เพดานสูง 4 เมตร ใช้ไฟ กี่วัตต์

แม้จะเคยได้ยินใครๆ เตือนไว้ว่าอย่าคิดเล่นกับไฟ แต่เราก็ยังอยากชวนคุณมาลองเล่นไปด้วยกัน เพราะไฟที่ว่านี้ก็คือ แสงไฟนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะช่วยมอบแสงสว่างสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว แสงไฟสวยๆ เหล่านี้ยังมีส่วนช่วยในการสร้างสรรค์บรรยากาศที่แสนดีให้เกิดขึ้นภายในบ้านที่คุณรักได้อย่างไม่น่าเชื่อ...วันนี้เราลองมาชมตัวอย่างการออกแบบแสงไฟแสนสนุกพร้อมเทคนิคในการจัดแสงไฟให้เหมาะกับการใช้งานกันค่ะ

นอกจากแสงสว่างจะช่วยปรับแต่งบรรยากาศภายในบ้านให้รื่นรมย์แล้ว การจัดวางแสงไฟที่เหมาะสมยังช่วยปรับความสมดุลระหว่างพื้นที่ที่ต้องการให้แสงสว่างได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ดวงไฟแต่ละประเภทให้เหมาะสม เช่น ห้องทำงานที่มีความสูง 2.5 เมตร มีขนาดพื้นที่ห้องประมาณ 15 ตร.ม. การเลือกใช้หลอด LED 4-5 วัตต์ ทั้งหมด 10 หลอด หากเลือกใช้หลอด LED 7-7.5 วัตต์ ก็จะใช้หลอดไฟทั้งหมด 6 หลอด เป็นต้น และอาจจัดวางโคมไฟชนิดตั้งโต๊ะ หรือโคมไฟแขวนเพดาน ที่มีระยะของการกระจายแสงสว่างที่เพียงพอ เพื่อจะช่วยทำให้ช่วงเวลาของการอ่านหนังสือหรือการทำงานรู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น 

สำหรับพื้นที่รับประทานอาหาร การเลือกใช้ชุดจานชามสีสดใส หรือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์สวยๆ นอกจากจะช่วยเพิ่มอรรถรสของอาหารให้มีรสชาติมากขึ้นแล้ว การจัดแสงไฟสวยๆ ที่มาพร้อมแสงสว่างที่เหมาะสม โดยอาจเลือกประดับด้วยโคมไฟที่ส่องสว่างกลางโต๊ะอาหาร อย่างโคมไฟห้อยและโคมไฟแชนเดอร์เลียร์ ก็จะสามารถช่วยให้มองเห็นจานอาหารบนโต๊ะได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรืออาจเลือกใช้หลอดไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกให้บรรยากาศของมื้อค่ำดูมีชีวิตชีวาที่น่าประทับใจ 

ในส่วนของห้องครัวที่เป็นพื้นที่สำหรับการทำอาหาร โดยทั่วไปจะนิยมใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นท์แบบธรรมดาเพราะจะสามารถกระจายแสงสว่างได้อย่างทั่วถึง ทำให้เกิดเงามึดน้อยกว่าการใช้หลอดไส้ทั่วๆ ไป ซึ่งห้องครัวที่มีความสูงประมาณ 2.5เมตร และขนาดห้อง 20 ตร.ม. อาจเลือกใช้หลอด LED 7-7.5W  จำนวน 8 หลอด แต่หากเป็นพื้นที่ห้องครัวที่มาพร้อมเคาน์เตอร์ครัว หรือมีพื้นที่อยู่ในมุมที่ค่อนข้างอับแสง การออกแบบระบบแสงสว่างด้วยการติดตั้งหลอดไฟประเภท Track Light หรือไฟหลืบที่ติดซ่อนไว้ตามบริเวณใต้ตู้ลอยหรือใต้เครื่องดูดควัน ก็จะช่วยให้ภายในห้องครัวมีแสงสว่างอย่างเพียงพอกับการใช้งาน และดูมีเสน่ห์สวยงามที่ให้ความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

