เปลี่ยนภาษา magic keyboard

Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับ iPad Pro รุ่นใหม่ล่าสุดในปี 2020 และยังรองรับเวอร์ชั่นก่อนหน้าที่ออกมาในปี 2018 ด้วย จึงกลายเป็นเคสคีย์บอร์ดที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าของ iPad Pro และถ้าใครกำลังตัดสินใจซื้อหรือซื้อมาแล้ว เรามีเทคนิคดีๆ ที่ช่วยในการปรับแต่ง Magic Keyboard ให้ใช้งานได้เกิดประโยชน์สูงสุด

เพิ่มพอร์ต USB-C อีกหนึ่งช่อง

Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro มาพร้อมพอร์ต USB-C ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ iPad ได้แบบส่งผ่านสัญญาณ ทำให้พอร์ต USB-C ของ iPad Pro ว่างอยู่ ผู้ใช้งานจึงสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอ่านการ์ด SD, กล้องดิจิตอล, ชาร์จแบตเตอรี่ให้ Apple Watch หรือแม้แต่จอภาพภายนอก

ตั้งค่าปุ่ม Esc

Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro ไม่มีปุ่ม Escape ติดตั้งมาให้โดยตรง แต่สามารถเรียกปุ่ม Esc ให้ใช้งานได้ โดยเข้าไปที่ Settings > General > Keyboard > Hardware Keyboard > Modifier Keys จะสามารถ Remap ปุ่มกดต่างๆ ได้ เช่น เปลี่ยนปุ่ม Caps Lock ให้กลายเป็นปุ่ม Esc

เข้าถึงคีย์บอร์ดเสมือนจริงอย่างรวดเร็ว

ถ้าต้องการเข้าถึงคีย์บอร์ดเสมือนจริงบนหน้าจออย่างรวดเร็ว เพื่อพิมพ์ตัวอักษรพิเศษ หรือ ใช้วิธีพิมพ์ที่มีการคาดเดาคำล่วงหน้า ให้กดปุ่มลูกศรชี้ลงค้างไว้ แล้วใช้นิ้วแตะที่ไอคอน chevron ตรงมุมล่างขวาของหน้าจอ iPad และแตะที่เดิมเมื่อต้องการซ่อนคีย์บอร์ดเสมือนจริง

ควบคุม Touchscreen Action ด้วย Magic Keyboard

ผู้ใช้ Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro สามารถใช้ทางลัดในการควบคุม Touchscreen Action ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยเข้าไปที่ Settings> Accessibility > Keyboards และเปิดใช้งานฟีเจอร์ Full Keyboard Access ซึ่งจะเป็นการเปิดปุ่มทางลัดสำหรับการควบคุม Touchscreen Action

ปรับความสว่างของแบ็คไลท์

Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro มาพร้อมแบ็คไลท์ที่จะให้ความสว่างโดยอาศัยการตรวจจับแสงในสภาพแวดล้อมของ iPad แต่ผู้ใช้งานสามารถปรับความสว่างของแบ็คไลท์ได้ด้วยตัวเอง โดยเข้าไปที่ Settings > General > Keyboard > Hardware Keyboard แล้วปรับความสว่างโดยการลากแถบ Keyboard Brightness

ปรับแต่งเคอร์เซอร์

iPadOS‌ เวอร์ชั่นล่าสุด มาพร้อมตัวเลือกในการปรับแต่งเคอร์เซอร์และแทร็คแพด ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของเคอร์เซอร์ ความเร็วในการติดตามการเลื่อน และการตั้งค่าทั้งหมดสามารถเข้าไปกำหนดค่าได้ที่ Settings > Accessibility > Pointer Control

ตั้งค่าการแตะแทร็คแพด

สำหรับเจ้าของ Mac คงจะคุ้นเคยฟีเจอร์ Tap to Click ที่ช่วยให้การแทร็คแพดรองรับการแตะเพื่อเลือก คล้ายกับการกดคลิกซ้ายบนเม้าส์ และสามารถทำแบบนั้นได้กับ Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro โดยเข้าไปที่ Settings > General > Trackpad แล้วเปิดใช้งาน Tap to Click

