พอกหน้าด้วยว่านหางจระเข้ต้องล้างออกไหม

พอกหน้าด้วยว่านหางจระเข้ต้องล้างออกไหม

มีการใช้ว่านหางจระเข้เป็นสรรพคุณทางยาและใช้ในการรักษามา …

มีการใช้ว่านหางจระเข้เป็นสรรพคุณทางยาและใช้ในการรักษามานานหลายศตวรรษ วุ้นที่อยู่ภายในใบถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ว่านหางจระเข้มีส่วนประกอบของวิตามิน เกลือแร่ กรดอะมิโน และสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำงานต่อผิวของคุณได้อย่างน่ามหัศจรรย์ คุณอาจจะประหลาดใจหากพบว่านหางจระเข้มีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพมากมาย

aloe-vera-gel-on-wooden-spoon

source: www.stylecraze.com

1. มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย

ว่านหางจระเข้มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่รู้จักกันในนามโพลีฟีน โพลีฟีนในว่านหางจระเข้สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบ

2. ช่วยเร่งการรักษาจากการเผาไหม้

ว่านหางจระเข้เป็นที่นิยมมากในการเลือกใช้ทำเป็นยาโดยเฉพาะ การรักษาแผล แผลที่ถูกเผาไหม้ รวมทั้งผิวไหม้จากแดด จากการศึกษาทดลองทั้ง 4  ครั้งพบว่าว่านหางจระเข้สามารถลดระยะเวลาในการรักษาแผลจากการเผาไหม้โดยใช้เวลาประมาณเก้าวันเท่านั้นเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยาธรรมดา

source: weheartit

3. ช่วยปกป้องริ้วรอย

มีงานวิจัยที่พบว่าบางคนได้ใช้เจลว่านหางจระเข้ทาผิวเพื่อชะลอการเกิดริ้วรอย ในการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไปจำนวน 30 คน พบว่าเจลว่านหางจระเข้แสดงถึงการเพิ่มการผลิตคอลลาเจนและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวในช่วงระยะเวลา 90 วัน

4. สามารถลดการเกิดสิวและลดรอยด่างดำ

เจลว่านหางจระเข้สามารถรักษาสิวและรอยแผลเป็นจากสิว คุณสมบัติของยาต้านจุลชีพจากว่านหางจระเข้ช่วยป้องกันการเกิดสิว  ลดรอยแดง และช่วยรักษาสิวอักเสบที่มีสาเหตุมาจากสิว

5. ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ

ว่านหางจระเข้สามารถนำมาใช้เป็นโลชั่นเพื่อให้ความชุ่มชื้นของผิวตามธรรมชาติในชีวิตประจำวัน ซึ่งมันจะช่วยทำความสะอาดผิวและทำให้ผิวนุ่มโดยที่ไม่อุดตันรูขุมขน ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพทั้งผู้ชายและผู้หญิง

shutterstock_260457242-1-e1461602966564

ฟื้นฟูผิวด้วยมาส์กว่านหางจระเข้

การใช้ว่านหางจระเข้ในแต่ละวันเพื่อบำรุงผิวจะทำให้ผิวของคุณมีสุขภาพดี ในขณะที่มันก็จะช่วยลดการอักเสบและรอยแดง ลองใช้ว่านหางจระเข้ทุกวันเพื่อให้ผิวของคุณรู้สึกสดชื่น

  • ล้างพืช ล้างใบว่านหางจระเข้เพื่อให้แน่ใจว่าใบสะอาดทั้งหมด
  • ทำใบให้นุ่ม – ค่อยๆ กดไปที่ใบให้นุ่ม
  • ตัดใบ – ตัดใบออกครึ่งหนึ่ง หรือให้มีขนาดเล็กโดยใช้เพียงเท่าที่คุณต้องการ
  • ตัดขอบ –  ตัดขอบของใบทั้งสองด้านเพื่อให้เจลด้านในหลุดลอกได้ง่ายขึ้น
  • เปิดใบ –  เปิดใบออกด้วยมือ ใช้ช้อนตักน้ำและตัววุ้นที่อยู่ในใบลงไปในชาม
  • ทาบนใบหน้าของคุณ –  ใช้มือของคุณทาน้ำและวุ้นที่อยู่ภายในใบว่านหางจระเข้ลงบนใบหน้าของคุณ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีหรือจนกว่าจะแห้ง
  • ล้าง ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  • เช็ดหน้า – ใช้ผ้าขนหนูสะอาดที่แห้งแล้วเช็ดใบหน้าของคุณ เพียงเท่านี้ผิวของคุณก็จะนุ่ม มีสุขภาพดี และสดชื่น!

