เปรียบเทียบ garmin แต่ละรุ่น

กำลังมองหานาฬิกา Garmin สำหรับใส่ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่ง หรืออยากจะใส่เพื่อตรวจเช็คสุขภาพ ซึ่งก็มีหลายรุ่นออกมาให้เลือกมากมายเสียเหลือเกิน ทำให้เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว แล้วเราจะเลือกนาฬิกา Garmin รุ่นไหนดี ในบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์การ์มิน และแนวทางในการเลือกซื้อแบบง่าย ๆ ครับ

• วิธีการเลือกซื้อนาฬิกา Garmin
• ตารางเปรียบเทียบรีวิว “สมาร์ทวอทช์ Garmin” รุ่นไหนดี
  • 1. Garmin Vivosmart 4
  • 2. Garmin Forerunner 55
  • 3. Garmin LEGACY SAGA และ LEGACY HERO
  • 4. Garmin Venu 2
  • 5. Garmin Forerunner 245 Music
  • 6. Garmin Venu Sq
  • 7. Garmin Instinct
  • 8. Garmin Lily
  • 9. Garmin Vivofit 4
  • 10. Garmin Fenix 6

สำหรับผู้เริ่มต้น ที่เน้นราคาไม่แพง ไม่ได้ใช้งานอะไรมาก ต้องการความสามารถขั้นพื้นฐาน ดูจำนวนก้าวเดิน ดูแคลลอรี่ วัดการเต้นของหัวใจ วัดออกซิเจน หรือแจ้งเตือนแล้วละก็ Vivosmart 4 ดูจะน่าสนใจมากเลย มีทุกฟังก์ขั่นที่ต้องการอย่างครบครันเลยทีเดียวครับ

สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ต้องการความสวยงาม อาจจะลองดู Garmin Venu 2 หรือ Venu SQ ที่ดูเรียบง่ายเข้ากันได้กับเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ หรือใครที่ชื่นชอบ Starwars Avenger ก็จะมีซีรีย์ Legacy มาให้แฟน ๆ ได้เลือกสวมใส่กัน และสุดท้ายกับคุณผู้หญิงที่ต้องการนาฬิกาที่ดูแฟชั่นขึ้นมาอีกสักหน่อย เราขอแนะนำนาฬิกาการ์มิน Lily ที่คุณผู้หญิงน่าจะชื่นชอบกันครับ

สำหรับผู้รักการออกกำลังกาย จะเริ่มเลือกลำบากขึ้นมานิดหนึ่งเพราะตัวเลือกเยอะเหลือเกินมีตั้งแต่ราคาเบา ๆ อย่าง Garmin Forerunner 55 ที่มากับฟังก์ชั่นการออกกำลังกายขั้นพื้นฐาน ขยับขึ้นมาเป็น Forerunner 245 ที่บางสำนักรีวิว ถึงกับใช้คำว่า Gold Standard สำหรับเซ็นเซอร์ GPS และ Heart Rate ทำได้แม่นยำเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ หรือถ้างบไม่อั้นแล้ว อยากจะจัดรุ่นท๊อปอย่าง Fenix 6 ก็ตามสบายเลย คุณจะได้รุ่นที่พรีเมี่ยมสุดตามราคาเลยครับ

ตารางเปรียบเทียบรีวิว “สมาร์ทวอทช์ Garmin” รุ่นไหนดี

สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูเตาอบไฟฟ้าแบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, จุดเด่น, วัสดุ, ความสามารถในการกันน้ำ และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ

1. Garmin Vivosmart 4

ราคาโดยประมาณ 3,880 บาท

รุ่นนี้สามารถสวมใส่ติดข้อมือไว้ได้ตลอดการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเลย สำหรับ Garmin Vivosmart 4 ด้วยขนาดที่เล็ก, บาง และเบา เพียง 1.5 x 1 x 19.7 เซนติเมตร กับน้ำหนัก 16.5 กรัม จึงไม่เป็นอุปสรรคสำหรับกิจกรรมที่ต้องแอคทีฟ กันน้ำได้ระดับ Swim หรือ 5 ATM ทนทานแรงดันที่เทียบเท่าความลึก 50 เมตร จะละอองน้ำหรือฝนก็จิ๊บ ๆ เพราะรุ่นนี้กันได้ไกลถึงระดับว่ายน้ำด้วยครับ