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าการแตะด้วยสองนิ้ว เพื่อให้เกิดผลเหมือนการคลิกขวาบนเม้าส์ โดยเปิดใช้งานฟีเจอร์ Two Finger Secondary Click จากการตั้งค่าเดียวกัน

ใช้คำสั่งท่าทางกับแทร็คแพด

‌iPadOS‌ 13.4 รองรับคำสั่งท่าทางบนแทร็คแพด อย่างเช่น การลาก 3 นิ้วขึ้นบนแทร็คแพดแล้วหยุด จะเปิด App Switcher ขึ้นมา ถ้าต้องการใช้ Slide Over ให้เลื่อนเคอร์เซอร์ไปทางขวาของหน้าจอจนกว่าหน้าต่าง Slide Over จะปรากฏขึ้นมา กลับสู่หน้าจอโฮมอีกครั้ง ด้วยการลาก 3 นิ้วขึ้นบนแทร็คแพด หรือแตะที่แถบหน้าจอโฮม (เส้นสีขาวที่อยู่ด้านล่างตรงกึ่งกลาง)

เข้าถึง Emoji Keyboard อย่างรวดเร็ว

เมื่อเชื่อมต่อ iPad Pro กับ Magic Keyboard และอยู่ในโหมดการพิมพ์โดยใช้ภาษาอังกฤษ สามารถเข้าถึง Emoji Keyboard ได้อย่างรวดเร็ว เพียงกดปุ่มลูกโลก และกดอีกครั้งเมื่อต้องการซ่อน Emoji Keyboard

ปรับการวาง Magic Keyboard สำหรับวาดรูป

นอกจาก Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro จะถูกออกแบบมาเพื่อให้ประสบการณ์แบบแล็ปท็อปที่ดีขึ้น ยังสามารถปรับการวางในรูปแบบอื่นได้อีก อย่างเช่นผู้ที่ต้องการใช้ iPad วาดภาพ สามารถดึง iPad Pro ให้ขอบล่างลงมาวางอยู่เหนือแทร็คแพด ก็จะสามารถใช้ iPad Pro เพื่อการวาดรูปได้อย่างถนัดขึ้นบนขาตั้งที่มั่นคง

1. เลือกคีย์บอร์ดที่มีทั้งไทยและอังกฤษ หรือภาษาอื่นที่คุณใช้งานเป็นประจำ

คีย์บอร์ดยอดนิยมที่ขายในไทยส่วนใหญ่จะมีแป้นพิมพ์ 2 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพราะเป็นภาษาหลักและภาษารองที่คนไทยใช้กันเป็นประจำ แต่บางรุ่นก็มีการแยกแป้นพิมพ์ทั้ง 2 ภาษานี้ออกจากกัน อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นคนที่พิมพ์สัมผัสไม่ได้หรือจำตำแหน่งตัวอักษรได้ไม่แม่นยำ แนะนำให้เลือกแป้นพิมพ์ที่มีทั้ง 2 ภาษาและแสดงอักษรชัดเจนจะดีกว่า

1. เลือกคีย์บอร์ดที่สัมผัสถนัดมือ

การจะซื้อคีย์บอร์ดไม่ควรมองข้ามสัมผัสที่ถนัดมือตลอดจนแบบขนาดตัวอักษรและช่องไฟ ควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดที่สัมผัสถนัดมือ ขนาดไม่กว้างและไม่แคบจนเกินไป มีปุ่ม Enter, Shift และ Space Bar (ปุ่มที่ต้องกดเป็นประจำ) ขนาดพอเหมาะ เพื่อให้การพิมพ์คล่องแคล่วและไหลลื่นแบบไม่มีสะดุด

