เผยแพร่ครั้งแรก 20 พ.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 7 ต.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที Show สารเสพติดไม่ว่าจะเป็นยาบ้า เฮโรอีน ยาอี ยาไอซ์ นับเป็นสารให้โทษต่อร่างกาย ทั้งยังเป็นสารต้องห้ามทางกฎหมายอีกด้วย วิธีตรวจสารเสพติดในร่างกายตามมาตรฐานสากลมีหลายวิธี แต่ละวิธีมีการตรวจอย่างไร แม่นยำแค่ไหน เราจะอธิบายให้ทราบกัน รูปแบบการตรวจสารเสพติดวิธีการตรวจสารเสพติดมี 3 รูปแบบ ดังนี้ แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ ตรวจสารพิษ สารเสพติดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 285 บาท ลดสูงสุด 345 บาทจองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม! กด 1. การตรวจปัสสาวะการตรวจปัสสาวะเป็นวิธีพื้นฐานที่ดีที่สุดและเป็นที่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรมในระดับสากล สาเหตุที่ใช้วิธีการตรวจปัสสาวะ เนื่องจากเมื่อสารเสพติดเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะด้วยการกิน ฉีด สูบ หรือสูดดมควัน สารเสพติดเหล่านั้นจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและอยู่ในเลือดประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นจะถูกขับออกทางปัสสาวะและจะตกค้างอยู่ในปัสสาวะชั่วขณะหนึ่ง ระยะเวลาขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ ความถี่ ชนิดของสารเสพติด รวมทั้งสภาวะร่างกายของแต่ละคน
ขั้นตอนการตรวจสารเสพติดทางปัสสาวะ มีดังนี้ 1. การตรวจคัดกรองขั้นต้น (Screening Test) แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท กด เป็นการตรวจหาว่า มีสารเสพติดอยู่ในร่างกายหรือไม่ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชนิดใด วิธีการตรวจคัดกรองขั้นต้นมีอยู่ 2 หลักการ คือ
2. การตรวจยืนยัน (Confirmation Test) ใช้หลักการทางโครมาโตรกราฟฟี (Chromatography) ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจขั้นสูง สามารถตรวจพบสารเสพติดที่มีปริมาณน้อยได้และสามารถแยกชนิด ระบุประเภทของสารเสพติดได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ เป็นมาตรฐานสากล นิยมนำมาใช้ตรวจคัดกรองในผู้ต้องสงสัยและตรวจประเมินในผู้ที่ต้องการรับการบำบัดสารเสพติดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในรายที่ตรวจคัดกรองขั้นต้นแล้วพบว่า ผลเป็นบวก หรือมีข้อสงสัยว่า มีสารเสพติดในร่างกายจะต้องทำการตรวจยืนยันในขั้นต่อไป แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท กด 2. การตรวจสารเสพติดทางเส้นผม หรือเส้นขนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีความแม่นยำอย่างมากและเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในระดับสากล ข้อดีของการตรวจด้วยเส้นผม หรือเส้นขนคือ สามารถตรวจย้อนหลังได้ยาวนาน แยกประเภทของยาเสพติดที่ใช้ได้ และหาช่วงเวลาการใช้สารเสพติดได้ด้วย สาเหตุที่เส้นผม หรือเส้นขนสามารถนำมาตรวจสารเสพติดได้นั้น เป็นเพราะว่าเมื่อสารเสพติดเข้าสู่กระแสเลือด เลือดจะไหลเวียนไปทั่วร่างกายรวมทั้งเส้นผมและเส้นขนด้วย สารเสพติดเหล่านั้นจะเกาะอยู่ตามโคนเส้นผม หรือเส้นขนนั่นเอง โดยความยาวของเส้นผมที่ต่างกันสามารถตรวจสอบประวัติการเสพที่ต่างกันด้วย
นอกจากนี้วิธีตรวจสารเสพติดด้วยเส้นผมและเส้นขนยังรวดเร็วมากโดยใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็สามารถทราบผลโดยละเอียดได้ทันที ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทดลองและทำวิจัยจากกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนรวมถึงจากกลุ่มพนักงานประมาณ 400 ราย จากโรงงานแห่งหนึ่ง ผลจากการตรวจปัสสาวะพบผู้ที่มีการใช้สารเสพติดเพียง 1 รายเท่านั้น แต่เมื่อตรวจสารเสพติดจากเส้นผมกลับพบว่า มีผู้ใช้สารเสพติดถึง 40 ราย นับได้ว่า การตรวจจากเส้นผมนี้สามารถตรวจพบสารเสพติดได้ 100% 3. การตรวจด้วยชุดตรวจสารเสพติดสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางไปตรวจสารเสพติดตามโรงพยาบาล หรือคลินิก ปัจจุบันมีชุดตรวจสารเสพติดในร่างกายด้วยตัวเองเช่นกันโดยเป็นการตรวจโดยใช้ปัสสาวะ แต่การตรวจลักษณะนี้เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น บางครั้งหากมีปริมาณสารเสพติดน้อยมากก็ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยวิธีนี้ ดังนั้นหากต้องการความแม่นยำก็ควรตรวจที่โรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน อ่านต่อ: ชุดตรวจหาสารเสพติด มีกี่แบบ และต่างกันอย่างไร? ตรวจสารเสพติดได้ที่ไหน? ราคาเท่าไร?ผู้ที่ต้องการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำทั่วไป ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 250 บาท ขึ้นอยู่กับค่าบริการของแต่ละแห่ง การตรวจสารเสพติดไม่เพียงแต่เป็นขั้นตอนการตรวจสอบทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังนับเป็นจุดเริ่มต้นของการบำบัดผู้ติดสารเสพติดให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ มีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดี รวมทั้งสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อีกครั้ง เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสารเสพติด จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7 ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ |