สารต้านอนุมูลอิสระ อาหารเสริม

title

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) คือ สารที่สามารถยับยั้ง หรือชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระ (Free Radical) เช่น การเกิดออกซิเดชันของลิพิด (Lipid Oxidation)

สารต้านอนุมูลอิสระ อาหารเสริม

Show

“antioxidant” สามารถแบ่งตามกลไกการยับยั้งได้เป็น 3 ชนิด คือ

  1. Preventive antioxidant ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ
  2. Scavenging antioxidant ทำลายหรือยับยั้งอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น
  3. Chain breaking antioxidant ทำให้ลูกโซ่ของการเกิดอนุมูลอิสระสิ้นสุดลง หรือการช่วยชะลอการเกิด “ออกซิเดชั่น” ซึ่งเป็นตัวทำให้เราแก่เร็ว ริ้วรอยมากขึ้น และเจ็บป่วยได้ง่าย

สารต้านอนุมูลอิสระ อาหารเสริม
ทั้งนี้ “อนุมูลอิสระ”คือ สารที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย รวมถึงจากมลพิษต่างๆ จากสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ โอโซน โลหะหนัก ซึ่งอนุมูลอิสระเหล่านี้ จะเข้ามาทำลายโครงสร้าง และหน้าที่ของผนังเซลล์ ก่อเกิดความผิดปกติ เซลล์ถูกทำลาย และเสื่อมได้เร็ว เกิดเป็นโรคชรา หรือแก่ก่อนวัย โรคภัยต่างๆ สามารถเกิดได้ง่ายขึ้น อาทิ โรคหลอดเลือด และหัวใจขาดเลือด ร่วมถึงโรคที่เกิดจากความเสื่อมของระบบต่างๆ ในร่างกาย อีกทั้งยังสามารถ เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ที่ ที่พัฒนาไปสู่เซลล์มะเร็งได้
ที่สำคัญ คือ ร่างกายของเราสร้าง อนุมูลอิสระนี้ตลอดเวลา เซลล์ต่างๆ จะเสื่อมลงเรื่อยๆแบบไม่มีวันหยุด เราจึงแก่ลงทุกวัน ร่างกายก็จะเสื่อมสภาพถดถอยลง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีกลไกในการควบคุมสารนี้ เพื่อให้ลุกลามได้ช้าลง ทำร้ายร่างกายของเราช้าลง

7 ประโยชน์สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระ 1.ชะลอกระบวนการแก่ชรา 2.ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง 3.ลดภาวะอาการอัลไซเมอร์ 4.ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย 5.ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ 6.ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ 7.ช่วยเป็นเกราะในการป้องกันมลพิษต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม

สารต้านอนุมูลอิสระได้รับจากไหน และควรปรึกษาใคร      สารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถหาได้จากอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งอาจเพียงพอสำหรับบางคน แต่ในรายที่ต้องเผชิญกับฝุ่นควัน บางคนสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า พักผ่อนน้อย ขาดการออกกำลังกาย ไม่ได้พิถีพิถันในการเลือกรับประทานอาหาร เครียดสะสม โดนแดดบ่อย  คนเหล่านี้ต้องการวิตามินเสริม เพื่อเป็นการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าคนที่ดูแลตนเองเป็นอย่างดี