1. เลือกประเภทกลไกในปุ่มกด (Key Switch) เพื่อช่วยเรื่องเสียงพิมพ์และระยะเวลา

กลไกการทำงานของคีย์บอร์ดอย่างหนึ่งมีชื่อเรียกว่าคีย์สวิทช์ (Key Switch) เป็นกลไกในปุ่มกดมีผลต่อเรื่องฐานและความเร็วของปุ่มกด โดยทั่วไปแล้วมีอยู่ 3 ประเภทให้เลือกใช้งาน หากทำงานอยู่ในออฟฟิศหรือสถานที่ที่ต้องคอยระวังเรื่องการสร้างเสียงรบกวนคนรอบข้าง ควรเลือกใช้คีย์บอร์ดที่มีระบบลดเสียงในการกดแป้นคีย์ อย่างประเภท Membrane และ Pantograph  สำหรับออฟฟิศไหนที่จำเป็นต้องนั่งพิมพ์เป็นเวลานาน ควรเลือกใช้ประเภท Pantograph หากเป็นการใช้งานหนัก ทนทาน ให้เลือกแบบ Mechanical ดีที่สุด

1. เลือกประเภท Capacitance Non-Contact : ที่สุดของคีย์บอร์ด มาครบทุกฟังก์ชัน!

คีย์บอร์ดประเภทนี้เป็นขั้นสูงสุดในบรรดาคีย์บอร์ดทุกประเภท มีการออกแบบให้ใช้งานแบบไร้แรงสัมผัส จึงช่วยลดแรงกดและยังส่งผลให้คุณพิมพ์งานได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญ! ยังทำงานอย่างเงียบเชียบ เรียกได้ว่าเป็นคีย์บอร์ดที่รวมทุกคุณสมบัติที่จำเป็นไว้ในหนึ่งเดียว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้งานคีย์บอร์ดอยู่เป็นประจำ การเลือกลงทุนกับคีย์บอร์ดสักอันที่ดีและตอบโจทย์คุณทุกด้านก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเลยทีเดียว

1. เลือกขนาดปุ่มกดให้เข้ากับมือผู้ใช้

นอกจากขนาดของคีย์บอร์ดโดยรวมแล้ว การพิจารณาไปถึงขนาดของแต่ละปุ่มและช่องว่างระหว่างปุ่มกดก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยทั่วไปขนาดมาตรฐานของปุ่มแป้นพิมพ์ที่เหมาะสมนั้นจะอยู่ในช่วง 18 – 22 มิลลิเมตร แต่เพราะคนเรามีขนาดนิ้วมือที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกขนาดให้เหมาะสมกับมือผู้ใช้

1. เลือกฐานปุ่มกดตามลักษณะการใช้งาน

หากคุณต้องการพิมพ์ได้อย่างถูกต้องให้เลือกฐานปุ่มสูง หากต้องการพิมพ์เร็วให้เลือกฐานปุ่มตื้นไว้ก่อน

1. เลือกคีย์บอร์ดที่มีแผงตัวเลขและปุ่ม F ฟังก์ชันทางลัดต่าง ๆ

คีย์บอร์ดแต่ละรุ่นมีการออกแบบไว้แตกต่างกันในแง่ของการจัดวางอักษร, ตัวเลข, ปุ่มฟังก์ชันและช่องไฟต่าง ๆ บนแป้นพิมพ์ ซึ่งหากดีไซน์มาดีก็จะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างไหลลื่น คุณจึงควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดโดยให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ด้วย

Oker รุ่น K8830

ราคา 360 บาท

Oker รุ่น K8830 คีย์บอร์ดไร้สายรุ่นนี้ออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้นแต่ยังคงไว้ซึ่งแป้นพิมพ์ 104 ปุ่มครบทุกตัวอักษรรวมถึงปุ่มฟังก์ชันทางลัดต่าง ๆ ทำงานด้วยระบบบลูทูธแบบไร้สาย มาพร้อมกับเมาส์ไร้สายเช่นเดียวกัน ทำให้คุณใช้งานได้ครบวงจร แป้นพิมพ์ออกแบบให้กดง่ายเพราะมี Keystroke แบบตื้น ปุ่มนิ่ม จึงพิมพ์งานได้รวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องยาว ๆ

