สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพ

สถานที่ท่องเที่ยวใน กรุงเทพ นั้นมีหลากหลายทั้งที่เที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ตึกสูงระฟ้าขนาดใหญ่ไปจนถึงวัดเก่าแก่ มากมายจนเลือกไม่ถูกว่าจะเที่ยวที่ไหนใน กรุงเทพ ดี เพื่อให้การวางแผนการเดินทางใน กรุงเทพ ง่ายขึ้นโดยสามารถเห็นทั้งความทันสมัยและด้านของความเก่าแก่ไปพร้อมกันในทริปเดียว จึงขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดใน กรุงเทพ เพื่อให้ได้เห็น กรุงเทพ แบบครบทุกด้าน

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 1. วัดอรุณ

ทุกคนที่มาเที่ยว กรุงเทพ จะต้องไปเยี่ยมชม วัดอรุณ อย่างน้อยสักครั้งหนึ่ง เพราะเป็นหนึ่งในที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก สังเกตเห็น วัดอรุณ ได้ง่ายๆ จาก พระปรางค์ สูง 82 เมตรที่ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบบนฐานย่อมุม 7 ชั้น วัดอรุณ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08:30 น. – 17:30 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม เมื่อมาเยี่ยมชม วัดอรุณ แนะนำให้เดินทางโดยเรือข้ามฝากเพื่อชมวิวจากแม่น้ำ ขึ้นได้ที่ ท่าเรือท่าเตียน โดยเรือจะออกทุกๆ 10 นาที วัดอรุณ เป็นหนึ่งในไม่กี่วัดในประเทศไทยที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนพระปรางค์ได้ ดังนั้นควรเดินขึ้นบันไดไปเพื่อชมวิวจากบนยอด

เข้าพักที่ Chatrium Hotel Riverside Bangkok แล้วออกไปชม วัดอรุณ

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 2. วัดสระเกศ – ภูเขาทอง

วัดสระเกศ หรือภูเขาทองเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดใน กรุงเทพ ตั้งอยู่ใจกลาง ย่านกรุงเก่า บนยอดภูเขาที่ต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 300 ขั้น หากเดินไม่ไหว ระหว่างทางก็มีที่ให้นั่งพักหายใจได้ รางวัลของคนที่เดินขึ้นมาจนถึงยอดได้คือวิวเมืองแบบ 360 องศาที่สวยจนแทบลืมหายใจ มองเห็น วัดพระแก้ว และ พระบรมมหาราชวัง จากฝั่งตะวันตกและตึกระฟ้าในย่านธุรกิจจากฝั่งตะวันออก ด้านบนภูเขาทองเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปีตั้งแต่เวลา 08:00 น. – 17:00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม คนที่มาเที่ยว กรุงเทพ ในเดือนพฤศจิกายนแนะนำให้มาเที่ยวงานภูเขาทองช่วงวันลอยกระทง เพราะในช่วงนี้จะมีการห่มผ้าแดงให้ภูเขาทองและประดับโคมไฟหลากสีของเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม วัดสระเกศ เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์

เข้าพักที่ Prince Palace Hotel แล้วออกไปเที่ยว วัดสระเกศ

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 3. เสาชิงช้า

เสาชิงช้า ที่ กรุงเทพ แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรม สูง 27 เมตร ตั้งอยู่หน้า วัดสุทัศน์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2327 เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมประจำปีของศาสนาฮินดูคือพิธีโล้ชิงช้าหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวช่วงเดือนธันวาคม ประกอบพิธีกรรมโดยกลุ่มชายฉกรรจ์ด้วยการขึ้นไปยืนบนกระดานโดยมีเชือกยึดไว้แน่นทั้งสี่ด้าน สูงจากพื้นดินประมาณ 25 เมตรและถีบโล้ชิงช้าเพื่อชิงเงินรางวัล 1 ตำลึง แต่พิธีกรรมนี้จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อเงินรางวัล แต่การโล้ชิงช้าเป็นพิธีกรรมตามความเชื่อของศาสนาฮินดูเพื่อพิสูจน์ความมั่งคง เมื่อครั้งที่พระอุมาเทวีพนันกับพระอิศวรว่าโลกนั้นมั่งคงหรือไม่โดยการให้พญานาคขึงตนระหว่างต้นพุทราที่แม่น้ำแล้วให้พญานาคไกวตัวโดยที่พระอิศวรทรงยืนด้วยขาเดียวในสักษณะไขว่ห้าง หากพระนาคไกวตัวแล้วพระอิศวรไม่ตกลงมาแสดงว่าโลกที่ทรงสร้างนั้นมั่นคงแข็งแรง พิธีกรรมนี้ได้มีการปฎิบัติกันต่อๆ มาถึง 150 ปี และได้ล้มเลิกไปในปี พ.ศ. 2478 เนื่องจากผู้ที่มาเข้าร่วมพิธีกรรมตกลงมาเสียชีวิตกันทุกปี ในปัจจุบันเสาชิงช้าที่ กรุงเทพ นี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