หากเป็นพื้นที่การใช้งานที่มีความเป็นส่วนตัวอย่างห้องนอน การสร้างสรรค์พื้นที่ภายในห้องด้วยการแต่งแต้มแสงไฟนอกจากจะมีประโยชน์ที่ช่วยในการส่องสว่างแล้ว แสงไฟที่สวยงามยังมีส่วนช่วยเติมเต็มให้บรรยากาศภายในห้องมีความอบอุ่นที่เหมาะกับการผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญควรจะมีการจัดวางแสงไฟให้มีความส่องสว่างที่เหมาะสมกันในแต่ละพื้นที่และขนาดของห้องด้วย เช่น ห้องนอนที่มีเพดานสูงประมาณ 2.5เมตร มีขนาดของห้อง 25 ตร.ม. หากเลือกใช้หลอดไฟ LED 7-7.5 W ก็ควรใช้หลอดไฟประมาณ 4หลอด 

อีกหนึ่งไอเดียของการออกแบบแสงไฟอย่างสร้างสรรค์ คือการตกแต่งตู้จัดเก็บของบิลท์อินดีไซน์เรียบภายในห้องนั่งเล่นให้ดูโดดเด่นน่าสนใจยิ่งขึ้น ด้วยไฟหลืบสีสวยๆ ซ่อนไว้เหนือชั้นวางของตู้ แสงสว่างหลากสีสันที่ส่องลงมาตกกระทบก็จะสามารถกลายเป็นทั้งไฟตกแต่งชั้นและใช้เป็นประโยชน์ในการให้แสงสว่างได้พร้อมๆ กัน ซึ่งหากเลือกติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ภายในห้องนั่งเล่นที่มีเพดานสูง 2.5 เมตร ขนาดพื้นที่ 20 ตร.ม. และเลือกใช้หลอดไฟ LED 9-9.5W ควรใช้หลอดไฟจำนวน 4 หลอด เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ หรือหากเป็นพื้นที่ห้องน้ำที่มีขนาด 15 ตร.ม. และใช้หลอดไฟ LED 7-7.5W ควรใช้ประมาณ 4 หลอด เพื่อให้มีแสงสว่างที่เหมาะสมเพียงพอสำหรับการใช้งานในทุกเวลา 

ใครว่าพื้นที่บันไดไม่สามารถตกแต่งอะไรได้มาก เพราะนอกจากการติดตั้งโคมไฟที่ให้แสงสว่างจากเพดานด้านบนแล้ว พื้นที่ทางเดินบริเวณบันไดยังสามารถสร้างจุดนำสายตาได้ด้วยการติดตั้งไฟ (Strips Light) ไว้ใต้บันไดหรือด้านข้างของบันไดก็ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยทำให้เพื่อได้แสงสว่างที่สามารถมองเห็นทางเดินได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยเพิ่มมิติของแสงไฟให้พื้นที่ภายในบ้านมีลูกเล่นที่โดดเด่นและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

เพราะความลับของการออกแบบแสงสว่าง คือการผสมผสานและจัดวางแสงไฟให้สมดุลกับพื้นที่ใช้งาน รวมทั้งการเลือกใช้ดวงไฟแต่ละประเภท ไปจนถึงความเข้มข้นของแสงและสไตล์แสงในแบบที่ต้องการ อีกทั้งยังควรสอดคล้องกับคาแรคเตอร์และความชื่นชอบส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ และเมื่อพื้นที่แห่งนั้นได้รับการเติมแต่งแสงไฟอย่างเหมาะสมดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประโยชน์ในการใช้สอยหรือการสร้างสรรค์บรรยากาศ ก็สามารถรังสรรค์นวลแสงได้อย่างน่ารื่นรมย์ได้ทุกเวลา

ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก  https://www.lighting.philips.co.th