สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน

วันนี้ ผมได้มีโอกาสเยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยและทั่วโลกและแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับประเด็นการพัฒนาประเทศจีนในปัจจุบันกับท่านทั้งหลาย ผมรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างสูง มหาวิทยาเขตที่สวยงามแห่งนี้ได้ผลิตบุคลากรที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก ทุกปีมีนักศึกษาจากประเทศไทยและจาก 70 กว่าประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศจีนที่เดินทางเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาเขตแห่งนี้ ซึ่งสะท้อนถึงคุณูปการที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้อุทิศให้กับสังคมไทยและโลกและอุทิศให้กับมิตรภาพจีน-ไทย ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความเคารพอย่างสูงต่อภราดา ดร. บัญชา แสงหิรัญ  อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ  รวมถึงคณาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ผมได้เป็นสักขีพยานเปิดตัว ศูนย์วิจัยร่วมชีววิทยาและเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่ที่ก่อตั้งโดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญและมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเทียนจิน ซึ่งเป็นความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญกับมหาวิทยาลัยประเทศจีน ผมขอถือโอกาสแสดงความยินดีและขออวยพรให้ความร่วมมือครั้งนี้มีส่วนส่งเสริมการวิจัยทางชีวการแพทย์ของไทยและจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนจีนและไทยและประชาชนทั่วโลก

1.เกี่ยวกับการพัฒนาของจีน

1.1สภาพแวดล้อมภายนอกที่ซับซ้อนและรุนแรงเมื่อประวัติศาสตร์ของมนุษย์ก้าวเข้าสู่ยุค  ทศวรรษที่ 3ของศตวรรษที่ 21 แนวโน้มทั่วไปของโลกยังคงเป็นการพัฒนาอย่างสันติ แต่ความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ ได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โรคระบาดโควิด-19ได้คุกคามสุขภาพและความปลอดภัยของผู้คนโดยตรง และมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่างๆ ทั่วโลก วิกฤตการณ์ในยูเครนและการคว่ำบาตรที่ไร้ขอบเขตจากบางประเทศ ได้ทำให้การขาดแคลนอาหารและพลังงานรุนแรงขึ้น ทำให้เศรษฐกิจโลกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด  จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกสูงถึง 583 ล้านคน เสียชีวิต 6.42ล้านคน วิกฤตการณ์ในยูเครนยืดเยื้อถึง 167 วัน และการสู้รบยังคงดำเนินต่อไป เสถียรภาพและความร่วมมือของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็เผชิญกับการแทรกแซงอย่างรุนแรงจากภูมิรัฐศาสตร์เช่นกัน

ห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั่วโลกไม่เป็นระเบียบ และราคาพลังงานและอาหารพุ่งสูงขึ้น ราคาน้ำมันเบรนท์จะเพิ่มขึ้น 53.6% ณ สิ้นปี 2564 เมื่อเทียบกับต้นปีและจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เมื่อเทียบปีต่อปี ดัชนีราคาอาหารที่เผยแพร่โดย FAO เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2564 และเพิ่มขึ้น23% ในเดือนมิถุนายนปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในเดือนพฤษภาคม ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้เป็น 2.9% จาก 4.1% ก่อนหน้านี้ การคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศในรายงานเดือนกรกฎาคมถูกปรับลดเป็น 3.2% จาก 3.6% ก่อนหน้านี้ ด้วยการเติบโตที่ซบเซาและราคาที่พุ่งสูงขึ้น หลายคนเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกได้เข้าสู่ช่วงที่ซบเซาและมีแนวโน้มว่าจะเกิดภาวะถดถอยที่รุนแรงขึ้น

ในสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดโควิดและสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน ทุกประเทศในโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรงมากมาย และแน่นอนว่าจีนก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน ไม่เพียงแต่จะไม่มีข้อยกเว้น เนื่องจากลักษณะเฉพาะของจีนเอง จีนจึงมีปัญหามากกว่าประเทศอื่นๆ ในหลายๆ ด้าน

