สวัสดีค่ะ กำลังตัดสินใจเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโท สาขาด้าน supply chain ที่ประเทศออสเตรเลียค่ะ จึงอยากจะมาขอคำปรึษาและคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆหลายๆท่านก่อนตัดสินใจหน่อยค่ะว่า ถ้าใน3รายชื่อมหาวิทยาลัยตามที่ระบุด้านล่างนี้ ทุกคนมีความเห็นอย่างไรกันบ้างคะ > ทั้งด้านชีวิตความเป็นอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ในเมือง/ 1. Curtin University (Perth) 18m - MSc SCMGMT จขกท จบป.ตรี สาขาการจัดการด้วยGPA ที่ไม่สูงนัก <2.7 ปสกด้านจัดซื้อประมาณ4ปี และควบคุม inventory ประมาณ 1ปีค่ะ (ไม่ใช่สายโรงงาน) โดยส่วนตัวอยากหันมาทำงานต่อในสายงานด้าน supply system analysis / planning, demand / supply planning ค่ะ ถ้ามีพี่ๆท่านไหนเป็นหัวหน้าในสายงานนี้ รบกวนให้แนวทางหน่อยค่ะว่า ท่านจะมองหาคุณสมบัติผู้สมัครด้านไหนบ้าง ควรหาความรู้เพิ่มเติมในทางไหนอีกบ้างคะ จริงๆอยากเข้าที่ U of Sydney ค่ะ แต่ทางม.ต้องการ IELTS 7 พยายามสอบมาสองรอบก็ติดอยู่ที่ 6.5 ค่ะ เลยไม่อยากฝืน และเสียเวลาและเงินไปกว่านี้ค่ะ หากมีมุมมองไหนที่มองข้ามไป อยากให้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณทุกๆท่านล่วงหน้ามากๆค่ะ ด้านล่างเป็นlink รายวิชาจากทั้งสามมหาวิทยาลัยค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ (จริงๆทำตารางเทียบรายวิชาไว้แต่ระบบไม่อนุญาติให้แนบค่ะ T. T 1.Curtin http://handbook.curtin.edu.au/courses/31/319655.html ขออภัยที่แปะเป็นลิงค์นะคะ การศึกษาระดับปริญญาโทที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาความเชี่ยวชาญในด้านการวิจัยหรือพื้นที่ของการปฏิบัติวิชาชีพ ได้รับปริญญาโทแสดงให้เห็นถึงระ… อ่านเพิ่มเติม การศึกษาระดับปริญญาโทที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาความเชี่ยวชาญในด้านการวิจัยหรือพื้นที่ของการปฏิบัติวิชาชีพ ได้รับปริญญาโทแสดงให้เห็นถึงระดับที่สูงขึ้นของการเรียนรู้ของเรื่อง ได้รับปริญญาโทสามารถใช้ที่ใดก็ได้จากปีถึงสามหรือสี่ปี ก่อนที่คุณจะสามารถจบการศึกษาคุณจะต้องเขียนและปกป้องวิทยานิพนธ์, กระดาษยาวที่เป็นสุดยอดของการวิจัยเฉพาะของคุณ การศึกษาระดับปริญญาตรีด้านโลจิสติกส์ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคนที่มีความสนใจในการประสานงานของผู้คนสินค้าหรือบริการ หลักสูตรนี้ให้ความเข้าใจถึงขั้นตอนที่เหมาะสมและการฝึกอบรมข้ามสายงานของการจัดการและการดำเนินธุรกิจต่างๆ เตรียมพร้อมนักเรียนเพื่อประสบความสำเร็จในตำแหน่งต่างๆ ภายในตลาดงาน การศึกษาออสเตรเลียส่วนใหญ่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล รัฐบาลอย่างเต็มที่ทุนการศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐในขณะที่มันบางส่วนทุนการศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนออสเตรเลียเป็นประเทศภาษาอังกฤษพูดส่วนใหญ่ของนักเรียนจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรกมักจะรักการศึกษาในประเทศนี้ ตัวเลือกอื่นๆ ภายในแขนงวิชานี้: อ่านบทย่อ แชร์ประสบการณ์ทำงานบริษัทญี่ปุ่นในออสเตรเลียและการขอ Citizenship ในออสเตรเลีย โดย คุณใบพัด ภัททนันท์ จากพนักงานบริษัทอีซูซุที่ไทย เดินทางไปเรียนต่อเพื่อทำตามความฝันในการทำงานที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ จนปัจจุบันได้ Citizenship เป็นพนักงานบริษัทอีซูซุที่ออสเตรเลีย บทความสัมภาษณ์นี้จะมาคุยกับคุณใบพัด ภัททนันท์ ศรีกระจ่าง อดีตพนักงานบริษัทอีซูซุที่ไทย ก่อนบินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ จนปัจจุบันได้ Citizenship ทำงานในบริษัทเดิมแต่เป็นสาขาในออสเตรเลีย Thaiwahclub : คุณพัดช่วยแนะนำตัวหน่อยค่ะ ชื่อใบพัด ภัททนันท์ ศรีกระจ่าง อายุ 33 ปี พื้นเพเป็นคนสงขลา ใช้ชีวิตในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลียมา 7 ปีแล้วค่ะ ปัจจุบันพัดเป็นพลเมืองของประเทศออสเตรเลียค่ะ Thaiwahclub : ก่อนหน้าที่จะมาออสเตรเลียเคยทำงานอะไรที่ไทยมาก่อนคะ หลังจากเรียนจบปริญญาตรี พัดทำงานแผนกวางแผน บริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลล์ ที่กรุงเทพมหานครค่ะ Thaiwahclub : อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณพัดเลือกมาออสเตรเลียคะ พัดเป็นคนชอบภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กค่ะ ชอบพูด ชอบฟังภาษาอังกฤษ ตอนทำงานที่เมืองไทยมีคนญี่ปุ่นโทรศัพท์เข้ามาพัดจะดีใจมากที่ได้พูดภาษาอังกฤษ หลังจากทำงานซักพักพัดก็ลาออกไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ เพื่อจะได้ใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น โชคดีที่ช่วงนั้นอีซูซุเพิ่งมาเปิดบริษัทที่ออสเตรเลีย พัดเลยได้มีโอกาสมาร่วมงานหลังจากเรียนจบปริญญาโทค่ะ Thaiwahclub : ทราบว่าคุณพัดเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่รัฐ South Australia ด้วย ตรงนี้มีส่วนให้เราตัดสินใจกลับมาออสเตรเลียด้วยมั้ยคะ แน่นอนค่ะ ประสบการณ์เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนใช้ชีวิตกับชาวออสเตรเลีย ทำให้ได้เรียนรู้นิสัยใจคอ อาหารการกิน