เทคนิคการ ร้องเพลง ขั้น พื้นฐาน

                    การร้องเพลงนั้นเราสามารถร้องได้ทุกคน แม้แต่คนที่คิดว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ คิดว่าเสียงไม่ดี จะสามารถร้องได้ไหม เป็นนักร้องได้ไหม จะฝึกได้ไหม จริงๆแล้วเราฝึกได้หมด ขอแค่มีความตั้งใจ พรสวรรค์ขอแค่ 10 เปอร์เซ็น พรแสวง 90 เปอร์เซ็น ถ้าเรามีพรแสวงตั้งใจฝึกฝนอย่างถูกวิธี พร้อมที่จะเรียนรู้ เราจะเป็นนักร้องที่มีคุณภาพได้แน่นอน เพียงแต่เราต้องฝึกซ้อม หากเรารู้เทคนิควิธีการทุกอย่างเลย แต่เราไม่มีเวลาซ้อม ก็ไร้ประโยชน์ จะไม่มีการพัฒนาแน่นอน ควรร้องเพลงทุกวัน วอร์มเสียงทุกวันวะนล่ะ ชม. จะทำให้พัฒนาเสียงได้จริงๆ ขอแค่เรียนรู้ถูกวิธี ขยันฝึกซ้อม ไม่มีวิธีลัด ต้องเป็นไปตามขั้นตอนเท่านั้นเอง

วิธีการฝึกร้องเพลงที่ถูกต้อง
1. ฝึกการหายใจประกอบการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ขั้นตอนการปฏิบัติมีดังนี้
- ยืนตรง สองเท้าห่างกันเท่าความกว้างของหัวไหล่
- เหยียดแขนที่ประสานกันขึ้นเหนือศีรษะ หงายมือขึ้น
...พยายามเหยียดแขนขึ้นให้สุด ให้แขนทั้งสองข้างตึง
- หายใจเข้าช้าๆอาจนับ 1 2 3 พร้อมกับเขย่งเท้าขึ้นช้าๆด้วย
- กลั้นหายใจไว้ชั่วขณะในสภาพเขย่งเท้า
- ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกยาวๆนับ 1 2 3 4 5 6
ช้าๆพร้อมกับวางมือข้างตัวอย่างช้าๆ ขณะที่วางส้นเท้าลงกับพื้น
แบบฝึกหัดนี้ ปฏิบัติทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
2. ฝึกการเปล่งเสียงประกอบการหายใจ
- หายใจเข้าช้าๆ สบาย นับ 1 2 3 ช้าๆไว้ในใจ
- ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกทางจมูก โดยหุบปากเปล่งเสียง "ฮึ่ม!"
(เหมือนเสียงบ่นพึมพัมเวลาคนที่บ้านทำอะไรไม่ถูกใจเรา)
- หายใจเข้าช้าๆอีก
- คราวนี้จากเสียง "ฮึ่ม" สั้นๆเปลี่ยนเป็น "ฮึ่ม"
ยาวๆพร้อมผ่อนลมหายใจออก นับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ครบแล้ว จึงหยุดเสียง "ฮึม" ปฏิบัติซ้ำซากอย่างนี้วันละไม่ต่ำกว่า 8 ครั้ง
3. ฝึกการร้องให้ถูกต้องตามทำนองและจังหวะ
- หาเพลงที่ท่านชอบมาฟังหลายๆเที่ยว
- ลองฮัมตามทำนองเพลงให้ถูกทั้งทำนองและจังหวะ
- ร้องด้วยคำว่า "ลา....." ตามความสูงต่ำของเสียงเพลงตลอดทั้งเพลง
4. ฝึกการท่องจำเนื้อเพลงให้แม่นยำ
- นำเพลงบทนั้นมาอ่านเนื้อร้องให้คล่อง
- พยายามออกเสียง พยัญชนะ อักขระ และตัวสะกดต่างๆให้ถูกต้องและถูกวรรคตอน
- เมื่อแน่ใจแล้วก็ลองร้องทั้งเพลง
- ใส่อารมณ์ความรู้สึกตามเนื้อเพลงนั้นๆ

วิธีการหายใจ (เพิ่มเติม)เวลาร้องเพลงท่อนติดกัน
วิธีการง่ายๆคือ แบ่งวรรคการหายใจให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งการแบ่งวรรคจะแบ่งเหมือนวิธีการพูด เช่น "ขอบคุณ" เราจะไม่หายใจระหว่างคำว่า "ขอบ" กับ "คุณ" เพราะ "ขอบคุณ" เป็นคำเดียวกัน วิธีการหายใจง่ายๆคือ เราเรียกว่า การยิงกระบังลม ใช้บังคับด้วยกระบังลมในการหายใจ พอเรายิงกระบังลม เราอ้าปากรับลม ลมจะเข้าไปเต็มกระบังลมทันที ไม่ต้องใช้เวลาที่จะสูดลม ซึ่งมันจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วินาที แต่ขณะที่เราใช้วิธียิงกระบังลม มันจะใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
การฝึกลูกคอ และการร้องเอื้อนให้ได้ยาวๆ
สำหรับลูกคอเป็นสิ่งสำคัญในการร้องเพลง วิธีการฝึกลูกคอจะใช้โน้ต 2 ตัว โด เร โด เร โด ที โด ที คือโดชาร์ป แล้วเราฝึกร้องเป็นอา เช่น อ่า อา อ่า อา..า..า แล้วให้มันสั่นสะเทือนให้เร็วขึ้นจากโน้ตสองตัว อ่า อา อ่า อา..า..า ให้เร็วขึ้น ฝึกไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็ได้ถ้าฝึกจริงๆ แล้ววิธีการร้องเอื้อนเสียงให้ยาวๆ คือการเก็บลมให้เต็มแล้วก็ปล่อยลม โดยควบคุมจากกระบังลม เพราะกระบังลมเป็นกล้ามเนื้อที่เราสามารถควบคุมได้ ยืด-หดได้ กระบังลมพอเราควบคุมไปปุ๊บ เราสามารถปล่อยลมไปในอัตราส่วนที่เราต้องการ แต่ถ้าเราใช้ปอดในการร้องเพลง เราไม่สามารถควบคุมมันได้ วิธีการง่ายๆคือ ถ้าต้องการร้องเสียงยาวๆ ก็ควบคุมด้วยกระบังลม

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.maesaingp.org/index100.html

ปัจจุบันการร้องเพลงให้ถูกต้องตามหลักทฤษฎีเป็นสิ่งจำเป็นในการออกงานสังคมมาก เช่น
ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มักถูกเชิญขึ้นไปร้องเพลงในงานเลี้ยงที่เป็นทางการของ หน่วยงานต่าง ๆ
หรือแม้แต่ในงานเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูง ซึ่งมักจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ การร้องเพลงเป็นจะช่วย
ให้ไม่อายผู้อื่น นอกจากนั้นยังก่อให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมากในด้านการผ่อนคลายอารมณ์ตึง
เครียดจากการงาน และยังเป็นการออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่งด้วย และหากร้องเพลงได้ไพเราะ
ยังสามารถนำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้คุณ่ตนเอง
ดังนั้นการฝึกร้องเพลงจำเป็นต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักทฤษฎีดังนี้

