เฟซบุ๊ก เปิดตัว Facebook Reels อย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้นได้เปิดให้ชาวสหรัฐฯ ใช้งานไปสักพักแล้ว ในเดือนกันยายนที่ผ่านมานั่นเอง ล่าสุดวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Facebook ก็ได้เปิดให้ทั่วโลกรวมถึงไทยให้สามารถใช้บริการ Facebook Reels ได้แล้ว
Facebook Reels เป็นลูกเล่นใหม่ที่ เฟซบุ๊ก เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน โดยเป็นวิดีโอขนาดสั้นที่มาพร้อมกับเครื่องมือสร้างรายได้ และสร้างคอนเทนต์ให้กับครีเอเตอร์ทั้งหลาย ฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็อย่าง Remix ที่ผู้ใช้สามารถนำคลิป Reel ของคนอื่นมาต่อได้ ความยาวคลิปสูงสุดอยู่ที่ 60 วินาที ที่สำคัญเรายังสามารถบันทึกดราฟต์ เพื่อปรับแต่งภายหลังได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลูกเล่นเสริมความครีเอทีฟที่เปิดตัวไปก่อนหน้า เช่น ค้นหาเสียงเพลงมาประกอบคลิป เอฟเฟกต์ AR นาฬิกาจับเวลาและนับถอยหลัง ปรับความเร็ว และการต่อวิดีโอ
Facebook Reels น่าสนใจอย่างไร?
Reels มีความพิเศษอีกอย่างคือการแทรกตัวอยู่ทุกที่บนแอป Facebook ไม่ว่าจะเป็น Stories, Watch, ด้านบนของ Feed และการแนะนำ Reels ระหว่างการเลื่อนฟีด ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถกดติดตามครีเอเตอร์ กดถูกใจ คอมเมนต์ รวมถึงแชร์ Reels ได้อีกด้วย
สรุป
ผู้ใช้สามารถลองเล่น Facebook Reels ได้แล้ววันนี้ ทั้งบนแอป Facebook ผ่านโทรศัพท์ iOS และ Android หากใครที่เลื่อนฟีดแล้วไม่เจอฟีเจอร์ Reels ก็อย่าลืมอัปเดตแอป Facebook กันก่อนนะคะ รับรองว่าได้ใช้งานกันทุกคนแน่นอนค่ะ
อ้างอิง: beartai.com
ขอบคุณรูปภาพ: about.fb.com
Reels คือฟีเจอร์ที่ผู้คนมักจะคุ้นเคยดีว่าอยู่บน Instagram แต่คราวนี้ Reels สามารถไปแชร์บน Facebook ได้แล้ว ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มยอดเอ็นเกจเมสต์ให้กับครีเอเตอร์แล้ว ผู้ชมยังสามารถสนุกกับคอนเทนต์วิดีโอสั้นได้ทั้ง 2 แพลตฟอร์มด้วย วันนี้ทาง RAiNMaker เลยอยากจะพามาทำความรู้จัก Reels บน Facebook ให้มากขึ้น ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ตามไปเช็กกันเลย!
