวา

ส่วนการตีลูกจากทางด้านตรงกันข้ามกันกับมือที่ถือไม้ เรียกว่าการตีลูกหลังมือ (Backhand Stroke) ขณะที่ตีลูกเท้าขวาจะวางข้างหน้าเท้าซ้าย และหันไหล่ขวาเข้าหาตาข่าย


การจับลูกขนไก่

ให้ใช้นิ้วมือซ้ายจับลูกขนไก่สำหรับคนถนัดตีมือขวา จับตรงฐานของลูกขนไก่ อย่าจับตรงขน ยกมือซ้ายขึ้นสูงระดับไหล่ เมื่อจะตีก็ให้ปล่อยลูกให้หล่นจากมือไปเอง ไม่ใช่โยนลูกขึ้นแล้วตี จังหวะที่ยกมือซ้ายที่ถือลูกขนไก่ขึ้น ให้เงื้อแร็กเก็ตไปข้างหลัง ขณะที่ปล่อยลูกให้เงื้อไม้ตีลูกทันทีทางด้านหน้าของลำตัว

ทั้งนี้การจับลูกขนไก่ที่นิยมมีทั้งหมด 3 วิธี คือ

1. แบบจับที่ฐาน  โดยใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ จับที่ส่วนฐานหรือหัวลูกขนไก่ นิ้วกลางช่วยประคองแตะสัมผัส  ส่วนอีก 2 นิ้ว ไม่ต้องประคองลูกขนไก่

2. แบบจับที่ส่วนกลาง  โดยใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ประคองลูกขนไก่  ส่วนนิ้วกลางและนิ้วนางจะเป็นตัวช่วยพยุงที่หัวของลูกขนไก่บริเวณเชือกมัดลูกขนไก่ ลักษณะคล้ายถ้วย  โดยจะใช้นิ้ว 3 นิ้ว  คือ นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง

3. แบบจับที่ปลาย  ใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้จับเฉพาะบริเวณปลายขนไก่ขนใดขนหนึ่งไว้เท่านั้น ส่วนอีก 3 นิ้ว ไม่ต้องจับส่วนใดหรือไม่ต้องประคองลูกขนไก่

ซึ่งในการจับลูกนั้นจะขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนถ้าเสิร์ฟสั้นจะจับที่ปลายแต่ถ้าเสิร์ฟโด่งก็จะจับที่ฐานหรือตรงกลาง

แบดมินตันเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม เพราะเล่นง่าย อุปกรณ์ไม่เยอะ สามารถเล่นได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบคู่ นอกจากการตีโต้กันเพื่อทำแต้มแล้ว การเสิร์ฟแบดมินตันเป็นอีกสิ่งที่มีความสำคัญในการแข่งขัน เพราะการเสิร์ฟลูกที่ดีนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้ผู้เล่นได้เปรียบมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญผู้เล่นจะต้องรู้วิธีการจับลูกแบดมินตันที่ถูกต้อง เพื่อส่งเสริมให้การส่งลูกมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้


สารบัญ เทคนิคการเสิร์ฟแบดมินตันแบบมืออาชีพ


การถือลูกขนไก่

4 เทคนิคการเสิร์ฟแบดมินตันให้แม่นแบบมือโปร

การเสิร์ฟแบดมินตันเปรียบเหมือนการเริ่มต้นเกม ที่สามารถช่วยให้คุณได้เปรียบคู่ต่อสู้ได้ หากการเสิร์ฟมีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำคะแนนได้ในระหว่างการแข่งขันอีกด้วย ดังนั้น การให้ความสำคัญกับการเสิร์ฟจึงถือเป็นเรื่องที่นักเล่นทุกคนควรใส่ใจ นอกจากวิธีการเสิร์ฟที่ถูกต้องแล้ว เทคนิคการเสิร์ฟแบดมินตันดีๆ ยังช่วยส่งเสริมการเล่นได้อีกด้วย