งานป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดของจีนเป็นงานที่ยากที่สุด เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาที่มีความมั่นคงทางการแพทย์ต่อหัวอย่างจำกัด การรับประกันชีวิตอันมีค่าและสุขภาพของคนจีนทุกคนท่ามกลางการระบาดใหญ่ทั่วโลกจึงเป็นภารกิจที่ท้าทายที่จะต้องดำเนินการ แม้ว่าจีนได้จัดตั้งระบบประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานซึ่งครอบคลุม 95% ของประชากรทั้งหมด แต่ก็อยู่ในอันดับที่ 64 ในการจัดอันดับประเทศที่รายงานโดยองค์การอนามัยโลก แม้ว่าจีนจะฉีดวัคซีนไปแล้ว 3.4 พันล้านโดส ครอบคลุม 92% ของประชากรทั้งหมด แต่ก็ยังมีคน 112 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และ 31 ล้านคนที่อายุเกิน 60 ปียังไม่ได้รับวัคซีน

เศรษฐกิจของจีนเป็นระบบเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง และอาจกล่าวได้ว่าเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่ต้องเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรงของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก จีนเป็นผู้นำเข้าพลังงานและทรัพยากรรายใหญ่ที่สุดของโลก 72% ของปริมาณน้ำมันพึ่งพาตลาดต่างประเทศ และ19.4% อาหารต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ราคาน้ำมันและธัญพืชระหว่างประเทศที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจะสร้างแรงกดดันต่อการดำเนินการทางเศรษฐกิจของจีน จีนเป็นประเทศคู่ค้าด้านสินค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศต่างๆกว่า 130 ประเทศและภูมิภาคในโลก เสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั่วโลกยังเป็นประเด็นสำคัญสำหรับจีนอีกด้วย ในปี 2564 ดัชนีค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพื่อการส่งออก (CCFI) จะเพิ่มขึ้น 165.69% และทำให้ต้นทุนการนำเข้าและส่งออกของวิสาหกิจจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้ จีนยังเผชิญกับความท้าทายพิเศษอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ สหรัฐฯ ด้วยความทะเยอทะยานที่จะครองโลก อคติทางอุดมการณ์ การเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและความเย่อหยิ่ง จึงไม่สามารถทนต่อการพัฒนาของจีนต่อไปได้อีกและยังคงสร้างปัญหาให้กับจีนอย่างต่อเนื่อง สหรัฐฯ ได้เริ่มทำสงครามภาษีกับจีนตั้งแต่รัฐบาลของทรัมป์ ซึ่งจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นและตัวเขาเอง แต่ก็ยังไม่ถูกยกเลิกจนถึงขณะนี้ การใช้ความมั่นคงของชาติเป็นข้ออ้าง สหรัฐได้ตัดอุปทานของส่วนประกอบและปิดกั้นตลาดของบริษัทไฮเทคของจีน เพื่อรักษาการผูกขาดของบริษัทอเมริกัน สหรัฐอเมริกาได้ใช้อำนาจของรัฐบาลทั้งหมดในการกดดัน Huawei ซึ่งเป็นบริษัทที่เติบโตด้วยความพยายามอย่างไม่ย่อท้อและจัดหาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุด บริการที่ปลอดภัยที่สุดและมีคุณภาพสูงแก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก กรณีนี้ได้กลายเป็นกรณีที่ทำชาวโลกได้เห็นว่าสหรัฐฯ ละเลยกฎของระบบตลาดและขัดขวางระเบียบเศรษฐกิจด้วยวิธีการทางการเมือง การกระทำที่เกือบจะบ้าคลั่งเหล่านี้ของสหรัฐฯ ได้ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสหรัฐฯเอง และแน่นอนว่าเศรษฐกิจของจีนจะได้รับผลกระทบในระดับหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

