ประวัติหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน

หลวงพ่อเงิน บางคลาน

ที่มา: 

ประตูสู่ธรรม ศูนย์พระดอทคอม

ประวัติหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน

หลวงพ่อเงิน (พุทฺธโชติ) หรือ พุทธโชติ วัดหิรัญญาราม บางคลาน วัดวังตะโก และวัดท้ายน้ำ จ.พิจิตร เป็นพระเกจิอาจารย์ ผู้เลื่องชื่อ ด้านไสยเวทเยี่ยมยอดที่สุดของเมืองพิจิตร และได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งอำเภอโพทะเลและเพชรน้ำเอกของจังหวัดพิจิตร

[แก้ไข] พระประวัติหลวงพ่อเงิน

หลวงพ่อเงินมีนามเดิมว่า เงิน (สมัยนั้นยังไม่มีนามสกุล) เกิดวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2353 ตรงกับวันศุกร์ เดือน 10 ปีฉลู บิดาชื่อ อู๋ เป็นชาวบ้านบางคลาน จ. พิจิตร มารดาชื่อ ฟัก ชาวอำเภอขาณุวรลักษณ์บุรี (เดิมเป็นอำเภอแสนตอ) จังหวัดกำแพงเพชร ท่านมีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันทั้งหมด 6 คน

คนที่ 1 ชื่อพรม ชาย คนที่ 2 ชื่อทับ หญิง คนที่ 3 ชื่อทอง(ขุนภุมรา) ชาย คนที่ 4 ชื่อเงิน(หลวงพ่อเงิน) คนที่ 5 ชื่อหล่ำ ชาย คนที่ 6 รอด หญิง

ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ได้ไปอยู่กับลุง ชื่อนายช่วง ที่กรุงเทพฯ และได้เข้าเรียนที่ บ้านตองปุ (วัดชนะสงคราม) จังหวัดพระนคร เมื่ออายุได้ 12 (พ.ศ. 2365) ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรได้ศึกษาธรรมวินัย เวทย์วิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน พออายุใกล้อุปสมบทท่านได้สึกจากสามเณรและหลังจาก ได้อุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดตองปุ (วัดชนะสงคราม) ได้ร่ำเรียนวิปัสสนาอยู่ 3 พรรษา แล้วมาอยู่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) ได้ 1 พรรษา ขณะนั้นหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์ให้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ท่านเป็นพระเรืองวิชา ชอบเล่นแร่ แปลธาตุ แต่หลวงพ่อเงินท่านเคร่ง ธรรมวินัย ชอบความสงบ ท่านจึงได้ย้ายไปอยู่หมู่บ้านวังตะโก ลึกเข้าไปทางลำน้ำเก่า

กล่าวกันว่า....เดิมที่ท่านจากวัดคงคารามไปแล้ว ก็มาปลูกกุฏิด้วยไม่ไผ่มุงหลังคาด้วยแฝกอยู่องค์เดียว และพร้อมกันนั้นได้นำกิ่งโพธิ์มาปักไว้ที่ริมตลิ่ง (หน้าพระอุโบสถ) แล้วอธิษฐานว่าถ้าท้องถิ่นนี้จะเจริญรุ่งเรืองเป็นอารามต่อไป ก็ขอให้โพธิ์ต้นนี้งอกงามแผ่กิ่งก้านสาขาเป็นนิมิตดีต่อไปด้วย และเหตุการณ์ก็เป็นจริงดังอธิษฐานไว้ ซึ่งต่อมาพื้นที่แถบนั้นก็ได้ปรากฏเป็น "วัดวังตะโก" เกิดขึ้น พระอารามแห่งนี้ "หลวงพ่อเงิน" ได้เป็นผู้สร้างไว้เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2377 ต่อมาวัดวังตะโก หรือวัดหิรัญญารามก็เจริญอย่างรวดเร็ว มีผู้คนเคารพนับถือและถวายตัวเป็นศิษย์ ขอมาฟังธรรม ขอเครื่องรางของขลัง และขอให้หลวงพ่อช่วยรักษาโรคให้ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์และสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณฝ่ายวิปัสสนา

"หลวงพ่อเงิน" นับเป็นพระเกจิอาจารย์ ผู้เลื่องชื่อ ด้านไสยเวทเยี่ยมยอดที่สุดของเมืองพิจิตร จนเมื่อมาอยู่วัดวังตะโกและได้พัฒนาวัดจนรุ่งเรือง เป็นที่รู้จักกันไปทั่วว่า หลวงพ่อเงินสามารถรู้ผู้มาเยือนด้วยญาณวิเศษได้อย่างมหัศจรรย์ และยังเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้านได้อย่างชะงัดอีกด้วย เคยมีผู้ไปลองดีกับท่าน ท่านก็แอ่นอกให้ยิง แต่กระสุนไม่ยอมออกจากลำกล้อง ความศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงอัจฉริยะของ "หลวงพ่อเงิน" บางคลาน นับว่าร่ำลือกันไปไกลมาก จนถึงขนาดเสด็จในกรม "กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์" ก็ยังเสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย

[แก้ไข] วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม

หลวงพ่อเงิน ท่านได้สร้างและปลูกเสกวัตถุมงคลเอาไว้หลายชนิดทั้งพระรูปหล่อ เหรียญหล่อ พระเนื้อดิน และตะกรุด ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และพระที่นิยมในวงการปัจจุบัน คือ รูปหล่อ และเหรียญหล่อ

รูปหล่อหลวงพ่อเงิน เป็นพระเนื้อโลหะผสมประเภททองเหลือง มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์นิยม และพิมพ์ขี้ตา สร้างเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2460 ส่วนเหรียญหล่อหรือเหรียญจอบมีทั้งพิมพ์จอบใหญ่และพิมพ์จอบเล็ก

[แก้ไข] พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา

วัตถุมงคลท่านเด่นทางด้าน เมตตามหานิยมและแคล้วคลาด

  • ขอขอบคุณข้อมูลจาก ประตูสู่ธรรม
  • www.geocities.com/Tokyo/Courtyard/9898/praprawatluangporngern.html
  • http://p.moohin.com/032.shtml
  • ศูนย์พระดอทคอม

หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ

วัดบางคลาน จ.พิจิตร

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน – “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” วัดบางคลาน จ.พิจิตร พระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองพิจิตร มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ

ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.ย.2353 บิดาชื่อนายอู๋ มารดาชื่อนางฟัก เป็นชาวบ้าน ต.บางคลาน จ.พิจิตร มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันทั้งหมด 6 คน

อายุ 3 ขวบ ไปอยู่กับลุง ชื่อนายช่วง ที่กรุงเทพฯ และเข้าเรียนที่บ้านตองปุ (วัดชนะสงคราม) จังหวัดพระนคร

เมื่ออายุ 12 ปี (พ.ศ.2365) บรรพชาศึกษาพระปริยัติธรรม อาคมวิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน

เมื่ออายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดชนะสงคราม ได้รับฉายา พุทธโชติ เรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ได้ 3 พรรษา และได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคม ตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระ จากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี วัดระฆังโฆสิตาราม

ต่อมา กลับไปจำพรรษาที่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) อ.บางคลาน จ.พิจิตร บ้านเดิมของท่านอยู่ได้ 1 พรรษา ก่อนย้ายไปอยู่หมู่บ้านวังตะโก ซึ่งลึกเข้าไปในทางลำน้ำแควพิจิตรเก่า โดยหักกิ่งโพธิ์ไปด้วย 3 กิ่ง และปักลงตรงบริเวณป่าตะโก อธิษฐานจิตว่า ถ้าได้มาสร้างวัด ณ สถานที่แห่งนี้ ถ้ามีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคตข้างหน้า ขอให้กิ่งโพธิ์ทั้ง 3 กิ่ง เจริญงอกงามตามไปด้วย

ปรากฏว่าเป็นไปตามคำอธิษฐานทุกประการ สร้างกุฏิ วิหาร อุโบสถและเสนาสนะภายในวัด จนสมบูรณ์ครบถ้วน

ต่อมาพื้นที่แถบนั้น ปรากฏเป็น “วัดวังตะโก” เกิดขึ้น พระอารามแห่งนี้ หลวงพ่อเงินเป็นผู้สร้างไว้เมื่อประมาณปี พ.ศ.2377 ต่อมา วัดวังตะโก หรือวัดหิรัญญาราม เจริญอย่างรวดเร็ว มีผู้คนเคารพนับถือและถวายตัวเป็นศิษย์ ขอเครื่องรางของขลัง และขอให้ช่วยรักษาโรคภัย

โดยเฉพาะพวกชาวเรือที่ขึ้นล่องไปมา ได้พากันมาจอดเรือที่หน้าวัดเป็นประจำ เพื่อขอพรและขออาบน้ำมนต์

นับเป็นพระเกจิอาจารย์ ผู้เลื่องชื่อด้านวิทยาคมแห่งเมืองพิจิตร สามารถรู้ผู้มาเยือนด้วยญาณวิเศษ และยังเป็นหมอเชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้านอีกด้วย

