หลายคำพูดที่พอเวลาเราพูดกับลูกออกไปไม่ได้มีความหมายอย่างที่พูดจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่เราโมโหลูก จะยิ่งเพิ่มความรุนแรงของคำพูดขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นพูดแรงเกินไป อาจทำให้เกิดการฝังใจกับลูกได้ Show
Parents One จึงขอเสนอ 10 คำพูด พูดแบบไหน กระชับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้รักกันแน่นขึ้น ไม่เพียงแต่พูดกับลูก แต่ควรใช้พูดกับคนในครอบครัวทุกคนด้วยค่ะ จะมีคำไหนบ้างที่คนฟังอยากจะได้ยิน แต่เรากลับไม่กล้าพูด และคุณพูดคำนั้นบ่อยแค่ไหน ไปดูกันเลยค่ะ 1. ขอบคุณมากนะที่คอยดูแลกันมาตลอด ช่วยกันเลี้ยงลูก ไม่ทิ้งกันไปไหนการพูดขอบคุณให้กับคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือสามี แม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ก็ช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกดี และมีกำลังใจที่จะประคับประครอบให้ครอบครัวมีแต่ความสุขแล้วล่ะค่ะ
2. วันนี้ทำงานมาเป็นไงบ้าง? เหนื่อยมากไหม? นั่งพักก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำนะแต่ละวันทุกคนต้องพบเจอกับอะไรหลายๆอย่าง ทั้งผู้คนที่มากมาย และยังมีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีก ทำให้บางวันคุณอาจจะเกิดความเครียดสะสม เมื่อก้าวเข้าบ้านแล้วได้ยินคำว่า “เหนื่อยไหม” เป็นคำแรก ก็ทำให้ยิ้มกว้างและสดชื่นขึ้นอีกเป็นกองเลยจ้า
3. ทำงานมาเหนื่อยๆ กินอะไรมารึยังหล่ะ?หลายๆครั้ง เมื่อกลับบ้านนอกจากความเครียด และการที่ต้องสู้รบกับสิ่งต่างๆ อย่างหนักหน่วงมาทั้งวันแล้ว ทั้งหิวและอ่อนล้าทั้งแรงกาย และแรงใจ หากเข้าบ้านแล้วมีคนถามว่า “กินอะไรมารึยังหล่ะ” หรือ “หิวไหม มีกับข้าวอยู่ที่ครัวนะ” คงรู้สึกดีไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ
4. ช่วงนี้ที่ทำงานเครียดหรอ สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลยนะบางครั้งเราอาจไม่ได้ทันสังเกต เพราะอาจมัวแต่โฟกัสไปที่เป้าหมายอย่างเดียว แต่คุณจะรู้ไหมนะว่า มีคนข้างๆ คอยส่งกำลังใจระหว่างการเดินทางครั้งนั้น และสังเกตคุณในทุกๆ วัน หากวันไหนสีหน้าคุณเริ่มอ่อนล้า และโรยรา เราควรถามเขาไปตรงๆ เพราะอาจะมีบางสิ่งที่เขาอยากเล่าให้แค่เฉพาะคุณฟังก็เป็นได้นะคะ
5. รักนะคะ / ครับคำว่า “รักนะ” อาจเป็นคำที่พูดออกมายากในหลายครอบครัว ถึงแม้การกระทำจะแสดงออกว่ารัก แต่การบอกให้ได้ยินชัดๆ ก็ช่วยให้คนข้างๆ ที่อยู่ด้วยกันมารู้สึกดีใจที่อย่างน้อยก็เป็นการย้ำว่ายังมีคนที่รักเรา ทำให้เรารู้สึกว่าตนเองมีคุณค่านั่นเองค่ะ
6. เก่งที่สุดเลยคนเนี่ยประโยคนี้ใครได้ยินก็ต้องอมยิ้มกันบ้างล่ะ เพราะเราจะพูดคำนี้เมื่อเราอยากหยอกล้อ และชื่นชมในสิ่งที่เขาทำนั่นเองค่ะ หลาย ๆ ครอบครัวอาจลืมกล่าวคำชมเชย เพราะเขินหรือไม่ก็กลัวอีกฝ่ายเหลิงจนประมาท แต่ในความจริงถ้อยคำชมเชยต่าง ๆ ถือเป็นพลังบวกที่เป็นแรงผลักให้อีกคนลงมือทำต่อไป เพราะต่อให้คนอื่นมาชื่นชมเรายืดยาวเพียงใดก็อาจไม่เท่ากับคนในบ้านเอ่ยชมเพียงคำเดียว
7. ไม่เป็นไรนะ วันหลังค่อยเริ่มใหม่ความผิดหวัง เกิดขึ้นกับทุกๆคน หากใครที่ยังไม่เคยได้รู้จักกับความผิดหวัง และความผิดพลาด แสดงว่าคุณยังไม่ได้เติบโต และได้เรียนรู้สิ่งที่ทั้ง 2 คอยสอนเรามาตลอดแน่นอนค่ะ ถ้าไม่รู้จักการเริ่มต้นใหม่ ก็ไม่มีทางที่เราจะได้เติบโต ฉะนั้น อย่ากลัวความผิดพลาด และให้กำลังใจตัวเอง รวมทั้งคนอื่นๆ ด้วยคำว่า “ไม่เป็นไรนะ วันหลังค่อยเริ่มใหม่” ก็ยังไม่สายนะคะ
8. สู้ๆ นะ คุณทำได้อยู่แล้วก่อนจะต้องเจอเรื่องที่ต้องให้แก้อีกมหาสาร จงให้กำลังใจตัวเอง และพูดให้กำลังคนอื่นมีพลังบวกด้วยคำนี้นั่นเอง คงจะดีไม่น้อย หากเขาได้ยินจากปากคนที่รักเขาจริงๆ นะคะ
9. ขอโทษนะที่เผลอพูดแรงๆ ออกไปบางครั้งเราก็เผลอพลั้งปากพูดโดยใช้คำพูดที่แรงๆ จนทำให้คนในครอบครัวเสียใจ ดังนั้นเราจึงพูดขอโทษให้ติดเป็นนิสัย และกล้าหาญที่จะพูดคำนั้นอออกมาค่ะ
10. มีอะไรให้ช่วยไหม? ถ้าช่วยได้ จะช่วยให้เต็มที่เลยหากสังเกตเห็นความผิดปกติของคนในบ้าน อาจโยนคำถามนี้เพื่อเป็นการถามไถ่เพื่อเปิดกว้างให้เกิดการแบ่งปันสิ่งที่กำลังเผชิญ แลกเปลี่ยน รับฟัง และหาทางออกร่วมกัน นอกจากนี้ยังสื่อว่ามีคนพร้อมจะอยู่ข้าง ๆ และให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ เพราะฉะนั้น ก่อนที่เราจะพูดอะไรออกไป ควรคิดไตร่ตรองให้ดีก่อน เพราะคนที่เขาฟังเขาไม่ได้ลืมเมื่อความโกรธของเรานั้นจบลงไป ดังเช่นประโยคที่ว่า “คําพูดเป็นนาย กายเป็นบ่าว” และเราควรระมัดระวังคำพูดมากๆ เมื่อพูดกับลูก เพราะถ้าเราพูดไม่ดีกับเขา อาจจะเกิดแผลเป็นในใจของเขาได้นะคะคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย |