เฉลย คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ บทที่ 10

2001-2001 คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

จุดประสงค์รายวิชา 

1.  เข้าใจหลักการและกระบวนการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่องานอาชีพการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป การใช้อินเทอร์เน็ตและการสื่อสารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชีพ

2.   สามารถสืบค้นและสื่อสารข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ตใช้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมสำเร็จรูปตามลักษณะงานอาชีพ

 3.   มีคุณธรรม จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศ

สมรรถนะรายวิชา 

 1.  แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ 

ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมสำเร็จรูปและอินเทอร์เน็ตเพื่องานอาชีพ

2.  ใช้ระบบปฏิบัติการในการจัดสภาพแวดล้อมและจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์

3.  ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในงานอาชีพตามลักษณะงาน

4.  สืบค้นข้อมูลสารสนเทศในงานอาชีพโดยใช้อินเทอร์เน็ต

5.  สื่อสารข้อมูลสารสนเทศโดยใช้อินเทอร์เน็ต

คำอธิบายรายวิชา 
     ศึกษาและปฏิบัติการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชีพเบื้องต้น  การใช้ระบบปฏิบัติการ (Windows หรือ Mac OS) การใช้โปรแกรมประมวลผลคำเพื่อจัดทำเอกสารในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมตารางทำการในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมการนำเสนอผลงาน หรือการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป   อื่น ๆ ตามลักษณะงานอาชีพ  การใช้อินเทอร์เน็ตสืบค้นข้อมูลเพื่องานอาชีพ และการสื่อสารข้อมูลสารสนเทศ ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศและงานอาชีพกระบวนการจัดการเรียนรู้
สื่อการเรียนการสอน

1. หนังสือเรียน 2001-2001 คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

2. สไลด์ประกอบการสอน Power point

 การวัดและประเมินผล

คะแนนทดสอบและงานที่มอบหมาย              50 คะแนน

เวลาเรียน / จิตพิสัย                                 20 คะแนน

ทดสอบประมวลความรู้(ปลายภาค)               30 คะแนน

เกณฑ์การประเมินผล

คะแนน     80 -100    ระดับคะแนน 4

คะแนน     75 - 79     ระดับคะแนน 3.5

คะแนน     70 - 74     ระดับคะแนน 3

คะแนน     65 - 69     ระดับคะแนน 2.5

คะแนน     60 - 64     ระดับคะแนน 2

คะแนน     55 - 59     ระดับคะแนน 1.5

คะแนน     50 - 54     ระดับคะแนน 1

คะแนน       0 - 49     ระดับคะแนน 0

แผนการสอน/โครงการสอน* ใบงานพึ่งทำถึงบทที่ 5

เนื้อหารายวิชา

1.การจัดรูปแบบการจัดวางข้อมูล

นำรูปแบบตัวเลข เช่น วันที่ สกุลเงิน หรือแม้แต่เศษส่วนไปใช้กับเซลล์ในเวิร์กชีต ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังทำงานเกี่ยวกับงบประมาณรายไตรมาส คุณสามารถใช้รูปแบบตัวเลขสกุลเงินเพื่อแสดงตัวเลขของคุณเป็นค่าทางการเงินได้ หรือถ้าคุณมีคอลัมน์วันที่ คุณสามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้แสดงวันที่เป็นแบบใด เช่น มีนาคม 14, 2555, 14-มี.ค.-55 หรือ 3/14

  1. เลือกเซลล์ที่คุณต้องการจัดรูปแบบ

  2. กด CTRL+1

    บน Mac กดควบคุม + 1 หรือคำสั่ง + 1

  3. ในกล่อง จัดรูปแบบเซลล์ ให้คลิกแท็บ ตัวเลข

  4. เลือกรูปแบบตัวเลขที่คุณต้องการ จากนั้นเลือกการเปลี่ยนแปลงที่เจาะจงไปยังรูปแบบทางด้านขวา

หยุดการจัดรูปแบบอัตโนมัติกับตัวเลขของคุณ

บางครั้งเมื่อคุณพิมพ์ตัวเลขลงในเซลล์ หรือนำเข้าตัวเลขมาจากแหล่งข้อมูลอื่น แล้ว Excel จัดรูปแบบตัวเลขเหล่านั้นได้ไม่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณพิมพ์ตัวเลขที่มีเครื่องหมายทับ (/) หรือเครื่องหมายยัติภังค์ (-) Excel อาจเข้าใจไปว่าคุณกำลังพิมพ์วันที่อยู่ จึงนำเอารูปแบบ วันที่ มาใช้ ถ้าต้องการหยุดเหตุการณ์นี้ คุณจำเป็นต้องนำรูปแบบ ข้อความ มาใช้กับเซลล์เหล่านั้น แล้วจึงใส่ตัวเลขของคุณ

  1. เลือกเซลล์ที่คุณต้องการจัดรูปแบบ

  2. กด CTRL+1

    บน Mac กดควบคุม + 1 หรือคำสั่ง + 1

  3. บนแท็บ ตัวเลข ในรายการ รูปแบบ ให้คลิก ข้อความ

2.การใล่ลีตัวอักษรและสีพื้น

ในกล่องข้อความหรือรูปร่าง คุณสามารถเปลี่ยนสีของข้อความ สี (เติม) ภายใน หรือสีของเส้นขอบได้อย่างรวดเร็ว

มาลองเลือกรูปร่างกัน เครื่องมือการวาด จะปรากฏใน Ribbon พร้อมด้วยแท็บ รูปแบบ เปิดใช้งาน

ต่อไปนี้เป็นรูปร่างเดียวกันหลังจากที่เราเปลี่ยนเส้นขอบเป็นสีส้ม สีเติมเป็นสีเขียวอ่อน และข้อความเป็นสีดำแล้ว เราใช้คำสั่ง เส้นกรอบรูปร่างสีเติมรูปร่าง และ สีเติมข้อความ ซึ่งมีให้ใช้งานบนแท็บ รูปแบบ ภายใต้ เครื่องมือการวาด

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เราทำด้านล่างนี้จะแสดงใน Microsoft PowerPoint แต่ก็จะทำงานลักษณะเดียวกับใน Excel, Word, Outlook และ Project ด้วย

เปลี่ยนสีข้อความ

  1. เลือกเส้นขอบของรูปร่างหรือกล่องข้อความ เมื่อคุณดำเนินการนี้ เครื่องมือการวาด จะปรากฏขึ้น