หน้าจอสัมผัส OLED ความละเอียด 48 x 128 พิกเซล ขนาด 6.6 x 17.7 มิลลิเมตร เลนส์พลาสติกโพลีคาร์บอเนต ล้อมด้วยกรอบอลูมิเนียมอีกที ส่วนสายเป็นซิลิโคน ในส่วนของรูปลักษณ์ไม่ได้แตกต่างจากสมาร์ทวอทช์ทรงสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพตามท้องตลาด เรียกว่าเป็นไปตามมาตรฐาน แต่อัดแน่นด้วยเครื่องมือตรวจสุขภาพและการออกกำลังกาย อย่างวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, จับเวลาการหายใจเพื่อประเมินความเครียดตลอดทั้งวัน หรือแม้แต่การตรวจวัดขั้นสูงอย่างระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดก็ทำได้ ราคาอยู่ในหลักพันกลาง ๆ ไม่ได้สูงมาก ถือว่าคุ้มค่าอยู่ครับ

2. Garmin Forerunner 55

ราคาโดยประมาณ 6,790 บาท

หากจะใช้สมาร์ทวอทช์เรือนนี้ให้เต็มประสิทธิภาพ ให้คุ้มค่าคุ้มราคาหลักพันกลาง ๆ แล้วล่ะก็ แนะนำสำหรับนักวิ่ง ไม่ว่าจะมืออาชีพ หรือเป็นมือใหม่ยิ่งเหมาะเลย เพราะ Garmin Forerunner 55 รุ่นนี้จะช่วยในการเริ่มต้นเส้นทางนักวิ่งให้กับคุณได้ ด้วยคุณสมบัติแนะนำการฝึกซ้อมและการวิ่งอย่างละเอียด โดยอิงตามประวัติการฝึก, ความฟิตของร่างกาย และเวลาในการฟื้นตัว เพื่อช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการวิ่ง รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์ในวันแข่งขัน ให้คำแนะนำการก้าวโดยอิงตาม GPS เส้นทางและระยะทาง ด้วยเทคโนโลยี PACEPRO™ โอ้โฮ จริงจังสุด ๆ ไปเลยครับ

และยังทำได้มากกว่าการเป็นตัวช่วยในเรื่องของการวิ่งด้วย โดยจะเฝ้าติดตามสุขภาพ รวมไปถึงความสมบูรณ์ของร่างกายโดยรวม ไม่ว่าจะความเครียด, ระดับพลังงานของร่างกาย (Body Battery) เพื่อหาช่วงเวลาที่ร่างกายพร้อมที่สุดในการทำกิจกรรมต่าง ๆ , ประเมินอายุสุขภาพ, การหายใจ หรือแม้กระทั่งการติดตามสุขภาพแบบผู้หญิง ๆ อย่างรอบเดือนกับการตั้งครรภ์ก็ทำได้ด้วย ถือเป็นนาฬิกาเพื่อสุขภาพอย่างแท้ทรู ที่สายวิ่ง สายเวิร์คเอาท์ ควรมีติดข้อมือไว้ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

3. Garmin LEGACY SAGA และ LEGACY HERO

ราคาโดยประมาณ 8,990 – 9,990 บาท

Garmin Legacy เอาใจสาวก สตาร์ วอร์ส และอเวนเจอร์ส ด้วยการนำรูปลักษณ์ของ 4 ตัวละครดังจากทั้ง 2 จักรวาล มาถ่ายทอดลงบนสมาร์ทวอทช์การ์มินทั้ง 4 รุ่น Darth Vader™ โดดเด่นด้วยสีแดง-ดำ กับกรอบหน้าปัดสีหินชนวนที่ได้แรงบันดาลใจจากตัวร้ายผู้โด่งดังคนนี้, Rey™ ให้อิมเมจเด็กสาวผู้ทรงพลังด้วยกรอบหน้าปัดสีเงิน ใช้สายสีขาวที่สื่อถึงอัศวินเจได รวมไปถึงไลท์เซเบอร์ที่มาในรูปแบบเข็มนาที, First Avenger เก็บรายละเอียดของกัปตันอเมริกาได้อย่างครบถ้วน ทั้งตัวเรือนสีน้ำเงินเฉดเดียวกับบอดี้สูท ตัดกับเฟรมสีเงินที่สื่อถึงโล่ของเขา แล้วคุมโทนด้วยสายหนังสีน้ำตาล ให้ฟีลสุภาพบุรุษสุดอบอุ่นตามแบบฉบับของมิสเตอร์สตีฟ โรเจอร์ ผู้นี้ครับ