1.2ความพยายามและความสำเร็จของจีนในการเผชิญกับความท้าทายและความยากลำบากต่าง ๆ พรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลจีนได้นำพาประชาชนจีนสร้างความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และปกป้องการพัฒนาและความมั่นคงของชาติอย่างเข้มแข็ง เราถือการประสานงานการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างสมดุลเป็นศูนย์กลางของการทำงานในปัจจุบันโดยกำหนดว่าการปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนเหนือสิ่งอื่นใดและเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโดยยึด เสถียรภาพเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเพื่อรับประกันเป้าหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ

ควบคุมโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้การบังคับบัญชาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประเทศจีนได้กำหนดนโยบายและมาตรการซึ่งรวมถึงการป้องกันโรคระบาดทางวิทยาศาสตร์ การดำเนินนโยบายที่แม่นยำ และโควิดต้องเป็นศูนย์แบบไดนามิกในการต่อต้านการแพร่ระบาดที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของโควิดภายใต้การนำของพรรคและรัฐบาล และด้วยการทำงานอย่างหนักของประชาชนทั่วประเทศ หลังจากการระบาดของโรคโควิดในต้นปี 2563 จีนได้ประสบความสำเร็จในการยับยั้งการแพร่ระบาดภายในหนึ่งเดือนและควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของแต่ละวันเป็นตัวเลขหลักหน่วยภายในสองเดือน และใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการบรรลุผลชี้ขาดในการป้องกันเมืองอู่ฮั่นและเข้าสู่ช่วงเวลาป้องกันและควบคุมปกติตามแนวความคิดที่ว่า ป้องกันการนำเข้าจากภายนอก เพื่อป้องกันการระบาดจากภายใน

จนถึงวันที่ 1 สิงหาคมนี้ประเทศจีน (ไม่รวมฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน) มีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว 227,030 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายและออกจากโรงพยาบาลรวม 220,685 ราย และเสียชีวิต 5,226 ราย อัตราการติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตยังคงต่ำที่สุดในโลก  ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดก็ต้องมีการสูญเสียมูลค่าบางอย่าง จีนใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์แบบไดนามิก และมาตรการที่เข้มงวดในบางสถานที่และบางช่วงเวลา การผลิตและการใช้ชีวิตจะต้องได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นี่คือความเจ็บปวดในบางส่วน แต่จะช่วยกำจัดโรคระบาดในพื้นที่ระบาดโดยเร็วที่สุดและยังช่วยป้องกันความปลอดภัยในการผลิตและการใช้ชีวิตตามปกติในพื้นที่อื่น ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่านโยบาย โควิดต้องเป็นศูนย์แบบไดนามิกของจีนสอดคล้องกับสถานการณ์จริงของจีน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศจีนในปัจจุบัน

พัฒนาเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกซบเซาและอัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไปทวีความรุนแรงขึ้น แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดงบดุลลง ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนอย่างมากต่อสถานการณ์ทางการเงินทั่วโลก ประเทศกำลังพัฒนาได้รับผลกระทบหนักเป็นพิเศษ

GDP ของจีนติบโต 2.3% ในปี 2563 ซึ่งเป็นประเทศเดียวในประเทศเศรษฐกิจหลักของโลกที่มีการเติบโตในเชิงบวก GDP ของจีนเติบโต 8.1% ในปี 2564 ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราเติบโตเร็วที่สุดในโลก ในปี 2565 คาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะอยู่ที่ 5.5% เศรษฐกิจขยายตัว 2.5% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ไตรมาสแรกขยายตัว 4.8% ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ดี ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน เกิดโรคระบาดหนักในจี๋หลิน เซี่ยงไฮ้ ฯลฯ และสภาพแวดล้อมภายนอกก็ซบเซาลงไปอีก กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนได้รับผลกระทบอย่างมาก ในเดือนเมษายน ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญลดลงอย่างหนัก อัตราการลดลงในเดือนพฤษภาคมเริ่มทรงตัวและดีขึ้นในเดือนมิถุนายน ในแง่ของมูลค่าเพิ่มของการผลิตภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ -2.9% ในเดือนเมษายน และเป็น 0.7% ในเดือนพฤษภาคม และ 3.9% ในเดือนมิถุนายน บางคนบอกว่าเศรษฐกิจจีนมีเส้นโค้งรูปตัวVที่ชัดเจนมากในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ สาเหตุของการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดอย่างรวดเร็วนั้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการตอบสนองที่ดีและมีประสิทธิภาพของรัฐบาลต่อการควบคุมสถานการณ์