    เมื่อต้องการเปลี่ยนหลายรูปร่างหรือหลายกล่องข้อความ ให้คลิกที่รูปร่างหรือที่กล่องข้อความแรก แล้วกด Ctrl ค้างไว้ในขณะที่คุณคลิกรูปร่างหรือกล่องข้อความอื่นๆ

  2. บนแท็บรูปแบบของเครื่องมือวาด คลิกสีเติมข้อความ และ ภายใต้สีของธีม เลือกสีคุณต้องการ

    หมายเหตุ: เมนูสีเติมข้อความ และเส้นกรอบข้อความ อาจไม่สามารถใช้งานอยู่จนกว่าคุณเริ่มพิมพ์ในรูปร่างของคุณ

    เมื่อต้องการเปลี่ยนข้อความเป็นสีที่ไม่ได้อยู่ในสีของธีม

    1. เลือกรูปร่างหรือกล่องข้อความ

    2. บนแท็บรูปแบบของเครื่องมือการวาด คลิกสีเติมข้อความ >สีเติมเพิ่มเติม

    3. ในกล่องโต้ตอบ สี ให้คลิกสีที่คุณต้องการบนแท็บ มาตรฐาน หรือผสมสีของคุณเองบนแท็บ กำหนดเอง สีแบบกำหนดเองและสีบนแท็บ มาตรฐาน จะไม่ถูกอัปเดตถ้าคุณเปลี่ยนธีมของเอกสารในภายหลัง

เปลี่ยนสี (เติม) ภายใน

  1. เลือกรูปร่างหรือกล่องข้อความเพื่อทำการเปลี่ยนแปลง เมื่อคุณทำสิ่งนี้ เครื่องมือการวาด จะปรากฏขึ้น

    เมื่อต้องการเปลี่ยนหลายรูปร่างหรือหลายกล่องข้อความ ให้คลิกที่รูปร่างหรือที่กล่องข้อความแรก แล้วกด Ctrl ค้างไว้ในขณะที่คุณคลิกรูปร่างหรือกล่องข้อความอื่นๆ

  2. คลิก สีเติมรูปร่าง และภายใต้ สีของธีม ให้เลือกสีที่คุณต้องการ

    เมื่อต้องการเปลี่ยนสีเติมเป็นสีที่ไม่ได้อยู่ในสีของธีม

    1. เลือกรูปร่างหรือกล่องข้อความ

    2. บนแท็บรูปแบบของเครื่องมือการวาด คลิกสีเติมรูปร่าง >สีเติมเพิ่มเติม

    3. ในกล่องโต้ตอบ สี ให้คลิกสีที่คุณต้องการบนแท็บ มาตรฐาน หรือผสมสีของคุณเองบนแท็บ กำหนดเอง สีแบบกำหนดเองและสีบนแท็บ มาตรฐาน จะไม่ถูกอัปเดตถ้าคุณเปลี่ยนธีมของเอกสารในภายหลัง

เปลี่ยนสีเส้นขอบ

  1. เลือกเส้นขอบของรูปร่างหรือกล่องข้อความ เมื่อคุณดำเนินการนี้ เครื่องมือการวาด จะปรากฏขึ้น

    ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนหลายรูปร่างหรือหลายกล่องข้อความ ให้คลิกที่รูปร่างหรือที่กล่องข้อความแรก แล้วกด Ctrl ค้างไว้ในขณะที่คุณคลิกรูปร่างหรือกล่องข้อความอื่นๆ

  2. บนแท็บรูปแบบของเครื่องมือการวาด คลิกเส้นกรอบรูปร่าง และ ภายใต้สีของธีม เลือกสีคุณต้องการ

    เมื่อต้องการเปลี่ยนสีเส้นขอบเป็นสีที่ไม่ได้ในสีของธีม

    1. เลือกรูปร่างหรือกล่องข้อความ

    2. บนแท็บรูปแบบของเครื่องมือการวาด คลิกเส้นกรอบรูปร่าง แล้ว คลิ กสีกรอบเพิ่มเติม

    3. ในกล่องโต้ตอบ สี ให้คลิกสีที่คุณต้องการบนแท็บ มาตรฐาน หรือผสมสีของคุณเองบนแท็บ กำหนดเอง สีแบบกำหนดเองและสีบนแท็บ มาตรฐาน จะไม่ถูกอัปเดตถ้าคุณเปลี่ยน ธีม ของเอกสารในภายหลัง

3.การใส่เส้นขอบให้กับตาราง

เมื่อคุณเพิ่มเส้นขอบรูปภาพ ข้อความ หรือหน้า คุณสามารถเลือกองค์ประกอบเหล่านั้นในเอกสารของคุณมีความโดดเด่น คุณสามารถทำเหมือนกับตารางในเอกสารของคุณ ขึ้นอยู่กับโปรแกรมคุณกำลังใช้ คุณสามารถเพิ่มเส้นขอบลงในตาราง โดยใช้แกลเลอรีสไตล์เส้นขอบ คุณสามารถออกแบบเส้นขอบแบบกำหนดเอง หรือคุณสามารถนำสไตล์ตารางออกแบบไว้ล่วงหน้า

เพิ่มเส้นขอบ ด้วยแกลเลอรีสไตล์เส้นขอบ

ต่อไปนี้ใช้ได้กับ Word, 2016 Word for Mac และ Outlook เท่านั้น

วิธีรวดเร็วที่สุดในการเพิ่มเส้นขอบใน Word และ Outlook มาจากแกลเลอรีสไตล์เส้นขอบ

  1. คลิกในตาราง จากนั้นคลิก จุดจับสำหรับย้ายตาราง เพื่อเลือกตารางนั้น

    แท็บการออกแบบของเครื่องมือตาราง ปรากฏขึ้น (ใน Office for Mac แท็บตารางออกแบบ และเค้าโครง ปรากฏขึ้น คลิกแท็บออกแบบตาราง )

  2. คลิก สไตล์ของเส้นขอบ และเลือกสไตล์เส้นขอบที่ต้องการ

  3. คลิก เส้นขอบ และเลือกตำแหน่งที่คุณต้องการเพิ่มเส้นขอบ

    เคล็ดลับ: เมื่อต้องการเปลี่ยน หรือเพิ่มเส้นขอบสำหรับส่วนหนึ่งของตารางของคุณ ตรวจสอบว่า ได้เลือกตัวคัดวางเส้นขอบ แล้ว ตาราง ในแต่ละเส้นขอบที่คุณต้องการเปลี่ยน หรือเพิ่ม Word นำไปใช้สไตล์ของเส้นขอบที่คุณได้เลือก และคุณไม่จำเป็นเพื่อเลือกตารางแรก