เข้าพักที่ Bangkok Centre Hotel แล้วออกไปชม เสาชิงช้า

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 4. สวนลุมพินี

สวนลุมพินี ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของ กรุงเทพ สำหรับผู้ที่ต้องการพักจากความวุ่นวายในเมือง บนพื้นที่กว่า 360 ไร่ สวนสาธารณะนี้ตั้งชื่อตามสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นของรัชกาลที่ 6 แต่ทรงพระราชทาน สวนลุมพินี เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ และได้เปิดให้เป็นสวนสาธารณะหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 หากเข้าประตูทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้จะเจอรูปปั้นรัชกาลที่ 6 คอยต้อนรับทุกคนอยู่ สวนลุมพินี เป็นพื้นที่สาธารณะอันกว้างขวางในตัวเมืองพร้อมทะเลสาบเทียมใจกลางสวนซึ่งเป็นไฮไลท์ของสวนนี้ สามารถทำกิจกรรมน่ารักๆ ในย่ามบ่ายได้ เช่น พายเรือ หรือถีบเรือเป็ดไปรอบๆ ทะเลสาบ หากมา สวนลุมพินี ในตอนเช้าหรือช่วงเย็นจะเจอกับบรรดานักวิ่ง และนักปั่นจักรยานที่มาออกกำลังกายกัน ไปตามเส้นทางความยาว 2.5 กิโลเมตร สวนสาธารณะแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของห้องสมุดสาธารณะ ฟลอร์เต้นรำ และอาคารสนามเด็กเล่นด้วย

เข้าพักที่ Grande Centre Point Hotel Ploenchit แล้วออกไปเดินเล่นที่ สวนลุมพินี

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 5. ตึกคิงพาวเวอร์มหานคร

คิงพาวเวอร์มหานคร เป็นตึกที่สูงเป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย ด้วยความสูง 314 เมตร มีทั้งหมด 78 ชั้น ตั้งอยู่ใน ย่านสีลม ของ กรุงเทพ ประกอบไปด้วยโซนห้องชุดพักอาศัย ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และพื้นที่สาธารณะ หลังสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2559 คิงพาวเวอร์มหานคร นี้ก็ได้รับความนิยมมากจนเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรมาเยี่ยมชมในลิสต์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อมาเยือน กรุงเทพ การออกแบบภายนอกที่ทันสมัยเหมือนโอบล้อมด้วยริบบิ้นพิกเซล 3 มิติ ตัวอาคารเป็นกระจกทั้งหมด จุดเด่นของตึกนี้คือพื้นกระจกลอยฟ้า (Glass Tray) บนชั้น 78 จุดชมวิวที่น่าหวาดเสียวที่สุดของตึก คิงพาวเวอร์มหานคร ด้วยตัวพื้นกระจกที่ยื่นออกไปให้นักท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์การเดินชมวิวบนความสูงกว่า 300 เมตรเหนือพื้นดิน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนอากาศ หากใครที่ต้องการเพิ่มความกล้า สามารถไปแวะจิบเครื่องดื่มที่รูฟท็อปบาร์ด้านบนก่อนกลับลงมาโพสท่าถ่ายรูปบนกระจกใสนี้ได้ หรือถ้าไม่ไหวจริงๆต้องการพื้นที่ชมวิวที่รู้สึกปลอดภัยกว่านี้สามารถลงไปที่จุดชมวิวภายในอาคารที่ชั้น 74 ได้

เข้าพักที่ Pullman Bangkok King Power Hotel แล้วออกไปเที่ยว สีลม

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 6. โบสถ์อัสสัมชัญ

โบสถ์อัสสัมชัญ เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดใน กรุงเทพ สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2352 โดยคำขอของมิชชันนารีชาวฝรั่งเศส และได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ โบสถ์อัสสัมชัญ ขึ้นใหม่ในช่วงปี พ.ศ. 2452 ในสไตล์โรมันตามที่เห็นในปัจจุบัน และต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โบสถ์แห่งนี้ได้รับความเสียหายมากจึงมีการบูรณะซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมอาสนวิหารจะพบกับความงดงามของการตกแต่งด้วยสีทองภายในและรูปปั้นของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลล์ที่ 2 ที่สร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ของการมาเยือนในปี พ.ศ. 2527 โบสถ์อัสสัมชัญ เปิดให้เข้าชมทุกวัน และมีพิธีมิสซาที่จัดขึ้นในทุกวันอาทิตย์เวลา 6:00, 7:30, 8:30, 10:00 และ 17:00