จีนได้คาดการณ์ปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันไว้ล่วงหน้าแล้ว ในการประชุมงานเศรษฐกิจที่จัดขึ้นโดยคณะกรรมการส่วนกลางแห่งพรรคเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้เสนอนโยบายว่า เสถียรภาพต้องมาก่อนและก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเสถียรภาพเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนและความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ ในเดือนพฤษภาคมของปีนี้ สำนักนายกรัฐมนตรีจีนได้ออก นโยบายและมาตรการที่เป็นชุดมาตรการเพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทั้งหมดมี 33 รายการใน 6 ด้าน ได้มีการเพิ่มการคืนภาษีและการลดหย่อนภาษี 2.64 ล้านล้านหยวนตลอดทั้งปี รัฐบาลท้องถิ่นออกพันธบัตรพิเศษจำนวน 3.45 ล้านล้านหยวน และการค้ำประกันการระดมทุนของรัฐ 1 ล้านล้านหยวน มาตรการพัฒนาเศรษฐกิจเหล่านี้ได้รับการบูรณาการอย่างใกล้ชิดกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด เพื่อลดผลกระทบจากการป้องกันโรคระบาดต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และในขณะเดียวกันก็ลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อาจจะสร้างความเสี่ยงใหม่ให้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด

แนวโน้มที่ดีของการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวของจีนไม่เปลี่ยนแปลง เศรษฐกิจจีนเอาชนะความท้าทายหลายประการ และตัวชี้วัดหลักดีดตัวขึ้นอย่างรอบด้าน ในขั้นต่อไป สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศมีความซับซ้อนและรุนแรง สถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงไม่แน่นอน และการดำเนินการทางเศรษฐกิจยังต้องประสบความท้าทายและความยากลำบากมากมาย  อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของประเทศจีนมีสาขาอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ตลาดภายในประเทศขนาดใหญ่และมีศักยภาพสูง ด้วยการดำเนินการตามนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพเริ่มเห็นผล เป็นที่คาดกันว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวและเติบโตต่อไปอย่างมีเสถียราพ

การพัฒนาเศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่องได้อัดฉีดพลังบวกอันมีค่าเข้าสู่เศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ ปีที่แล้ว GDP รวมของจีนอยู่ที่ 17.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 18% ของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจของจีนมีส่วนทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโต 26.6% ตั้งแต่ปี 2549 จีนครองอันดับหนึ่งของโลกเป็นเวลา 15 ปีติดต่อกัน

เมื่อมองไปข้างหน้า จีนจะเดินตามเส้นทางของสังคมนิยมที่มีลักษณะแบบจีนและพัฒนาความทันสมัยอย่างรอบด้าน ปีที่แล้ว เราได้บรรลุเป้าหมายสังคมมีกินมีใช้อย่างรอบด้าน  และในขณะเดียวกันก็ขจัดความยากจนโดยสิ้นเชิงในทุกวิถีทาง ประสบความก้าวหน้าและความสำเร็จทางประวัติศาสตร์ เป้าหมายต่อไปของเราคือการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างรอบด้านภายในกลางศตวรรษนี้ ซึ่งจะเป็นการครบรอบ 100 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และจะบรรลุเป้าหมายที่ทำให้ความฝันของจีนในการฟื้นฟูความเจริญครั้งใหญ่ของประชาชาติจีนกลายเป็นจริง  ด้วยเหตุนี้ เราจะยึดมั่นในแนวคิดการพัฒนาด้วยนวัตกรรม การสมดุล ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเปิดกว้างและการแบ่งปัน และเร่งการสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่โดยมีการหมุนเวียนภายในประเทศเป็นพลังหลักและหมุนเวียนคู่ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่มีคุณภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของประชาชน

2.ความสัมพันธ์จีน-ไทย

สร้างประชาคมแห่งอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-ไทย เมื่อต้นเดือนกรกาคม นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐจีนและรัฐมนตรีต่างประเทศจีนเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ได้เยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย พบปะหารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันสร้างประชาคมแห่งอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-ไทยที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนเพื่อเป็นการเพิ่มความหมายแห่งยุคใหม่แก่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยดังคำกล่าวที่ว่า "จีน-ไทยพี่น้องกัน"

ประเทศจีนและประเทศไทยเชื่อมต่อกันด้วยภูเขาและแม่น้ำที่มีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันและสายเลือดที่ใกล้ชิดกัน ภายใต้สถานการณ์ใหม่นี้ จีนและไทยกำลังเผชิญกับโอกาสในการพัฒนาร่วมกันและในขณะเดียวกันเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายร่วมกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภายใต้การชี้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้นำของทั้งสองประเทศและด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย จีนและไทยสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางการเมืองให้ลึกซึ้งยิงขึ้น และขยายความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ในการเผชิญกับความท้าทายของโรคระบาด เราช่วยเหลือซึ่งกันและกันและเอาชนะความยากลำบากร่วมกัน ได้พิสูจน์ความสัมพันธ์พิเศษของการร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยข้อเท็จจริงในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด ไทยแสดงความห่วงใยและมอบเวชภัณฑ์ให้แก่จีนเป็นประเทศแรก ๆและจีนเป็นประเทศแรกที่จัดหาวัคซีนให้ไทยรวมทั้งหมด 50.85 ล้านโดส กล่าวได้ว่าจีนมีบทบาทสำคัญในการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19ในประชาชนชาวไทย ปีที่แล้วปริมาณการค้าระหว่างจีนและไทยอยู่ที่ 131 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 33% และการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปยังจีนมีมูลค่า 11.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 52.4%ซึ่งถือว่าเป็นการสนับสนุนสำคัญสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ในขณะนี้ ความร่วมมือระหว่างจีนและไทยมีโอกาสอยู่หลายประการ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอย่างรอบด้าน (RCEP) มีผลบังคับใช้แล้ว และเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนกำลังพิจารณาเวอร์ชันอัพเกรด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถไฟจีน-ลาวเปิดใช้อย่างเป็นทางการ และรถไฟจีน-ไทยอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จะก่อให้เกิดเส้นทางรถไฟผ่านคาบสมุทรอินโดจีน มองไปข้างหน้าถึงอนาคต ด้วยความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการเชื่อมต่อกันจีนและไทยจะผนึกกำลังพัฒนาทางเศรษฐกิจมากขึ้น การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนนับวันจะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น จีนและไทยจะมีชะตาร่วมกันและจะแบ่งปันความมั่งคั่งร่วมกัน

3.เกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ

โลกทุกวันนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบ ศตวรรษ สำหรับอำนาจระหว่างประเทศนั้น ตะวันออกกำลังขึ้น ตะวันตกกำลังลงพลังแห่งการพัฒนาอย่างสันติกำลังเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม วิญญาณของสงครามเย็นยังตามหลอกหลอนยุโรปและเอเชียสองทวีป และโลกไม่สงบสุข โลกจะไปทางไหน? สันติภาพหรือสงคราม? เติบโตหรือเสื่อมถอย? เปิดกว้างหรือปิดกั้น? ความร่วมมือหรือการเผชิญหน้า? คำถามของยุคสมัยได้อยู่ตรงหน้าเรา