และวัฒนธรรมของออสเตรเลีย พัดคิดว่ามันทำให้เราคุ้นเคยและปรับตัวได้ง่ายขึ้นเมื่อได้มาอยู่ประเทศนี้อีกครั้ง Thaiwahclub : แล้วการมาออสเตรเลียตอนยังอยู่มัธยมแตกต่างอย่างไรกับการมาออสเตรเลียครั้งที่สองบ้างคะ มีทั้งสิ่งที่เหมือนและแตกต่างกันนะคะ ตอนสมัยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนพัดอยู่ในเมืองเล็กๆ ชื่อ Millicent ในรัฐ South Australia สมัยนั้นทั้งเมืองมีแค่ 3,000 กว่าคน คนในเมืองส่วนใหญ่จะรู้จักกัน กิจกรรมนอกห้องเรียนไม่ได้มีหลากหลายเหมือนในเมืองใหญ่ การมาอยู่รอบสองนอกจากจะอยู่ในเมืองใหญ่แล้ว เรามาอยู่ในฐานะผู้ใหญ่ที่ต้องจัดการทุกอย่างของตัวเอง ต่างจากสมัยนักเรียนที่ครอบครัวอุปถัมภ์ดูแลเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม แต่สิ่งที่รู้สึกเหมือนกันทั้งตอนอยู่ประเทศนี้รอบแรกและรอบนี้คือวัฒนธรรมของคนออสเตรเลีย สิ่งที่พัดชอบมากเลยคือคนที่นี่มีความเป็นกันเอง สบายๆ และเฮฮา Thaiwahclub : หลังจากมาออสเตรเลียคุณพัดเริ่มต้นจากเรียนปริญญาโทก่อน คุณพัดเรียนที่ไหน สาขาอะไร แล้วทำไมถึงเลือกมาเรียนสาขานี้คะ หลังเรียนจบปริญญาตรี จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ธรรมศาสตร์ พัดทำงานที่ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ และเรียนต่อปริญญาโท MSc Logistics and Operations Management ที่เมือง Cardiff สหราชอาณาจักร ที่เลือกเรียนสาขานี้เพราะสนใจเรื่อง supply chain management และอยากจะทำงานด้าน logistics เมื่อเรียนจบค่ะ Thaiwahclub : การเรียนที่นั่นมีความยากง่ายยังไงบ้างคะ การเรียนไม่ยากแต่ต้องมีความขยันสม่ำเสมอค่ะ ใช้เวลาเรียนแค่ 1 ปี การที่เราเรียนปริญญาตรีเป็นภาคภาษาไทยทำให้การเรียนที่นั่นต้องตั้งใจ สิ่งที่ยากสำหรับพัดน่าจะเป็นสำเนียงคนที่นั่น พัดคิดว่าฟังยากกว่าสำเนียงคนออสเตรเลียค่อนข้างเยอะเลยค่ะ พัดเรียนไปด้วย ทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายเสื้อผ้าในห้างไปด้วยและจบมาด้วยผลการเรียน distinction ค่ะ พัดเชื่อว่าถ้ามีความขยันและมุ่งมั่น เราจะประสบความสำเร็จเรื่องเรียนได้แน่นอนค่ะ Thaiwahclub : คุณพัดเล่าเรื่องการได้มาทำงานในออสเตรเลียหลังเรียนจบโทจากอังกฤษให้ฟังหน่อยค่ะ ต้องย้อนกลับไปตอนลาออกจากตรีเพชรอีซูซุเซลล์ค่ะ ตอนนั้นพัดบอกเจ้านายญี่ปุ่นว่าพัดฝันอยากจะโกอินเตอร์ อยากใช้ภาษาอังกฤษ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน บริษัทอีซูซุก็มาเปิดทำการที่ประเทศออสเตรเลีย หลังจากพัดเรียนจบปริญญาโทก็ได้ติดต่อบริษัทที่ออสเตรเลียเพื่อแนะนำตัว