ในแต่ละปี กิจการที่เป็นห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและบริษัทมีหน้าที่นำส่งงบการเงินให้แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตามกฎหมาย โดยต้องจัดให้มีผู้ตรวจสอบบัญชีทำการตรวจสอบและรับรองงบการเงินของนิติบุคคล ผู้ตรวจสอบบัญชีเป็นอาชีพหนึ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน เป็นที่กล่าวขวัญกันว่าเป็นอาชีพที่ทรงเกียรติและมีรายได้สูง Show
ผู้ตรวจสอบบัญชีคือใครผู้ตรวจสอบบัญชี หรือ ผู้สอบบัญชี (ภาษาอังกฤษ: auditors)หรือ CPA (ย่อมาจาก Certified Public Accountant) คือผู้ที่ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตในการทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองงบการเงินของบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ประเภทของผู้ตรวจสอบบัญชีผู้ตรวจสอบบัญชีหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Auditor ที่จริงแล้วผู้ตรวจสอบบัญชีไม่ได้มีแค่ผู้ตรวจสอบบัญชีที่ทำหน้าที่ตรวจสอบงบการเงินประจำปีเท่านั้น ยังมีผู้ตรวจสอบบัญชีประเภทอื่นด้วย โดยผู้ตรวจสอบบัญชีแบ่งออกได้ 4 ประเภทดังนี้ 1. ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก (External Auditor) หรือ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไป (CPA)ความหมายอีกนัยหนึ่งของผู้ตรวจสอบบัญชี คือ เป็นผู้ตรวจสอบตามกฎหมาย(Statutory Auditor) ซึ่งเป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจากสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ.2547 สามารถตรวจสอบบัญชีและรับรองงบการเงินของบริษัทจำกัดและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้ 2. ผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากร (TA: Tax Auditor)เป็นบุคคลที่ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากรจากอธิบดีกรมสรรพากร ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.98/2554 โดยผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากรสามารถตรวจสอบบัญชีและรับรองงบการเงินเฉพาะห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนหรือทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาทและมีสินทรัพย์รวมและรายได้รวมของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท 3. ผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditor)เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและประเมินประสิทธิภาพระบบการควบคุมภายในให้แก่องค์กรอย่างเป็นอิสระ รวมทั้งการประเมินประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงขององค์กร เพื่อให้เกิดการปรับปรุงการปฏิบัติงานขององค์กร มีการควบคุมและกำกับดูแลกิจการอย่างเป็นระบบ ผู้ตรวจสอบภายในเป็นได้ทั้งพนักงานขององค์กรหรือบุคคลภายนอก(Outsource) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากฝ่ายบริหาร 4. ผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากกล.ต.ในการรับรองงบการเงิน (List of auditors approved by the office of SEC)หมายถึงผู้สอบบัญชีสำหรับ บริษัทที่อยู่ในตลาดทุน,บริษัทที่ยื่นขอจดทะเบียนในตลาดทุน (IPO),กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น จากที่กล่าวมาผู้สอบบัญชีทั้ง 4 ประเภท มีขอบเขตการทำงานและหน้าที่ที่แตกต่างกัน สำหรับผู้ตรวจสอบบัญชีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจSMEs ห้างหุ้นส่วนและบริษัททั่วไป ได้แก่ ผู้ตรวจสอบบัญชีทั่วไปและผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากร หน้าที่ของผู้ตรวจสอบบัญชีสำหรับผู้ตรวจสอบบัญชีทั่วไปและผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากร มีหน้าที่ดังต่อไปนี้ 1. ผู้ตรวจสอบบัญชีทั่วไปทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีและรับรองงบการเงินสำหรับกิจการที่เป็นนิติบุคคล โดยปฎิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชี มีความเป็นอิสระตามข้อกำหนดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีและมีเกณฑ์การแสดงความเห็นจากความเพียงพอและเหมาะสมของหลักฐานการสอบบัญชีที่ได้รับ 2. ผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากรทำหน้าที่ตรวจสอบงบการเงินของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดเล็กและออกรายงานการตรวจสอบและรับรองบัญชี โดยปฏิบัติงานตามแนวทางและวิธีการตรวจสอบที่กรมสรรพากรกำหนด โดยใช้วิธีการทดสอบและวิธีการตรวจสอบอื่นที่เหมาะสม