1. ท่าทาง
การปฏิบัติที่ถูกต้องควรจะให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ คือยืนตรง เท้าวางห่างกันประมาณ 1 ฟุต
เท้าขวาอยู่หน้าเล็กน้อย ให้รู้สึกว่ากระดูกสันหลังรับน้ำหนักทั้งหมด ฝึกหัดยกหัว เชิดหน้า
ไหล่ตรง แขม่วท้อง หดสะโพก หลังตรง ไม่เกร็งตัว วางตัวตามสบายแต่ให้อยู่ในลักษณะที่ถูกต้อง
ควรยืนห่างจากไมโครโฟนประมาณ 12 – 15 นิ้ว ออกเสียงแต่พอควรไม่เบาหรือดังจนเกินไป
สำหรับผู้ใช้เสียงจากลำคอต้องยืนใกล้ไมโครโฟนมากเพราะเสียงจะออกกังวานต่ำ และเบาแผ่ว
จึงจำเป็นต้องยืนใกล้ไมโครโฟนเหมือนผู้ใช้เสียงจากนาสิก สำหรับผู้ใช้เสียงจากท้องเสียงจะดังมาก
ไม่ต้องอยู่ใกล้ไมโครโฟนเกินไป การฝึกหัดกับกระจกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะได้เห็นและคุณ้ไข
สิ่งบกพร่องต่างๆ ให้ดีขึ้น และช่วยให้ไม่อายได้

2. การหายใจ
การร้องเพลงให้เสียงดีนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการหายใจที่ถูกต้อง ขณะหายใจลมจะผ่านหลอดเสียง
เกิดเป็นเสียงต่าง ๆ ขึ้น ถ้าการหายใจสม่ำเสมอเสียงร้องเพลงก็น่าจะสม่ำเสมอด้วย
ส่วนของร่างกายที่ช่วยบังคับลมหรือการหายใจเรียกว่ากระบังลม กระบังลมเป็นกล้ามเนื้อผืนใหญ่อยู่ใต้ปอด
และอยู่เหนือกระเพาะอาหารทางด้านหน้า ถ้าปอดแฟบแสดงว่าไม่มีอากาศ กระบังลมจะมีลักษณะเหมือนชามคว่ำ
ขณะที่หายใจออกกระบังลมจะดึงขึ้นไปดันปอดทำให้อากาศกลับออกมาผ่านไปตามลำ คอกระทบกับหลอดเสียง
ทำให้เกิดเสียงขึ้น นอกจากการขยายกระบังลมแล้ว ผู้ร้องยังใช้อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยขยายโพรงอกคือการพองตัว
ทำให้ซี่โครง กางออกการฝึกหายใจ เริ่มด้วยการยืดอกและยืนตัวตรงให้แขนแนบลำตัว ไม่ควรยกไหล่
หายใจเข้าทางปากครึ่งหนึ่ง จมูกครึ่งหนึ่งพร้อม ๆ กันจะทำให้ไม่เกิดเสียงดัง โดยกระบังลมจะทำหน้าที่
ชะลอลมหายใจให้ออกช้าๆ คล้ายกับคาบูเรเตอร์ของเครื่องยนต์ ผู้ร้องจะต้องฝึกหัดหายใจเข้าออก
อย่างรวดเร็วแล้วปล่อยออกช้าๆ ให้ได้นานที่สุด
ข้อสำคัญก็คือ การหายใจเข้า ท้องจะป่องเพื่อเก็บลมและ การหายใจเข้าจะต้องหายใจก่อนเริ่มร้องพอดี
พยายามรักษาสุขภาพอย่าให้เป็นหวัด เจ็บคอหรือต่อมทอมซินอักเสบ อย่าขากเสมหะแรงๆ หรือสั่งน้ำมูกแรงๆ
อย่าดื่มสุราหรือสูบบุหรี่จัดจะทำให้ปอดและหลอดลมอักเสบ

3. การจับเสียงและเข้าจังหวะ ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
3.1 นึกเสียงที่จะร้องในใจ หมายถึงระดับเสียง เสียงสระความดังเบา
3.2 หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ เตรียมพร้อมที่จะเปล่งเสียงออกมา
3.3 ริมฝีปาก คุณ้ม และขากรรไกรปล่อยตามสบาย
3.4 ลิ้นไม่กระดกหรือเกร็ง ปล่อยตามสบาย ให้ปลายลิ้นแตะกับฐานฟันล่างเล็กน้อย
3.5 การส่งลม การปรับหลอดเสียง การบังคับปากและการร้องจะเกิดขึ้น วินาทีเดียวกัน

4. คุณภาพของเสียง
ขึ้นอยู่กับหลอดเสียง กล่องเสียง ลำคอ กระพุ้งปาก ลิ้นและศรีษะ เมื่อสูดอากาศออก
อากาศจะผ่านหลอดเสียงทำให้หลอดเสียงสั่นเกิดเป็นเสียงขึ้นมา และเสียงก็จะผ่านลำคอ
และปาก ดังนั้นทั้งในปากและในศรีษะจะทำหน้าที่เป็นช่องขยายเสียง
ในขณะที่ ร้องเพลงจะรู้สึกเสียงพุ่งไปข้างหน้า และมี ?จุด? ที่เสียงรวมกันอยู่ที่หนึ่งที่ใดบนใบหน้า
พยายามให้ ?จุด? นี้ อยู่ที่แถวฟันเหนือปลายลิ้น ไม่ควรให้ ?จุด? นี้อยู่ในลำคอหรือโคนลิ้น
เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อแถวนั้นเกร็งและเสียงที่ออกมาจะไม่น่าฟัง การร้องเพลงควรคิดถึงบรรยากาศ
ที่สวยงามเบิกบานใจ อย่าเกร็งคอหรือหน้า อย่าเกร็งลิ้นหรือกระดกลิ้นขึ้นเพราะจะไปบังลำคอ
ทำให้เสียงที่ออกมาเกร็ง ฟังไม่ชัดและไม่ไพเราะ คือเสียงไม่มีคุณภาพนั่นเอง

5. การออกเสียงของสระและพยัญชนะ
ในการร้องเพลงผู้ร้องต้องคำนึงถึงองค์ ประกอบทั้งสอง คือการออกเสียงสระและพยัญชนะ
ถ้าปราศจากอันหนึ่งอันใดจะร้องเพลงไม่ได้ดีถึงแม้จะมีเสียงไพเราะก็ตามหลัก การร้องสระ แบ่งออกเป็น 4 ข้อคือ
(1) ออกเสียงสระให้ตรงตัว อย่าทำเสียงอื่นปนหรืออย่าออกเสียงผิดๆ
(2) ในการขับร้องหมู่ ผู้ร้องทุกคนควรออกเสียงสระให้เหมือนกัน
(3) สำหรับคำที่มีสระผสม (เช่น คำว่า ?เดียว? มีสระ2 ตัว คือ สระอี และสระอู)
ควรร้องสระเอา (ตัวหน้า) ตามค่าของตัวโน้ตไม่เน้นสระโอ (ตัวหลัง) จนเกินไป
(ในกรณีนี้ไม่เน้นสระอู จะร้องสระอีจนกว่าหมดค่าของโน้ตและสรุปคำด้วยสระอู)
(4) ร้องต่อสระคำหนึ่งไปยังอีกคำหนึ่งให้ต่อเนื่องกัน อย่าร้องขาดเป็นห้วงๆ
สำหรับการออกเสียงพยัญชนะ ผู้ร้องอาจจะปฏิบัติดังนี้คือ “พยายามร้องสระให้ยาวที่สุด
และร้องพยัญชนะให้สั้นที่สุดแต่ชัดเจน”