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนำคณะผู้แทนเยือนไต้หวันและประกาศต่อสาธารณชนว่าสหรัฐฯ จะพัฒนาความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ไต้หวันอย่างจริงจัง และปกป้องไต้หวันโดยไม่คำนึงถึงการคัดค้านซ้ำแล้วซ้ำอีกของจีน ไต้หวันเป็นดินแดนของจีนตั้งแต่สมัยโบราณตั้งแต่ประวัติศาสตร์ไปจนถึงมติของสหประชาชาติจนถึงความจริงที่ว่า 181 ประเทศทั่วโลกรวมถึงสหรัฐอเมริกายอมรับหลักการ จีนเดียวไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของจีน และประเด็นไต้หวันคือกิจการภายในของจีน นี่เป็นข้อเท็จจริงที่มีความชัดเจนมากที่สุด ด้านหนึ่ง สหรัฐฯยอมรับว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และในทางกลับกัน สหรัฐฯ ก็อ้างว่าต้องการปกป้องความมั่นคงของไต้หวัน ซึ่งเป็นตรรกะที่ไร้สาระและเอาแต่ใจตัวเอง โดยพื้นฐานแล้ว สหรัฐฯกำลังยุยงและสนับสนุนพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไต้หวันให้แยกตัวออกจากจีนเป็นเอกราช เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ที่ชั่วร้ายในการ ใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือเพื่อสกัดกั้นจีนซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายร้ายแรงต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน และเป็นการทรยศต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของสหรัฐฯเองและการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานพื้นฐานที่กำกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้น แน่นอนว่าจีนต้องตอบโต้อย่างแข็งขัน เราดำเนินการฝึกซ้อมทหารในน่านน้ำใกล้ไต้หวันเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายเพื่อต่อต้านการยั่วยุของสหรัฐฯและเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน และเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายต่อต้านสหรัฐฯ ที่เหยียบย่ำอธิปไตยของประเทศอื่นๆ และเป็นการกระทำเพื่อรักษาสันติภาพและความสงบสุขในภูมิภาค สหรัฐฯได้ทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งามด้วยตเอง และตอนนี้โจรกำลังเรียกร้องให้จับโจร โดยปล่อยข่าวลือว่าจีนจะพยายามเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ในช่องแคบไต้หวันและส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในภูมิภาค อันที่จริง การยุยงให้ทางการไต้หวันแสวงหาเอกราชและแบ่งแยกอธิปไตยอาณาเขตของจีนเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่อย่างแท้จริงสหรัฐฯเป็นประเทศก่อเรื่อง สร้างวิกฤติ และยกระดับสถานการณ์ตึงเครียด สหรัฐฯ ได้เปิดสงครามไปทั่วโลก สร้างความปั่นป่วนและวิกฤตในหลายภูมิภาค ละเมิดกฎหมายและบรรทัดฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อรักษาอำนาจของตนไว้ และทำให้ประชาชนนับไม่ถ้วนเสียชีวิต สหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นผู้ก่อปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่เราตั้งอยู่ได้รักษาสถานการณ์สันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาอย่างรวดเร็วมาเป็นเวลานาน และได้จัดตั้งกลไกความร่วมมือระดับภูมิภาคโดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายและข้อพิพาททั่วโลกที่ไม่รู้จบ เอเชียตะวันออกถูกเรียกว่าเป็นโอเอซิสแห่งการพัฒนาอย่างสันติ สถานการณ์ในเอเชียตะวันออกกำลังเผชิญกับตัวแปรต่างๆ เช่นกัน ความคิดของสงครามเย็นและการเผชิญหน้าของกลุ่มอำนาจทำลายความสามัคคีในเอเชียตะวันออก บ่อนทำลายความร่วมมือในเอเชียตะวันออก และคุกคามเสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาคอย่างรุนแรง เราจะต้องระมัดระวังอย่างมากต่อแนวโน้มที่เป็นอันตรายนี้ ร่วมกันทะนุถนอมและรักษาสถานการณ์การพัฒนาอย่างสันติที่ได้รับมาอย่างยากลำบาก และต้องไม่ปล่อยให้โอเอซิสในเอเชียตะวันออกกลายเป็นภูมิภาคใหม่ของความวุ่นวายในโลก