และโชคดีที่ได้สัมภาษณ์งานทาง Skype จำได้ว่านัดสัมภาษณ์ตอนตี 4 ของประเทศอังกฤษ ท่อนบนเป็นชุดทำงาน ส่วนท่อนล่างยังคงเป็นชุดนอน ตอนนั้นที่อีซูซุออสเตรเลียกำลังขาดพนักงานด้าน logistics พอดี เลยมีโอกาสเข้าทำงานโดยบริษัทสปอนเซอร์วีซ่าทำงานให้ค่ะ ใช้เวลารอวีซ่าประมาณ 1-2 เดือนค่ะ Thaiwahclub : คุณพัดได้ทำงานบริษัทเดียวกันทั้งในไทยแล้วก็ออสเตรเลีย บรรยากาศการทำงานทั้งสองที่มีความแตกต่างกันยังไงบ้างคะ แตกต่างกันมากเลยค่ะ บริษัทที่ไทยใหญ่กว่ามากเลย บริษัทที่ออสเตรเลียตอนที่พัดเข้ามาใหม่ มีพนักงานไม่ถึง 50 คนค่ะ พอเป็นบริษัทเล็ก scope การทำงานในตอนนั้นเลยมากกว่าที่ไทย แต่ตอนนี้บริษัทเราใหญ่ขึ้นมากค่ะ พนักงานก็เพิ่มขึ้นเป็น 100 กว่าคน ขยายออฟฟิศไปทั้งเมลเบิร์นและซิดนีย์ค่ะ สิ่งที่ต่างอีกอย่างคือคนที่นี่กลับบ้านตรงเวลาค่ะ เลิกงาน 5 โมงเย็นก็กลับบ้านกันเลย ไม่ค่อยอยู่ออฟฟิศต่อช่วงค่ำกันเหมือนที่เมืองไทย งานอะไรที่ไม่เสร็จก็ทำต่อพรุ่งนี้ หลังเลิกงานคนที่นี่ก็เน้นใช้เวลากับครอบครัว กิจกรรม รวมถึงการออกกำลังกายค่ะ Thaiwahclub : ปัจจุบันคุณพัดก็ได้ Citizenship เรียบร้อยแล้ว ช่วยบอกขั้นตอนคร่าวๆหน่อยค่ะ ว่าทำยังไงถึงจะสามารถขอ Citizenship ได้เหมือนคุณพัด พัดมาออสเตรเลียด้วยวีซ่า Temporary Work (Skilled) (Subclass 457) visa วีซ่านี้มีอายุ 4 ปี แต่หลังจากถือวีซ่านี้ได้ 2 ปีและยังทำงานกับนายจ้างเดิม ผู้ถือวีซ่าสามารถยื่นขอ Permanent Residency โดยให้นายจ้างสปอนเซอร์ Employer Nomination Scheme (Subclass 186) และหลังจากถือ PR ได้ 1 ปีก็ยื่นขอ citizenship ได้แล้วค่ะ แต่พัดทราบมาว่ากฏระเบียบการขอวีซ่าได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ Thaiwahclub : อะไรคือความท้าทายในการทำงานหรือใช้ชีวิตในออสเตรเลียคะ หนึ่งในหน้าที่ของพัดคืองานวิเคราะห์และวางแผนที่ต้องทำร่วมกันทั้งแผนกและพัดเป็นคนรวบรวมข้อมูลค่ะ เพื่อนร่วมงานของพัดทุกคนมีพื้นฐานที่หลากหลาย และมีหลายคนที่ไม่ชอบใช้คอมพิวเตอร์ซักเท่าไหร่ ความท้าทายในการทำงานไม่ได้อยู่ที่การสื่อสาร แต่อยู่ที่การออกแบบงานแต่ละงานให้เข้าใจง่ายที่สุดค่ะ Thaiwahclub : เคยเจอเหตุการณ์พีค ๆ ตอนทำงานบ้างไหมคะ ช่วงที่มาทำงานใหม่ๆ สมัยบริษัทยังเล็กๆ อยู่ งานค่อนข้างยุ่งค่ะ งานที่ต้องทำมีเต็มมือไปหมด ด่วนหมดทุกงานเลย ถือว่าพีคสุดแล้วค่ะ แต่ข้อดีคือเวลาผ่านไปไวมาก ตอนนี้บริษัทใหญ่ขึ้น พนักงานเพิ่มมากขึ้น ก็ไม่ยุ่งเหมือนแต่ก่อน บางครั้งตอนนั่งว่างๆ ก็ยังคิดถึงสมัยที่ยุ่งมากๆ เหมือนกันค่ะ Thaiwahclub : ได้ออกไปเที่ยวเมืองอื่น