หลักการร้องพยัญชนะ แบ่งออกเป็น 5 ข้อคือ

(1) ถ้าคำใดขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ควรร้องพยัญชนะตรงจังหวะ อย่าร้องช้ากว่าจังหวะ
(2) ควรจะเปล่งเสียงพยัญชนะ เช่น เชอะ ฟัก ก่อนจังหวะของมันเล็กน้อย เมื่อจังหวะของมันมาถึง
เสียงที่ร้องจะได้ตรงจังหวะพอดี แล้วร้องสระของคำนั้นทีหลัง (พยัญชนะจะออกเสียงจากไรฟันและช่องข้างลิ้น)
(3) เนื่องจากสระเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการร้องเพลง ควรร้องพยัญชนะแต่ละตัวให้สั้น
(4) เปล่งเสียงพยัญชนะทางส่วนหน้าของปาก เพราะสะดวกในการเปล่งเสียงมากกว่าที่อื่น
และเพื่อให้ชัดเจนอย่าออกเสียงพยัญชนะจากโคนลิ้น
(5) ออกเสียงพยัญชนะทุกตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่พยัญชนะเป็นตัวเดียวกันสองตัว เช่น หนักแน่น

หลักการร้องเพลงเสียงต่ำ แบ่งออกเป็น 6 ข้อคือ

(1) ใช้เลียนแบบเช่นเดียวกับการพูด เสียงจะอยู่ที่ริมฝีปาก พยัญชนะและสระอยู่ที่ริมฝีปากไม่ใช่อยู่ในคอ
(2) เมื่อจะเริ่มร้องเสียงต่ำจะต้องเริ่มคิดเสียงสูงไว้
(3) ยิ่งเสียงลงต่ำช่องในปากจะเล็กลง ถ้าปากกว้างไปเสียงจะไม่มีกำลัง
(4) เวลาร้องเสียงต่ำไม่ควรร้องเสียงดัง
(5) บังคับลมและกำลังไว้ไม่ให้พลังออกมามากพร้อมกับเสียง เพราะจะทำให้เสียงหนักเกินไป
(6) ให้เสียงต่ำมีลักษณะก้องหรือสะท้อนกังวานออกมาคล้ายเสียงฮัม

หลักการร้องเพลงเสียงสูง แบ่งออกเป็น 5 ข้อคือ

(1) ใช้สมองหรือใช้ความคิดช่วยในการร้องเสียงสูง เช่น จะร้องเสียงซอลสูง ให้สมมุติว่าจะร้องเสียงสูงเท่ากับที่เคยร้องมาก่อน
(2) การร้องเสียงสูงต้องใช้พยัญชนะเร็วและชัด โดยใช้พลังของลมจากพยัญชนะถึงสระ
(3) การร้องเสียงสูงให้ปล่อยเสียงออกมาตามสบายโดยไม่ต้องบังคับ
(4) เมื่อร้องเสียงสูงให้ปล่อยขากรรไกร ปล่อยลิ้นตามสบาย อ้าปากกว้างไม่ต้องเงยหน้าและไม่เกร็ง
(5) ใช้พลังของลมจากกล้ามเนื้อที่หน้าท้อง เอวและสะโพก แต่ใช้กล้ามเนื้อที่คอเปล่งหรือบังคับเสียง

6. อักขระ
เป็นสิ่งสำคัญในการร้องเพลง โดยเฉพาะคำควบกล้ำ คำสั้นยาว แต่ละคำล้วนมีความหมาย
เพราะบทเพลงแต่ละเพลงที่ถ่ายทอดจากจินตนาการของ นักแต่งเพลง ล้วนมีความหมายและ
อารมณ์อยู่ในตัวของมันเอง ผู้ร้องคือผู้ถ่ายทอดจินตนาการของบทเพลงนั้นๆ ถ้าไม่พิถีพิถัน
ด้านอักขระจะทำให้เพลงนั้นหมดความหมายและอารมณ์ทันที เช่น ฉันรักเธอ เป็น ฉันลักเธอ
ขี่ควายชมจันทร์ เป็น ขี่ฟายชมจันทร์ หนัก เป็น หนาก หรือ เพลง เป็น เพง

ความรู้เรื่องการร้องเพลงที่กล่าวมานี้เป็น เพียงหลักที่ต้องนำไปฝึกหัดและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีความรู้ในด้านอื่นๆ อีกเป็นส่วนประกอบ เช่น สัดส่วนของคำ
ควรจะร้องอย่างไรสำหรับจังหวะนั้น ๆ การฝึกเอื้อน ฝึกลูกคอ การโหนเสียง ความรู้ในการรักษาเสียง
ความรู้ในการใช้ไมโครโฟน วิธีการถือไมโครโฟนเป็นอย่างไร การเลือกเพลงที่เหมาะสมกับสถานการณ์
สถานที่ และบุคลิกของตัวเอง รวมทั้งควรมีความเชื่อมั่นในตัวเอง สิ่งเหล่านี้จำเป็นที่จะต้อง ศึกษาไว้ด้วย

อีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ร้องควรคำนึงก็คือการวางอิริยาบท ในเวลาร้องเพลงบนเวที สำหรับผู้ร้องที่ไม่ประกอบ
แอ็คชั่นหรือออกท่าทางในเวลาร้องเพลง ต้องอยู่ในลักษณะสงบ ไม่เอียงหน้าไปมาในขณะร้อง ไม่เอามือ
ไขว้หลังหรือประสานมือไว้ข้างหน้า ผู้ที่ยังออกท่าทางไม่ ได้ก็ควรออกความรู้สึกของบทเพลงบางตอน
ทางใบหน้าและสายตาเท่านั้นก็พอ หากบางเพลงจำเป็นต้องมีแอ็คชั่นก็ควรฝึกจากผู้สอนที่มีหลักวิธีจะทำ
ให้ความหมายในบทเพลงดีขึ้น

เรื่องมารยาทของผู้ร้องก็เช่นกัน ขณะอยู่บนเวทีสิ่งที่ควรปฏิบัติคือ ยิ้มและร่าเริงทันทีเมื่ออยู่บนเวที
(นอกเหนือจากการแสดงที่มีการกำกับไว้ตายตัว) ต้องเคารพต่อผู้ฟังผู้ ชมทุกครั้ง อย่าปล่อยอารมณ์ที่ไม่พอใจ
เมื่อได้รับสิ่งที่ไม่พอใจ ตรงต่อเวลาโดยเคร่งครัด
ที่มา : luktung

ฝึกการท่องจำเนื้อเพลงให้แม่นยำ
– นำเพลงบทนั้นมาอ่านเนื้อร้องให้คล่อง
– พยายามออกเสียง พยัญชนะ อักขระ และตัวสะกดต่างๆให้ถุกต้องและถูกวรรคตอน
– เมื่อแน่ใจแล้วก็ลองร้องทั้งเพลง
– ใส่อารมณ์ความรู้สึกตามเนื้อเพลงนั้นๆ

เครื่องดนตรีใน ตัวมนุษย์
เมื่อลมหายใจออก ผ่านกล่องเสียงที่อยู่บริเวณลำคอ จะทำให้สายเสียงสั่น
เกิดเสียงในระดับ ต่างๆขึ้น ยิ่งเมื่อได้โพรงในลำคอและจมูกช่วยการสะท้อนเสียงด้วยแล้วเสียง จะยิ่งมีกังวานมากขึ้น
เสียงสูงๆต่ำๆ ที่เปล่งออกมาอย่างได้จังหวะนี้จัดเป็นเครื่องดนตรีวิเศษสุดชิ้นหนึ่ง ที่มนุษย์สามารถบรรเลงได้โดยตัวเอง
เสียงที่เปล่งออกมาได้อย่างแจ่มใส ตรงโน้ต มีกังวานชวนฟังนั้นย่อมมาจากลมหายใจในช่องท้องจำนวนพอเหมาะที่จะทำให้ เสียงสั่นในความถี่ที่ต้องการ
ในทางตรงข้ามถ้าลมไม่พอ เสียงที่ออกมาจะไม่สดใส บางทีอาจเพี้ยนไปการหายใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่เพียงเป็นผู้ให้ชีวิตเท่านั้น
แต่ยังเป็นขุมพลังมหาศาลแก่เครื่อง ดนตรีวิเศษชิ้นนี้อีกด้วย