และ Captain Marvel ทั้งตัวเรือนและสายมาในสีน้ำเงินบอดี้สูทของกัปตันหญิง โดดเด่นด้วยเฟรมสีทองส่องประกายราวกับสีผมของเธอ ทั้ง 4 รุ่น มาใน 2 ไซส์ คือ 40 มิลลิเมตร จะเป็น Rey™ กับ Captain Marvel และ 45 มิลลิเมตร ในรุ่น Darth Vader™ กับ First Avenger นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์แล้ว ตัววัสดุก็ระดับพรีเมี่ยม กรอบเป็นสแตนเลสสตีลอย่างดี ตัวเรือนผลิตจากโพลิเมอร์เสริมไฟเบอร์ พร้อมฝาครอบด้านหลังที่ทำจากโพลิเมอร์เช่นกัน สายหนังสวยหรู แถมมีสายซิลิโคนเพิ่มมาให้เปลี่ยนบรรยากาศได้อีกด้วยครับ

4. Garmin Venu 2

ราคาโดยประมาณ 13,690 บาท

เพราะมีคอนเซ็ปต์ที่ใส่ใจผู้ใช้งาน ว่าเมื่อมีสุขภาพที่ดี ชีวิตก็ดีขึ้น นาฬิกาการ์มิน Venu 2 จึงจัดเต็มคุณสมบัติในการติดตามสุขภาพและร่างกายของผู้สวมใส่ ตั้งแต่อัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ หรือแม้กระทั่งความเครียด, ติดตามระดับพลังงานของร่างกาย (Body Battery) เพื่อหาช่วงเวลาที่ร่างกายพร้อมที่สุดในการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงเวลาที่ร่างกายควรได้รับการพักผ่อน ไม่เพียงเท่านี้ ยังลงลึกถึงการวิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ด้วยเซนเซอร์ Pulse Ox3 เพื่อดูว่าร่างกายดูดซึมออกซิเจนได้ดีแค่ไหนด้วยครับ

ใน Venu 2 นี้ มีฟังก์ชันที่รับรองว่า Workoutaholic ต้องเลิฟมาก ๆ คือจะมีภาพเคลื่อนไหวท่าทางการออกกำลังกายบนหน้าจอ ทั้งคาร์ดิโอ, โยคะ, พิลาทีส, HIIT หรือจะดาวน์โหลดเพิ่มจากแอป Garmin Connect ก็ได้ ข้อดีของมันคือเราสามารถทำตามภาพเคลื่อนไหวเหล่านั้นได้เลย เหมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัวตามติดไปด้วยทุกที่ทุกเวลา อยากเวิร์คเอาท์ที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ตามใจสุด ๆ แล้วยิ่งถ้าเป็น Shopaholic ด้วยนะ ฟินเลย ไปออกกำลังกายทีไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์ให้ยุ่งยากก็สามารถชอปปิงได้ผ่าน Garmin Pay ที่แค่มีนาฬิกาอัจฉริยะนี้ ก็เหมือนพก Visa® หรือ MasterCard® แล้วล่ะครับ

5. Garmin Forerunner 245 Music

ราคาโดยประมาณ 13,990 บาท

เสียงเพลง เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยสำหรับนักวิ่งหลาย ๆ คน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลในการวิ่ง การวัดที่แม่นยำของเซ็นเซอร์ โดยเฉพาะกับมืออาชีพถือว่าสำคัญมาก ๆ Garmin Forerunner 245 Music จึงเป็นการรวม การวิ่ง⏐ข้อมูล⏐เสียงเพลง ไว้ในสมาร์ทวอทช์เรือนเดียวเรือนนี้ คุณจึงมีหน้าที่แค่วิ่ง ที่เหลือมันจะคิดให้คุณเอง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเพลงโปรดที่สามารถซิงค์กับเพลย์ลิสต์ Spotify® ของคุณ, ประเมินสถานะการฝึกวิ่ง น้อยไป? มากไป? พร้อมตรวจสอบสมรรถภาพอื่น ๆ อีกมากมาย ให้คุณได้โฟกัสแค่กับการวิ่ง ส่วนนาฬิกาจะศึกษาความเป็นตัวคุณ แล้วช่วยคำนวณค่าต่าง ๆ ที่เหมาะสมให้กับคุณเองครับ