หรือมีกิจกรรมอะไรอีกบ้างมั้ยคะที่ได้ทำในออสเตรเลีย พัดไปเที่ยวมาหลายเมืองค่ะ ที่ยังไม่ได้ไปก็แค่รัฐแทสมาเนีย บางครั้งพัดเที่ยวคนเดียวค่ะ เพราะรู้สึกว่าประเทศนี้ค่อนข้างปลอดภัย ช่วงมาที่นี่ใหม่ๆ พัดคิดว่าทำไงดีที่จะมีสังคมออสเตรเลียนะ พัดไม่อยากจะมีแค่สังคมที่ทำงาน พัดเลยใช้เวลาว่างวันเสาร์ทำงานเป็นอาสาสมัครค่ะ ช่วงแรกๆ พัดสมัครเป็นอาสาสมัครมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ RSPCA หน้าที่หลักๆ คือดูแลสุนัข ทำได้ปีกว่าก็รู้สึกว่าไม่ค่อยตอบโจทย์เรื่องการมีสังคมเท่าไหร่ เพราะอาสาสมัครแต่ละคนต้องจับคู่หนึ่งต่อหนึ่งกับสุนัข เลยได้ใช้เวลากับสัตว์มากกว่าคน ทุกครั้งที่มีคนมารับเลี้ยงสุนัขที่เราดูแลอยู่ก็แอบเสียใจ พัดทำอาสาสมัคร RSPCA อยู่ 1 ปีก็เปลี่ยนสายมาทำอาสาสมัครของ Queensland Community Care Network (QCCN) พัดมีหน้าที่ช่วยงานบ้านพักคนชราใกล้บ้านทุกวันเสาร์ ตอนนี้ก็ถือว่ามีสังคมมีเพื่อนชาวออสซี่เพิ่มขึ้นมาก มีกิจกรรมให้ทำทุกเสาร์อาทิตย์เลยค่ะ Thaiwahclub : หลังจากนี้คิดว่าจะอยู่ออสเตรเลียไปยาว ๆ เลยหรือเปล่าคะ มีแพลนจะไปไหนหรือทำอะไรต่อไหม คิดว่าอยู่ยาวเลยค่ะ พัดชอบความสงบและความรู้สึกปลอดภัยที่อยู่ที่นี่ รวมถึงวิถีชีวิตของชาวออสซี่ พัดโชคดีมากที่มีครอบครัวที่เข้าใจและให้โอกาสพัดใช้ชีวิตระยะยาวอยู่ในประเทศที่พัดมีความสุข Thaiwahclub : ช่วยฝากอะไรถึงคนที่อยากมาเรียนต่อหรือกำลังตัดสินใจมาออสเตรเลียหน่อยค่ะ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่น่าอยู่ค่ะ หลายๆ เมืองมีเครื่องบินบินตรงจากไทย สถาบันการศึกษาที่นี่ก็มีชื่อเสียงระดับโลก และยิ่งมีศูนย์แนะนำการศึกษาต่อออสเตรเลียดีๆ อย่าง Beyond Study ที่มีสาขาทั้งในไทยและออสเตรเลีย พัดคิดว่าใครๆ ก็มาเรียนต่อออสเตรเลียได้ไม่ยากเลยค่ะ แถมยังอุ่นใจด้วย ที่อยากฝากไว้คือเมื่อมีโอกาสได้มาอยู่ออสเตรเลียแล้ว พัดอยากให้ใช้เวลาให้คุ้มค่า ออกไปเที่ยวไปทำกิจกรรม ออกไปพบเจอเพื่อนใหม่ๆ ไปเรียนรู้วัฒนธรรมของคนที่นี่ สำหรับพัดแล้วถ้าไม่ได้พยายามออกจาก comfort zone ในช่วงที่ได้มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ชีวิตในทุกวันนี้คงไม่ได้อยู่ออสเตรเลียอย่างมีความสุขขนาดนี้ค่ะ หากสนใจอยากแบ่งปันประสบการณ์การเรียน การทำงาน หรือไป WAH ที่ออสเตรเลีย สามารถติดต่อเข้ามาได้ทาง Inbox ThaiWahClub หรืออยากปรึกษาเรื่องเรียนต่อกับ Beyond Study Center ได้ทางเบอร์โทร 02-664-0719 และ 086-011-2378 ภายในเวลาทำการ (Mon-Fri : 10.00-18.00) อ่านเรื่องราวประสบการณ์อื่น ๆ
|