เพิ่มเส้นขอบแบบกำหนดเอง

ต่อไปนี้นำไปใช้กับ Word, 2016 Word for Mac, Outlook, PowerPoint และ PowerPoint 2016 for mac

เมื่อต้องการดีไซน์เส้นขอบแบบกำหนดเองของคุณเอง เลือกสี ความกว้าง สไตล์เส้น และที่คุณต้องการใช้เส้นขอบออก

  1. ใน Word หรือ Outlook คลิกในตาราง แล้ว คลิ กจับสำหรับย้ายตาราง เพื่อเลือกตาราง

    ใน PowerPoint คลิกที่ใดก็ได้บนเส้นขอบด้านนอกของตารางเพื่อเลือก (จับสำหรับย้ายตาราง ไม่ปรากฏใน PowerPoint)

  2. คลิกที่แท็บออกแบบของเครื่องมือตาราง (แท็บออกแบบตาราง ใน Office for Mac)

  3. ดีไซน์เส้นขอบของคุณ

    คลิกสไตล์เส้น (ลักษณะปากกา ใน PowerPoint) และเลือกสไตล์

    คลิกน้ำหนักเส้น (น้ำหนักปากกา ใน PowerPoint) และเลือกความกว้างของเส้นขอบคุณต้องการ

    คลิก สีปากกา และเลือกสี

  4. คลิก เส้นขอบ และเลือกเส้นขอบที่คุณต้องการ

    เคล็ดลับ:  เมื่อต้องการเปลี่ยนหรือเพิ่มเส้นขอบลงในส่วนของตาราง ให้ตรวจสอบว่า ตัวคัดวางเส้นขอบ ถูกเลือกไว้ จากนั้นให้คลิกเส้นขอบแต่ละเส้นในตาราง Word จะเพิ่มเส้นขอบตามสไตล์ ความกว้าง และสีที่คุณเลือกเอาไว้ และคุณไม่จำเป็นต้องเลือกตารางก่อน

การใช้สไตล์ของตาราง

ต่อไปนี้นำไปใช้กับ Word, 2016 Word for Mac, Outlook, PowerPoint และ PowerPoint 2016 for mac

นำสไตล์ตารางออกแบบไว้ล่วงหน้าคือ วิธีที่รวดเร็วอื่นเพื่อทำให้ตารางของคุณโดดเด่น สไตล์ตารางเพิ่มประสานเส้นขอบ แรเงา และจัดรูปแบบข้อความ

  1. คลิกในตาราง นั้นแล้ว คลิกที่แท็บออกแบบของเครื่องมือตาราง (แท็บออกแบบตาราง ใน Office for Mac)

  2. ในแกลเลอรีสไตล์ตาราง คลิกสไตล์ตาราง เมื่อต้องการดูแกลเลอรีสไตล์เพิ่มเติม คลิกลูกศรเพิ่มเติม (ลูกศรนี้ปรากฏด้านล่างแกลเลอรีใน Office for mac)

4.การปรับเส้นขอบเฉพาะบางส่วนเพิ่มเติม

คุณสามารถเพิ่มเส้นขอบที่มีสี หรือความหนา เส้นขอบปแบบ หรือเส้นขอบแบบกำหนดเองลงในหน้า ข้อความรูปภาพกล่อง รูปร่างอัตโนมัติ หรือ รอบกลุ่มของวัตถุในสิ่งพิมพ์ของคุณได้

คุณสามารถใช้รูปภาพที่ออกแบบไว้แล้วเป็นเส้นขอบได้ด้วย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถแทรกคลิปเส้นขอบสำหรับหน้าจาก ภาพตัดปะและสื่อบน Microsoft Office Online แล้วเปลี่ยนขนาดให้พอดีกับหน้าหรือวัตถุที่คุณต้องการเพิ่มเส้นขอบ

ถ้าหน้า กล่องข้อความ AutoShape รูปภาพ หรือกลุ่มรายการมีเส้นขอบอยู่แล้ว คุณก็สามารถเปลี่ยนหรือเอาออกได้

คุณต้องการทำสิ่งใด

เพิ่มเส้นขอบลงในหน้า

เพิ่มเส้นขอบให้กับกล่องข้อความ รูปร่างอัตโนมัติ รูปภาพ หรือวัตถุ

เอาเส้นขอบออกจากกล่องข้อความ รูปร่างอัตโนมัติ รูปภาพ หรือวัตถุ

เพิ่มเส้นขอบให้กับกลุ่มของวัตถุ

ปรับเปลี่ยนเส้นขอบให้เนื้อหาซ้อนกันน้อยที่สุด

เอาเส้นขอบ เส้นขอบศิลป์ หรือเส้นขอบคลิปอาร์ต

การเพิ่มเส้นขอบให้กับหน้า

เมื่อต้องการเพิ่มเส้นขอบให้กับหน้า ให้วาดสี่เหลี่ยมผืนผ้ารอบหน้าแล้วเพิ่มเส้นขอบหรือเส้นขอบที่ออกแบบไว้ล่วงหน้าตามที่ต้องการ เมื่อต้องการเพิ่มเส้นขอบให้กับทุกหน้าในสิ่งพิมพ์ของคุณ ให้เพิ่มเส้นขอบให้กับ หน้าต้นแบบ แล้วนำหน้าต้นแบบนี้ไปใช้กับหน้าต่างๆ ในสิ่งพิมพ์ของคุณ ให้ค้นหาการเชื่อมโยงไปยังข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานกับหน้าต้นแบบในสิ่งพิมพ์ของคุณ แล้วคลิกการเชื่อมโยงในส่วน ดูเพิ่มเติม

สิ่งสำคัญ: ตรวจดูให้แน่ใจว่าเส้นขอบทุกด้านอยู่ในขอบเขตที่สามารถพิมพ์ได้ของเครื่องพิมพ์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังสร้างเส้นขอบหน้า เครื่องพิมพ์บางเครื่องเท่านั้นที่พิมพ์จนถึงขอบหน้ากระดาษ

การกำหนดขอบเขตที่เครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะของคุณไม่สามารถพิมพ์ได้

  1. เปิด Microsoft WordPad

    วิธี

    • บนแถบงาน Windows ให้คลิกปุ่ม เริ่ม แล้วชี้ไปที่ ทุกโปรแกรม ชี้ไปที่ เบ็ดเตล็ด แล้วคลิก WordPad