การหายใจแบ่งอย่างคร่าวๆ ได้เป็น 2 ช่วง
ช่วงแรก หายใจก่อนร้องเพลง เอาลมไปเก็บไว้ในช่องท้องและปอดเพื่อเป็นแรงสำคัญในการร้อง วรรคแรกของเพลงให้จับใจผู้ฟัง
ขณะร้องเพลงไปก็ผ่อนลมหายใจออกมาจนลมที่ เก็บไว้หมดไปทุกทีทำให้ต้องหายใจเอาลมครั้งใหม่เข้าไปอีกอีก
ประการหนึ่งแม้ว่าลมจะยังไม่หมดแต่เราคงกลั้นลมหายใจนานๆไม่ได้เพราะใน ช่วงนี้ร่างกายขาดออกซิเจน
การหายใจขณะร้องเพลงจึงเป็นเรื่องหนีไม่พ้นจัดเป็น การหายใจที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ต้องกระทำกัน

ปัญหาที่มักพบกัน
ก็คือปัญหาลมมาอัดอยู่ในคอจนเกิดอาการเกร็งร้องไม่ออกวิธีแก้ คือ ให้หมุนคอไปมา ลมจะออกมาบ้าง ช่วยให้สบายขึ้น

การฝึกฝน
การหายใจทั้ง 3 จังหวะนี้ ควรทำเป็นประจำทุกวันโดยเริ่มทำช้าๆ ก่อน แล้วค่อยเร็วขึ้น อาจรู้สึกหน้ามืด เป็นเพราะมีเลือดฉีดขึ้นไปเลี้ยงสมองมากเกินไป
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ให้พักเสีย การฝึกหายใจอย่างสม่ำเสมอ เท่ากับเป็นการบริหารอย่างหนึ่งช่วย ให้กล้ามเนื้อกระบังลมแข็งแรงและมีพลังในการร้องเพลง

เราควรเลือกหายใจตรงไหนดี
บางคนเลือกหายใจทุกระยะที่รู้สึกติด ขัด คือลมหมดเมื่อไรก็หายใจเมื่อนั้น
วิธีนี้เสี่ยงหน่อย ถ้าหยุดไม่ถูกที่ อาจทำให้เพลงขาดหายไปเฉยๆ
ผู้ฟังหมดอารมณ์ต่อเนื่องไป อย่างน่าเสียดาย บางคนเลือกหายใจเอาที่ระยะหมดประโยคในเพลงซึ่งพอจะแก้ไข ข้อเสียของรายแรกได้
แต่ก็ไม่วายมีข้อติ คือ ถ้าผู้ร้องผ่อนลมหายใจตอนแรกมากเกินไปพอถึงตอนท้ายประโยคลมจะไม่พอ ทำเสียงเพี้ยนหรือเสียงแกว่ง หรือขาดหายไป ทำให้ไม่เพราะ

นักร้องที่ฉลาด
จะหาจุดหายใจในเพลงของตัวก่อนอย่าง อื่น และซักซ้อมไว้ให้ดีจนคนฟังจับไม่ได้ บางท่านหยุดหายใจพวกคำตายต่างๆที่ต้องลงท้ายด้วยแม่ กก กด กบ
เพราะสระ พวกนี้มีเสียงสั้นไม่ต้องเอื้อนอีกที่หนึ่ง ได้แก่บริเวณท้ายประโยคแต่ละตอนของเพลงเราอาจหยุดหายใจสั้นๆก่อนตัวสุด ท้าย เพื่อจะได้มีพลังไว้ยืดโน้ตตัวสุดท้ายนั้นทำให้เสียงฟังนุ่มนวล ขึ้น

การฝึกหายใจ
เป็นหลักสำคัญ ในการร้องเพลง เพราะลมที่ได้จากการหายใจแต่ละครั้ง หมายถึง ชีวิตและพลังควรที่ผู้สนใจทางด้านนี้จะฝึกฝนไว้จนเกิดความเคยชิน
นอกจากนี้การร้องเพลงให้ได้ดี ยังต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นอีกมากเช่น สำเนียงร้องที่ชัด การใช้ปากกับการออกเสียง อารมณ์
ตลอดจนการทำเสียงให้ไพเราะโดยอาศัยการ เคลื่อนไหวของกราม การทำเสียงรัว ฯลฯ เป็นต้น
หูของตัวจะเป็นครูที่ดีบอกให้รู้ว่า เสียงที่ออกมานั้น มีคุณภาพแค่ไหนหรือถ้าใครอยากให้คนอื่นช่วยฟังก็คง จะดียิ่งขึ้น
แต่แม้จะเตรียม ลูกเล่นไว้มากมาย ถ้าไม่หายใจเตรียมพลังเสียอย่าง ลูกเล่นก็หมดความหมาย

เทคนิคเสริม
การร้องเพลงให้เพราะ  ข้อสำคัญ จะต้องมีอารมณ์สอดแทรกความรู้สึกให้ได้กับเนื้อหาของเพลง
มีใจรัก  ปล่อยใจ  ปล่อยอารมณ์ ให้ตัวเบา…การออกเสียงจะต้องสบาย ๆ ถ่ายทอดความรู้สึก
เราควรสอดแทรกและสื่อความหมายของเพลงให้คุณ่ผู้ฟัง  ถ้าเราปล่อยความรู้สึกของเราตามความหมายของเสียงเพลง
ผู้ฟังจะเข้าใจ  เช่น  เพลงเศร้า  จะต้องให้เศร้า  เสียใจ  นั่นแหละจึงจะประสบความสำเร็จ
ถ้าร้องไปโดยไม่คำนึงถึงความหมาย  เราก็ จะไม่สามารถเข้าถึงหัวใจเขาได้…
นอกจากนี้เราต้องรักษาระดับเสียงสูงต่ำขึ้นลงให้ได้อีกด้วย  ก่อนอื่น เราต้องฝึกเสียงให้ผ่านจากลำคอ
ไปถึงท้อง  ต้องร้อง แบบเปิดลำคอ  จุดนี้ต้องให้ความรู้สึกโล่ง ที่สุด  เหมือนกับโทรโข่งที่รับเสียงแล้วก้อง
ไม่มีสิ่งใดมากีดขวาง  ร้องเพลงอย่างมี ความสุข สบาย ๆ ไม่ใช่ว่ารู้สึกเหนื่อยเวลาขึ้นเสียงสูง
เพราะคนฟังก็จะรู้สึกอย่างนั้นไปด้วย  ทักษะ ในการร้องเพลงต้องสูดหายใจลึก ๆ การออกเสียงเสมือน
กับการดื่มน้ำหรือการรับประทานอาหาร  ซึ่งต้องผ่านลำคอลงไปโดยไม่ติดคอ  จึงจะเป็นการร้องเพลง
ที่ถูกต้องการร้องเพลงเป็นการฝึกการ พูดของเราเหมือนกัน  บางคนพูดแล้วจะรู้สึกเหนื่อย  ผู้ที่มีปัญหาเรื่อง
หลอดลมหรือปอด  หายใจ ไม่ทัน  ถ้าได้ฝึกร้องเพลงแล้วฝึกให้ถูกต้อง  จะเป็นการช่วยให้สุขภาพดีขึ้น
เป็นการฝึกการบริหาร  แต่ต้องฝึกให้ถูกวิธี  จึงต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย  ลักษณะของการออกกำลังกาย
จะมีการหายใจเข้าและหายใจออกเหมือนกับการร้องเพลง  ดังนั้นผู้ที่ร้องเพลงได้ดีส่วนมากจึงออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
ผลพลอยได้คือ  สุขภาพร่างกายแข็งแรง  ชะลอความคุณ่ได้  ดังสุภาษิต  ที่ว่า  “ยิงปืน นัดเดียวได้นกสองตัว”
เพราะร้องเพลงได้ดี ขึ้น  และสุขภาพยังแข็งแรงขึ้นอีกด้วย..( นี้คือความในที่เป็นเคล็ดลับของน้องหมวย..หรือชไมพร
กุลบุตรดี..อนาคตนักร้อง ลูกทุ่ง..เสียงใสคนหนึ่ง)
ที่มา : kroobannok

