แฟน อยากมีอะไรด้วย

นอกจาก “แอบแซ่บ”, “มีแฟนแล้วแต่หาคนคุยอยู่”, “อยากมีแฟนแค่วันพิเศษ” และ “อยู่ดีๆ ก็หาย ไลน์ไม่ตอบ” ยังมีความสัมพันธ์แบบไหนอีกบ้างที่คุณอาจไม่รู้จัก ตามไปอัปเดตด่วนๆ ก่อนจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง!

แค่วิกฤติโควิด-19 ก็ทำให้โลกนี้ยุ่งเหยิงมากพอแล้ว แต่มนุษย์ยังไม่วายทำให้ความสัมพันธ์บางอย่าง ยิ่งทวีความซับซ้อนมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะแง่มุม “ความรัก” รูปแบบใหม่ๆ ในยุคนี้ ที่ทำเอาหลายคนต้องกุมขมับจากความไม่ชัดเจน

ถ้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ ‘คุยเท่าไหร่ก็ไม่ได้คบ’ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนมาอัปเดตว่า ความสัมพันธ์ที่คุณกำลังเจออยู่เป็นแบบไหน ตรงกับ 10 ข้อต่อไปนี้หรือไม่? ถ้าใช่.. รีบหนีไปให้ทัน ก่อนจะเสียเวลาไปมากกว่านี้!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

  • ต้อนรับวาเลนไทน์ "อกหัก" อย่างไร? ให้ชีวิตได้ไปต่อ 
  • "วาเลนไทน์นี้" ฝึกใช้ภาษาI แทนภาษา you ดูแลความสัมพันธ์ให้ Healthy 
  • กรมอนามัยแนะคู่รักตรวจ ATK ก่อนมีเซ็กซ์ ช่วงวาเลนไทน์

1. แอบแซ่บ (Stashing)

ความสัมพันธ์แบบ “แอบแซ่บ” เป็นสิ่งที่หนุ่มสาวยุคนี้นิยมกันมาก เริ่มต้นจาการพูดคุย ออกเดท ทานข้าวด้วยกัน ต่อด้วยการสานสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง แต่ทั้งหมดต้องเก็บเป็นความลับ ไม่เปิดตัวโจ่งครึ่มให้ใครรู้ ทำตัวประหนึ่งคนโสด ไม่มีแฟน ทั้งในที่โลกความเป็นจริงและโลกโซเชียลมีเดีย 

ทั้งนี้ การแอบแซ่บหากทั้งสองคนไม่ได้คบใครอยู่ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะผิดบาปอะไร แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายมีคนที่คบกันอยู่แล้ว ไม่ควรที่จะเอาตัวเองเข้ามาอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์แบบนี้

แฟน อยากมีอะไรด้วย

2. มีแฟนแล้ว แต่ก็หาคนคุยอยู่ (Cushioning)

ถัดมาที่ความสัมพันธ์แบบ “ฉันมีแฟนแล้ว แต่ก็หาคนคุยอยู่นะ” คนที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้คือคนที่มีแฟนจริงจัง เป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่ก็ยังแอบปัดทินเดอร์หาคนคุยใหม่ๆ แอบให้ใจคนอื่นด้วยบ้าง 

โดยเหตุผลหลักมาจากความคิดที่ว่า อยากเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอคนใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน หากว่าคลิกกันมากกว่าคนเก่า ก็จะหยุดเดินต่อกับคนเดิมแล้วเลี้ยวไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า

แฟน อยากมีอะไรด้วย

3. อยู่ดีๆ ก็หาย ไลน์ไม่ตอบ (Ghosting)

ความสัมพันธ์แบบที่ “คุยกันอยู่ดีๆ ก็หาย ไลน์ไม่ตอบ” คือสิ่งที่คนรุ่นใหม่ทำกันบ่อยมาก ถ้ารู้สึกเบื่ออีกฝ่ายก็จะหายเงียบไป ทำตัวไม่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง เหมือนกับว่าไม่มีตัวตน และจะไม่มีการอธิบายไว้ก่อนด้วยว่า จะหายไปไหน หายไปนานเท่าไร และจะกลับมาอีกหรือเปล่าก็ให้ความมั่นใจไม่ได้

แฟน อยากมีอะไรด้วย

4. แฟนกันแค่วันเดียว  (Cuffing season)

“อยากมีแฟนแค่วันพิเศษ” ไม่พูดถึงแง่มุมนี้คงไม่ได้ เพราะคนรุ่น Gen Z หลายคนกำลังอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้ ซึ่งมักจะเริ่มด้วยความรู้สึกเหงา ไม่อยากอยู่คนเดียว บางทีก็อยากมีแฟน แต่พอมีแฟนขึ้นมาจริงๆ ก็รู้สึกเบื่อ แต่ก็ยังอยากได้รับความรัก วนลูปไปมา

คนจำนวนหนึ่งเลยนิยมมีความสัมพันธ์แค่ช่วงวันสำคัญ เทศกาล หรือบางฤดูกาลเท่านั้น เช่น ช่วงวันวาเลนไทน์ คริสต์มาส ปีใหม่ ช่วงวันสิ้นปีในหน้าหนาว วันสงกรานต์ เป็นต้น และพอรู้สึกหายเหงาแล้ว ก็จบความสัมพันธ์นั้นไป