1. รู้จักแหล่งที่มาของแรงตีลูก

แม้การเล่นแบดมินตันจะมีความคล้ายคลึงกับการตีเทนนิสและสควอช (Squash) แต่ด้วยน้ำหนักของลูกขนไก่ที่มีความเบามาก แม้จะออกแรงหวดลูกเต็มแรง ลูกขนไก่ก็ไม่สามารถไปถึงเขตหลังได้ ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดจากการที่หลายๆ คนยังไม่รู้จักแหล่งที่มาของแรงตีลูกอย่างถูกต้อง หากมีการใช้แรงที่ตีอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งอาศัยจังหวะในการตีที่ดี ก็จะส่งลูกได้ไกลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งแหล่งที่มาของแรงตีลูกสามารถแบ่งออกไป 3 แหล่งใหญ่ๆ คือ

  1. แรงที่เกิดจากการถ่ายน้ําหนักตัวจากเท้าหลังไปสู่เท้าหน้า
  2. แรงที่เกิดจากการเหวี่ยงแขน
  3. แรงที่เกิดจากการตวัด และสะบัดข้อมือ

สำหรับการเสิร์ฟแบดมินตันให้แรงจะต้องมีจังหวะที่พอเหมาะ พอดี เมื่อออกแรงเหวี่ยงตีลูก จะต้องเสริมด้วยการตวัดข้อมือ เพื่อให้ลูกไปได้ไกลขึ้น และหนุนด้วยการถ่ายน้ําหนักจากเท้าหลังไปสู่เท้าหน้า ให้ได้จังหวะที่ผสมผสาน และกลมกลืนกันอย่างลงตัว

2. วางเท้าให้นิ่ง

ผู้เล่นควรเรียนรู้การเสิร์ฟแบดมินตันทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญในการเสิร์ฟ และสามารถปรับใช้ได้ตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ อีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจ คือ การวางเท้าให้นิ่งขณะทำการเสิร์ฟลูก เพื่อให้มีฐานที่มั่นคง และสามารถส่งแรงไปยังการตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

3. สังเกตตำแหน่งของฝั่งตรงข้าม

นอกจากความสามารถในการเล่นแล้ว ผู้เล่นกีฬาแบดมินตันยังต้องมีไหวพริบ และหมั่นสังเกตคู่ต่อสู้อยู่เสมอ โดยจะต้องสังเกตตำแหน่งของฝั่งตรงข้าม ว่าอยู่ส่วนใดของสนาม เพื่อที่จะได้เลือกตำแหน่งในการส่งลูกให้คู่ต่อสู้โต้ตอบได้ยาก เช่น  ฝั่งตรงข้ามเอนตัวไปด้านหลัง ควรเลือกวิธีการเสิร์ฟต่ำ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ทันระวังตัว และมายังตำแหน่งด้านหน้าได้ช้า ซึ่งอาจพลาดลูกที่ส่งไปได้ 

4. ฝึกเสิร์ฟอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อได้เทคนิคในการเสิร์ฟแบดมินตันต่างๆ ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจังหวะในการใช้แรงตีลูก การวางเท้าให้นิ่ง รวมถึง การสังเกตตำแหน่งของฝั่งตรงข้าม แต่หากไม่มีการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ ฝีมือในการเสิร์ฟลูกก็ไม่อาจพัฒนาได้ ดังนั้น การฝึกเสิร์ฟอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เรามีความชำนาญมากขึ้น ที่สำคัญการฝึกเป็นประจำจะช่วยให้เรารู้จังหวะ และการใช้แรงของตัวเอง ทำให้มีการเสิร์ฟแบดมินตันที่แม่นยำมากขึ้น

การถือลูกขนไก่

วิธีการเสิร์ฟแบดมินตันในการแข่งขันแบบ Step by Step

การเสิร์ฟแบดมินตันเปรียบเสมือนการเริ่มต้นเกม โดยผู้ส่งจะต้องส่งให้ถูกต้องตามกติกาที่ตั้งไว้ ซึ่งมีวิธีการส่งดังนี้ 

  1. ยืนในพื้นที่การเสิร์ฟ โดยที่เท้าทั้งสองต้องติดพื้น และไม่เหยียบเส้นเขตแดนใดๆ 
  2. เสิร์ฟในแนวทแยงมุม โดยที่ผู้รับจะต้องอยู่ในแนวทแยงมุมกับผู้เสิร์ฟเช่นกัน
  3. ผู้ส่งจะต้องส่งจากด้านขวามือของตัวเอง เมื่อคะแนนเป็นเลขคู่หรือยังไม่มีคะแนน หากคะแนนของผู้ส่งเป็นเลขคี่จะต้องส่งจากด้านซ้ายมือ
  4. ก่อนส่ง ลูกแบดมินตันจะต้องอยู่ต่ำกว่าเอว