คำถามที่พบบ่อยในการร้องเพลง
1. เคล็ดลับในการหายใจ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มหัดร้องเพลง เพราะมักจะหายใจไม่ทันและเหนื่อย ร้องแล้วบางทีลมไม่พอ ทำให้เสียงขาดหาย
ตอบ การหายใจที่ถูกต้องคือ การเก็บลมที่กระบังลม พองรับลมเก็บลมเข้าไว้ ใช้ลมจากกระบังลม Control ให้เส้นเสียงสั่นสะเทือน ถ้าเปลี่ยนวิธีการหายใจมาใช้กระบังลมได้ บางทีน้องจะหายใจง่ายขึ้น เพราะการหายใจด้วยกระบังลม มันใช้เวลาเสี้ยววินาทีในการเก็บลมให้เต็ม
——————————————————————————–
2. รู้สึกว่าเสียงร้องของตัวเองไม่มีพลัง ควรทำไงดี อีกอย่างหนึ่งการที่จะร้องเพลงให้มีทั้งน้ำเสียงและ feelling ที่ดีควรทำอย่างไร
ตอบ ต้องรู้จัก Project เสียง เริ่มจากรู้จักการบังคับกระบังลม อย่างเช่น การบังคับกระบังลมเนี่ย เราหายใจเข้าเก็บลม กระบังลมพองเต็มที่แล้ว ปล่อยเสียง เราบังคับกระบังลมให้ Project เสียงทีเดียว ให้มีพลัง เราทำได้แล้ว เราจะเริ่ม Project เสียง บังคับกระบังลมได้นะ มันมีวิธีการฝึกฝน แบบฝึกหัดเยอะแยะ อย่างเช่น Sit Up หรือว่า เพิ่มพลังให้กระบังลม ยกน้ำหนักกระบังลม น้องๆ ก็คงต้องเน้นที่กระบังลม เก็บลมและ Control ได้เต็มที่ จะทำให้เสียงมีพลังมากขึ้น
——————————————————————————–
3. ร้องเพลงแล้วรู้สึกเหมือนเสียงสั่นๆไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
ตอบ เสียงสั่นมี 2 กรณีนะครับ – คือเกร็ง เวลาร้องเพลงแล้วเกร็ง เส้นเสียงมันจะตึง ทำให้สั่นสะเทือนไม่ได้เต็มที่ – อีกอันหนึ่งก็คือ ลมที่ใช้บังคับให้เส้นเสียงสั่นสะเทือน ไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นต้องลองเช็คดูว่า ลมพอรึเปล่า หรือว่าน้องร้องเกร็ง แล้วก็แก้ไขที่จุดนั้นๆ
——————————————————————————–
4. ผมเป็นคนที่ร้องเสียงสูงไม่ค่อยได้ ทำอย่างไรให้สามารถร้องเสียงสูงได้บ้างครับ โดยเฉพาะเพลงพี่เบิร์ดร้องยากมาก ถ้าจะร้องให้ได้ตามคีย์เสียงพี่เขานั้นยากมากสำหรับผม
ตอบ จริง ๆ แล้ว อย่างที่บอกว่าการร้องเพลง เสียงจะถูกกำหนดโดยสรีระร่างกายคนเราแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอยากจะเป็นคนอีกคนนึง มันก็ยาก แต่มันก็ไม่ถึงกับทำไม่ได้ จะต้องมีการฝึกฝนที่ถูกวิธี หายใจให้ถูกต้อง รูปปากถูกต้อง ค่อย ๆ Vocalize เสียงให้สูงขึ้น แต่ยังไงก็ตาม คนบางคนก็อาจจะไม่สามารถร้องได้ เพราะระดับของเสียงมันถูกกำหนดโดยสรีระร่างกาย เพราะฉะนั้นถ้าอยากร้องเพลงพี่เบิร์ด ก็อาจจะต้องลดคีย์ลงมาดีกว่า อย่าไปบังคับให้เสียงสูงขึ้นโดยการตะโกน มันจะทำให้เสียงเสีย
——————————————————————————–
5. วิธีการร้องเสียงหลบเป็นยังไง มีเทคนิคในการร้องแบบไหน แล้วร้องยากไหม
ตอบ การร้องเสียงหลบนี่ก็คือเสียง Head Tone ค่ะ วิธีการร้องก็ต้องเปิดคอ ก็คือให้คอ เราเป็นโพรง แล้วโยนเสียงขึ้นไปให้ก้องกังวานอยู่บริเวณที่เป็น Head Tone จริง ๆ ถามว่าร้องยากมั้ย ไม่ยากนะ แต่จะต้องมีการฝึกฝนที่ถูกวิธีนิดนึง แล้วก็มีครูที่มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะ
——————————————————————————–
6. ร้องเพลงไม่ค่อยเข้ากับดนตรีเลย เป็นคนเสียงต่ำทำให้ร้องเพลงเสียงสูงไม่ได้ พอร้องเสียงมันจะขาดไป อยากร้องเพลงเสียงสูงได้ และการร้องแบบมีลูกคอทำยังไงคะ อยากมีลูกคอเหมือนกับนักร้องดังๆบ้าง ควรฝึกยังไง
ตอบ อยากร้องเสียงสูงได้ต้องฝึกนะ ก็คือฝึกการวอร์มเสียงด้วย แล้วก็จะต้องมี ครูที่ชำนาญช่วยในการ ฝึกฝน อย่างที่พี่แอนบอกว่า เสียงจะถูก Limit ด้วยสรีระร่างกาย เรา ดังนั้นการที่จะยืดให้เสียงสูงขึ้นหรือต่ำลงจะต้องมีคนที่มีประสบการณ์มีความรู้มากกว่าที่จะช่วยยืดเสียงนั้น ร้องแบบมีลูกคอทำยังไง? ลูกคอ คือการสั่นสะเทือนเราเรียกว่า Vibration ค่ะ เพราะฉะนั้นลูกคอก็คือการสั่นสะเทือนของโน้ต 2 ตัว ให้หาโน้ต 2 ตัว ลองฝึกฝนร้องจากโน้ตแต่ละโน้ต อย่างสมมุติ \”มีฟ้า มีฟ้า มีฟ้า…\” เราร้องให้เร็วขึ้น แล้วมันจะเกิดลูกคอได้
——————————————————————————–
7. อยากทราบเทคนิคการร้องแบบ R&B ว่าทำยังไงค่ะ แล้วก็สนใจอยากร้องให้ได้แบบ Mariah (แบบหอนๆ หน่อย) อยากรู้ว่าหัดยังไง
ตอบ คนที่ร้อง R&B ได้จะต้องเป็นคนที่ฟังเพลงเยอะๆ แล้วก็รู้จักการใช้โน้ตหลายๆ ตัว แทนที่จะร้องลากเสียงแค่โน้ตเดียว ก็จะเปลี่ยนโน้ตไปเรื่อยๆ มันจะมีสเกลหลายสเกลที่จะใช้ฝึกนะคะ อย่างเช่น Melodic Scale คือสเกลที่เป็นเครื่องเสียงหมดเลย ฝึกอันนี้ก็ได้ หรือว่าฟังเพลงเยอะๆ ก็ได้
——————————————————————————–
8. เพื่อนๆมักจะบอกว่า ผมร้องเพลงสมูทมากๆ คือเรียบหมดทั้งเพลง ไม่มีสูง-ต่ำ ทั้งๆที่ผมรู้สึกว่าผมออกเสียงสูงต่ำชัด อาการของผมคือ ร้องเสียงต่ำปั๊บ ล่มทันที คือร้องได้ แต่ว่าไม่ค่อยมีคีย์ เสียงสูง ก็สูงมากไม่ได้ เพราะเสียงผมขาดพลัง ลงต่ำไม่ค่อยได้ แต่เพื่อนบอกว่าผมเนื้อเสียงดีนะ ช่วยตอบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ตอบ เป็นเสียงโมโนโทน คือร้องเสียงคีย์เดียวกันตลอด ปัญหาคงอยู่ที่ ear training คือปัญหาของการรับฟัง เพราะถ้าเรามีประสาทหูที่ดีเราจะรับฟังเสียงสูงและเสียงต่ำ แล้วก็สามารถทำตามได้จากสิ่งที่ได้ยิน เพราะฉะนั้น ของน้องคงต้องเริ่มตั้งแต่ ear training ก่อน คือฝึกประสาทรับฟังที่ถูกต้องก่อน เพื่อจะได้จับเสียงสูง-เสียงต่ำ และความแตกต่างของเสียงได้ เนื้อเสียงดีก็ดีแล้วค่ะ แต่จริงๆสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างของการร้องเพลง คือประสาทรับฟัง
——————————————————————————–