นอกจากการตรวจสอบงบการเงินว่าตรงตามสมุดบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีและเป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปแล้ว ยังต้องตรวจสอบว่ากิจการได้ปรับปรุงกำไร(ขาดทุน)สุทธิเพื่อเสียภาษีถูกต้องตามประมวลรัษฎากรหรือไม่ จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 จำนวนผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไปมีประมาณ 13,000 กว่าคน และจำนวนผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากรมีประมาณ 4,000 กว่าคน ซึ่งถือว่ายังมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบสัดส่วนผู้ตรวจสอบต่อบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในประเทศไทย ทำอย่างไรถึงจะได้เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีผู้ตรวจสอบบัญชีเป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน จากจำนวนผู้ตรวจสอบบัญชีที่ถือว่ายังมีจำนวนน้อยมาก เพราะกว่าจะได้ใบอนุญาตมาต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ โดยเฉพาะการเตรียมตัวเข้าทดสอบต้องอาศัยการเตรียมตัวอย่างหนัก เรามาดูกันว่าทำอย่างไรถึงจะได้เป็นCPAหรือTA ขั้นตอนการเป็น CPA มีดังต่อไปนี้ 1. เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี 2. มีวุฒิการศึกษาดังนี้ 3. ผ่านการฝึกหัดงานสอบบัญชีกับผู้ให้การฝึกหัดงานที่ได้รับการรับรองจากสภาวิชาชีพบัญชี เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี นับจากวันยื่นคำขอแจ้งการฝึกงานและมีเวลาฝึกหัดงานรวมกันไม่น้อยกว่า 3,000 ชั่วโมง 4. ผ่านการทดสอบ 6 รายวิชา ได้แก่ วิชาการบัญชี1 วิชาการบัญชี2 วิชาการสอบบัญชี1 วิชาการสอบบัญชี2 วิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี 1 วิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี 2 5. ดำเนินการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตต่อสภาวิชาชีพบัญชี 6. ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) จากสภาวิชาชีพบัญชี สำหรับ TA ต้องผ่านการทดสอบตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด เมื่อได้รับใบอนุญาตแล้ว CPA ต้องมีการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทุกปีโดยต้องเก็บชั่วโมงการอบรมการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง (CPD) 40 ชั่วโมงต่อปี และต้องยื่นแจ้งการอบรมภายในวันสุดท้ายของปี การอบรม ได้แก่ การเข้าร่วมสัมมนาความรู้ทางด้านบัญชีหรือการสอบบัญชี ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจและวิชาชีพ การเป็นวิทยากรผู้บรรยาย การเขียนบทความทางวิชาการหรือบทความต่างๆเผยแพร่แก่สาธารณชน เป็นต้น นอกจากการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง ผู้ตรวจสอบบัญชีควรให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานอย่างเป็นอิสระ วางแผนการตรวจสอบและใช้วิธีการตรวจสอบต่างๆให้ได้มาซึ่งหลักฐานที่เพียงพอและเหมาะสม เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ผู้บริหารและผู้ใช้งบการเงิน การตรวจสอบบัญชีคืออะไรการสอบบัญชี หมายถึงกระบวนการรวบรวม และการประเมินหลักฐานเกี่ยวกับสารสนเทศเพื่อระบุและรายงานเกี่ยวกับระดับความสอดคล้อง ต้องกันของสารสนเทศนั้นกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้และสื่อสารผลลัพธ์ให้ผู้ใช้ที่สนใจ
การตรวจสอบบัญชีเพื่ออะไรการตรวจสอบบัญชีทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจว่า งบการเงินที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้นได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานการสอบบัญชี รวมถึงปฏิบัติอย่างเป็นไปตามมาตรฐานรายงานทางการเงิน เพื่อให้บริษัทสามารถนำงบการเงินเหล่านั้นไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ
การสอบบัญชี (Auditing) คืออะไรการสอบบัญชี (Audit) คือ การตรวจสอบสมุดบัญชีของธุรกิจนั้นๆ ตลอดจนเอกสารประกอบการลงบัญชี รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงบัญชีว่าได้ปฏิบัติตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปอย่างถูกต้องหรือไม่
สอบบัญชี มีอะไรบ้างการสอบบัญชีเป็นกระบวนการรวบรวมหลักฐานการสอบบัญชีอย่างเพียงพอและเหมาะสม เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถแสดงความเห็นอย่างสมเหตุสมผลต่อความถูกต้องตามควรของงบการ ตรวจสอบอาจจ าแนกเป็น 3 ประเภท คือ การตรวจสอบงบการเงิน การตรวจสอบการด าเนินงาน และการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ผู้ตรวจสอบ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ได้แก่ ผู้สอบ ...
|