ทางร้านมีนโยบายการเปลี่ยนสินค้าหากเกิดจากข้อผิดพลาดในการผลิต ภายใน 7 วัน หลังจากได้รับทั้งการซื้อจากหน้าร้าน หรือ การสั่งซื้อสินค้าจากช่องทางออนไลน์ โดยให้ถือวันเซ็นรับสินค้าเป็นวันที่ 1 ที่ได้รับสินค้า Show
นโยบายการคืนสินค้าและคืนเงิน - ถ้าลูกค้าชำระเงินค่าสินค้าโดยการโอนเงินให้ทางร้านโดยตรง ทางร้านขอสงวนสิทธิในการยกเลิกสินค้าและคืนเงินค่าสินค้าทุกกรณี เว้นแต่กรณีเปลี่ยนสินค้าไปเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเท่ากับหรือสูงกว่าสินค้าที่ต้องการเปลี่ยน 501 SHARESShareWhatsappPinterestLineTwitterLinkedinTelegram Digg How to : เซฟไว้เลย! วิธีจัดกระเป๋าเดินทางฉบับ “ขึ้นเครื่องครั้งแรก” รู้ไว้ไม่พลาดใครที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ShopBack มีวิธีจัดกระเป๋าเดินทางแบบไม่ให้พลาดมาฝากกัน เพราะการเตรียมตัวก่อนบินครั้งแรกนั้นสำคัญ เพื่อนๆ มักเล็งเตรียมเสื้อผ้าสวยๆ ไว้ไปถ่ายรูปชิคๆ ที่ประเทศน่าเที่ยว อากาศหนาวๆ แบบนี้ ญี่ปุ่นก็น่าไป หรือจะเกาหลีก็ดีงามไม่น้อย ข้ามไปฝั่งยุโรปก็มีหลายประเทศที่ห้ามพลาด ฝรั่งเศส อิตาลี หรือจะสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่น่าอยู่ที่สุด หลังจากที่ตัดสินใจเลือกประเทศที่จะเดินทางกันได้แล้ว ก็ถึงเวลามาจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า มีเรื่องมากมายที่คุณต้องรู้สำหรับการขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไหนจะเรื่องการนำของเหลวขึ้นเครื่องที่น่าปวดหัวอีกล่ะ มาดูวิธีจัดกระเป๋าเดินทางยังไง ให้ไม่พลาด! คลิกสมัครใช้ ShopBack รับข่าวสารเงินคืน แชร์โปร เก็บดีล
ก่อนที่จะเข้าสู่วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง มาพิจารณากันก่อนว่า ไปประเทศไหน ทริปนี้ไปกี่วัน อากาศเป็นอย่างไร สไตล์การเที่ยวเป็นแบบไหน จะได้เลือกกระเป๋ากันถูก กระเป๋าล้อลากขนาดใหญ่ : สำหรับกระเป๋าขนาดใหญ่ 24-28 นิ้ว เหมาะสำหรับการเดินทางทริป 5 วันขึ้นไป เช่น ไปยุโรป ไปญี่ปุ่น ที่ต้องมีเสื้อกันหนาวตัวหนา มีเสื้อโค้ท และไม่ใช่การเดินทางแบบแบ็คแพ็ค เพราะถ้าหากขึ้นรถสาธารณะอาจจะลำบากในการลากกระเป๋าขนาดใหญ่แบบนี้ กระเป๋าล้อลากขนาดเล็ก : ประมาณ 20-22 นิ้ว เหมาะสำหรับทริปที่ไม่ได้เดินทางนานมากแค่ 3-5 วันกำลังดี อีกทั้งยังเป็นกระเป๋าขนาดที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ด้วย (Cabin Baggage) ลากขึ้นรถสาธารณะได้ ไม่ลำบากจนเกินไป กระเป๋าเป้แบ็คแพ็ค : เหมาะสำหรับการเดินทางลุยๆ ในสไตล์แบ็คแพ็ค สามารถเดินทางได้อย่างคล่องตัว จะโหลดใต้ท้องเครื่องก็ได้หรือนำขึ้นเครื่องก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ วิธีจัดกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องบินต้องแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง กับ กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง
มาถึงวิธีจัดกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้ท้องเครื่องกันก่อน แต่ละสายการบินจะกำหนดน้ำหนักและจำนวนกระเป๋า ที่สามารถโหลดได้ไม่เท่ากัน เช่น สายการบินราคาประหยัด อย่าง Airasia ไม่มีโหลดกระเป๋าฟรี จะต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม เริ่มต้นที่ 15 กิโลกรัมสำหรับการบินภายในประเทศ ต่างประเทศเริ่มต้นที่ 20 กิโลกรัม ส่วนสายการบิน Full service จะโหลดกระเป๋าได้ฟรี เช่น การบินไทย โหลดกระเป๋าได้ไม่เกิน 30 กิโลกรัม ต้องดูข้อกำหนดของสายการบินที่คุณเลือกจองว่าให้โหลดกระเป๋าได้กี่ใบ น้ำหนักไม่เกินเท่าไหร่ สำหรับการจัดกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง เริ่มจากเรื่องของเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ไม่ควรเอาไปเยอะเกินไป ลองวางแผนให้ดีว่าแต่ละวันจะแต่งตัวแบบไหน จัดชุดให้เข้าเซ็ทกันเลย จะช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าได้มากขึ้น นอกจากนี้ควรมีกระเป๋าเล็กๆ แยกเพื่อความสะดวก เช่น กระเป๋าเล็กใส่เครื่องสำอางและสกินแคร์ กระเป๋าเล็กใส่ชุดชั้นใน ถุงเท้า กระเป๋าเล็กใส่เครื่องประดับ และเคล็ดลับการพับผ้าให้ประหยัดพื้นที่มากที่สุด คือ การม้วน นอกจากที่จะประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าแล้วยังทำให้เสื้อผ้าของคุณไม่ยับอีกด้วย สิ่งที่ห้ามโหลดใต้ท้องเครื่องโดยเด็ดขาด คือ แบตเตอรี่สำรอง โน้ตบุ้ค อาวุธร้ายแรง วัตถุไวไฟต่างๆ ถ้าไม่อยากให้เที่ยวบินของคุณเกิดอันตราย ก็ต้องทำตามกฎกันอย่างเคร่งครัดนะจ้ะ ShopBack Tips : กระเป๋าเดินทางที่คนนิยมใช้จะมีทั้งแบบผ้าและแบบไฟเบอร์ โดยแบบผ้าจะมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับคนชอบยัดเพราะขยายได้เยอะกว่า ดูเรียบหรู มีความทนทาน แต่เสี่ยงต่อการโดนกรีดกระเป๋ามากกว่า ส่วนแบบไฟเบอร์จะมีความเก๋ตรงรูปลักษณ์ภายนอก ดูเท่และแข็งแรง แต่อาจจะมีรอยขีดข่วนได้ง่าย อยู่ที่ความชอบและสไตล์ของเพื่อนๆ ว่าเหมาะกับแบบไหนมากที่สุด ซึ่งการเลือกกระเป๋าเดินทางแบรนด์ดีๆ จะคุ้มค่าเงินของเพื่อนๆ มากกว่า เพราะมันทนทานกว่า ใช้ได้ยาวนานกว่า มองหากระเป๋าเดินทางดีๆ ที่เหมาะกับเราพร้อมส่วนลด JD Central ผ่าน ShopBack ช้อป กิน เที่ยวได้เงินคืน
กระเป๋าถือขึ้นเครื่องหรือที่เรียกว่า Cabin Baggage ส่วนใหญ่แล้วจะมีกำหนดอยู่ที่ 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม หรือประมาณกระเป๋าลาก 20-22 นิ้ว หากใหญ่กว่านี้จะใส่ในที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะไม่ได้ กระเป๋าเป้แบ็คแพ็คหากใหญ่เกินไปก็อาจจะใส่ไม่ได้เช่นเดียวกัน ต้องวัดขนาดให้เป๊ะก่อนนำขึ้นเครื่อง ส่วนน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางที่นำขึ้นเครื่องได้จะถูกกำหนดอยู่ที่ 7 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังสามารถหิ้วกระเป๋าถือใบเล็กติดตัวได้อีกหนึ่งใบ ซึ่งของสำคัญจะถูกใส่ไว้ในกระเป๋าใบเล็กนี้ทั้งหมด เช่น พาสปอร์ต กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น การจัดกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องจะมีความยุ่งยากสักหน่อย แต่หากคุณไม่ได้ออกทริปยาว ไปแค่ 2-3 วัน ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องเพิ่ม แค่จัดกระเป๋าให้พอดี 7 กิโลกรัมแล้วก็เช็คเรื่องของเหลวให้พอดีกับที่ทางสายการบินกำหนด ก็จะทำให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าขึ้นเยอะแถมไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวโหลดกระเป๋า เดินตัวปลิวเข้าอาคารผู้โดยสารได้เลย สำหรับเรื่องของเหลวขึ้นเครื่องที่มือใหม่หัดบินต้องรู้ คือ ของเหลวแต่ละขวดห้ามเกิน 100 มิลลิลิตรหรือ 100 กรัม และใส่ไว้ในถุงรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดคือห้ามนำขึ้นเกิน 10 ขวดใช่หรือไม่? คำตอบคือ เอาขึ้นได้มากกว่า 10 ขวด หากอยู่ในปริมาณที่ไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร เช่น นำของเหลวขวดละ 50 มิลลิลิตรขึ้นไปทั้งหมด 12 ขวดได้ เพราะปริมาณจะอยู่ที่ 600 มิลลิลิตรเท่านั้น แต่เป็นของเหลวขวดละ 100 มิลลิลิตรก็สามารถนำขึ้นได้แค่ 10 ขวดเท่านั้น นอกจากนี้ใครสงสัยว่าถ้าเกินมาหน่อยล่ะ จะเป็นอะไรไหม? แค่ 120 มิลิลิตรเท่านั้นเอง คำตอบคือโดนทิ้งแน่นอนนะจ้ะ เพราะฉะนั้นเช็คเรื่องของเหลวให้เป๊ะ แล้วทุกอย่างก็หายห่วง อีกเรื่องที่สำคัญคือ การนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน ความจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่ห้ามเกิน 32,000 มิลลิแอมป์ (mAh) และต้องมีจำนวนมิลลิแอมป์บอกชัดเจนอยู่บนตัวเครื่อง เพราะล่าสุดมีคนโดนยึดแบตเตอรี่สำรอง เนื่องจากบนแบตเตอรี่สำรองไม่มีจำนวนมิลลิแอมป์บอก แม้ว่าคุณจะรู้ดีว่ามันไม่เกิน แต่เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัดนะคะ ShopBack Tips : แบตเตอรี่สำรองนั้นมีความสำคัญในการเดินทางมาก เพราะเดี๋ยวนี้สมาร์ทโฟน คือ ปัจจัยที่ 5 หาข้อมูลท่องเที่ยวก็ต้องผ่านสมาร์ทโฟน ไหนจะแอพท่องเที่ยวว่าแต่คุณมีครบยัง แอพท่องเที่ยว โหลดติดเครื่องไว้ เที่ยวอุ่นใจกว่า นอกจากนี้ยังต้องใช้ถ่ายรูป การเลือกแบตเตอรี่สำรอง ควรเลือกแบรนด์ที่ไว้ใจได้ มีความพรีเมี่ยมหน่อย เพราะจะช่วยถนอมสมาร์ทโฟนของคุณไม่ให้พังเร็ว แถมบางแบรนด์ที่ดียังมีเทคโนโลยี Quick Charge 3.0 ที่ชาร์จได้รวดเร็ว ประหยัดเวลาได้เยอะเลย หาซื้อแบตเตอรี่สำรองยี่ห้อดีๆ มีให้เลือกมากมายกับส่วนลด JIB ผ่าน ShopBack ช้อป กิน เที่ยวได้เงินคืน คุ้มเว่อร์!
เรื่องของเหลวก็รู้แล้ว แบตเตอรี่สำรองก็รู้แล้ว แล้วยังมีอะไรอีกบ้างที่ห้ามพกขึ้นเครื่องเด็ดขาด (อ้างอิงมาตรฐานจาก สายการบิน ANA )
เป้ แบคแพค ขึ้นเครื่องได้ไหมความจุ 55-65 ลิตร : ระยะเวลาเดินทาง 1-2 สัปดาห์ โดยประมาณ ความจุ 65 ลิตรขึ้นไป : ระยะเวลาเดินทางมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป โดยประมาณ คุณสมบัติ Carry-on (เอาขึ้นเครื่องได้เลย ไม่ต้องโหลด)
กระเป๋าเป้โหลดลงใต้เครื่องได้ไหมกระเป๋าเป้แบ็คแพ็ค : เหมาะสำหรับการเดินทางลุยๆ ในสไตล์แบ็คแพ็ค สามารถเดินทางได้อย่างคล่องตัว จะโหลดใต้ท้องเครื่องก็ได้หรือนำขึ้นเครื่องก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ วิธีจัดกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องบินต้องแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง กับ กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง
Backpack ไซส์ไหนขึ้นเครื่องได้ทุกสายการบินมีกฎของขนาด และน้ำหนักกระเป๋าเดินทางสัมภาระที่สามารถนำขึ้นเครื่อง ที่แตกต่างกันในรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่น้ำหนัก จำนวนกระเป๋า แต่สำหรับขนาดมาตรฐานกระเป๋าเดินทาง ที่นำขึ้นเครื่องได้จะเหมือนกัน คือ ขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 ซม. (22 x 14 x 9 นิ้ว) จะเป็นกระเป๋าเดินทางแบบล้อลาก หรือแบบ Backpack ...
กระเป๋า 70 ลิตร ขึ้นเครื่องได้ไหมกระเป๋าเป้เดินป่ามีอยู่หลายแบบ เหมาะสำหรับแต่ละโอกาสแตกต่างกันไป เช่น หากจะไปเที่ยว 2 – 5 วัน ก็ควรใช้กระเป๋าขนาด 25 – 32 ลิตร (ซึ่งขนาด 32 ลิตร ถือว่าใหญ่ที่สุดที่สามารถขึ้นเครื่องได้) หรือหากไปมากกว่า 1 สัปดาห์ก็ควรใช้กระเป๋าขนาด 40 – 70 ลิตร เพราะต้องแบกของใช้จำเป็น เช่น สบู่ แชมพู ถุงนอน และอุปกรณ์เดินป่าไปด้วย แต่ ...
|