 ว่านหางจระเข้ ...ทำอะไรได้บ้าง มาดูกันค่ะ!

ประโยชน์ด้านความงามจากเจลว่านหางจระเข้

1. ใช้ทาเพื่อลดอาการบวมแดงจากอาการอักเสบของผิว

2. สามารถทาใต้ตาเพื่อลดอาการบวม ลดอาการขอบตาคล้ำได้ด้วย

3. บำรุงผิวหน้า เพิ่มความชุ่มชื้นได้อยู่หมัด

4. เพื่อบรรเทาอาการแสบผิวหลังตากแดดเป็นเวลานาน

5. เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่านการยิงเลเซอร์ และมีรอยไหม้แดงบนใบหน้า จะทำให้บรรทาอาการลงและฟื้นตัวเร็วขึ้น

6. ผสมรองพื้นเพื่อลดความเข้มข้นของเนื้อผลิตภัฑณ์

7. ผสมสมุนไพรเพราะทำที่มาส์กหน้า

8. ใช้แทนแฮนด์ครีมบำรุงมือและเล็บได้สบายๆ สำหรับคนที่ไม่มีชอบความเหนอะหนะ

ประโยชน์ด้านความงามจากว่านหางจระเข้สด

1. บำรุงเส้นผมให้เงางามและช่วยขจัดรังแค ตัดใบสดมาทาลงบนเส้นผม หรือปั่นให้ละเอียดจะได้ใช้ง่ายขึ้น นำมาชโลมผมให้ทั่วเพื่อให้ผมสลวยเงางาม หากนวดบริเวณรากผมจะช่วยให้รากผมเย็นลง ช่วยบำรุงหนังศีรษะ รักษาแผลบนศีรษะ และขจัดรังแคได้ด้วย

2. รักษาสิวและรอยด่างดำ ประโยชน์ข้อนี้คนที่อยากหน้าใสตั้งใจอ่านให้ดี เพราะว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อ และมีกรดอ่อน ๆ ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ นำเนื้อวุ้นที่ล้างสะอาดทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ใช้เวลาสัก 1-2 เดือน จะเริ่มเห็นผลว่ารอยต่าง ๆ ดูจางลง

3. บำรุงผิวกาย เพียงแค่นำว่านหางจระเข้สด มาปอกเปลือกและล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้นนำไปใส่ไว้ในถุงผ้าก๊อซขนาดเล็ก แล้วนำไปหย่อนไว้ในอ่างอาบน้ำ หรือถ้าไม่มีถุงผ้าก๊อซ ให้นำวุ้นไปแช่ไว้ในอ่างอาบน้ำเลยก็ได้เหมือนกัน โดยระหว่างอาบน้ำให้ใช้เนื้อวุ้นถูตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เน้นที่รอยแห้งกร้านอย่างข้อศอก หัวเข่า ส้นเท้า เป็นต้น จะช่วยให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม และเต่งตึงขึ้น

4. เติมน้ำให้ผิว ความชุ่มชื้นในผิวหน้าและผิวกาย มักจะค่อย ๆ ลดลงตามวัย และไลฟ์สไตล์ของคุณ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตกันอยู่ในห้องแอร์จนผิวขาดความชุ่มชื้น หากนำเนื้อวุ้นจากว่านหางจระเข้มาพอกหน้าก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเติมน้ำให้ผิวของคุณได้ โดยล้างวุ้นให้สะอาด แล้วฝานบาง ๆ มาโปะให้ทั่วหน้า หลับตาพริ้มรอสัก 15 นาที ก็ไปล้างหน้าให้สะอาดได้ ผิวของคุณจะรู้สึกชุ่มชื้น เต่งตึงขึ้น หากจะใช้กับผิวกายให้ลองนำเนื้อไปปั่นหยาบ ๆ แล้วนำมาพอกตัว ก็ใช้ง่ายดีเหมือนกัน