Oker รุ่นนี้ทำงานด้วยระบบใส่ถ่านอัลคาไลน์มาพร้อมเทคโนโลยีจัดการพลังงานอัจฉริยะช่วยเรื่องประหยัดพลังงานจึงไม่เปลืองแบตเตอรี่ ออกแบบรูปทรงให้ทันสมัย หยิบออกมาใช้เมื่อใดก็ไม่อายใคร อีกทั้งอุปกรณ์ยังทำจากวัสดุกันน้ำและกันฝุ่นได้ดี เหมาะแก่การใช้งานกับคอมพิวเตอร์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊ค งานนี้มีไว้คุ้มค่าแน่นอน สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเตมได้ที่

เว็บไซต์: www.lazada.co.th

Fantech K511 Hunter Pro Gaming

ราคา 340 บาท

เกมมิ่งคีย์บอร์ด ตัวนี้เหมาะมากสำหรับคนที่เริ่มผันมาเป็นเกมเมอร์ ยังมีงบไม่มาก แต่อยากได้คุณสมบัติเทพๆ พอๆกับตัวพันอัพ ซึ่งคีย์บอร์ดตัวนี้มาพร้อมไฟแบล็คลิทสีรุ้งส่องสว่างใต้ปุ่ม สามารถปรับระดับของไฟและรูปแบบได้หลากหลาย ซื้อแล้วนำมาใช้งานได้เลยทันทีแล้วก็ไม่ต้องลงโปรแกรมหรือไดร์เวอร์ใด ๆ ให้ยุ่งยาก แถมยังมีแป้นรองรับการกด 19 ปุ่มพร้อมกัน (Anti-Ghost Mode) และที่สำคัญตัวแบรนด์ยังบอกว่าปุ่มกดนี่ทนมากๆ สามารถกดได้ 8 ล้านครั้งเลยทีเดียว สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์: www.advice.co.th

SIGNO รุ่น E-Sport KB-730

ราคา 629 บาท

SIGNO รุ่น E-Sport KB-730 รุ่นนี้มีโครงสร้างแป้นพิมพ์กึ่ง Mechanical ผสมผสานคุณสมบัติแป้นพิมพ์แบบ Rubber Dome กับ Mechanical รวมไว้ด้วยกัน การทำงานจึงได้ประสิทธิภาพทั้งความแม่นยำ ความเร็วและเสียงเงียบ รุ่นนี้เป็นแบบมีสายหัวแบบ USB ใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทั้งตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ค ทำงานได้โดยไม่ใช้แบตเตอรี่และถ่านใด ๆ เมื่อเสียบสาย USB เชื่อมต่อแล้วจะปรากฏไฟ 7 สีเพิ่มลูกเล่นความสนุกและความสว่างให้กับผู้ใช้ซึ่งคุณสามารถปรับลดความสว่างได้ตามต้องการ

รุ่นนี้เป็นคีย์บอร์ดสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะเพราะมีการเสริมประสิทธิภาพและความทนทาน เพื่อให้เหล่าเกมเมอร์ใช้ควบคุมทิศทางและใช้ปุ่มลัดได้อย่างทันท่วงที แต่ก็ใช้งานในเวลาปกติได้ ทั้งนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำและออกแบบให้มีรูระบายน้ำออกได้ดี หากทำน้ำหกใส่ก็ไม่ต้องกลัวจะเสียหาย เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าใช้เลยทีเดียว สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์:www.lazada.co.th

Keyboard Pentagonz ammonite

ราคา 1,140 บาท

ตัวนี้เป็นรุ่นที่การใช้งานทนทานและโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามในแบบคลาสสิค เพราะตัวของคีย์บอร์ดเป็นสีดำที่มีลายเส้นกรอบวิ่งตลอดช่วงเส้นช่องของแป้นแต่ละตัวหลากสีสวยงามมาก ไม่เพียงเท่านั้นฐานวางตัวคีย์บอร์ดออกแบบมาให้วางได้อย่างมั่นคงไม่เคลื่อนที่ง่ายเกาะติดพื้นโต๊ะได้อย่างดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักเลงคีย์บอร์ดคนไหนรับรองมีแล้วจะถูกใจ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์: www.lazada.co.th