  2. บนเมนู แฟ้ม คลิก ตั้งค่าหน้ากระดาษ

  3. ตั้งค่าระยะขอบ ซ้ายขวาบน และ ล่าง เป็นศูนย์ ระยะขอบจะถูกตั้งค่าใหม่เป็นระยะขอบต่ำสุดที่เครื่องพิมพ์สนับสนุนโดยอัตโนมัติ

  4. โปรดสังเกตค่าระยะขอบต่ำสุด

เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะมีการพิมพ์เส้นขอบทุกด้าน คุณสามารถแสดงตัวอย่างสิ่งพิมพ์ของคุณได้โดยคลิก แสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์ บนเมนู แฟ้ม

การเพิ่มเส้นขอบให้กับหน้า

  1. เลือกหน้าที่คุณต้องการเพิ่มเส้นขอบลงไป

  2. บนแถบเครื่องมือวัตถุ คลิกสี่เหลี่ยมผืนผ้า 

     จากนั้น ลากบนหน้าเพื่อวาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดที่คุณต้องการให้เส้นขอบของหน้า ตัวอย่างเช่นเมื่อต้องการระยะขอบของหน้า

  3. เลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วคลิก AutoShape บนเมนู รูปแบบ

  4. คลิกแท็บ สีและเส้น

  5. เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

    เพิ่มเส้นขอบที่มีสีหรือความกว้าง

    1. ภายใต้ เส้น ให้เลือกตัวเลือกสีและเส้นที่คุณต้องการ

    2. เมื่อต้องการเพิ่มเส้นขอบที่ด้านในและด้านนอกของสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้เท่าๆ กัน แทนที่จะเป็นด้านในเท่านั้น ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย วาดเส้นขอบภายในกรอบ การกระทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เส้นขอบซ้อนทับวัตถุที่อยู่ภายในสี่เหลี่ยมผืนผ้านั้น

    เพิ่มเส้นขอบลวดลายที่ออกแบบไว้แล้ว

    1. คลิก เส้นขอบศิลป์

    2. ในรายการ เส้นขอบที่พร้อมใช้งาน ให้คลิกเส้นขอบที่คุณต้องการ

    เพิ่มเส้นขอบแบบกำหนดเอง

    คุณสามารถสร้างเส้นขอบแบบกำหนดเองได้จากภาพตัดปะ แฟ้มรูปภาพ รูปถ่ายที่สแกน หรือบิตแมป อื่นๆ หรือรูปภาพที่คุณสร้างขึ้นในโปรแกรมวาดรูป เส้นขอบที่คุณกำหนดเองจะถูกเก็บไว้รวมกับเส้นขอบศิลป์ Microsoft Office Publisher 2007

    หมายเหตุ: แฟ้มรูปภาพที่คุณใช้เป็นเส้นขอบแบบกำหนดเองจะต้องมีขนาดเล็กกว่า 64 กิโลไบต์ (KB) และต้องไม่มีข้อความใดๆ

    1. คลิก เส้นขอบศิลป์

    2. ในกล่องโต้ตอบ เส้นขอบศิลป์ ให้คลิก สร้างเส้นขอบแบบกำหนดเอง

    3. ในกล่องโต้ตอบ สร้างเส้นขอบแบบกำหนดเอง เมื่อต้องการเพิ่มรูปภาพจากแฟ้มที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ของคุณโดยไม่เพิ่มรูปภาพนั้นลงใน Microsoft Clip Organizer ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย ใช้ Clip Organizer เพื่อเลือกรูปภาพ

    4. คลิก เลือกรูปภาพ

    5. ในกล่องโต้ตอบ แทรกรูปภาพ ให้เรียกดูตำแหน่งที่ตั้งที่มีรูปภาพที่คุณต้องการ แล้วคลิกรูปภาพนั้น จากนั้นคลิกแทรก

    6. ในกล่องโต้ตอบ ตั้งชื่อเส้นขอบที่กำหนดเอง ให้พิมพ์ชื่อสำหรับเส้นขอบที่คุณกำหนดเอง แล้วคลิก ตกลง

      ถ้าขนาดแฟ้มของรูปภาพที่คุณเลือกมีขนาดใหญ่เกินไป (มากกว่า 64 กิโลไบต์) หรือถ้ารูปภาพนั้นมีข้อความ คุณอาจได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาด และอาจสร้างเส้นขอบไม่ได้ ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2 ถึงขั้นตอนที่ 5 เพื่อเลือกรูปภาพที่มีขนาดแฟ้มเล็กลง

การเพิ่มเส้นขอบภาพตัดปะ

คุณสามารถสร้างเส้นขอบด้วยภาพตัดปะได้อย่างรวดเร็ว

  1. เลือกหน้าที่คุณต้องการเพิ่มเส้นขอบลงไป

  2. บนเมนู แทรก ให้ชี้ไปที่ รูปภาพ แล้วคลิก ภาพตัดปะ

  3. ในบานหน้าต่างงานภาพตัดปะ พิมพ์เส้นขอบหน้ากระดาษในกล่องค้นหา แล้ว คลิ กไป

  4. ในบานหน้าต่างงาน ภาพตัดปะ ให้คลิกเส้นขอบที่คุณต้องการ

  5. ในสิ่งพิมพ์ของคุณ ให้วางตัวชี้เมาส์เหนือที่จับสำหรับปรับขนาดอันใดอันหนึ่งบนเส้นขอบ แล้วลากที่จับเพื่อปรับขนาดเส้นขอบ

  6. ถ้าเส้นขอบมีสีเติมทึบซึ่งทับเนื้อหาบนหน้าของคุณ ให้เลือกเส้นขอบ แล้วชี้ไปที่ ลำดับ บนเมนู จัดเรียง จากนั้นคลิกย้ายไปไว้ข้างหลังสุด เพื่อให้เนื้อหาบนหน้าแสดงอยู่หน้าสีเติมของเส้นขอบ

ด้านบนของหน้า

การเพิ่มเส้นขอบให้กับกล่องข้อความ AutoShape รูปภาพ หรือวัตถุ

คุณสามารถเพิ่มเส้นขอบให้กับกล่องข้อความ AutoShape รูปภาพ หรือวัตถุได้ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มเส้นขอบที่ออกแบบไว้ล่วงหน้าหรือที่กำหนดเองให้กับกล่องข้อความ รูปภาพ หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้ (แต่ไม่ใช่ AutoShapes อื่นๆ เช่น วงกลมหรือวงรี)