9. \”เอกลักษณ์การร้องเพลงที่เป็นตัวของตัวเอง\” ฟังแล้วเหมือนง่าย แต่ยากจังนะคะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเอกลักษณ์ของเราคืออะไร เพราะอย่างหนูเองเวลาร้องตามนักร้อง หนูมักจะหัดออกเสียงตามแบบที่เขาร้อง แรกๆหนูก็ไม่รู้ตัวหรอกค่ะ แต่พอมาฟังคนพูดเยอะๆว่า นักร้องคนนี้ ร้องเพลงมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองดี ก็เลยฉุกคิดว่า แล้วเราล่ะมีเอกลักษณ์การร้อง เป็นของตัวเองบ้างหรือเปล่า
ตอบ จริงๆแล้วเอกลักษณ์ มันก็คือเทคนิคในการร้องเพลง อย่างที่เวลาน้องร้องเพลงตามศิลปินคนอื่นๆ เขาจะมีเทคนิคแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ทีนี้การใช้เทคนิคในคำแต่ละคำในเพลง มันอาจจะมีหลายเทคนิค ที่จะใช้กับคำๆนั้น ถ้าน้องสามารถหาวิธีที่น้องถนัด แล้วก็ลงไปร้องคำกับคำๆนั้นให้เหมาะสม มันก็จะเป็นเทคนิค ส่วนตัวของเราได้ ซึ่งตรงนี้เป็นขั้น advance แต่จริงๆแล้วถ้าฟังเพลงเยอะๆ เราก็จะจับเทคนิคได้ ถ้าจะให้แนะนำก็ลองปรึกษาหรือลองไปเรียนกับครู ที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อที่จะได้พัฒนาเทคนิคของตัวเองขึ้นไป แล้วจะได้เข้าใจว่าอะไรคือเอกลักษณ์ของตัวเอง
——————————————————————————–
10. อยากทราบวิธีวอร์มเสียงก่อนขึ้นเวทีค่ะ
ตอบ วิธีการวอร์มเสียงง่ายๆ วอร์มสเกล เมเจอร์สเกล โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด หรือว่าเป็นอาเพ็จจิโอ โด มีซอล โด ซอล มี โด อะไรอย่างเนี้ย แล้วก็ค่อยไล่สเกลขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะช่วยได้ หรือว่าเป่าลม เป่าปาก ก็จะช่วยรีแล็กซ์กล้ามเนื้อที่ปาก ที่คาง ที่ขากรรไกรได้ อาจจะวอร์มร่างกายให้อบอุ่นด้วยอีกอย่างหนึ่งก็ดี
——————————————————————————–
11. การร้องเพลงร็อคควรใช้เสียงประมาณไหนครับ
ตอบ การร้องเพลงทุกเพลง ต้องเริ่มต้นที่การร้องเต็มเสียง เต็มเสียงยังไง? หมายความว่าเต็มเนื้อเสียงที่เราใช้ในการพูด เป็นเสียงมาตรฐานของการร้องให้เต็มเสียง เพลงร็อคก็ควรจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าเพลงร็อคของน้อง อาจจะเป็นไฮร็อก หรือว่าเฮฟวี่เมทัล อาจจะต้องใช้เสียงมากกว่านั้น ซึ่งอาจจะต้องมีครูแนะนำ เพราะว่าบางทีถ้าใช้เสียงผิดวิธี มันจะทำให้เส้นเสียงอักเสบได้ แต่ว่าเริ่มร้องเพลงเนี่ย ควรจะร้องให้เต็มเสียงก่อนแล้วกัน
——————————————————————————–
12. อยากร้องเพลงเก่ง มีปัญหาตอนที่ร้องเสียงสูง เสียงจะเพี้ยนและแตกทุกครั้ง ตอนนี้ผมทำงานในด้านนี้ด้วย(ร้องเพลงที่ผับตอนกลางคืน) ช่วยบอกวิธีให้ด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ตอบ 1. เบสิค คือการหายใจที่ถูกต้อง ประสาทรับฟังที่ถูกต้อง รูปปากที่ถูกต้อง 2. ริธึ่มมิค คือ จังหวะที่ดี 3. เทคนิค คือ การร้องอย่างมีสไตล์ มีเทคนิคเป็นของตนเอง เพราะฉะนั้นถ้าอยากร้องเพลงเก่งๆ พี่ว่ากลับไปที่เบสิคของการร้องเพลง ต้องเช็คว่าหายใจถูกต้องหรือยัง? หายใจด้วยกระบังลมหรือเปล่า? รูปปากถูกต้องชัดเจนหรือยัง? เพราะว่าบางทีถ้าร้องเสียงสูงแล้วเสียงไม่ถึง มันมี 2 กรณีคือ เสียงไม่ถึงเพราะลมไม่พอ กับอีกกรณีหนึ่งคือร้องไม่ถึง เพราะว่ามันสูงเกินเร้นจ์(Range)ของเสียงเราเกินไป เพราะฉะนั้นต้องเช็คให้ดีว่ามันเป็นเพราะอะไร แล้วก็แก้ไขที่สาเหตุนั้น ถ้าร้องไม่ถึง ร้องเพี้ยนหรือเสียงแตก เพราะว่าลมไม่พอ อาจจะเป็นเพราะว่าเบสิคของการใช้ลมหายใจเราผิด ต้องไปปรับแต่งตรงนั้นให้ได้
——————————————————————————–
13. ทำยังไงเสียงของเราถึงจะใสและฟังเพราะ ไม่ตํ่าหรือสูงเกินไป
ตอบ จริงๆการร้องเพลงมันต้องร้องตามเมโลดี้ ถ้าเมโลดี้มันต่ำหรือมันสูงก็ต้องร้องตามนั้น ทำยังไงให้เสียงใสตลอดเวลา ก็คงจะต้องอยู่ที่วิธีการรับประทานอาหาร สุขลักษณะ โภชนาการ แล้วก็การพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้เต็มที่
——————————————————————————–
14. เวลาร้องคอรัสทำอย่างไร? ไม่ให้หลงไปกับ line ของเมโลดี้
ตอบ อันนี้ต้องฝึกที่ ear training นะคะ เพราะว่าถ้าประสาทรับฟังของเราดี ไม่ว่าจะมีเสียงอะไรมารบกวน เราก็จะไม่เป๋ไปตามเสียงนั้น ต้องฝึก ear training แล้วก็ต้องฝึกสมาธิในการร้องเพลง ซึ่งในการร้องเพลง เราต้องคิดหลายๆเรื่องพร้อมๆกัน เราจะต้องแยกประสาทส่วนต่างๆในการควบคุมตัวเองให้ได้ ถ้าเราฝึกตรงนี้ได้ มันจะช่วยให้เราร้องคอรัสได้ดีขึ้น แต่ที่สำคัญต้องเริ่มที่ ear training ก่อน
——————————————————————————–
15. หนูมีปัญหาอยากถามพี่ดังนี้ คือเวลาที่ร้องเพลง(หนูเป็นนักร้องและนักดนตรี) ขึ้นเสียงสูงมาก ๆ เมื่อก่อนจะร้องไม่ได้ ปัจจุบันร้องได้แล้ว แต่จะมีปัญหาว่า ตอนช่วงเย็นถึงหัวค่ำ จะร้องเสียงสูงไม่ค่อยได้ คือเหมือนกับเสียงจะแหบ แต่ว่ายิ่งดึก เสียงจะยิ่งใสขึ้นมากๆ คนอื่นมีปัญหาแบบนี้บ้างมั้ย หนูจะร้องเพลงตั้งแต่ช่วงสองทุ่มถึงเที่ยงคืน คืนหนึ่งร้องถึง 30 เพลงรวด มีเบรค 1 ชั่วโมง และอยากรู้เคล็ดลับที่ทำให้เสียงไม่แหบ
ตอบ ถ้าเราใช้เสียงเยอะในช่วงกลางคืน ยิ่งดึกมันก็จะเหมือนคนทั่วไป คือตอนเช้าเพิ่งตื่นขึ้นมาเสียงจะแหบ แล้วเสียงมันจะค่อยวอร์มไปเรื่อยๆ คือค่อยๆทำงานไปเรื่อยๆ จนประมาณเที่ยงวัน พอถึงตอนเย็นเสียงมันก็จะใสเต็มที่ เพราะฉะนั้นถ้าน้องร้องเพลงกลางคืน น้องก็ต้องเปลี่ยนลักษณะการนอน การกินอยู่ เป็นนอนตอนกลางวันให้เต็มที่ เท่ากับคนทั่วไปที่เขานอนตอนกลางคืน แล้วตื่นขึ้นมาก็จะมีระยะเวลา ในการให้เสียงมันวอร์มอัพก่อน อาจจะพูดคุยกับเพื่อนให้เสียงมันเข้าที่ ก่อนที่จะไปทำงานตอน 2 ทุ่ม ไม่ใช่ว่าน้องตื่น 6 โมงเย็น แล้วรีบอาบน้ำ แต่งตัวไปทำงานตอน 2 ทุ่มเลย เสียงจะยังไม่มา มันต้องให้ระยะเวลาในการตื่น ในการให้เสียงมันวอร์มอัพก่อน จริงๆก็คือต้องเปลี่ยนวิธีการนอน เปลี่ยนวิธีการกินอยู่ ชีวิตประจำวันให้ต่างจากคนทั่วไป ถ้าไม่อยากให้เสียงแหบ หรือว่าใช้เสียงให้ถูกประเภท หายใจให้ถูกต้อง เบสิคในการร้องเพลงต้องถูกต้อง มันจะช่วยให้การร้องเพลงสบายขึ้น