การถือลูกขนไก่

รูปแบบการเสิร์ฟแบดมินตัน

วิธีการเสิร์ฟแบดมินตันนั้นมีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ การเสิร์ฟแบบยาว และการเสิร์ฟแบบสั้น ซึ่งในแต่ละแบบใช้ในโอกาสที่แตกต่างกันออกไป หากมีการเสิร์ฟที่ดี รู้จังหวะ และเลือกรูปแบบการส่งให้เหมาะสมกับเกม ก็ช่วยให้เอาชนะอีกฝ่ายได้ 

การเสิร์ฟแบบยาว เป็นรูปแบบการเสิร์ฟแบดมินตันให้ลูกลึกเข้าไปในคอร์ดหลังของผู้รับ โดยให้ใกล้กับเขตแดนเสิร์ฟด้านหลังมากที่สุด ซึ่งการเสิร์ฟลักษณะนี้จะต้องกะความสูงและระยะให้มีความเหมาะสม รวมทั้ง จะต้องใช้แรงและจังหวะในการตีที่ลงตัว เพราะการเสิร์ฟแบบยาวจำเป็นที่จะต้องใช้แรงมาก เพื่อให้ลูกไปได้ไกล การเสิร์ฟแบบนี้จึงมีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็วและความแรงของลูก ซึ่งส่งผลให้ต้องใช้พลังในการตีโต้เป็นอย่างมาก หากผู้รับไม่แข็งแรงก็จะทำให้เหนื่อยได้ง่าย  

การเสิร์ฟระยะสั้นเป็นรูปแบบการเสิร์ฟที่ทำให้ลูกลงใกล้ตาข่าย และเส้นเสิร์ฟระยะสั้นมากที่สุด ซึ่งจะทำให้คู่แข่งมีระยะในการโต้กลับอย่างจำกัด โดยเฉพาะคู่แข่งที่ตัวสูง หากเสิร์ฟแบบต่ำจะทำให้ฝั่งตรงข้ามเคลื่อนที่มารับลูกได้ช้าลง และอาจทำให้พลาดได้ง่าย สำหรับการเสิร์ฟแบบต่ำนั้นเหมาะสำหรับการแข่งเดี่ยวมากกว่าคู่ 

การจับลูกแบดมินตัน

ลูกขนไก่เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการเล่นแบดมินตัน ก่อนจะเสิร์ฟลูกให้ได้ดี จำเป็นที่จะต้องจับลูกแบดมินตันให้ถูกต้องก่อน เพราะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งลูกให้มากขึ้นได้ สำหรับรูปแบบในการจับลูกแบดมินตันที่เป็นที่นิยมนั้น มีด้วยกัน 3 ท่าหลักๆ มีดังนี้

การถือลูกขนไก่

การจับลูกแบดมินตันรูปถ้วยนิยมใช้เมื่อต้องส่งลูกหน้ามือ (Forehand) ซึ่งการจับจะใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ในการประคองลูก ส่วนนิ้วกลางใช้ประคองก้านของลูกขนไก่ บริเวณเชือกเส้นบน คล้ายลักษณะการจับแก้ว หรือการประคองแก้วไว้ในมือ ซึ่งการจับลูกขนไก่ลักษณะนี้จะใช้เพียงสามนิ้วในการประคองเท่านั้น

การถือลูกขนไก่

สำหรับการจับลูกขนไก่แบบปากคีบ นิยมใช้เมื่อต้องการเสิร์ฟแบดมินตันด้วยหลังมือ (Backhand) หากมองผ่านๆ อาจจะเหมือนการใช้ทุกนิ้วจับลูกขนไก่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การจับลูกแบบปากคีบใช้เฉพาะนิ้วโป้งและนิ้วชี้คีบบริเวณปลายลูกขนไก่ ส่วนทั้งสามนิ้วที่เหลือเพียงแค่ประครองลูกไว้เท่านั้น ไม่ได้จับอย่างเต็มแรง