แฟน อยากมีอะไรด้วย

5. ไม่ตรงปก ใช้รูปแต่ง/ใช้รูปเก่า (Kittenfishing)

ความสัมพันธ์แบบ “ไม่ตรงปก” มาจากการเริ่มสานสัมพันธ์ผ่านการคุยทางแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างแอปฯ นัดเดทก่อน ซึ่งด่านแรกในการรู้จักกันก็คือการดูรูปโปรไฟล์ แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่ารูปนั้นคือตัวจริง หรือไม่ก็อาจเป็นรูปเก่าที่ดูดีกว่าปัจจุบัน ทำให้เดาได้ยากว่า ตัวจริงของอีกฝ่ายจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร

บางคนอาจเอารูปตัวเองในอดีตที่ยังดูดี ดูสวยหล่อ หรือรูปที่ผ่านการตุ๊ง (แต่งรูป) มาอย่างหนักหน่วง จนไม่เหลือเค้าโครงเดิม นำรูปสวยๆ หล่อๆ มาหลอกลวงและพูดคุยกับอีกฝ่าย

แฟน อยากมีอะไรด้วย

6.ใช้รูปคนอื่นคุย (Catfishing)

“การใช้รูปคนอื่นมาคุย” เป็นรูปแบบความสัมพันธ์ที่อยู่ในระดับแย่กว่าความสัมพันธ์แบบไม่ตรงปกเสียอีก แย่กว่าตรงที่ความสัมพันธ์ลักษณะนี้เกิดจากการเอารูปคนอื่นมาคุยหลอกลวงว่าเป็นตนเอง ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุผลความไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตน หรือจะทำเพื่อต้องการหลอกลวงเกี่ยวกับทรัพย์สิน ใดๆ ก็ตาม ความสัมพันธ์ลักษณะนี้เสี่ยงอันตรายกว่ามาก 

แฟน อยากมีอะไรด้วย

7. คุยเผื่อเลือก (Benching)

"คุยเผื่อเลือก" ถูกนิยามว่าเป็นความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายถูกปล่อยให้รอ ทำเหมือนเป็นตัวเลือก คุยด้วยเหมือนกำลังศึกษาดูใจ แต่ก็เดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย (เพราะคุยกับคนอื่นไปด้วย) ไม่ชัดเจน ไม่พร้อมเลือกใคร ยังไม่อยากมีแฟน (แต่ก็คุยกับหลายคน)

แฟน อยากมีอะไรด้วย

8. เช็คเรตติ้ง (Breadcrumbing)

มากันที่ความสัมพันธ์ “เช็คเรตติ้ง” พูดง่ายๆ ก็อาจเหมือนการเรียกร้องความสนใจของฝ่ายหนึ่ง ซึ่งคนนั้นมักจะทำดี พูดจาหว่านล้อม ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับความสนใจจากอีกฝ่ายด้วยการรุกอย่างหนัก โดยที่ผลปลายทาง ไม่ได้ต้องการที่จะสานสัมพันธ์แบบจริงจังด้วย แต่ที่ทำแบบนี้ก็เพราะต้องการทำให้ตนเองรู้สึกดีที่มีคนอื่นมาให้ความสนใจและเอาใจใส่ตนเองมากๆ 

แฟน อยากมีอะไรด้วย

9. ไม่เป็นตัวเอง (Eclipsing)

ความสัมพันธ์แบบ “ไม่เป็นตัวเอง” จะมีลักษณะสถานการณ์ที่ฝ่ายหนึ่งยอมทำทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงตนเอง ทำสิ่งที่ตนเองไม่ชอบหรือไม่ได้อยากทำ แต่ก็ยอมทำเพื่อให้อีกฝ่ายชอบ สนใจ หรือประทับใจอย่างฝืนๆ

แฟน อยากมีอะไรด้วย

10. ไม่มูฟออนจากคนเก่า (Orbiting)

ปิดท้ายกันด้วยความสัมพันธ์แบบ “ไม่มูฟออนจากคนเก่า” จะมีลักษณะที่ว่า แม้ทั้งสองฝ่ายจะเลิกกันไปแล้ว ฝ่ายหนึ่งทำใจเดินหน้าต่อไปได้ แต่อีกฝ่ายยังไม่สามารถทำใจได้ และต้องติดอยู่ในภวังค์เดิมๆ ยังตามส่องโซเชียลมีเดียของแฟนเก่า ตามกดไลค์กดแชร์ที่โปรไฟล์ของอีกคนอยู่ตลอดเวลา

ไม่ว่าจะเป็นความรักความสัมพันธ์รูปแบบใดก็ตาม หากคุณทั้งคู่สบายใจที่จะคบกันในรูปแบบนั้นๆ ก็คงไม่ผิดที่จะรักกันตามคำจำกัดความที่คุณพอใจ เพียงแต่ต้องระวังอย่าให้มีใครต้องเสียใจจากความสัมพันธ์ที่คุณเลือก

แฟน อยากมีอะไรด้วย

---------------------------------------------

อ้างอิง: The Manual, Merriam-Webster