Logitech รุ่น K120

ราคา 390 บาท

Logitech เป็นผู้นำเรื่องเมาส์และคีย์บอร์ดที่มีชื่อเสียงยาวนาน ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความคงทนไว้ใจได้ สำหรับรุ่นนี้เป็นคีย์บอร์ดแบบมีสายธรรมดา ๆ แต่ทรงประสิทธิภาพ ให้คุณใช้งานได้อย่างเสถียรและง่าย เพียงแค่แกะกล่อง ต่อสาย USB เข้ากับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของคุณเท่านี้ก็ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องทำการเซ็ตอัพให้ยุ่งยาก ปุ่มกดออกแบบให้กดง่าย ไร้เสียงรบกวน คุณจะเพลินไปกับการใช้ปุ่มแบบ low-profile ที่ไร้เสียง และรูปแบบมาตรฐานที่มาพร้อมกับ F-keys และแป้นตัวเลข ทำให้คุณทำงานได้อย่างสบาย เหมาะกับคนที่เน้นพิมพ์งานอย่างรวดเร็ว

สำหรับรูปทรง Logitech รุ่น K120 ออกแบบให้เหมาะกับการสัมผัส จุดเด่นอีกอย่างคือ Spacebar แบบโค้งมนเข้ากับมือคุณได้ง่าย สัมผัสได้ไม่มีพลาด มีปุ่มกดอันทนทานและขาตั้งที่แข็งแรง ตัวแป้นกันน้ำ มีระบบระบายน้ำดี เหมาะกับการใช้งานกับที่ เช่น บ้าน, ออฟฟิศ, ร้านเกม เป็นต้น

การใช้งานง่าย เพียงคุณเสียบสายเข้ากับช่อง USB บนคอมพิวเตอร์ของคุณ ตัวคีย์บอร์ดก็พร้อมที่จะใช้งานในทันทีโดยไม่ต้องใช้ไดฟ์เวอร์ อีกทั้งยังรองรับกับการใช้งานในระบบ Windows® XP, Windows Vista, Windows 7, Windows 8, Windows 10 อีกด้วย สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์:www.lazada.co.th

BK3001 Bluetooth Keyboard for macOS

ราคา 290 บาท

เอาใจคนใช้ Mac กันบ้าง หากใครที่คีย์บอร์ดเสีย หรือพัง แต่ตังค์ยังมีไม่พอทุบ Magic Keyboard ที่ราคา 3,500 บาท BK3001 รุ่นนี้ช่วยได้ ยิ่งถ้าชอบแนวสีขาว ตัดกับสีเงินดูหรูหรา แถมยังกดนุ่มๆ ให้ความรู้สึกสะอาดตา ทำความสะอาดได้ง่ายไม่มีสายเสียบให้เกะกะ ต้องถูกใจรุ่นนี้อย่างแน่นอนเพราะเป็นระบบบลูทูธ พกพาสะดวกมากเลย สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์:shopee.co.th

Fantech รุ่น K511 Gaming

ราคา 360 บาท

คีย์บอร์ดรุ่นนี้เหมาะกับเหล่าเกมเมอร์มือสมัครเล่นจนถึงมือโปรฯ ทั้งหลาย ออกแบบให้มีปุ่มครบ 104 ปุ่ม พร้อมฟังก์ชันทางลัดใช้งานได้สะดวก ทำงานด้วยระบบสายต่อ USB ความเร็วสูง มีเทคโนโลยี anti-ghosting ให้คุณกดปุ่มพร้อมกันได้สูงสุด 19 ปุ่ม ปุ่มกดนุ่มแต่มีความทนทานสูง ทดสอบแล้วว่าใช้งานได้มากถึง 8 ล้านครั้ง แน่นอนว่ามีภาษาไทย, อังกฤษและแผงตัวเลขแยกต่างหาก