คุณสมบัติโดดเด่น ส่วนรูปลักษณ์ก็โดนใจ โดยเฉพาะ Japan Edition ที่เลือกใช้สีขาว-แดงตามธงชาติประเทศญี่ปุ่น สายด้านบนสีขาว ตัดกับสายด้านล่างที่เป็นสีแดง คั่นกลางด้วยตัวเรือนโพลิเมอร์สีดำด้าน ลงตัวแบบสุด ๆ พร้อมภาพบนหน้าปัดที่สื่อถึงอัตลักษณ์อย่างดวงอาทิตย์สีแดงฉาน กับภูเขาไฟฟูจิ ใครที่หลงใหลในดินแดนอาทิตย์อุทัยไม่น่าพลาดที่จะจับจองเป็นเจ้าของ ส่วนใครที่ไม่ได้อิน แต่ชอบฟังก์ชันของรุ่นนี้ ก็ยังมีให้เลือกอีกถึง 3 สี สี Aqua ฟ้าน้ำทะเล, สี Black ดำ และสี Lava Red แดงครับ

6. Garmin Venu Sq

ราคาโดยประมาณ 6,790 – 8,990 บาท

เพราะชีวิตจะขาดสีสันและเสียงเพลงไปไม่ได้ GARMIN Venu Sq ตอบโจทย์คนที่รักสุขภาพ และต้องการความสนุกรื่นรมย์ควบคู่กันไป ด้วยหน้าจอ LCD สีสันสดใส รวมทั้งตัวเรือนที่มีหลายสีให้เลือก ดาวน์โหลดเพลงที่ชอบไว้ฟังได้ตลอดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน รวมไปถึงฟังเพลย์ลิสต์จากทั้ง Spotify®, Deezer หรือ Amazon Music ก็ได้ พร้อมคุณสมบัติติดตามสุขภาพที่จัดให้เต็มร้อย ไม่ว่าจะเป็น Body Battery ตรวจวัดระดับพลังงานร่างกาย, เซนเซอร์ Pulse Ox2 วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด, การติดตามความเครียด รอบเดือน การดื่มน้ำ การหายใจ การนอน ฯลฯ เรียกว่าเหมือนมีผู้ช่วยคอยติดตามข้อมูลสุขภาพให้ตลอด 24 ชั่วโมง กันไปเลยครับ

ส่วนของการออกกำลังกายก็สะดวกมาก ทั้งช่วยวางแผนออกกำลังกายจากแอปต่าง ๆ หรือจะสร้างแพลนด้วยตัวเองก็ได้ นอกจากนี้ยังเป็นโค้ชวิ่งประจำตัวให้ด้วย ไม่ว่าจะวิ่ง 5 กิโลเมตร, 10 กิโลเมตร หรือฮาล์ฟมาราธอนก็ได้หมด สำหรับฟังก์ชันการใช้ชีวิตประจำวัน ก็มีทั้งการเตือนข้อความ อีเมล, ดูแลไปถึงเรื่องความปลอดภัยให้คุณส่งตำแหน่งที่อยู่ไปยังคนรู้จักได้, มีระบบ Garmin Pay ชำระเงินแบบ Contactless, แบตเตอรี่ชาร์จหนึ่งครั้งใช้งานได้ 6 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ และใช้ได้ 6 ชั่วโมงในโหมด GPS หรือฟังเพลง, กันน้ำได้ 50 เมตร ว่ายน้ำ อาบน้ำ เข้าสปาได้สบายหายห่วงเลยครับ

7. Garmin Instinct

ราคาโดยประมาณ 10,350 บาท

หากใครเป็นขาลุยสไตล์ Army มากองรวมกันตรงนี้เลย เพราะการ์มิน Instinct คือสมาร์ทวอทช์ที่สร้างขึ้นตามมาตรฐานทางทหารของสหรัฐอเมริกา MIL-STD-810G ทนความร้อน ทนการกระแทก กันน้ำและทนต่อแรงดันของน้ำได้เทียบเท่าระดับน้ำลึก 100 เมตรเลยทีเดียว ลืมภาพสมาร์ทวอชหน้าตาแบบล้ำ ๆ ไปก่อน เพราะดีไซน์เขามาอย่างเท่แบบทหาร แต่ก็ไม่ทิ้งฟังก์ชันเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกาย ที่ยังดูแลคุณได้ดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือจะไปเดินป่าปีนเขาที่ไหนก็สบาย เพราะมีเข็มทิศ, เครื่องวัดความสูงจากระดับน้ำทะเล รองระบบดาวเทียมนำทางทั้ง GPS, GLONASS และ Galileo ช่วยให้การบันทึกเส้นทางการออกกำลังกาย แม่นยำมากกว่าที่จะใช้แค่ GPS เพียงอย่างเดียวครับ 