——————————————————————————–
16. อยากทราบว่ารูปร่างมีผลต่อการร้องเพลงหรือไม่ ถ้าผมอ้วนนี่จะมีส่วนต่อการร้องเพลงหรือเปล่าครับ แล้วมีผลอย่างไรบ้าง
ตอบ รูปร่างมีผลต่อการร้องเพลงอยู่แล้ว เพราะว่าเสียงในการร้องเพลง เกิดจาก 3 ส่วนในร่างกายของคนเรา ส่วนที่1 เราเรียกว่า เชสโทน คือทรวงอก ส่วนที่ 2 เราเรียกว่า เม้าธ์โทน คือโพรงปาก ส่วนที่ 3 เราเรียกว่า เฮดโทน คือโพรงสมอง ร่างกายของคนเรา สรีระแต่ละส่วนจะเป็นตัวกำหนดให้เสียงต่างกันไป อย่างเช่น ทรวงอก คนที่รูปร่างใหญ่จะร้องเสียงต่ำ มีพลังได้ดีกว่าคนที่ผอม หรือว่าคนที่มีโพรงสมอง อย่างเช่น พวกคนผิวดำหน้าผากเขาจะโหนกขึ้นมานิดหนึ่ง จะทำให้ช่วยในการร้องเสียงสูงได้ เพราะฉะนั้นสรีระร่างกายเป็นตัวกำหนดการร้องเพลง แต่จริงๆแล้วถ้าได้เรียนรู้หรือฝึกฝนเพิ่มเติม ก็จะช่วยยืดเร้นจ์ของเสียง หรือระดับระยะห่างของเสียงให้กว้างขึ้นได้
——————————————————————————–
17. จะทำยังไงให้เสียงคงที่ ไม่แกว่งครับ ต้องทำไงดี
ตอบ เก็บลมให้ดี และ Control เสียงด้วยลมจากกระบังลม
——————————————————————————–
18. ผมเรียนร้องเพลงเบื้องต้นอยู่ที่เชียงใหม่นะครับ ตอนนี้ใกล้จะจบคอร์สแล้ว แต่มีปัญหาว่าผม ร้องเพลงเสียงสูงๆ แล้วมักจะบีบเสียง ครูที่สอนบอกว่าผมเกร็งไป และเสียงผมชอบเป็นเสียง แฟลต จะทำอย่างไรดีครับ ช่วยแนะนำด้วย เพื่อการร้องเพลงของผมจะได้ไม่มีข้อผิดพลาดอีก
ตอบ ร้องเสียงสูงต้องเปิดคอและ Swing เสียงไปที่ Head Tone ลองให้ครูช่วยด้วย
——————————————————————————–
19. อยากทราบว่าเราจะมี วิธีการร้องเพลงอย่างไรให้เสียงกว้างๆ
ตอบ หมั่น Vocalize เสียง จะช่วยยืดให้เสียงกว้างขึ้น
——————————————————————————–
20. เคล็ดลับการรักษาเสียง เคล็ดไม่ลับในการรักษาเสียงและร้องเพลงคืออะไร
ตอบ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
——————————————————————————–
21. เทคนิคการร้องแบบใช้เสียงลม การร้องเเบบใช้เสียงลม ถือว่าเป็นการร้องที่ผิดวิธีรึเปล่าครับ เพราะว่าร้องแบบไม่เต็มเสียง เห็นนักร้องบางคนนำมาใช้กัน
ตอบ เสียงลมถือเป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง แต่ควรใช้เฉพาะบางคำในเพลงเท่านั้น ไม่ใช่ตลอดทั้งเพลง เพราะจะทำให้ไม่มีพลังและ Control เสียงลำบาก
——————————————————————————–
22. ทำอย่างไรถึงจะรู้เสียงจริงๆ ของตัวเอง เวลาร้องเพลงแล้วพยายามร้องให้เต็มเสียงทีไร คนที่บ้านก็จะบอกว่าฟังแล้วแสบแก้วหูบ้าง บอกว่าเราเสียงแหลมบ้าง แต่พอเราทำเสียงให้ soft ลงมาหน่อยเค้าฟังแล้วก็รู้สึกดีขึ้นนะคะ แต่หนูก็รู้สึกว่าพอขึ้นเสียงสูงแล้วเสียงจะเหมือนคนเป็นหวัดค่ะ ตอนนี้ก็เลยสับสนว่าควรร้องยังไงให้ฟังออกมาดูไพเราะน่ะค่ะ เพราะหนูเป็นคนค่อนข้างเสียงแหลมค่ะ ทำอย่างไรถึงจะรู้เสียงจริงๆของเราค่ะ
ตอบ ใช้เทียบจากเสียงพูดตัวเองก่อน จะได้เสียงที่เป็นธรรมชาติที่สุดเวลาร้องเพลง
——————————————————————————–
23. เวลาร้องเพลงจะรู้ได้อย่างไรว่า ควรให้เสียงลงคอ หรือขึ้นจมูกอย่างไร มากน้อยเพียงใด หรือว่าเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน
ตอบ เวลาร้องเพลง เสียงไม่ควรจะขึ้นจมูก เพราะว่าเวลาเสียงขึ้นจมูก คอมันจะปิด พอคอปิดเสียงจะแบน เสียงที่เราต้องการในการร้องเพลงก็คือเสียงกลม เสียงที่มาจากกำบังลมของเรา ทีนี้ก็คลิกเข้าไปดูในเรื่องการออกเสียงที่ถูกต้องนะคะ เพราะฉะนั้นการร้องเพลงมีวิธีง่ายๆก็คือ อย่าเรียกเสียงขึ้นคอหรือขึ้นจมูกดีกว่า เรียกว่าเราควรอ้าปากให้กว้างมากที่สุดเท่าที่สระตัวนั้นควรจะออกเสียงแบบนั้น เพราะบางคนร้องเพลงไม่อ้าปาก เสียงจะขึ้นจมูกและเสียงแบน
——————————————————————————–
24. ร้องเพลงไม่ค่อยตรงคีย์ครับ ทำให้ไม่มั่นใจเลยเวลาจะต้องร้อง ต้องฝึกยังไงดีครับ
ตอบ ปัญหาร้องเพลงไม่ตรงคีย์ คนที่ร้องไม่ตรงคีย์ควรจะฝึกกับเครื่องดนตรี เป็นกีต้าร์หรือเปียโนนะคะ โดยเฉพาะเปียโนจะช่วยได้มาก กดโน้ตทีละตัวแล้วก็พยายามร้องให้เสียงเราตรงกับโน้ตที่เราได้ยิน ฝึกไปเรื่อยๆอย่าเพิ่งไปรีบร้องเพลง ฝึกโน้ตแต่ละตัวก่อน แล้วเมื่อไรที่เราเริ่มชินเสียงที่เราได้ยิน ให้เปล่งเสียงตามเสียงที่เราได้ยินได้ เราจะเริ่มร้องถูกคีย์ได้มากขึ้น
——————————————————————————–
25. เป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาก แต่พอมาร้องต่อหน้าคนอื่นหนูจะตื่นเต้นมาก ตอนนี้หนูก็พยายาม ร้องให้เพื่อนฟัง ก็พอจะร้องได้บ้าง แต่พอเวลามีงานทีไร พวกเพื่อนๆก็จะยุให้ขึ้นไปร้องบนเวที จะกลัวและตื่นเต้นจนร้องไม่ออก จะทำยังไงให้ร้องเพลงได้ และให้หายตื่นเต้นดี
ตอบ จริงๆแล้วคนที่ชอบร้องเพลง ถ้าตื่นเต้นมาก วิธีการทำให้คลายความตื่นเต้น ก็คือทำสมาธิกำหนดลมหายใจเข้า-ออก แล้วก็ทำสมาธิให้จิตใจสงบลง ต้องเป็นคนที่ฝึกซ้อมบ่อย ๆ ถ้าเราไม่อ่อนซ้อม ถึงเวลาที่เราต้องแสดงออก หรือต้องประกวด หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ เราจะมีความมั่นใจมากกว่าคนอื่นๆ และเราก็สามารถระงับความตื่นเต้นนั้นได้