ทำฐานปุ่มกดให้สูงรับสัมผัสนิ้วมือได้ดีทุกจังหวะ ขนาดคีย์บอร์ดจัดใหญ่จัดเต็มมาที่ 49.4 x 42 x 43.5 ตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายที่ต้องการความคล่องตัว ช่องไฟแยกห่างชัดเจน มีไฟหลากสีใต้แผงปุ่มกดเป็นการเพิ่มลูกเล่นในการใช้งาน คุณสมบัติจัดเต็มในราคาหลักร้อย

Fantech Membrane คีย์บอร์ด เกมมิ่ง มีไฟใต้ปุ่ม เพิ่มอรรถรสในการใช้งานที่ไม่ซ้ำซากและจำแจ และมีระบบ Anti-ghost ที่ทำให้สามารถกดได้หลายๆปุ่มพร้อมกัน หรือ กดหลายๆปุ่มในเวลาที่รวดเร็ว มีความทนทานการใช้งานถึง 8ล้านครั้ง ต่อ ปุ่ม ขนาดกว้าง หน้าปุ่มมีภาษาไทย ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน

– ไฟ LED ใต้ปุ่ม (Chrome Blacklight)
– ระบบ anti-ghosting สามารถกดปุ่มได้พร้อมกัน 19 ปุ่ม
– ฐานของปุ่มสูง ให้การตอบสนองของปุ่มกับนิ้วได้ดี
– เปิด-ปิด ไฟ ด้วย ปุ่มบนคีย์บอร์ด

เป็นอีกรุ่นที่น่าใช้ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์:www.lazada.co.th

NUBWO GAMING KEYBOARD รุ่น VIKTOR (NK047)

ราคา 480 บาท

เหล่าเกมเมอร์น่าจะรู้จักแบรนด์นับโวนี้ดี เพราะทำราคาออกมาได้ถูกและคุ้มมาก โดยรุ่น Viktor บอกเลยว่าค่าตัวไม่เกิน500 แต่คุณสมบัติต่างๆ ครบเกินราคามาก ทั้งไฟ Blacklit ที่ปรับแต่งได้ 9 แบบ, มีปุ่มปรับความเร็วถ่ายโอนข้อมูล, แท่นวางมือถือเท่ๆ มีดีไซน์เท่เฉี่ยวมากสวยงามเกินกว่าราคาด้วย ตัวฐานมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีเทา

ปุ่ม WASD และลูกศรสีพิเศษ ปุ่มฟังก์ชันเพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างลูกศรกับปุ่ม WASD ปุ่มฟังก์ชันเปลี่ยนระหว่างไฟ LED ปุ่มฟังก์ชันเพื่อปรับความสว่างของ keycaps ปุ่มฟังก์ชันเปลี่ยนโหมดแสง ปุ่มฟังก์ชั่นเพื่อปรับความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลจากแป้นพิมพ์ไปยังเครื่องพีซี รูระบายน้ำใต้แป้นพิมพ์ 12 ปุ่มมัลติ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์: www.topvalue.com

Logitech Combo รุ่น MK215

ราคา 890 บาท

คีย์บอร์ดรุ่นนี้ออกแบบมาเอาใจผู้ใช้งานทั่วไปที่ชอบความกะทัดรัด ดีไซน์สวย แต่ยังทรงประสิทธิภาพการพิมพ์ ฐานปุ่มกดค่อนข้างสูงทำให้พิมพ์ได้อย่างแม่นยำ ปุ่มนิ่มตามสไตล์ Logitech ใช้แรงกดไม่มาก พิมพ์ด้วยเสียงเงียบกว่ารุ่นอื่น ๆ โดยออกแบบให้มีปุ่มเก็บเสียง เสียงที่เล็ดลอดออกมาจึงมีน้อยมาก จึงสามารถได้ยินเพลงต่างๆ ขณะฟังได้แทนที่จะเป็นเสียงพิมพ์ดีด นอกจากนี้ยังทำช่องไฟระหว่างปุ่มให้แคบลงจึงได้คีย์บอร์ดขนาดกำลังดี 10 x 5.95 x 3.75 ซม. ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานเอาใจสายมินิมอลทั้งหลายที่ชอบความเรียบแต่มากนี้ (Less is More!)

