นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ วิกฤตหนักแน่ อีก4ปี คนเรียนครูจบใหม่ จะไม่มีอัตราว่างเพียงพอให้พวกเขา แล้วจะต้องมีคนจบสายครูกว่า2แสนคน แย่งอัตราว่างกัน กฤตหนักแน่ อีก4ปี คนเรียนครูจบใหม่ จะไม่มีอัตราว่างเพียงพอให้พวกเขา แล้วจะต้องมีคนจบสายครูกว่า2แสนคน แย่งอัตราว่างกัน อยากจะพิมพ์บทความแบบนี้มานานแล้ว เผื่อใครที่กำลังเรียนครูและคนที่กำลังเรียนจบสายครู ต้องเจอกับปัญหาอะไร แล้วต้องปฎิบัติตัวอย่างไร เพื่ออัพเกรดตัวเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงกับวิกฤตครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ ที่มันเริ่มบ่งชี้ชัดเจน เพื่อที่จบออกมา จะได้รับราชการครู อย่างที่ตัวเองตั้งเป้าหมายไว้ เมื่อก่อนแค่สอบติดบัญชียังไงก็ได้เรียกบรรจุภายใน2ปี จนหมดบัญชี แต่ปัจจุบัน อัตราว่างน้อยกว่า จำนวนคนสมัครสอบและน้อยกว่าจำนวนคนสอบติด มากๆ จึงเป็นที่มาของความท้อ ความเครียด ว่า สอบติดก็ยากแล้ว แต่จะให้เขาเรียกบรรจุมันทรมานยิ่งกว่า และหลังปี2566 จะเป็นปีแห่งครูวัยรุ่น มีครูสูงวัยน้อยลง แล้วอัตราเกษียณจะต่ำลงเรื่อยๆ รุ่นหลังๆจะมีโอกาสได้บรรจุครูน้อยลง แม้กระทั่งครูอัตราจ้าง ก็ยังยากเลย ที่มาของปัญหา - การรับนักศึกษา คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ของทุกมหาวิทยาลัย เกินอัตรา ในปี2545-2550 มีข่าวตีพิมพ์เรื่อง ครูขาดตลาด เพราะเงินเดือนครูน้อยกว่าทุกอาชีพ ทำให้มีคนเรียนครูน้อยมากและก็จบครูน้อยกว่าอัตราความต้องการของครูทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยชั้นนำ จะรับห้องละ40คน ซึ่งมหาวิทยาลัยนั้นรับได้เต็มจำนวน ในขณะที่มหาลัยราชภัฎต่างๆในช่วง2545-2550
บางแห่งมีคนเรียน เพียงสาขาละ 10-30คนเท่านั้นเอง บางสาขาไม่ถึง10คนเลย แล้วในปี2547นักศึกษาก็ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆอีกตั้งแต่เป็นหลักสูตร5ปี เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าเรียนนาน5ปีแต่จบมาได้เงินเดือนต่ำ แต่แล้วในช่วงปี2550-2552 มีการโปรโมทข่าวหนักมาก ว่าครูขาดตลาด ขณะที่ความต้องการมีสูงหลักหมื่นคน มีข่าวปรับอัตราเงินเดือนครู ให้สูงขึ้น ***ถ้าคิดตามทฤษฎี ถ้าตั้งแต่ ปลายปี2563 และ2564 -2565 มีเปิดสอบตามปกติทุกปี จะเห็นได้ชัด ตามสถิติด้านล่างนี้ที่ผมโพส จะเริ่มมีเกษียณน้อยลง ปีละ2000-4000คน และวิกฤตหนักจะเริ่ม ปี2566 ที่มีครูหมดเกษียณ ไม่ถึง20000คนแล้ว ซึ่งผมคิดตามอัตราส่วน ปี2566
จะมีคนสมัครสอบมากถึง2แสน4หมื่นคน เปิดสถิติเกษียณของแต่ละปีต่อไปนี้ ในช่วงสิ้นปีงบประมาณของทุกปี สรุปนะครับ วิธีแก้ปัญหา ส่วนคนที่กำลังเรียนครูอยู่ จะต้องทำอย่างไร เพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง บอกไว้ก่อนว่าถ้าสอบติด อาจจะไม่ได้บรรจุ ก็ได้ ทุกปีมีคนผิดหวัง เพราะคนสอบติดเยอะมาก แต่อัตราว่างยังน้อย ดังนั้นต้องอ่านหนังสือเยอะๆเพื่อที่จะได้มีคะแนนที่เหนือกว่าทุกคนที่ขึ้นบัญชี แล้วอีกปัจจัยการเลือกสาขาวิชา ก็มีผลกับการสอบบรรจุสูง หลังจากเขาเปิดให้คนที่ไม่ได้เรียนสายครู สามารถไปเรียนเพิ่มเติมใน ป บัณฑิต สามารถมาสอบบรรจุครูได้ ทำให้บางวิชาเอก