ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ ๕ ทักษะ ได้แก่ Show
๑. การกำหนดและควบคุมตัวแปร ตัวแปร หมายถึง สิ่งที่แตกต่าง หรือ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเมื่ออยู่ในสถานการณ์ต่างๆ กัน ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์มีอยู่ ๓ ประเภท ได้แก่ ตัวแปรต้น(ตัวแปรอิสระ , ตัวแปรเหตุ) เป็นตัวแปรเหตุที่ทำให้เกิดผลต่างๆ หรือ ตัวแปรที่เราต้องการศึกษา หรือ ทดลองดูว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผลตามที่เราสังเกตใช่หรือไม่ ตัวแปรตาม(ตัวแปรไม่อิสระ , ตัวแปรผล) เป็นตัวแปรที่เกิดมาจากตัวแปรเหตุ เมื่อตัวแปรเหตุเปลี่ยนแปลง ตัวแปรตามก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ตัวแปรควบคุม เป็นตัวแปรอื่นๆมากมาย (นอกจากตัวแปรเหตุ) ที่อาจส่งผลต่อการทดลอง ทำให้ผลการทดลองคลาดเคลื่อนไป เราจึงจำเป็นต้องทำการควบคุมให้เหมือนๆ กันเสียก่อน ๒. การตั้งสมมติฐาน เป็นการคาดคะเนคำตอบของปัญหาอย่างมีเหตุผล หรือ การบ่งบอกความสัมพันธ์ของตัวแปร อย่างน้อย ๒ ตัว ก่อนที่จะทำการทดลองจริง โดยอาศัยทักษะการสังเกต ประสบการณ์ ความรู้เดิม เป็นพื้นฐาน ลักษณะของสมมติฐาน : · อาจถูกหรือผิดก็ได้ · สมมติฐานที่ดีจะเป็นคำตอบที่คิดไว้ล่วงหน้า · เป็นข้อความบ่งบอกความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นกับตัวแปรตาม · อาจมีมากกว่า ๑ สมมติฐานก็ได้ · ใช้เป็นแนวทางการออกแบบการทดลอง · การพิสูจน์สมมติฐานว่าถูกหรือผิด (อาจใช้คำว่า ยอมรับ หรือ ไม่ยอมรับสมมติฐานนั้นๆ) ๓. การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ นิยามเชิงปฏิบัติการ หมายถึง ความหมายของคำหรือข้อความที่ใช้ในการทดลองที่สามารถสังเกต ตรวจสอบ หรือ ทำการวัดได้ ซึ่งจำเป็นต้องกำหนดเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเสียก่อนทำการทดลอง นิยามเชิงปฏิบัติการ จะแตกต่างจากคำนิยามทั่วๆ ไป คือ “ต้องสามารถวัด หรือ ตรวจสอบได้” ซึ่งมักจะเป็นคำนิยามของตัวแปรนั่นเอง ๔. การทดลอง เป็นกระบวนการปฏิบัติการเพื่อหาคำตอบจากสมมุติฐานที่ตั้งไว้ในการทดลอง ประกอบด้วย ขั้นตอนต่างๆ ๓ ขั้นตอน ดังนี้ ๑) การออกแบบการทดลอง คือ การวางแผนการทดลองก่อนลงมือปฏิบัติจริง โดยกำหนดว่าจะใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง จะทำอย่างไร ทำเมื่อไร มีขั้นตอนอะไร ๒) การปฏิบัติการทดลอง คือ การลงมือปฏิบัติตามที่ออกแบบไว้ ๓) การบันทึกผลการทดลอง คือ การจดบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการทดลอง ซึ่งใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ๘ ทักษะที่กล่าวไปแล้ว ๕. การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป การตีความหมายข้อมูล คือ การแปลความหมาย หรือ การบรรยายผลของการศึกษาเพื่อให้ คนอื่นเข้าใจว่า ผลการศึกษาเป็นอย่างไร เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือไม่ การลงข้อสรุป เป็นการสรุปความสัมพันธ์ของข้อมูลทั้งหมด เช่น การอธิบายความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรบนกราฟ การอธิบายความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เป็นผลของการศึกษา วิทยาศาสตร์คือการศึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติรอบ ๆ ตัวเรา โดยมีการศึกษาและอธิบายอย่างเป็นกระบวนการ นอกจาก กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่เป็นกระบวนการในการค้นหาคำตอบของสมมติฐานต่าง ๆ ในการศึกษาวิทยาศาสตร์ยังมี ‘ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์’ ซึ่งเป็นทักษะที่จะทำให้นักวิทยาศาสตร์หาคำตอบเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ว่าแต่ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์คืออะไร ประกอบด้วยทักษะอะไรบ้าง ถ้าเพื่อน ๆ อยากรู้ต้องตามไปดูในบทความนี้ (หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน StartDee แล้วไปเรียนกับครูเจินก็ได้นะ) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง ทักษะและความสามารถต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการแสวงหาความรู้ หรือการแก้ไขปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการสังเกต ทักษะการคำนวณ หรือทักษะการจำแนกประเภท เป็นต้น ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มีความแตกต่างจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตรงที่ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์นั้นเป็นวิธีการทำงาน และหลักการค้นหาคำตอบหรือข้อสรุปของสมมติฐาน ส่วนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จะเป็นทักษะที่ช่วยให้การดำเนินงาน หรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ถูกพัฒนาขึ้นโดย American association for the advancement of science (AAAS) ตามหลักสูตร Science - A Process Approach (SAPA) ประกอบด้วยทักษะทั้งหมด 14 ทักษะแบ่งเป็นทักษะพื้นฐาน 8 ทักษะและทักษะขั้นสูงอีก 6 ทักษะ ทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน 8 ทักษะ (Basic science process skills)ทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน เป็นทักษะขั้นต้นที่จะทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ หรือต่อยอดไปสู่ทักษะขั้นสูงได้ในอนาคต ประกอบด้วย 8 ทักษะ ได้แก่
ทักษะขั้นสูง 6 ทักษะ (Integrated science process skills)ทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง เป็นทักษะที่ต้องอาศัยประสบการณ์และองค์ความรู้ที่ซับซ้อนมากขึ้น สังเกตว่าทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงหลายข้อ มีความคล้ายคลึงกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อยู่มาก ทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงประกอบด้วย 6 ทักษะ ดังนี้
จะเห็นได้ว่าทักษะทางวิทยาศาสตร์เป็นทักษะที่จะทำให้เราศึกษาและหาคำตอบของประเด็นที่สนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานหลายข้อ ยังเป็นทักษะที่เราใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันด้วย เช่น ทักษะการวัด การใช้จำนวน หรือ การจำแนกประเภท และถ้าเพื่อน ๆ สนใจอยากเรียนรู้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมก็สามารถไปอ่าน บทความนี้ ต่อได้เลย หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Startdee แล้วไปสนุกกับบทเรียนวิทยาศาสตร์ในรูปแอนิเมชันก็ได้เช่นกัน ขอบคุณข้อมูลจาก : ฐาปนี ฤทธิ์เกิด (ครูเจิน) Reference: https://narst.org/research-matters/science-process-skills ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงประกอบด้วยทักษะอะไรบ้าง1.4.3.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ 1) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง 5 ทักษะ คือ (1) ทักษะการ ตั้งสมมติฐาน (2) ทักษะการก าหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ (3) ทักษะการก าหนดและควบคุมตัวแปร (4) ทักษะการทดลอง และ (5) ทักษะการตีความหมายของข้อมูลและลงข้อสรุป 2) ความพึงพอใจของผู้ร่วมกิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์เสริมการเรียนรู้ 1.4.4 ระยะ ...
ข้อใดเป็นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ได้แก่. ทักษะการสังเกต. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล. ทักษะการจำแนกประเภท. ทักษะการวัด. ทักษะการใช้ตัวเลข. ทักษะการสื่อความหมายข้อมูล. ทักษะการพยากรณ์. ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปสและสเปสกับเวลา. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นผสมประกอบด้วยอะไรทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ขั้นผสม ได้แก่
ทักษะการตั้งสมมุติฐาน ทักษะการกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ ทักษะการทดลอง ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 14 ทักษะมีอะไรบ้างสร้างคำอธิบายเกี่ยวกับแนวคิดหรือองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ประกอบด้วย 14 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการสังเกต ทักษะการวัด ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล ทักษะการจำแนกประเภท ทักษะการหาความสัมพันธ์ของสเปซกับเวลา ทักษะการใช้จำนวน ทักษะ ...
|