อิทธิปาฏิหาริย์ร่ำลือกันไปไกลมาก จนถึงขนาดเสด็จในกรม “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ยังเสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย

ผลงานที่สำคัญ ด้านการก่อสร้าง มักเป็นธุระในเรื่องการสร้างถาวรวัตถุ เป็นนักก่อสร้าง ควบคุมการก่อสร้างด้วยตนเอง รวบรวมปัจจัยจากการสร้างวัตถุมงคล เงินบริจาค สิ่งที่ท่านชอบสร้างอีกอย่างหนึ่งนอกจากโบสถ์ วิหาร ศาลา คือ ศาลาพักร้อน เพื่อคนสัญจรไปมา

ด้านการรักษาโรคด้วยวิชาแพทย์แผนโบราณนั้น เป็นหมอแผนโบราณ ทางด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยยาสมุนไพรหรือบางครั้งก็ใช้น้ำมนต์ ซึ่งก็ให้ผลในด้านกำลังใจ

อีกทั้งยังเป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงด้านวิปัสสนา เป็นศิษย์รุ่นเดียวกันกับหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ซึ่งได้แนะนำให้กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้มาเรียนวิชาทางวิปัสสนากับหลวงพ่อเงิน รวมทั้งสมเด็จพระสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ก็เสด็จมาประทับที่วัดวังตะโกอยู่หลายวัน เพื่อเรียนทางด้านวิปัสสนา

ด้านวัตถุมงคล ไม่นิยมสร้างพระเครื่อง ดังนั้น พระเครื่องรุ่นที่สร้างเมื่อครั้งหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่จึงมีน้อย

ประวัติหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน

สำหรับลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง อาทิ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง, หลวงพ่อน้อย วัดคงคาราม, พระปลัดชุ่ม วัดท้ายน้ำ, หลวงพ่อหอม วัดหลวง, หลวงพ่อนวล วัดหาดมูลกระบือ, หลวงพ่อฟุ้ง วัดปากน้ำ, หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย, หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวงพล, หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ เป็นต้น

กาลต่อมา หลวงพ่อเงิน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับสมณศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณ ฝ่ายวิปัสสนาจารย์

มีโรคประจำตัว คือโรคริดสีดวงทวาร รักษาตัวเองบางครั้งก็หาย บางครั้งก็กลับเป็นอีก

หลวงพ่อเงินเคยกล่าวปรารภว่า “คนอื่นร้อยพันรักษาให้หาย แต่ผงเข้าตาตัวเองกลับรักษาไม่ได้”

ท้ายที่สุดมรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคชรา เมื่อวันศุกร์เดือน 10 แรม 11 ค่ำ ปีมะแม เวลา 05.00 น. ตรงกับวันที่ 20 ก.ย.2462 ที่วัดวังตะโก อ.บางคลาน จ.พิจิตร

สิริอายุ 109 ปี

หลวงพ่อเงินวัดบางคลานมรณะปีอะไร

มรณภาพ 19 กันยายน พ.ศ. 2462. อายุ 111.

อาจารย์ของหลวงพ่อเงินคือใคร

เมื่อปี พ.ศ. 2356 หลวงพ่อเงิน อายุได้ 5 ขวบ นายช่วงซึ่งเป็นครูของท่าน ได้พา หลวงพ่อเงิน ไปอยู่กรุงเทพฯ จนกระทั่ง หลวงพ่อเงิน เติบโตเข้าศึกษาเล่าเรียนได้ จึงได้นำ หลวงพ่อเงิน ไปฝากไว้ที่วัดตองปู (วัดชนะสงคราม) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือที่วัดชนะสงครามตลอดมา จนหลวงพ่อเงินอายุได้ 12 ปีจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุครบบวช ...

รูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลานมีกี่พิมพ์

รูปหล่อพิมพ์นิยม หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน แบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ คือ 1.พิมพ์นิยม Aไม่มีมือรองนั่ง 2.พิมพ์นิยม B มีมือรองนั่ง (มือที่ประสานมีเส้นนูนรองอีกเส้นหนึ่ง) ซึ่งจุดพิจารณาของพิมพ์นิยมไม่มีมือรองนั่งด้านหน้าคือ 1. ศีรษะด้านบนกลมมน 2. เปลือกตายื่นออกมาเหมือนหมวกแก๊ป 3. เนื้อหน้าอกด้านขวามีกล้ามเนื้อนูนเต่งไม่แบนราบ 4. ...

วัดบางคลานหลวงพ่อเงินปิดกี่โมง

แชร์ทั้งหมด 0 ครั้ง.