เทคนิคในการร้องเพลงมีอะไรบ้าง

6 วิธีง่ายๆที่ช่วยให้ร้องเพลงดีขึ้น.
1. ความเชื่อมั่น ... .
2. รู้จักใช้ปากให้ถูกรูปแบบเสียง ... .
3. การควบคุมลมหายใจ ... .
4. พลังปอดที่ดี ... .
5. พยายามร้องเพลงนอก Range (ระยะเสียง).

การวางท่าทางในการร้องเพลงที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร

1. ท่าทาง การปฏิบัติที่ถูกต้องควรจะให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ คือยืนตรง เท้าวางห่างกันประมาณ 1 ฟุต เท้าขวาอยู่หน้าเล็กน้อย ให้รู้สึกว่ากระดูกสันหลังรับน้ำหนักทั้งหมด ฝึกหัดยกหัว เชิดหน้า ไหล่ตรง แขม่วท้อง หดสะโพก หลังตรง ไม่เกร็งตัว วางตัวตามสบายแต่ให้อยู่ในลักษณะที่ถูกต้อง ควรยืนห่างจากไมโครโฟนประมาณ 12 - 15 นิ้ว ออกเสียง ...

ก่อนร้องเพลงผู้ร้องควรทำอย่างไร

สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ เพื่อการร้องเพลงที่ดี.
1. วอร์มเสียงทุกวัน ก่อนออกกำลังยังต้องวอร์มอัพ ก่อนร้องเพลงเราก็ต้องวอร์มเสียงเช่นกัน ... .
2. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ... .
3. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ... .
4. หลีกเลี่ยงการใช้เสียงผิดวิธี ... .
5. งดบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ... .
6. จัดตารางเวลาซ้อมอย่างจริงจัง.

ร้องเพลงยังไงให้เสียงดี

อยากเสียงดีอยากร้องเพลงเก่ง ไม่ยากครับ.
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ.
ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ยุ่งเกี่ยวสารเสพติดทุกชนิด.
ไม่ตะโกน ไม่กรี๊ด หรือส่งเสียงดังเกินปกติ เพราะเส้นเสียงอาจบาดเจ็บได้.
หายใจให้ถูกวิธี คือ หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ (บางคนมักเผลอทำสลับกัน).