เพราะเป็นปีแห่งคอนเทนต์วิดีโอสั้น หลาย ๆ แพลตฟอร์มเลยพยายามหาแนวทางสร้างเครื่องมือ แะลฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคชอบไถฟีดคลิปสั้นมากขึ้น
ซึ่ง Facebook เองก็เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เริ่มปรับตัวให้สมน้ำสมเนื้อกับ TikTok ด้วย เพราะนอกจากจะแชร์ Reels จาก Instagram มาลงเพื่อเพิ่มยอดเอ็นเกจเมนต์ของตัวเองได้แล้ว Facebook ก็ยังสร้างคอนเทนต์ Reels ออริจินัลของตัวเองเป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งได้ด้วย
โดยการเข้าถึง Reels ของ Facebook มี 3 ทาง ดังนี้
- Top of feed: เข้าถึง Reels ทางหน้าฟีดหลังจากเข้าแอป Facebook มา ซึ่งจะเป็นแถบที่มีคอนเทนต์วิดีโอ Reels เรียงต่อ ๆ กันอยู่ พร้อมกับมีเทมเพลตให้สร้างคลิป (Create Reels) อยู่ด้านหน้าคลิปของผู้ใช้คนอื่นด้วย ‘
- Menu > Reel: เข้าถึง Reels ด้วยหน้าเมนู หรือปุ่มไอคอนรูปขีดสามขีดด้านล่างของบาร์หน้าเมนู Facebook จากนั้น เข้าไปเลือกที่เมนู Reels เพื่อสร้างคอนเทนต์ได้เลย
- New Page > Experience > Reel: เข้าถึงหน้า Reels จากหน้า New Page Experience ที่แยกออกมาจากหน้าโปรไฟล์ไปยังเพจ แล้วเลือกไปที่ Reels ได้
Like Reels
การไลก์คอนเทนต์ที่ชอบ
เพราะการไลก์อยู่คู่มากับ Facebook อย่างยาวนาน ซึ่งก็ตามมาอยู่บน Reels ของ Facebook เองด้วย (Reels ของ Instagram จะเป็นการกดหัวใจ) จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชันเพิ่มยอดเอ็นเกจเมนต์แบบออริจินัลที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นเอง
และยังเป็นการสร้างยอดเอ็นเกจเมนต์ที่ง่ายที่สุดด้วย เพราะหากสามารถผลิตคอนเทนต์ให้เป็นที่ชื่นชอบได้ คุณก็จะได้การกดไลก์เป็นสิ่งตอบแทน
Comment Reels
คอมเมนต์เพื่อเพิ่มบทสนทนาโซเชียล
ถัดมาจากการกดไลก์บน Reels อีกระดับหนึ่ง การที่ทำให้ผู้คนหรือกลุ่มเป้าหมายสามารถอยากที่จะมีส่วนร่วมผ่านการคอมเมนต์ได้นั้นไม่ง่ายเลย เพราะการคอมเมนต์จะถูกประมวลมาจากความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาอย่างจริงใจไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์ในแง่ใดก็ตาม
ฉะนั้นการตั้งเป้าหมายคอนเทนต์ที่ถูกเผยแพร่ไปแล้ว และมียอดเอ็นเกจเมนต์ที่นับรวมการคอมเมนต์ด้วย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์หรือเหล่าครีเอเตอร์จะขาดไม่ได้!
Remix Reels
คอลแลปกับครีเอเตอร์ช่องอื่น
หากใครที่เข้า Reels ใน Facebook บ่อย ๆ แล้วเห็นจุดไข่ปลาสามจุด ถือเป็นไอคอนที่มีทั้งโอกาสและการตัดโอกาสเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นไอคอนที่มี 2 ตัวเลือกให้กับผู้ใช้
นั่นก็คือ ‘See Less’ ตัวเลือกที่ทำให้เห็นคอนเทนต์ประเภทนี้ หรือคอนเทนต์ช่องนี้น้อยลง และ ‘Remix’ ที่สามารถให้ครีเอเตอร์รีมิกซ์คอนเทนต์ของตัวเองได้
Share Reels