เริ่มตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ จีน กัมพูชา อินโดนีเซีย และไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำ BRICS การประชุมผู้นำความร่วมมือในเอเชียตะวันออก การประชุมสุดยอดผู้นำ G20 และการประชุมเอเปกอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการระหว่างประเทศเข้าสู่ ช่วงเวลาแห่งเอเชียประชาคมโลกคาดหวังว่าเอเชียจะแสดงบทบาทเป็นผู้นำ

จีนยึดมั่นในแนวทางการพัฒนาอย่างสันติและมุ่งมั่นที่จะสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้ว ฯพณฯสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เสนอความคิดริเริ่มเพื่อการพัฒนาระดับโลก สนับสนุนการยึดมั่นในการให้ความสำคัญกับการพัฒนา เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ครอบคลุมและสร้างสรรค์ ในการประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวBoao Forum for Asiaเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้เสนอความคิดริเริ่มด้านความมั่นคงระดับโลก โดยอาศัยข้อเท็จจริงที่ว่ามนุษย์เป็นประชาคมความมั่นคงที่แบ่งแยกไม่ได้ และสนับสนุนให้ทุกประเทศในโลกร่วมกันแสวงหาการรักษาความปลอดภัยมั่นคงรูปแบบใหม่ที่มีการเจรจากันมากกว่าการเผชิญหน้า การเป็นหุ้นส่วนมากกว่าการเป็นพันธมิตร และชนะด้วยกัน มากกว่าผลรวมเป็นศูนย์ นี่เป็นภูมิปัญญา และวิธีแก้ปัญหาของจีนที่ผู้นำจีนนำเสนอเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ร้ายแรงต่อการพัฒนาและความมั่นคงของโลก ซึ่งเป็นที่ชื่นชมได้รับการตอบรับจากประเทศส่วนใหญ่ในโลก

เราจะยึดมั่นในจิตวิญญาณของการเคารพซึ่งกันและกัน การปรึกษาหารือที่เท่าเทียมกัน การเจรจาและความร่วมมือ และเอื้อผลประโยชน์ร่วมกันและผลลัพธ์ที่ได้ทั้งสองฝ่าย ยึดมั่นในฉันทามติทางการเมืองของประเทศแถบเอเชียในการจัดการกิจการระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค  เราควรใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาและบทบาทของเอเชีย ส่งเสียงของคนเอเชียไปยังทั่วโลก เพื่อรักษาแนวโน้มของสันติภาพและการพัฒนาของโลก และป้องกันการคิดแบบเกมผลรวมเป็นศูนย์ และป้องกันไม่ให้การเมืองแบบอำนาจนิยมพาโลกและภูมิภาคไปสู่สถานการณ์อันตราย นี่คือผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประเทศในเอเชียร่วมสมัยและยังเป็นภารกิจทางประวัติศาสตร์ของประเทศในเอเชียร่วมสมัยอีกด้วย

เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดสำหรับการพัฒนาโลก และอารยธรรมเอเชียตะวันออกเป็นพลังงานเชิงบวกที่จำเป็นที่สุดสำหรับความก้าวหน้าของโลก เยาวชนคืออนาคตและความหวัง ผมมีความเชื่อมั่นและหวังว่านักศึกษาจะประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียนและมีส่วนร่วมในการสร้างคุณูปการต่อเอเชียและโลก