การถือลูกขนไก่

  • การจับแบบปากคีบเฉพาะส่วนปลาย

การจับลูกแบดมินตันรูปแบบสุดท้ายเรียกว่า การจับแบบปากคีบส่วนปลาย เป็นรูปแบบการจับลูกแบดมินตันที่นิยมใช้เมื่อต้องส่งลูกด้วยหลังมือ ซึ่งวิธีการจับก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้คว่ำลง คีบเฉพาะส่วนปลายของลูกขนไก่ เหมือนการจีบคว่ำ ส่วนนิ้วที่เหลือไม่ต้องสัมผัสลูกแบดมินตัน

การถือลูกขนไก่

กติกาการส่งลูก

ไม่ว่าการแข่งขันกีฬาประเภทใดก็ตาม ย่อมต้องมีกฎ และกติกา เพื่อให้มีบรรทัดฐาน และมีรูปแบบในการเล่นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในสนามแข่ง สำหรับกีฬาแบดมินตัน นอกจากคุณสมบัติโดยทั่วไปที่ผู้เล่นควรมีแล้ว ยังมีกติกาการส่งลูกที่ควรรู้ด้วย 

  • การส่งลูกที่ถูกต้อง ผู้ส่งและผู้รับต้องอยู่ในท่าเตรียมพร้อม และส่งลูกในทันทีไม่ถ่วงเวลาให้ช้า ที่สำคัญก่อนส่ง ลูกขนไก่จะต้องอยู่ตํ่ากว่าระดับเอวของผู้ส่ง เมื่อไม้สัมผัสลูกแล้วต้องตีต่อเนื่องจากการส่งลูก จนลูกขนไก่ข้ามไปยังเขตแดนของฝั่งตรงข้าม  
  • เมื่อผู้เล่นทั้งสองฝ่ายอยู่ในท่าเตรียมพร้อม หากไม้เคลื่อนไปข้างหน้าถือว่าเริ่มต้นการส่งลูก
  • เมื่อเริ่มต้นส่งลูกแล้ว ไม่ว่าไม้จะโดนลูกขนไก่หรือไม่ให้ถือว่าส่งลูกแล้ว
  • การส่งลูกจะเริ่มเมื่อผู้เล่นทั้งสองฝ่ายพร้อม
  • สำหรับการเล่นแบบคู่ คู่เล่นของทั้งสองฝ่ายจะยืนบริเวณใดในสนามก็ได้ ที่ไม่บังการส่งลูก

การถือลูกขนไก่

The Street Arena สนามแบดมินตัน Indoor ใจกลางรัชดา

สำหรับใครที่กำลังมองหาสนามแบดมินตันให้เช่า สามารถมาได้ที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Activity Center แหล่งพบปะของคนรักสุขภาพ ด้วยศูนย์ออกกำลังกายหลายรูปแบบ รวมถึง The Street Arena ที่เปิดให้บริการสนามกีฬาในร่ม เช่น สนามบาสเกตบอล สนามฟุตซอล โต๊ะเทเบิลเทนนิส รวมถึง สนามแบดมินตันในร่มใจกลางย่านรัชดา ที่เปิดให้บริการแล้ววันนี้ สำหรับสนามแบดมินตันมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

สนามแบดมินตันที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา เป็นสนามแบดมินตันในร่มที่อยู่ใจกลางย่านรัชดา เดินทางง่าย สะดวกสบาย ตั้งอยู่ชั้น 5 ของศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา เปิดให้บริการ 10:00 - 24:00 น. ซึ่งไม่จำกัดจำนวนผู้เล่นต่อสนาม 

สำหรับอัตราค่าบริการสนามแบดมินตันที่ ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา ราคาในการเช่าชั่วโมงละ 100 บาทเท่านั้น ยิ่งชวนเพื่อนไปเยอะๆ หารเฉลี่ยกันแล้วก็ตกอยู่คนละไม่เท่าไร นอกจากได้ออกกำลังกายแล้ว ยังได้พบปะ กระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจอยากจะไปตีแบดมินตันกับเพื่อนๆ สามารถติดต่อได้ที่ Line: @thestreetratchada