ประโยชน์ภายใน จากการกิน

1. บรรเทาอาการปวดข้อ นำวุ้นว่านหางจระเข้ที่ล้างทำความสะอาดแล้วไปแช่ตู้เย็น และรับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวดตามข้อต่าง ๆ โดยสามารถใช้ได้ทั้งเนื้อวุ้น และน้ำวุ้น หากอยากให้รับประทานง่ายขึ้น สามารถนำไปปั่นเป็นน้ำว่านหางจระเข้ ก็ช่วยบรรเทาอาการได้เช่นกัน

2. ใช้เป็นยาถ่าย โดยเลือกตัดว่านหางจระเข้พันธุ์เฉพาะที่ใบใหญ่และมีน้ำยางสีเหลืองในปริมาณมาก อายุประมาณ 9 เดือนขึ้นไป รองน้ำยางที่ไหลออกมาจากใบ แล้วนำไปเคี่ยวให้ข้น เทลงในพิมพ์ขนาดเล็กให้แข็งเป็นก้อนรับประทานเป็นยาได้ ซึ่งเม็ดยาจะมีสีแดงอมน้ำตาลไปจนถึงดำ เรียกว่า ยาดำ แบ่งรับประทานครั้งละประมาณ 0.25 กรัม (250 มิลลิกรัม) จะเป็นขนาดที่เหมาะสมในการใช้เป็นยาถ่าย หากต้องการรับประทานแบบสด ๆ ก็สามารถทำได้ โดยการตัดวุ้นที่ล้างสะอาดแล้วออกเป็นขนาด 3-4 เซนติเมตร แบ่งรับประทานวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร

3. แก้กระเพาะอักเสบและลำไส้อักเสบ ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ นำวุ้นที่ได้ไปล้างให้สะอาด แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของทางเดินอาหารได้

4. ป้องกันโรคเบาหวาน ตัดเนื้อว่านหางจระเข้ความยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร นำไปรับประทานทุกวัน หรือจะปั่นเป็นน้ำว่านหางจระเข้ เพื่อรับประทานก็ได้ โดยอาการเบาหวานจะทุเลาลงสำหรับผู้ที่เป็นในระยะแรก ส่วนผู้ที่ต้องการรับประทานเพื่อป้องกัน สามารถรับประทานในปริมาณที่น้อยลงได้

5. แก้และป้องกันอาการเมารถ-เมาเรือ ท่านที่มีปัญหาในการเดินทาง เกิดอาการเมารถ-เมาเรืออยู่เป็นประจำ ให้ลองรับประทานเนื้อวุ้นจากว่านหางจระเข้ หรือน้ำว่านหางจระเข้ ก่อนออกเดินทางจะช่วยบรรเทาให้เกิดอาการดังกล่าวน้อยลงได้ แต่หากเกิดอาการเมารถ-เมาเรือขึ้นแล้ว ลองทานน้ำว่านหางจระเข้เย็น ๆ ให้ชื่นใจ แล้วนั่งพักสักครู่ จะรู้สึกดีขึ้น

ข้อควรระวัง กรณีใช้ว่านหางจระเข้สด

1. ทดสอบอาการแพ้ก่แนลองใช้เสมอ โดยการปอกเปลือกว่านหางจระเข้ออกแล้วนำน้ำที่ได้จากวุ้นสีขาวที่อยู่ภายในมาทาในบริเวณโคนหู หรือท้องแขน ทิ้งเอาไว้สักครู่ถ้าหากมีอาการระคายเคือง รวมไปถึงเกิดผื่นเม็ดแดงขึ้น แสดงว่าแพ้ว่านหางจระเข้ หากไม่มีอาการอะไรเกิดขึ้นก็สามารถที่จะนำว่านหางจระเข้ไปใช้ในการบำรุงผิวหน้าต่อไปได้ตามปกติ

2. คนที่มีสิวหัวหนองบนใบหน้าควรหลีกเลี่ยงการบำรุงโดยใช้ว่านหางจระเข้ เพราะว่านหางจระเข้จะทำให้สิวหายช้ามากกว่าปกติ