นอกจากนี้ก็มีฟังก์ชัน TracBack® สำหรับนำทางจากเส้นทางเดิมไปยังจุดเริ่มต้น สามารถใช้เว็บและแอป Garmin Explore ในการวางแผนการเดินทางได้ และอย่างที่บอกว่าในส่วนคุณสมบัติหลัก ไม่ว่าจะเป็นการติดตามข้อมูลสุขภาพต่าง ๆ อัตราการเต้นของหัวใจ, การติดตามความเครียด, แอปกีฬา มีให้หมด รวมถึงการแจ้งเตือนข้อความและอีเมล์ นอกจากนี้ยังสามารถจับคู่กับอุปกรณ์ติดตามสุนัขเพื่อรับการแจ้งเตือนได้อีกด้วย แบตเตอรี่ก็ถือว่าอึดมาก ชาร์จหนึ่งครั้งใช้งานได้นาน 14 วัน ในโหมดสมาร์ทวอทช์ 16 ชั่วโมง ในโหมด GPS และนานถึง 40 ชั่วโมงหากใช้โหมดประหยัดพลังงาน UltraTrac™ ใครชอบความแข็งแรงทนทานเลือกรุ่นนี้ไปใช้ไม่ผิดหวังแน่ครับ

8. Garmin Lily

ราคาโดยประมาณ 6,790 – 8,490 บาท

ความคลาสสิกก็เป็นสไตล์ที่หลายคนชื่นชอบ สมาร์ทวอทช์ GARMIN รุ่น Lily ตัวนี้เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่ทำออกมาในขนาดกะทัดรัด ตัวเรือนไซส์ 34 มิลลิเมตร ดีไซน์คลาสสิกร่วมสมัย โดดเด่นด้วยตัวเลนส์ลวดลายกราฟิกที่ให้ความรู้สึกแบบโมโนแกรม มีหลายสีหลายลายให้เลือกตามชอบ แค่แตะหรือพลิกข้อมือตัวหน้าจอสัมผัสก็จะสว่างขึ้นทันที ถึงจะกะทัดรัดแต่คุณสมบัติก็ครบ ทั้ง Body Battery ตรวจวัดค่าพลังงาน อัตราการเต้นของหัวใจ การติดตามความเครียด, การหายใจ, ภาวะขาดน้ำ, รอบเดือนและการตั้งครรภ์, การนอน รวมทั้งมีเซนเซอร์ Pulse Ox4 ช่วยวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดด้วยครับ

สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อรับการแจ้งเตือนต่าง ๆ การส่งพิกัดที่อยู่เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เช็คปฏิทินดูตารางนัดหมายส่วนตัว และยังมีระบบ Morning Report สรุปรายงานการติดตามข้อมูล รวมไปถึงการพยากรณ์อากาศ และกิจกรรมประจำวัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเตรียมพร้อมชีวิตตัวเองในแต่ละวันได้อย่างรวดเร็ว ส่วนอื่น ๆ อย่างแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ 5 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ และกันน้ำได้ 50 เมตรด้วย สำหรับคนรักความคลาสสิกแล้ว ถือว่าโอเคทั้งดีไซน์และการใช้งาน ดูจากรีวิวแล้วจะถูกใจสาว ๆ ค่อนข้างมากเลยครับ

9. Garmin Vivofit 4

ราคาโดยประมาณ 3,290 บาท

ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตหมด แบตเสื่อม ไม่ต้องพกสายชาร์จติดตัวให้วุ่นวาย สำหรับสมาร์ทวอทช์ GARMIN รุ่น vivofit 4 ที่ใช้แบตเตอรี่ถ่านกระดุมและมีอายุการใช้งานนานถึง 1 ปี ใส่ติดตัวได้ตลอดทั้งวัน กันน้ำลึก 50 เมตร ว่ายน้ำ อาบน้ำ ก็ใส่ได้สบาย ดีไซน์เท่ ๆ ล้ำ ๆ มี 2 ขนาด คือ Small/Medium และ Large จะข้อมือเล็กหรือใหญ่ก็เลือกที่เหมาะได้เลย หน้าจอแสดงผลเป็นสี ทำงานตลอดเวลา ดูง่ายชัดเจน สามารถปรับแต่งหน้าจอด้วยธีมสี, หน้าปัดนาฬิกา และวลีข้อความ เพื่อแสดงความเป็นสไตล์ส่วนตัวได้ด้วยครับ