  1. เลือกกล่องข้อความ AutoShape รูปภาพหรือวัตถุที่คุณต้องการเพิ่มเส้นขอบลงไป

  2. บนเมนู รูปแบบ ให้คลิก กล่องข้อความAutoShapeรูปภาพ หรือ วัตถุ

  3. คลิกแท็บ สีและเส้น

  4. เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

    เพิ่มเส้นขอบที่มีสีหรือความกว้าง

    1. ภายใต้ เส้น ให้เลือกตัวเลือกสีและลักษณะเส้นที่คุณต้องการ

    2. เมื่อต้องการเพิ่มเส้นขอบที่ด้านในและด้านนอกของสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้เท่าๆ กัน แทนที่จะเป็นด้านในเท่านั้น ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย วาดเส้นขอบภายในกรอบ การกระทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เส้นขอบซ้อนทับวัตถุที่อยู่ภายในสี่เหลี่ยมผืนผ้านั้น

    เพิ่มเส้นขอบลวดลายที่ออกแบบไว้แล้ว

    1. คลิก เส้นขอบศิลป์ (ไม่พร้อมใช้งาน ถ้าคุณเลือก AutoShape อื่นที่ไม่ใช่สี่เหลี่ยมผืนผ้า)

    2. ในรายการ เส้นขอบที่พร้อมใช้งาน ให้คลิกเส้นขอบที่คุณต้องการ

    เพิ่มเส้นขอบแบบกำหนดเอง

    คุณสามารถสร้างเส้นขอบแบบกำหนดเองจากภาพตัดปะ แฟ้มรูปภาพ รูปถ่ายที่สแกน หรือบิตแมปอื่นๆ หรือรูปภาพที่คุณสร้างในโปรแกรมการวาด เส้นขอบที่คุณกำหนดเองจะถูกเก็บรวมไว้กับเส้นขอบศิลป์ของ Office Publisher 2007

    หมายเหตุ: แฟ้มรูปภาพที่คุณใช้สำหรับเส้นขอบแบบกำหนดเองต้องมีขนาดเล็กกว่า 64 กิโลไบต์ และต้องไม่มีข้อความใดๆ

    1. คลิก เส้นขอบศิลป์

    2. ในกล่องโต้ตอบ เส้นขอบศิลป์ ให้คลิก สร้างเส้นขอบแบบกำหนดเอง

    3. ในกล่องโต้ตอบ สร้างเส้นขอบแบบกำหนดเอง เมื่อต้องการเพิ่มรูปภาพจากแฟ้มที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ของคุณโดยไม่เพิ่มรูปภาพนั้นลงใน Microsoft Clip Organizer ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย ใช้ Clip Organizer เพื่อเลือกรูปภาพ

    4. คลิก เลือกรูปภาพ

    5. ในกล่องโต้ตอบ แทรกรูปภาพ ให้เรียกดูตำแหน่งที่ตั้งที่มีรูปภาพที่คุณต้องการ แล้วคลิกรูปภาพนั้น จากนั้นคลิกแทรก

    6. ในกล่องโต้ตอบ ตั้งชื่อเส้นขอบที่กำหนดเอง ให้พิมพ์ชื่อสำหรับเส้นขอบที่คุณกำหนดเอง แล้วคลิก ตกลง

      ถ้าขนาดแฟ้มของรูปภาพที่คุณเลือกมีขนาดใหญ่เกินไป (มากกว่า 64 กิโลไบต์) หรือถ้ารูปภาพนั้นมีข้อความ คุณอาจได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาด และอาจสร้างเส้นขอบไม่ได้ ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2 ถึงขั้นตอนที่ 5 เพื่อเลือกรูปภาพที่มีขนาดแฟ้มเล็กลง

ด้านบนของหน้า

เอาเส้นขอบออกจากกล่องข้อความ รูปร่างอัตโนมัติ รูปภาพ หรือวัตถุ

ถ้าคุณเพิ่มเส้นขอบให้กับกล่องข้อความ รูปร่างอัตโนมัติ รูปภาพ หรือวัตถุ คุณสามารถเอาเส้นขอบ โดยกลับกระบวนการ

  1. เลือกกล่องข้อความ AutoShape รูปภาพหรือวัตถุที่คุณต้องการเพิ่มเส้นขอบลงไป

  2. บนเมนู รูปแบบ ให้คลิก กล่องข้อความAutoShapeรูปภาพ หรือ วัตถุ

  3. คลิกแท็บ สีและเส้น

  4. เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
    เอาเส้นขอบที่มีสีหรือความกว้าง

    1. ภายใต้เส้น ในสี ดึงดาวน์ เลือกไม่มีเส้น

    เอาเส้นขอบแบบกำหนดเอง หรือปแบบลวดลาย

    1. จากสไตล์ ดึงดาวน์ เลือกรายการใด ๆ

      1. ภายใต้เส้น ในสี ดึงดาวน์ เลือกไม่มีเส้น

การเพิ่มเส้นขอบให้กับกลุ่มวัตถุ

เมื่อต้องการเพิ่มเส้นขอบให้กับกลุ่มวัตถุ ให้วาดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ารอบวัตถุ แล้วเพิ่มเส้นขอบหรือเส้นขอบที่ออกแบบไว้ล่วงหน้าตามที่คุณต้องการ

  1. เลือกหน้าที่คุณต้องการเพิ่มเส้นขอบลงไป

  2. บนแถบเครื่องมือวัตถุ คลิกสี่เหลี่ยมผืนผ้า 

     จากนั้น ลากบนหน้าเพื่อวาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้มีขนาดที่คุณต้อง (รอบวัตถุที่คุณต้องอยู่ภายในเส้นขอบ)

  3. เลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วคลิก AutoShape บนเมนู รูปแบบ

  4. คลิกแท็บ สีและเส้น

  5. เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

    เพิ่มเส้นขอบของสีหรือความกว้างใด ๆ

    1. ภายใต้ เส้น ให้เลือกตัวเลือกสีและลักษณะเส้นที่คุณต้องการ

    2. เมื่อต้องการเพิ่มเส้นขอบให้เท่ากันทั้งด้านในและด้านนอกของสี่เหลี่ยมผืนผ้า แทนที่จะเพิ่มเฉพาะด้านในอย่างเดียว ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย วาดเส้นขอบภายในกรอบ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เส้นขอบซ้อนทับวัตถุที่อยู่ด้านในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า