กีฬาแบดมินตันนั้นได้รับความนิยม และมีการแพร่หลายไปทั่วโลก เพราะเป็นกีฬาที่มีความสนุกสนาน ที่สำคัญมีอุปกรณ์ และวิธีการเล่นที่ไม่ยุ่งยาก นอกจากเทคนิคในการรับลูก การเคลื่อนไหวเท้า และการใช้แรงตีลูกแล้ว การเสิร์ฟแบดมินตันเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้เล่นควรใส่ใจ เพราะการเสิร์ฟลูกที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มคะแนนในการแข่งขันได้ ที่สำคัญการจับลูกแบดมินตันก็จะควรจับอย่างถูกต้องด้วย เพื่อส่งเสริมให้การส่งลูกมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับใครที่กำลังหาสนามแบดมินตันเพื่อฝึกปรือฝีมือให้มีความชำนาญมากขึ้น หรืออยากจะออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง ที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Activity Center มีพื้นที่ออกกำลังกายสำหรับคนรักกีฬาแบดมินตันที่ The Street Arena โดยมีสนามแบดมินตันขนาดย่อม ไว้บริการจำนวน 1 สนาม ซึ่งเป็นพื้นที่ในร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก โล่งโปร่งสบาย ที่สำคัญมีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้บริการอย่างครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกาย และทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนหลังเลิกเรียน หรือเลิกงาน

การจับลูกขนไก่มีความสำคัญอย่างไร

ลูกขนไก่เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการเล่นแบดมินตัน ก่อนจะเสิร์ฟลูกให้ได้ดี จำเป็นที่จะต้องจับลูกแบดมินตันให้ถูกต้องก่อน เพราะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งลูกให้มากขึ้นได้ สำหรับรูปแบบในการจับลูกแบดมินตันที่เป็นที่นิยมนั้น มีด้วยกัน 3 ท่าหลักๆ มีดังนี้

การเสิร์ฟด้วยหน้ามือควรจับลูกขนไก่แบบใด

การจับแบบรูปถ้วยนี้จะนิยมใช้สำหรับการส่งลูกจากหน้ามือ โดยผู้เล่นจะใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้สำหรับการประคองลูกที่บริเวณปลายลูก ส่วนนิ้วกลางให้ใช้สำหรับประคองที่ส่วนก้านของลูกแบดมินตันวางไว้ตรงบริเวณเชือกเส้นบน การจับแบบนี้จะใช้นิ้วประคองทั้งหมด 3 นิ้วเท่านั้นลักษณะของมือแบบนี้จะเหมือนกับกำลังถือถ้วยนั้นเอง

การเสิร์ฟหรือการส่งลูกที่ถูกต้องคือข้อใด

1. ผู้เสิร์ฟยืนในเขตเสิร์ฟ หันหน้าเข้าหาตาข่าย 2. เท้าทั้งสองยืนแยกห่างกันพอสมควร ส้นเท้าหลังพ้นพื้น 3. ถ้าผู้เสิร์ฟถนัดมือขวา ให้ถือลูกบอลด้วยมือซ้าย หงายฝ่ามือขึ้นรองรับลูกบอล แขนเหยียดตึง อยู่ห่างล าตัวประมาณ 1 ฟุต เท้าซ้ายอยู่ข้างหน้า ส าหรับผู้เสิร์ฟถนัดมือซ้าย ให้ท าตรงกันข้ามกับผู้ที่ถนัด มือขวา (จังหวะที่ 1)

เทคนิคการส่งลูกมีอะไรบ้าง

ผู้ที่จะส่งลูกจะยืนห่างจากเส้นกลางสนามและเส้นส่งลูกสั้นประมาณ 2-3 นิ้ว(ในกรณีเล่นประเภทคู่) และยืนห่างเส้นส่งลูก สั้นประมาณ 2-3 ฟุต(ในกรณีเล่นประเภทคู่).
ยืนให้เท้าช้ายอยู่ข้างหน้าสำหรับผู้ที่ถนัดมือขวา ย่อเข่าเล็กน้อย เท้าทั้งสองข้างจะไม่ยกพ้นพื้นสนามเวลาส่งลูก.