แชร์ไปยังกลุ่มหรือไทม์ไลน์ได้
นอกจากการไลก์ และคอมเมนต์ที่แสดงถึงความชอบแล้ว การแชร์ไปยังโซเชียลมีเดียหรือหน้าฟีดไทม์ไลน์ต่าง ๆ ก็สะท้อนให้เห็นได้ความนิยมของคอนเทนต์นั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี
เพราะสำหรับมุมมองกลุ่มเป้าหมายแล้ว การไม่ได้รู้สึกชอบหรืออินกับคอนเทนต์นั้นจริง ๆ ก็จะทำเพียงแค่ไลก์หรือปัดผ่านไปก็ได้ แต่หากคอนเทนต์ของคุณมีความแปลกใหม่ สร้างสรรค์จนดึงดูดความสนใจมากพอ พวกเขาจะอยากแชร์มันออกไปเอง
Effect Reels
ใส่เอฟเฟกต์เพิ่มความปัง
ในยุคที่มีเอฟเฟกต์และสติ๊กเกอร์มากมายให้เลือกสรร คอนเทนต์ที่ปราศจากลูกเล่นเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนกับขนมปังที่ไม่มีแยมทา เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ประเภทไหนก็อย่าลืมที่จะใส่ลูกเล่นให้ดูมีอะไรอยู่เสมอ
โดยเฉพาะกับคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่ต้องดึงความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายในเวลา 3-7 วินาที ยิ่งต้องทำให้โดดเด่นท่ามกลางทะเลคอนเทนต์ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์ที่แต่งภาพ หรือเอฟเฟกต์ที่สร้างมูฟเมนต์เพิ่มก็ตาม แต่ควรเลือกหยิบมาใช้ให้เข้ากับคอนเทนต์ด้วยนะ
Profile Reels
กดเข้าไปดูโปรไฟล์เพื่อติดตาม
ถือเป็นเรื่องที่ดีที่แพลตฟอร์มนำโปรไฟล์แอคเคานท์มาไว้ตรงชื่อเจ้าของคลิปด้วย เพราะหลังจากที่ผู้คนในโซเชียลเห็นคลิปแล้วรู้สึกชอบจนอยากติดตามครีเอเตอร์ที่สร้างคลิปขึ้นมา ก็สามารถแท็บไปยังรูปโปรไฟล์หรือชื่อของครีเอเตอร์โดยตรงได้เลย เรียกได้ว่าเป็นอีกฟังก์ชันหนึ่งที่จะเพิ่มยอดผู้ติดตามให้กับครีเอเตอร์หรือแบรนด์ไปในตัวด้วย
Audio Reels
ใส่เสียงเพิ่มเพลงดึงดูดความน่าสนใจ
ตั้งแต่มีเทรนด์หรือชาเลนจ์ต่าง ๆ ใน TikTok เสียงเพลงหรือเสียงพากย์ก็กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนหยุดไถฟีดเพื่อดูคลิปเลยก็ว่าได้
เพราะนอกจากคอนเทนต์หรือภาพที่จะต้องมีความน่าสนใจในตัวแล้ว เพลงหรือเสียงที่ใช้พากย์แยกเองทีหลังก็จะช่วยดึงดูดความสนใจคอนเทนต์มากขึ้นไปอีก
แต่ก็ควรระวังเรื่องการตามเทรนด์ด้วย เพราะขึ้นชื่อว่าเทรนด์ เพลงที่ใช้มักจะซ้ำ ๆ กันทุกคอนเทนต์เนื่องจากเป็นเทรนด์ในช่วงนั้น ดังนั้นจึงมีสิทธิ์ที่คอนเทนต์ของเราจะจมหายไปกับเทรนด์ได้ ซึ่งทางที่ดีก็ควรทดลองและกล้าที่จะสร้างเอกลักษณ์ใหม่ ๆ ให้กับคอนเทนต์ด้วยนะ
จาก 7 สิ่งสร้างเอ็นเกจเมนต์บน Reels ของ Facebook ที่ได้กล่าวมา เป็นสิ่งที่แบรนด์และครีเอเตอร์ควรให้ความสำคัญ เพราะการมีเครื่องมือคอยซัพพอร์ตบนแพลตฟอร์มอาจจะไม่เพียงพอ
เพราะเรายังคงต้องแข่งขันกันอยู่ในตลาดคอนเทนต์กับคนอื่น ๆ ด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร การนำไปประยุกต์ปรับใช้ในภายหลังตามแบบฉบับของคุณจะเป็นตัวกำหนดเอง
ที่มา: Facebook – #ReelsTH Masterclass