ยา hista-oph กลไกการออกฤทธิ์

ยา hista-oph กลไกการออกฤทธิ์

ข้อมูลสุขภาพที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้

เข้าสู่ระบบ

ลงทะเบียน

  • โรค A-Z
  • ยา A-Z
  • การมีสุขภาพดี
  • ครอบครัว
  • ถามแพทย์

  • ตั้งครรภ์
  • ยาคุมกำเนิด
  • ประจำเดือนไม่มา
  • ประจำเดือนผิดปกติ
  • พิษสุนัขบ้า
  • สุขภาพเพศหญิง
  • ผิวหนัง

ยา hista-oph กลไกการออกฤทธิ์

ถามแพทย์

  • กลับไปที่ชุมชนถามตอบ

    สร้างคำถาม

    ตอบ

  • ยา hista-oph กลไกการออกฤทธิ์
     Wirapat

    สมาชิก

    Apr 13, 2022 at 06:56 PM

    ตามหัวข้อเลยครับมันมีผลข้างเคียงอะไรมั้ยหรือถ้าใช้เยอะเกินที่หมอสั่ง(เช่นหมอสั่งให้หยอด2หยดแต่ผลั้งมือไปหยอด3หยด)จะเป็นอันตรายมั้ย

    คำพูด

  • Share:

    ตอบ

    กลับไปที่ชุมชนถามตอบ

หัวข้อสนทนาล่าสุด

ต้องการถามแพทย์? หรือ อยากแบ่งปันประสบการณ์ของคุณ?

ถามแพทย์

  • ยา hista-oph กลไกการออกฤทธิ์

    ตกขาว ปวดท้องน้อยหน่วง ท้องไหม

    โดย Witchayaporn

    สวัสดีค่ะ พอดีมีปจดเดือนล่าสุดวันที่ 8 กย มีsex วันที่ 19 กย ป้องกันถุงยาง หลั่งข้างนอกค่ะ วันที่ 27 กันยา มีการหลั่งในแต่ป้องกันด้วยถุงยางอยู่ ทุกครั้งจะเอาถุงยางไปเช็คคือเอาไปใส่น้ำอะค่ะ ไม่มีการรั่ว

  • 1 ตอบ

    10 นาที

    คำตอบโดยแพทย์

  • ยา hista-oph กลไกการออกฤทธิ์

    มีเพศสัมพันธ์แต่เอาเข้าแค่หัว

    โดย laiaiskdksos

    สวัสดีครับคุณหมอ พอดีอยากสอบถามครับเมื่อวันที่7ที่ผ่านมามีอะไรกับแฟน ซึ่งเป็นวันแรกหลังจากหายเป็นประจำเดือนพอดีครับ มีสอดใส่แค่บริเวณหัวของอวัยวะเพศแต่ไม่ได้หลั่งข้างในครับ หลังจากนั้นเมื่อวันที่9แฟนไป

  • 1 ตอบ

    13 นาที

    คำตอบโดยแพทย์

  • มึนงง มึนหัว และ ประจำเดือนค่ะ

    โดย Chanita Wongkamtan

    1-มึนงง มึนหัว เกิดจะอะไรค่ะ ยังมึนๆหัวอยู่ค่ะ กินยาพาราแล้วค่ะ 2- ประจำเดือนไม่มาเป็นเดือนกันยายนแล้วค่ะ ตุลา มาค่ะ มาแล้วค่ะ เป็นวัน1 ตุลา เพราะอะไรค่ะ หมอ

  • 1 ตอบ

    33 นาที

    คำตอบโดยแพทย์

เพิ่มเติม

ยา hista-oph กลไกการออกฤทธิ์

หมวดหมู่บทความ

  • การมีสุขภาพดี
  • ครอบครัว
  • สุขภาพ

Pobpad

  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข
  • ความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา

ติดตามเรา

© 2022 Pobpad.com สงวนลิขสิทธิ์

  • 09Mar 17

ใช้ยาหยอดตาอย่างไร ให้ปลอดภัย

ยา hista-oph กลไกการออกฤทธิ์

การใช้ยาหยอดตาให้ปลอดภัย ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับยาหยอดตาที่ใช้บ่อย ซึ่งมี 3 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มยาสเตียรอยด์ ใช้เพื่อลดการอักเสบ ในกรณีที่ใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้ความดันตาสูงและเกิดเป็นต้อหินได้ จึงควรได้รับการตรวจวัดความดันตาอย่างสม่ำเสมอ และหากนำไปใช้หยอดผิดประเภท เช่น นำไปหยอดในผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ อาจทำให้การติดเชื้อแย่ลงได้ โดยเฉพาะเชื้อราและเชื้อเริม นอกจากนี้ยังทำให้การกำจัดเชื้อทำได้ยากขึ้นเช่นกัน

กลุ่มยาแก้แพ้ ยากลุ่มนี้ใช้เพื่อรักษาอาการภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา ลดอาการระคายเคือง ตาแดง ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรง จักษุแพทย์อาจให้หยอดสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบร่วมด้วย ในกรณีนี้ควรได้รับการวัดความดันตาอย่างสม่ำเสมอ

กลุ่มน้ำตาเทียม ใช้ในผู้ที่มีอาการตาแห้ง ระคายเคืองตา เป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัย เพียงแต่ผู้ใช้ควรต้องทราบก่อนว่าอาการตาแห้งมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด หากเป็นเพียงเล็กน้อย สามารถหยอดน้ำตาเทียมที่มีลักษณะเป็นขวดได้ น้ำตาเทียมแบบขวดจะผสมสารกันบูดไว้ด้วยและจะมีอายุหนึ่งเดือนหลังเปิดใช้ ไม่ควรใช้เกินวันละ 4 ครั้ง เพราะจะทำให้ผิวกระจกตาหลุดร่อนได้

โดยทั่วไปเมื่อมีอาการผิดปกติทางตา แนะนำให้ไปพบจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง แต่ในกรณีไม่สะดวกที่จะไปตรวจได้ และจำเป็นต้องใช้ยาหยอดตาก็ควรหลีกเลี่ยงยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบจักษุแพทย์พร้อมนำขวดยาที่ใช้ไปให้แพทย์ด้วย

หลังจากทราบถึงข้อบ่งชี้และข้อควรระวังของยาหยอดตาชนิดต่าง ๆ แล้ว ต่อไปควรทราบถึงข้อควรปฏิบัติและวิธีการหยอดยาอย่างถูกต้องกัน

1. เก็บรักษายาหยอดตา ยาแต่ละชนิดมีวิธีเก็บรักษาที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่สามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องได้ บางชนิดต้องเก็บในตู้เย็น ที่สำคัญอย่าลืมยาทิ้งไว้ในรถที่ตากแดด เพราะความร้อนจะทำให้ยาเสื่อมสภาพ

2. ก่อนใช้อ่านฉลากวันหมดอายุ พร้อมเขียนวันเปิดใช้ไว้ที่ฉลากข้างขวด เมื่อเปิดใช้ครบหนึ่งเดือน หรือ ตัวยามีการเปลี่ยนสีให้ทิ้งทันที เนื่องจากอาจเริ่มมีการปนเปื้อนของเชื้อ

3. ล้างมือให้สะอาด ถ้ารอบ ๆ ดวงตามีขี้ตาหรือเครื่องสำอางให้ใช้สำลีสะอาดชุบน้ำอุ่นเช็ดอย่างเบามือ ยาบางชนิดจำเป็นต้องเขย่าขวดก่อนหยอดเนื่องจากมีลักษณะเป็นยาน้ำแขวนตะกอน

4. หาที่นั่งที่มีพนักพิงหรือที่นอนที่สามารถแหงนหน้าขึ้นได้โดยไม่เสียการทรงตัว ใช้นิ้วดึงเปลือกตาล่างลงพร้อมกับหยอดยาลงในกระพุ้งตาล่าง 1-2 หยด ถ้าเป็นขี้ผึ้งป้ายตา บีบยายาวประมาณ 1 เซนติเมตร ให้ป้ายจากหัวตาไปหางตา โดยระวังไม่ให้ปลายหลอดยาสัมผัสกับตาหรือมือ เนื่องจากจะทำให้เชื้อสามารถเล็ดลอดเข้าไปปนเปื้อนยาหยอดตาได้

5. หลับตาไว้ 3 นาที ยาจะค่อย ๆ ถูกดูดซึมเข้าไป หากมียาหลายชนิดที่ต้องหยอดในเวลาเดียวกัน ควรรอให้ระยะเวลาหยอดตาห่างกันอย่างน้อย 10 นาที เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของยาทั้งสองชนิด เนื่องจากการหยอดยา 2 ชนิดในเวลาใกล้กันเกินไป ยาหยดที่ 2 จะไปทำให้ความเข้มข้นของยาหยดแรกลดลง จนอาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่

6. ยาบางชนิดหยอดแล้วอาจมีอาการขมคอ สามารถแก้ไขได้โดยการเอานิ้วกดบริเวณหัวตา การเอานิ้วกดตรงหัวตา นอกจากจะช่วยลดปริมาณยาไหลลงคอได้แล้วยังช่วยเพิ่มการออกฤทธิ์ที่ตาได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังลดอาการข้างเคียงต่อระบบอื่น ๆ ของร่างกายได้อีกด้วย

7. ยาหยอดส่วนที่เกินล้นออกมานอกตา ให้ใช้สำลีค่อย ๆ ซับออก อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะจะทำให้ผิวหนังรอบดวงตาเกิดการอักเสบได้.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Please follow and like us:

Hista OPH ใช้รักษาอะไร

Hista-Oph มีตัวยาสำคัญในการออกฤทธิ์ คือ Antazoline และ Tetrahydrozoline ซึ่งเป็นตัวยาแก้แพ้และตัวยาหดหลอดเลือด จึงมีข้อบ่งใช้ในการรักษาอาการตาแดงที่เกิดจากการแพ้ อาการระคายเคือง จากสาเหตุต่างๆ น้ำตาไหลเนื่องจากการแพ้หรือเยื่อบุตาขาวอักเสบ ขนาดใช้ยาโดยทั่วไป คือ หยอดตาวันละ 1-2 หยด ทุก 4-6 ชม. และสามารถหยุดใช้ยาได้เมื่อ ...

Hista

ยาหยอดตาฮีสตาออฟ/ฮีสตาออฟ (Hista oph) คือ ยาช่วยลดอาการระคายเคืองที่ตา (อ่านเพิ่มเติม ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง กายวิภาคและสรีรวิทยาของตา) ประกอบด้วยตัวยา 2 ชนิด คือยา Antazoline 0.05% และยา Tetrahydrozoline 0.04%

Poly OPH ช่วยอะไร

ยาหยอดตาโพลีออฟ (Poly-Oph) ขวด 10 มล. ราคาขวดละ 30-40 บาท. สรรพคุณ: ใช้แก้ตาอักเสบ มีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว. วิธีใช้: หยอดครั้งละ 1-2 หยด วันละ 3-4 ครั้ง. คำเตือน: ควรเปิดฝาให้แน่น, ระวังอย่าให้ถูกแสงแดด.

Flu OPHคือยาอะไร

ยาฟลูออโรเมโทโลนเป็นหนึ่งในรายการยาที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติของไทยโดยมีเงื่อนไขและข้อกำกับการใช้ยานี้ดังนี้ เพื่อใช้รักษาเยื่อตาอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อเช่น โรคภูมิแพ้ หรือการระคายเคืองตาจากการผ่าตัดตา