    เพิ่มเส้นขอบลวดลายที่ออกแบบไว้แล้ว

    1. คลิก เส้นขอบศิลป์

    2. ในรายการ เส้นขอบที่พร้อมใช้งาน ให้คลิกเส้นขอบที่คุณต้องการ

    เพิ่มเส้นขอบแบบกำหนดเอง

    คุณสามารถสร้างเส้นขอบแบบกำหนดเองจากภาพตัดปะ แฟ้มรูปภาพ รูปถ่ายที่สแกน หรือบิตแมปอื่นๆ หรือรูปภาพที่คุณสร้างในโปรแกรมการวาด เส้นขอบที่คุณกำหนดเองจะถูกเก็บรวมไว้กับเส้นขอบศิลป์ของ Office Publisher 2007

    หมายเหตุ: แฟ้มรูปภาพที่คุณใช้สำหรับเส้นขอบแบบกำหนดเองต้องมีขนาดเล็กกว่า 64 กิโลไบต์ และต้องไม่มีข้อความใดๆ

    1. คลิก เส้นขอบศิลป์

    2. ในกล่องโต้ตอบ เส้นขอบศิลป์ ให้คลิก สร้างเส้นขอบแบบกำหนดเอง

    3. ในกล่องโต้ตอบ สร้างเส้นขอบแบบกำหนดเอง เมื่อต้องการเพิ่มรูปภาพจากแฟ้มที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ของคุณโดยไม่เพิ่มรูปภาพนั้นลงใน Microsoft Clip Organizer ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย ใช้ Clip Organizer เพื่อเลือกรูปภาพ

    4. ในกล่องโต้ตอบ แทรกรูปภาพ ให้เรียกดูตำแหน่งที่ตั้งที่มีรูปภาพที่คุณต้องการ แล้วคลิกรูปภาพนั้น จากนั้นคลิกแทรก

    5. ในกล่องโต้ตอบ ตั้งชื่อเส้นขอบที่กำหนดเอง ให้พิมพ์ชื่อสำหรับเส้นขอบที่คุณกำหนดเอง แล้วคลิก ตกลง

      ถ้าแฟ้มรูปภาพที่คุณเลือกมีขนาดใหญ่เกินไป (มากกว่า 64 กิโลไบต์) หรือถ้ารูปภาพมีข้อความ คุณอาจได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาด และอาจไม่มีการสร้างเส้นขอบขึ้น ถ้าเป็นเช่นนี้ ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2 ถึงขั้นตอนที่ 5 เพื่อเลือกรูปภาพที่มีขนาดแฟ้มเล็กลง

ด้านบนของหน้า

การปรับเปลี่ยนเส้นขอบให้เนื้อหาซ้อนกันน้อยที่สุด

Office Publisher 2007 สามารถเพิ่มเส้นขอบศิลป์หรือเส้นให้กล่องข้อความ เฟรมรูปภาพ หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้ ซึ่งหมายความว่า ยิ่งคุณสร้างเส้นขอบศิลป์หรือเส้นหนาเท่าไร คุณก็จะมีเนื้อที่สำหรับรูปภาพหรือข้อความน้อยลงเท่านั้น ถ้าเส้นขอบทับข้อความหรือวัตถุบนหน้ากระดาษ ให้ลองอย่างน้อยหนึ่งวิธีต่อไปนี้

การวาดเส้นขอบบนเฟรมแทนที่จะวาดในเฟรม

เมื่อต้องการเพิ่มเส้นขอบเท่ากันทั้งด้านในและด้านนอกของสี่เหลี่ยมผืนผ้า แทนที่จะเพิ่มเฉพาะด้านในอย่างเดียว ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย วาดเส้นขอบภายในกรอบ ซึ่งจะช่วยป้องกันเส้นขอบไม่ให้ซ้อนทับวัตถุที่อยู่ภายในสี่เหลี่ยมผืนผ้า

  1. เลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วคลิก AutoShape บนเมนู รูปแบบ

  2. คลิกแท็บ สีและเส้น แล้วล้างกล่องกาเครื่องหมาย วาดเส้นขอบภายในกรอบ

การนำเส้นขอบศิลป์ไปใช้ในขนาดที่เหมาะสม

เมื่อต้องการปรับขนาดเส้นขอบให้พอเหมาะกับทั้งหน้ากระดาษ ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย นำไปใช้ที่ขนาดเริ่มต้นเสมอ ซึ่งจะช่วยป้องกันเส้นขอบไม่ให้ซ้อนทับวัตถุที่อยู่ภายในสี่เหลี่ยมผืนผ้า

  1. เลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วคลิก AutoShape บนเมนู รูปแบบ

  2. คลิกแท็บ สีและเส้น แล้วคลิก เส้นขอบศิลป์

  3. ในกล่องโต้ตอบ เส้นขอบศิลป์ ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย นำไปใช้ที่ขนาดเริ่มต้นเสมอ

การลดความกว้างของเส้นขอบ

  1. เลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีเส้นขอบที่คุณต้องการเปลี่ยน

  2. บนแถบเครื่องมือการจัดรูปแบบ คลิกสไตล์เส้น/เส้นขอบ 

  3. คลิกความกว้างของเส้นที่คุณต้องการ เมื่อต้องการดูตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับความกว้างของเส้น ให้คลิก เส้นเพิ่มเติมแล้วเลือกค่าที่คุณต้องการในช่อง น้ำหนัก

การเพิ่มขนาดของของสี่เหลี่ยมผืนผ้า

  1. คลิกที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อเลือก

  2. ชี้ไปที่จุดจับสำหรับปรับขนาดหนึ่ง แล้ว ลาก

  3. เมื่อต้องการให้จุดศูนย์กลางของสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ที่เดิม ให้กด CTRL ค้างไว้ในระหว่างที่ลากเมาส์ แล้วปล่อยปุ่มเมาส์ก่อนที่จะปล่อย CTRL

  4. เมื่อต้องการรักษาสัดส่วนของสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้กด SHIFT ค้างไว้ในระหว่างที่ลากจุดจับมุม แล้วปล่อยปุ่มเมาส์ก่อนที่จะปล่อย SHIFT

  5. เมื่อต้องการรักษาสัดส่วนของสี่เหลี่ยมผืนผ้าและพร้อมกันนั้นก็ให้จุดศูนย์กลางของสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ที่เดิม ให้กด CTRL+SHIFT ค้างไว้ในระหว่างที่ลากจุดจับมุม แล้วปล่อยปุ่มเมาส์ก่อนที่จะปล่อย CTRL+SHIFT

  6. เมื่อต้องการลากสี่เหลี่ยมผืนผ้าข้ามเส้นบอกแนว เช่น เส้นบอกแนวระยะขอบ ให้กด ALT ระหว่างที่ลาก

