Show
การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ไม่ให้กลับมาเป็นซํ้าผู้สูงอายุบำรุงสมอง StrokeRehabilitation
สถิติผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)การมีสุขภาพดี ตามความหมายขององค์การอนามัยโลก คือการที่มีความสมบูรณ์ทางร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ โดยการป้องกันการเจ็บป่วย การวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องด้วยความรวดเร็ว การรักษาโรค การป้องกันการกลับเป็นซ้ำ และการฟื้นฟูความพิการที่ยังหลงเหลืออยู่ ปัจจุบันประชากรโลกมีอัตราส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ประเทศไทยก็เช่นกัน พบว่าประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรมีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งจัดว่าเป็นสังคมผู้สูงอายุ เมื่ออายุยืนยาวขึ้น จำนวนผู้ป่วยเรื้อรังและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งพาผู้อื่น ย่อมมีมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ของภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิต จากสถิติพบว่า ผู้ป่วยสโตรก 2 ใน 3 อาจจะเกิดความพิการไปตลอดชีวิต หากมาถึงโรงพยาบาลช้าเกินไป โรคหลอดเลือดสมอง คือภาวะหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือแตก จนไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ มีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น เมื่อมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคเครียด โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหัวใจ 4 อาการและสัญญาณเตือนของสโตรก (F.A.S.T.)
สัญญาณเตือนที่ควรรีบมาพบแพทย์หากมีอาการ เช่น
อาจเป็นภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว หรือ TIA (Transient Ischemic Attack ) ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดแดงอุดตัน จนเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ชั่วขณะ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคล้ายโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) แต่ต่างกันตรงที่ TIA มักไม่ทำให้สมองเกิดความเสียหายอย่างถาวร แต่ ภาวะนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนก่อนเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบตันได้ ดังนั้น หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ต้องรีบปรึกษาแพทย์ทันที ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)โรคหลอดเลือดสมองเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันไม่ได้ และปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันได้ ดังนี้
การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ
การรักษาโรคหลอดหลอดเลือดสมองที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดโรค ซึ่งการป้องกันไม่ให้เกิดโรคคือการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ลงให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในกรณีผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง การดูแลไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ รวมถึงฟื้นฟูภาวะอัมพฤกษ์อัมพาต ถือเป็นสิ่งสำคัญ การดูแลผู้ป่วยเรื้อรังที่ดูแลตัวเองไม่ได้นั้น ต้องอาศัยการร่วมมือกันระหว่างสถานพยาบาลและครอบครัว การดูแลที่ดีจะลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน ความพิการและการเสียชีวิต แต่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายให้ผู้ป่วยและครอบครัว การดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลมีความพร้อมและประสิทธิภาพดีกว่าการดูแลที่บ้าน แต่การดูแลผู้ป่วยที่บ้านสะดวกและประหยัดมากกว่า การให้ความรู้และการสนับสนุนผู้ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีขึ้น การใช้เทคโนโลยีทางการสื่อสารจะช่วยลดความแตกต่างระหว่างการดูแลที่บ้านและการรักษาภายในโรงพยาบาลได้ ผศ.นพ. พินิจ ลิ้มสุคนธ์ สาขาอายุรศาสตร์ สาขาประสาทวิทยา ดูประวัติ เส้นเลือดในสมองแตกควรรักษายังไงโรคหลอดเลือดสมองแตกหรือฉีกขาด (hemorrhagic stroke)
ในการรักษาโรคหลอดเลือดสมองชนิดที่มีเลือดออกในชั้นเยื่อหุ้มสมองจากหลอดเลือดสมองโป่งพองและแตก (subarachnoid hemorrhage from rupture aneurysm) ผู้ป่วยจะต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดทันทีที่นำส่งโรงพยาบาล เพื่อลดการแตกซ้ำของหลอดเลือดสมองที่โป่งพอง
เส้นเลือดในสมองแตกฟื้นกี่วันหลังผู้ป่วยกลุ่มโรคทางสมองผ่านช่วงวิกฤติ ระยะเวลาที่ได้ผลดีในการฟื้นฟูสมองและร่างกาย (Golden Period) คือ ไม่เกิน 3 – 6 เดือนแรกหลังเกิดภาวะหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก เพราะสมองสามารถฝึกและพัฒนาได้ดีที่สุด หากผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง สมองจะฟื้นตัวไวและสามารถแสดงศักยภาพที่เหลืออยู่ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามหากผ่าน 6 ...
เส้นเลือดในสมองแตกอันตรายไหม99,889. โรคหลอดเลือดสมองแตกเป็นโรคที่มักเกิดจากความเสื่อมของหลอดเลือดที่มาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ภาวะการตีบ ตัน และแตกได้ในที่สุด ส่งผลให้ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพราะอาจกลายเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาต ถือเป็นโรคร้ายอีกหนึ่งโรคที่ควรตระหนักโดยทั่วกัน ทั้งยังสามารถเกิดได้แบบฉับพลันโดยไม่ทันตั้งตัวอีกด้วย
เส้นเลือดในสมองตีบใช้เวลารักษานานไหมอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังเส้นเลือดในสมองแตก หรือตีบตัน ซึ่งสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ภายในเวลาหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรืออาจหลายปีให้หลัง ได้แก่
|