มีฟังก์ชัน MOVE IQ ช่วยจับเวลาอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ โดยเราไม่ต้องกดเริ่มหรือหยุดด้วยตัวเอง มีการติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งจำนวนก้าว, การเผาผลาญแคลอรี่, การนอน รวมทั้งติดตามเวลาที่เราไม่ทำกิจกรรมอะไรเลยให้ด้วย ช่วยเตือนไม่ให้เราอยู่เฉย ๆ นานเกินไป และยังจดจำพร้อมแนะนำเป้าหมายจำนวนก้าวแต่ละวันให้เราได้อีก นอกจากนี้มีการทำสถิติให้ดูว่าแต่ละวันทำไปได้แค่ไหน เปรียบเทียบข้อมูลให้เราได้ชาเลนจ์ตัวเอง และหากใครมีครอบครัว รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อกับรุ่น vívofit® jr. 2 เพื่อใช้ฟังก์ชัน Toe-to-Toe™ แข่งขันจำนวนก้าวกับลูก เป็นการเพิ่มกิจกรรมสนุก ๆ ระหว่างคนในบ้านได้อีกด้วยครับ

10. Garmin Fenix 6

ราคาโดยประมาณ 28,929 – 32,241 บาท

เห็นราคาแล้วหลายคนอาจรู้สึกเหมือนหัวจะปวด แต่ลองมาดูฟังก์ชันกันก่อนว่าทำไมราคาถึงสูงเกินหน้าเกินตารุ่นอื่น ๆ สำหรับ GARMIN fēnix 6 เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ที่เท่สปอร์ต หน้าปัดขนาดใหญ่ 33.02 มิลลิเมตร หรือ 1.3 นิ้ว ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางทหารของสหรัฐอเมริกา กันความร้อน กันกระแทก และกันน้ำลึก 100 เมตร วัสดุที่ใช้ก็เรียกได้ว่าเกรดพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นกระจกเลนส์ Corning Gorilla Glass หรือจะเป็นกระจก Sapphire Crystal ที่แข็งแรงป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี รวมทั้งกรอบนาฬิกาก็มีทั้ง Stainless Steel, Titanium เอาเป็นว่าหรูหราตั้งแต่ดีไซน์จนถึงคุณภาพวัสดุเลยครับ

ส่วนของการใช้งานก็เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่ติดตามคุณไปทุกที่ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย เดินป่า ปีนเขา เล่นสกี เล่นเซิร์ฟ เข้ายิม โดยเฉพาะคนที่ชอบไปท่องเที่ยวเล่นสกี เพราะมีแผนที่สำหรับสกีรีสอร์ตมากถึง 2,000 แห่งทั่วโลก รวมทั้งมีแผนที่สนามกอล์ฟอีก 41,000 แห่ง รองรับระบบดาวเทียมนำทางรอบโลก เข็มทิศแบบ 3 แกน มีฟังก์ชัน PACEPRO™ ช่วยกำหนดเป้าหมายสำหรับการวิ่งให้เหมาะสม และนอกจากนี้ก็เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติติดตามสุขภาพต่าง ๆ ครบถ้วน ฟังเพลงและเชื่อมต่อช่องทางสตรีมมิ่งได้ แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 14 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ นี่ยังไม่หมดเพราะมีคุณสมบัติอีกยาวเป็นหางว่าว แต่เท่านี้ก็น่าจะการันตีได้ดีเลยว่า ฟังก์ชันที่ให้มาคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแน่นอนครับ

อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบสำหรับ นาฬิกา Garmin รุ่นไหนดีกันแล้วแน่เลย ก่อนซื้อก็อย่าลืมชั่งน้ำหนักจุดประสงค์ให้ดี บางคนก็เน้นใส่เท่ ๆ ก็อาจจะต้องเลือกเรือนที่ดีไซน์ได้สวยถูกใจเป็นหลัก ซึ่งทางการ์มินก็ทำหลายรุ่นออกมาได้สวยงามน่าใช้มาก ๆ บางคนก็ใส่เน้นออกกำลังกาย การเลือกรุ่นที่มีโหมดกีฬาเยอะ ๆ เซ็นเซอร์จัดเต็ม มีความแม่นยำสูง ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า สุดท้ายนี้ก็ขอเลือกให้ได้รุ่นที่ถูกใจ ใช้งานคุ้มค่ากันนะครับ