ด้านบนของหน้า

เอาเส้นขอบ เส้นขอบศิลป์ หรือเส้นขอบภาพตัดปะออก

  1. คลิกที่เส้นขอบเพื่อเลือกตำแหน่งนั้น

    หมายเหตุ: การเอาเส้นขอบบนหน้าต้นแบบ คลิกหน้าต้นแบบ บนเมนูมุมมอง นั้นแล้ว เลือกเส้นขอบ

  2. กด DELETE 

5.การกำหนดลักษณ์เซลล์เมื่อต้อง การนำรูปแบบต่าง ๆ ในขั้นตอนหนึ่ง และ เพื่อให้แน่ใจว่า เซลล์มีการจัดรูปแบบที่สอดคล้องกัน คุณสามารถใช้สไตล์เซลล์ สไตล์เซลล์แบบจะกำหนดชุดของการจัดรูปแบบลักษณะ เช่นฟอนต์ และขนาดฟอนต์ รูปแบบตัวเลข เส้นขอบเซลล์ และแรเงาเซลล์ เมื่อต้องการป้องกันไม่ให้ทุกคนทำการเปลี่ยนแปลงไปยังเซลล์ที่เฉพาะเจาะจง คุณสามารถใช้สไตล์เซลล์ที่ถูกล็อกเซลล์

Microsoft Office Excel มีลักษณะของเซลล์ที่มีอยู่แล้วภายในซึ่งคุณสามารถนำไปใช้หรือปรับเปลี่ยนได้หลายลักษณะด้วยกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนหรือทำซ้ำลักษณะของเซลล์เพื่อสร้างลักษณะของเซลล์ที่คุณกำหนดเองได้อีกด้วย

6.การจัดรูปแบบตัวเลข

ถ้าคุณต้องการแสดงตัวเลขเป็นค่าทางการเงิน คุณต้องจัดรูปแบบตัวเลขดังกล่าวให้เป็นสกุลเงิน เมื่อต้องการทำสิ่งนี้ ให้คุณนำรูปแบบตัวเลขสกุลเงินหรือบัญชีไปใช้กับเซลล์ที่คุณต้องการจัดรูปแบบ ตัวเลือกการจัดรูปแบบตัวเลขมีอยู่บนแท็บหน้าแรก ในกลุ่ม หมายเลข

จัดรูปแบบตัวเลขเป็นสกุลเงิน

คุณสามารถแสดงตัวเลขโดย มีสัญลักษณ์สกุลเงินเริ่มต้น ด้วยการเลือกเซลล์หรือช่วงของเซลล์ แล้ว คลิกรูปแบบตัวเลข Accounting 

 ในกลุ่มตัวเลข บนแท็บหน้าแรก (ถ้าคุณต้องการใช้รูปแบบสกุลเงินแทน เลือกเซลล์ และกด Ctrl + Shift + $)

ถ้าคุณต้องการควบคุมรูปแบบใดเพิ่มเติม หรือคุณต้องการเปลี่ยนแปลงส่วนอื่นของรูปแบบสำหรับสิ่งที่คุณเลือก คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้

เลือกเซลล์ที่คุณต้องการจัดรูปแบบ

บนแท็บ หน้าแรก ให้คลิกตัวเปิดใช้กล่องโต้ตอบถัดจาก ตัวเลข

ในกล่องโต้ตอบ จัดรูปแบบเซลล์ ในรายการ ประเภท ให้คลิก สกุลเงิน หรือ บัญชี

ในกล่อง สัญลักษณ์ ให้คลิกสัญลักษณ์สกุลเงินที่คุณต้องการ

หมายเหตุ: ถ้าคุณต้องการแสดงค่าทางการเงินโดยไม่แสดงสัญลักษณ์สกุลเงิน คุณสามารถคลิก ไม่มี

ในกล่องตำแหน่งทศนิยม ใส่จำนวนตำแหน่งทศนิยมที่คุณต้องการสำหรับหมายเลข ตัวอย่าง เพื่อแสดง$138,691แทนที่เป็น$138,690.63ในเซลล์ ใส่0ในกล่องตำแหน่งทศนิยม

เมื่อคุณได้ทำการเปลี่ยนแปลงแล้ว ให้ดูตัวเลขดังกล่าวในกล่อง ตัวอย่าง ซึ่งจะแสดงผลของการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งทศนิยมต่อการแสดงผลตัวเลข

ในกล่องจำนวนลบ เลือกลักษณะแสดงที่คุณต้องการใช้สำหรับจำนวนลบ ถ้าคุณไม่ต้องการให้ตัวเลือกที่มีอยู่สำหรับการแสดงตัวเลขเป็นค่าลบ คุณสามารถสร้างรูปแบบตัวเลขของคุณเอง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างรูปแบบกำหนดเอง ดูสร้างหรือลบรูปแบบตัวเลขแบบกำหนดเอง

หมายเหตุ: กล่อง จำนวนลบ จะไม่พร้อมใช้งานสำหรับรูปแบบตัวเลขทาง บัญชี เนื่องจากเป็นแนวทางปฏิบัติมาตรฐานทางบัญชีที่จะแสดงจำนวนลบไว้ในเครื่องหมายวงเล็บ

เมื่อต้องการปิดกล่องโต้ตอบ จัดรูปแบบเซลล์ ให้คลิก ตกลง

ถ้า Excel แสดง ##### ในเซลล์หลังจากที่คุณได้นำรูปแบบสกุลเงินไปใช้กับข้อมูลของคุณแล้ว แสดงว่าเซลล์อาจมีความกว้างไม่เพียงพอที่จะแสดงข้อมูลนั้น เมื่อต้องการขยายความกว้างของคอลัมน์ ให้ดับเบิลคลิกที่ขอบด้านขวาของคอลัมน์ที่มีเซลล์ซึ่งมีข้อผิดพลาด ##### อยู่ คอลัมน์นั้นจะปรับขนาดให้พอดีกับตัวเลขโดยอัตโนมัติ คุณยังสามารถลากขอบด้านขวาของคอลัมน์จนกระทั่งคอลัมน์นั้นมีขนาดที่คุณต้องการได้อีกด้วย

ด้านบนของหน้า

เอาการจัดรูปแบบสกุลเงินออก

ถ้าคุณต้องการเอาการจัดรูปแบบสกุลเงินออก คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตั้งค่ารูปแบบตัวเลขใหม่ได้