เน้นการเชื่อมต่อง่ายดายหลายแอปพลิเคชันด้วยระบบ Plug & Play แถมยังควบคุมการทำงานได้ระยะไกลถึง 10 เมตรโดยไม่ทำให้สัญญาณหายขัดอารมณ์การทำงานของคุณ ที่สำคัญมีเทคโนโลยีประหยัดพลังงานขั้นสูง ให้คุณลดความถี่ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ใช้เพียงถ่ายอัลคาไลน์ 2A ครั้งละ 2 ก้อนก็ทำให้คุณใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 24 เดือน คุณสมบัติพร้อมสรรพในเครื่องเดียว แบรนด์ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความทนทาน สมแล้วที่ได้เป็นอันดับหนึ่งค่ะ

Logitech Combo รุ่น MK215ตัวคีย์บอร์ดมีขนาดเล็กพร้อมปุ่มกดมาตรฐาน ช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่ระหว่างการใช้งาน มีสัญญาณการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว พร้อมให้คุณทำงานหรือเล่นคอมพิวเตอร์ไกลสูงสุด 10 เมตร (33 ฟุต) โดยไม่หลุดหรือล่าช้า มาพร้อมระบบ Plug&Play ช่วยให้การติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ สะดวกขึ้นเพียงเสียบตัวรับสัญญาณเข้ากับช่อง USB เพื่อเชื่อมต่อกับแอพโซเชียลอื่นๆ ตัวคีย์บอร์ดมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 24 เดือน ส่วนแบตเตอรี่สำหรับเมาส์สามารถใช้งานได้ถึง 5 เดือน

ครบเครื่องเรื่องการพิมพ์ที่ออกแบบมาเพื่อ ออลอินวันพีซี คอมพิวเตอร์สำหรับสำนักงานและโฮมออฟฟิศ อย่าง Logitech MK215 WIRELESS COMBO Keyboard with THAI KEYCAPS (ไทย/อังกฤษ) ที่ทรงประสิทธิภาพ เพราะอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เด่นๆ มากมายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์: www.lazada.co.th

Genius Multimedia รุ่น KB-8000X

ราคา 690 บาท

ปิดท้ายกันที่คีย์บอร์ดยอดนิยม รุ่นนี้มีรูปทรงขนาดใหญ่ ออกแบบให้พร้อมใช้งานกับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ก ทำงานแบบไร้สาย เชื่อมต่อด้วยสัญญาณบลูทูธความเร็วที่ 2.4GHz ต่อติดไม่สะดุด ปุ่มกดถูกออกแบบให้สัมผัสถนัดมือ กดเบา ๆ ก็ได้สั่งการได้ มีขาตั้งได้องศาการพิมพ์ คุณจึงสามารถใช้งานได้สะดวก พิมพ์งานรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีเสียงพิมพ์เบาแทบไม่รู้สึก อีกทั้งมีปุ่มฟังก์ชันทางลัดให้คุณเข้าสู่เมนูต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

ผู้ใช้งานชื่นชอบในฟังก์ชันและการบริการ เสียงตอบรับดีในแง่ของอุปกรณ์ที่มาครบ มีถ่านแถมและแป้นพิมพ์มีภาษาไทยมาให้แล้วไม่ต้องติดสติ๊กเกอร์เพิ่ม ที่สำคัญราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพ เพื่อให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊คเป็นไปได้อย่างลื่นไหลด้วย Genius Wireless Multimedia Keyboard Mouse Combo รุ่น KB-8000X เป็นชุดคีย์บอร์ดและเมาส์ไร้สาย โดยคีย์บอร์ด และเมาส์เป็นแบบ “Full Size” คือมีขนาดเท่าๆกับคีย์บอร์ดและเมาส์มาตรฐาน สำหรับใช้งานกับเครื่องพีซีตั้งโต๊ะเป็นหลัก และมีการเชื่อมต่อไร้สายผ่านระบบไร้สาย 2.4GHz เพื่อการใช้งานที่ง่ายดาย สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่