มีอัตราการแข่งขันสูงมาก อัตราว่างเริ่มน้อยลง เช่นเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ที่มีบัณฑิต จากคณะวิทยาศาสตร์ มาสอบบรรจุด้วยเพียบเลย เอกสังคม ก็จะเจอ จากคณะสังคมศาสตร์ เอกคอม ยิ่งแย่เลย คอมพิวเตอร์ธุรกิจ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวะคอม มาดูกันว่า วิชาเอกไหน เป็นที่โอกาสได้บรรจุมากที่สุด ในช่วง1-3ปีที่ผ่านมาอันดับ อันดับ2 เอกภาษาไทย เป็นวิชาเอกที่มีคนจบมาเยอะ แต่ก็มีความต้องการสูงมากพอสมควร ในปี61 มีหมดบัญชีไปเป็นสิบจังหวัดแล้ว เอกนี้ไม่ว่าจะกี่ปี ก็ยังเป็นที่นิยม เมื่อเอกประถมศึกษา หมดบัญชี เอกภาษาไทยมักจะถูกเรียกไปบรรจุแทนเอกประถมศึกษา บัญชีสอบติดของปี61 จังหวัดใหญ่ๆติด100กว่าอัตรา แต่ได้บรรจุไปเกิน50คนแล้ว โอกาสสดใสมาก อันดับ3 เอกภาษาอังกฤษ เป็นวิชาเอกที่ต้องใช้ครูเอกภาษาอังกฤษโดยตรง ถ้าจะให้ครูเอกอื่นไปสอนแทน ในโรงเรียน คงจะหายากเพราะคนเก่งภาษาอังกฤษในปัจจุบันยังมีไม่มาก ไม่มีครูเอกวิชาอื่นสามารถสอนแทนได้ดีเท่า ครูเอกภาษาอังกฤษ และเป็นวิชาหลักด้วย แต่ละโรงเรียนใช้ครูวิชานี้หลายคน ถ้าโรงเรียนขนาคใหญ่ ใช้มากกว่า4คน อันดับ4 เอกคณิตศาสตร์ ถ้าเป็นมัธยม จะเป็นวิชาเอกที่ไม่มีครูวิชาเอกอื่นอยากมาสอนแทน โรงเรียนเคยถามในที่ประชุม ว่าใครสนใจมาสอนคณิตศาสตร์บ้าง เดี๋ยวปรับลดคาบสอนวิชาเอกที่สอนให้ ก็ยังไม่มีใครยกมือสักคน ปัจจุบันก็ยังเป็นที่ต้องการของโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนขยายโอกาส ป1-ม3 อันดับ5 เอกปฐมวัย แน่นอน ครูที่จะสอนเด็กวัยก่อนประถมศึกษา จะต้องเป็นปฐมวัยเท่านั้น วิชาเอกอื่นก็มาสอนแทนไม่ได้ ทำให้เป็นวิชาเอกที่มีความต้องการมากที่สุด อันดับ6 เอกพลศึกษา ถึงแม้จะไม่ได้เรียกบรรจุเยอะแบบ 5วิชาหลัก ที่บอกมาก่อนหน้านี้ แต่วิชาเอกนี้ มักจะมีอัตราการสอบแข่งขันไม่มาก แล้วก็มีความต้องการพอสมควร ส่วนมากจะขึ้นบัญชีไม่มาก บัญชีคนสอบติดเมื่อปี61 เห็นจังหวัดใหญ่ๆ ขึ้นบัญชีมากสุดก็40คน แต่ก็มีเรียกบรรจุเรื่อยๆทุกรอบ มีหลายจังหวัดหมดบัญชีไปแล้ว ซึ่งมีโอกาสไม่น้อยที่จะยืมบัญชีกันข้ามจังหวัด
โอกาสหมดบัญชีได้บรรจุ ก็ค่อนข้างสดใส ส่วนวิชาเอกชีวศึกษา ฟิสิกส์ เคมี ทัศนศิลป์ การบัญชี กลายเป็นวิชาเอกที่มี ขึ้นบัญชีแล้วได้ถูกเรียกบรรจุน้อยที่สุด เพราะจะบรรจุในโรงเรียนมัธยมเท่านั้นหลายๆจังหวัด มีโรงเรียนมัธยม แค่15-20 โรงเรียนเอง แล้ววิชาเอกเหล่านี้ ก็มีอัตราการเกษียณน้อยถึงน้อยมากๆ ขนาคเพื่อนผมติดฟิสิกส์อันดับ3 ยังรอมาปีกว่าแล้ว ไม่เรียกบรรจุสักที ข้อสอบก็ยาก สอบติดแต่ไม่ยอมเรียกบรรจุ ทรมานจริงๆ สำหรับรุ่นต่อไปที่จบมาแล้ว หรือกำลังเรียนอยู่ การอ่านหนังสือตำรา เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว บางคนอาจสอบหลายครั้ง ส่วนมากจะผิดหวังใน วิชาความสามารถทั่วไป เพราะมีคณิตศาสตร์ แก้โจทย์สมการ หรือการถอดรูด เจอตัวเลขเยอะแยะไปหมด สิ่งเหล่านี้สามารถไปศึกษาได้ อย่าท้อ สู้ต่อไปครับ ทำคะแนนให้สูงๆ สอบติดอันดับต้นๆย่อมดีกว่า อันดับท้ายๆ บทความจากเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เขียนโดยสมาชิกหมายเลข 4631505 TAGS ที่เกี่ยวข้อง >> |