เข้าพักที่ Tower Club at Lebua Hotel แล้วออกไปเที่ยว โบสถ์อัสสัมชัญ

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 7. ชุมชนกุฎีจีน

ชุมชนกุฎีจีน ย่านเก่าแก่ของ กรุงเทพ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่ง ธนบุรี เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การใช้เวลายามเย็นในการเดินเที่ยวชุมชนที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและสัมพันธภาพภายในความแตกต่างของวัฒนธรรม ชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวโปรตุเกสและชาวไทยเชื้อสายจีน และ ชุมชนกุฎีจีน ยังเป็นแหล่งรวมผู้คนจากหลากหลายศาสนาทั้งคาทอลิก มุสลิมและชาวพุทธอาศัยอยู่และเคารพซึ่งกันและกัน นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมชุมชนนี้จะพบทั้งโบสถ์ มัสยิด วัดและศาลเจ้าหลายแห่งอยู่ใกล้ๆ กัน ชุมชนเก่ากุฎีจีนเป็นเหมือนหมู่บ้านที่เชื่อมระหว่างกันด้วยทางเดินแคบๆ ที่กว้างแค่ให้มอเตอร์ไซค์ผ่านเท่านั้น จึงเหมาะแก่การเดินเที่ยวชม และช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ชุมชนกุฎีจีนมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นด้วยวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากชุมชนที่มีมิตรภาพอันดีต่อกันและวิวริมน้ำแล้ว ขนมกุฎีจีน ต้นตำรับโปรตุเกศที่สืบต่อสูตรขนมกันมากว่า 200 ปีเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

เข้าพักที่ The Aiyapura Bangkok แล้วออกไปเที่ยวฝั่ง ธนบุรี

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 8. วัดแขก

วัดแขก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งใน กรุงเทพ วัดสีสันสดใสนี้ออกแบบโดยพ่อค้าอัญมณีชาวทมิฬที่มาอาศัยอยู่ใน กรุงเทพ สถาปัตยกรรมอินเดียตะวันออกเฉียงใต้ทำให้วัดนี้โดดเด่นจากวัดพุทธทั่วไป รอบๆ บริเวณวัดจะมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายพวงมาลัยดอกดาวเรืองและผลไม้ที่ใช้ถวายพระแม่อุมา สามารถเก็บภาพความสวยงามได้เพียงด้านนอกเท่านั้น ที่นี่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน วัดแขก เปิดให้เข้าชมได้ฟรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6:00 น. – 20:00 น.

เข้าพักที่ Bangkok Marriott Hotel The Surawongse แล้วออกไปเที่ยว วัดแขก

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 9. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และท้องฟ้าจำลอง

หลังจากเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และทางวัฒนธรรมใน กรุงเทพ กันมาแล้ว มาลองใช้เวลาในช่วงบ่ายที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาและท้องฟ้าจำลองกรุงเทพมหานคร กัน ด้านในศูนย์การเรียนรู้จัดแสดงนิทรรศการความรู้ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานเหมาะกับทุกเพศทุกวัย สถานที่ตั้งก็เดินทางง่าย อยู่บน สุขุมวิท ใกล้โรงแรม และห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาและท้องฟ้าจำลองกรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการในวันพฤหัสถึงวันอาทิตย์ เวลา 08:30 น. – 16:30 น. ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์: สำหรับผู้ใหญ่ 30 บาท สำหรับเด็ก 20 บาท และเดินไปต่อที่ท้องฟ้าจำลองในบริเวณเดียวกันซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ค่าเข้าชมท้องฟ้าจำลอง: สำหรับเด็ก/นักศึกษา 30 บาท สำหรับผู้ใหญ่ 50 บาท

เข้าพักที่ Dream Hotel Bangkok แล้วออกไปเที่ยว สุขุมวิท

ที่เที่ยวในกรุงเทพ | 10. ช่างชุ่ย

ตลาดนัดกลางคืนใน กรุงเทพ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะที่ ช่างชุ่ย หรือที่รู้จักกันในหมู่ชาวต่างชาติในชื่อ plane market เพราะที่ ช่างชุ่ย มีเครื่องบินปลดประจำการตั้งโชว์อยู่กลางตลาด คนที่มาเที่ยวสามารถถ่ายรูปเซลฟี่กับเครื่องบินได้และในอีเวนท์พิเศษจะเปิดให้ขึ้นไปนั่งได้ หนึ่งในเหตุผลหลักที่ไม่ควรพลาดตลาดกลางคืนคืออาหารและที่ ช่างชุ่ย ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ตลาดแห่งนี้มีสตรีทฟู้ดให้เลือกรับประทานมากกว่า 100 อย่างรวมทั้งร้านอาหารหรูหราด้วย นอกจากร้านอาหารยังมีบาร์ให้นั่งชิวหลายร้าน หากต้องการจิบเบียร์หรือค็อกเทลไปด้วยระหว่างมื้ออาหาร และเมื่อจบมื้ออาหารแล้ว ร้านค้าและความบันเทิงต่างๆ รอให้ไปเดินดูไปทำอีกเพียบ สามารถมาเดินเที่ยว ช่างชุ่ย ได้ทุกวันตอนเย็น ยกเว้นวันพุธ

เข้าพักที่ Issara House Bangkok แล้วออกไปเที่ยว ช่างชุ่ย