Personalized Rejuvenation Center อาคาร 4 ชั้น 1 โทร. 02-271 7000

รวมการทดลองแบบสุ่ม 78 รายการ โดยมีผู้เข้าร่วม 296,707 คน การทดลอง 56 รายการ รวมผู้เข้าร่วม 244,056 คน มีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำ การทดลอง 26 รายการ มีผู้เข้าร่วมที่มีสุขภาพดี 215,900 คน การทดลอง 52 รายการ มีผู้เข้าร่วม 80,807 คนที่เป็นโรคต่างๆ ที่อยู่ในระยะคงที่ อายุเฉลี่ย 63 ปี (ช่วง 18 ถึง 103 ปี) สัดส่วนเฉลี่ยของสตรีคือ 46% จากการทดลอง 78 รายการ มี 46 รายการ เป็น parallel-group design, 30 รายการเป็น factorial design และ 2 รายการเป็น cross-over design สารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมดให้โดยการกิน ไม่ว่าจะเพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับวิตามิน แร่ธาตุ หรือวิธีการอื่นๆ ระยะเวลาของการเสริมตั้งแต่ 28 วันถึง 12 ปี (mean duration 3 ปี median duration 2 ปี) โดยรวมแล้ว อาหารเสริมสารต้านอนุมูลอิสระไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการตายใน random-effects model meta-analysis (คนเสียชีวิติ 21,484/183,749 (11.7%) เทียบกับ คนเสียชีวิต 11,479/112,958 (10.2%); 78 การทดลอง, relative risk (RR) 1.02, 95 % ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 0.98 ถึง 1.05) แต่อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน fixed-effect model (RR 1.03, 95% CI 1.01 ถึง 1.05) Heterogeneity ต่ำโดยมี I2 - 12% ในการวิเคราะห์ meta-regression พบว่าความเสี่ยงของการมีอคติและชนิดของสารเสริมสารต้านอนุมูลอิสระเป็นเพียงตัวทำนายที่สำคัญของ intertrial heterogeneity การวิเคราะห์ meta-regression ไม่พบความแตกต่างที่มีนัยสำคัญในประมาณการผลลัพธ์ในการทดลองสำหรับการป้องกันปฐมภูมิและการป้องกันทุติยภูมิ ในการทดลอง 56 รายการ ที่มีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำ, อาหารเสริมสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มอัตราการเสียชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ (คนเสียชีวิต 18,833 /146,320 (12.9%) เทียบกับ คนเสียชีวิต 10,320 /97,736 (10.6%); RR 1.04, 95% CI 1.01 ถึง 1.07) ผลนี้ได้รับการยืนยันโดย trial sequential analysis หากไม่รวมการศึกษาแบบ factorial design ที่อาจมี confounding พบว่า 38 การทดลองที่มีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำแสดงให้เห็นว่ามีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (คนเสียชีวิต 2822 /26,903 (10.5%) เทียบกับ คนเสียชีวิต 2473 /26,052 (9.5%); RR 1.10, 95% CI 1.05 ถึง 1.15) ในการทดลองที่มีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำ, เบต้าแคโรทีน (คนเสียชีวิต 13,202/96,003 (13.8%) เทียบกับ คนเสียชีวิต 8556 /77,003 (11.1%); 26 การทดลอง, RR 1.05, 95% CI 1.01 ถึง 1.09) และวิตามินอี (คนเสียชีวิต 11,689/ 97,523 (12.0%) เทียบกับ คนเสียชีวิต 7561/73,721 (10.3%); 46 การทดลอง, RR 1.03, 95% CI 1.00 ถึง 1.05) เพิ่มอัตราการตายอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่วิตามิน A (คนเสียชีวิต 3444/24,596 (14.0%) เทียบกับ คนเสียชีวิต 2249/16,548 ( 13.6%); 12 การทดลอง, RR 1.07, 95% CI 0.97 ถึง 1.18), วิตามินซี (คนเสียชีวิต 3637/36,659 คนตา (9.9%) เทียบกับ คนเสียชีวิต 2717 /29,283 (9.3%); 29 การทดลอง, RR 1.02, 95% CI 0.98 ถึง 1.07) และซีลีเนียม (คนเสียชีวิต 2670/39,779 (6.7%) เทียบกับ คนเสียชีวิต 1468/22,961 (6.4%); การทดลอง 17 รายการ, RR 0.97, 95% CI 0.91 ถึง 1.03) ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการเสียชีวิต ในการวิเคราะห์ meta-regression แบบ univariate ปริมาณของวิตามิน A มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น (RR 1.0006, 95% CI 1.0002 ถึง 1.001, P = 0.002)