  1. เลือกเซลล์ต่างๆ ที่มีการจัดรูปแบบสกุลเงินไว้

  2. บนแท็บ หน้าแรก ในกลุ่ม ตัวเลข ให้คลิก ทั่วไป

    เซลล์ที่ถูกจัดรูปแบบด้วยรูปแบบ ทั่วไป จะไม่มีรูปแบบตัวเลขที่เฉพาะเจาะจง

ด้านบนของหน้า

รูปแบบสกุลเงินกับรูปแบบทางบัญชีแตกต่างกันอย่างไร

ทั้งรูปแบบสกุลเงินและบัญชีจะถูกนำไปใช้เพื่อแสดงค่าทางการเงิน ความแตกต่างระหว่างสองรูปแบบได้อธิบายไว้ในตารางต่อไปนี้

รูปแบบ

คำอธิบาย

ตัวอย่าง

สกุลเงิน

เมื่อคุณนำรูปแบบสกุลเงินไปใช้กับตัวเลข สัญลักษณ์สกุลเงินจะปรากฏถัดจากตัวเลขหลักแรกในเซลล์ คุณสามารถระบุจำนวนตำแหน่งทศนิยมที่คุณต้องการใช้ หรือระบุว่าคุณต้องการใช้ตัวคั่นหลักพัน และระบุได้ว่าต้องการให้แสดงค่าลบอย่างไร

เคล็ดลับ: เมื่อต้องการนำรูปแบบสกุลเงินไปใช้อย่างรวดเร็ว ให้เลือกเซลล์หรือช่วงของเซลล์ที่คุณต้องการจัดรูปแบบ แล้วกด Ctrl+Shift+$

รูปแบบ

คำอธิบาย

ตัวอย่าง

บัญชี

เช่นเดียวกับรูปแบบสกุลเงิน รูปแบบทางบัญชีก็ใช้สำหรับค่าทางการเงิน แต่รูปแบบทางบัญชีจะจัดแนวสัญลักษณ์สกุลเงินและจุดทศนิยมของตัวเลขในคอลัมน์ นอกจากนี้ รูปแบบทางบัญชียังจะแสดงค่าศูนย์เป็นเส้นประและแสดงจำนวนลบในวงเล็บด้วย เช่นเดียวกับรูปแบบสกุลเงิน คุณสามารถระบุจำนวนตำแหน่งทศนิยมที่คุณต้องการและกำหนดได้ว่าจะใช้ตัวคั่นหลักพันหรือไม่ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการแสดงเริ่มต้นของจำนวนลบได้เว้นแต่คุณจะสร้างรูปแบบตัวเลขแบบกำหนดเองขึ้นมา

เคล็ดลับ: เมื่อต้องการใช้รูปแบบทางบัญชีได้อย่างรวดเร็ว เลือกเซลล์หรือช่วงของเซลล์ที่คุณต้องการจัดรูปแบบ บนแท็บหน้าแรกในกลุ่มตัวเลข คลิกรูปแบบตัวเลข Accounting 

 ถ้าคุณต้องการให้แสดงสัญลักษณ์สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ค่าเริ่มต้น คลิกลูกศรอยู่ถัดจากปุ่ม 
 Accounting รูปแบบตัวเลข และเลือกสัญลักษณ์สกุลเงินอื่นแล้ว

ด้านบนของหน้า

สร้างเทมเพลตเวิร์กบุ๊กที่มีการตั้งค่าการจัดรูปแบบสกุลเงินที่เฉพาะเจาะจง

ถ้าคุณมักจะใช้การจัดรูปแบบสกุลเงินในเวิร์กบุ๊กของคุณ คุณสามารถประหยัดเวลาได้โดยสร้างเวิร์กบุ๊กที่มีการตั้งค่าการจัดรูปแบบสกุลเงินที่เฉพาะเจาะจง แล้วบันทึกเวิร์กบุ๊กนั้นเป็นเทมเพลต จากนั้นคุณสามารถใช้เทมเพลตนี้เพื่อสร้างเวิร์กบุ๊กอื่นๆ

  1. สร้างเวิร์กบุ๊ก

  2. เลือกเวิร์กชีตหนึ่งหรือหลายแผ่นที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลงการจัดรูปแบบตัวเลขเริ่มต้น

    วิธีการเลือกเวิร์กชีต

    เมื่อต้องการเลือก

    ให้ทำสิ่งนี้

    แผ่นงานเดียว

    คลิกที่แท็บแผ่นงาน

    ถ้าคุณไม่พบแท็บแผ่นงานที่คุณต้องการ ให้คลิกปุ่มเลื่อนแท็บเพื่อแสดงแท็บ จากนั้นคลิกแท็บที่ต้องการ

    แผ่นงานสองแผ่นหรือมากกว่าที่อยู่ติดกัน

    คลิกที่แท็บแผ่นงานแผ่นแรก แล้วกด Shift ค้างไว้ในขณะที่คลิกแท็บของแผ่นงานแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องการเลือก

    แผ่นงานสองแผ่นหรือมากกว่าที่ไม่อยู่ติดกัน

    คลิกที่แท็บแผ่นงานแผ่นแรก แล้วกด Ctrl ค้างไว้ในขณะที่คุณคลิกแท็บของแผ่นงานอื่นที่ต้องการเลือก

    แผ่นงานทั้งหมดในเวิร์กบุ๊ก

    คลิกขวาบนแท็บแผ่นงาน แล้วคลิก เลือกแผ่นงานทั้งหมด บน เมนูทางลัด

    เคล็ดลับ    เมื่อเลือกเวิร์กชีตหลายแผ่น [กลุ่ม] จะปรากฏขึ้นในแถบชื่อเรื่องที่ด้านบนสุดของเวิร์กชีต เมื่อต้องการยกเลิกการเลือกเวิร์กชีตหลายแผ่นในเวิร์กบุ๊ก ให้คลิกที่เวิร์กชีตใดก็ได้ที่ไม่ได้เลือกไว้ ถ้าไม่เห็นแผ่นงานที่ไม่ได้เลือก ให้คลิกขวาที่แท็บของแผ่นงานที่เลือก จากนั้น คลิก ยกเลิกการจัดกลุ่มแผ่นงาน

  3. เลือกเซลล์หรือคอลัมน์ที่คุณต้องการจัดรูปแบบ แล้วนำการจัดรูปแบบสกุลเงินไปใช้กับเซลล์หรือคอลัมน์นั้น

กำหนดค่าอื่นๆ ของเวิร์กบุ๊กด้วยตนเองตามที่คุณต้องการ แล้วให้เลือกทำดังต่อไปนี้เพื่อบันทึกเป็นเทมเพลต:

บันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นเทมเพลต

  1. ถ้าคุณกำลังบันทึกเวิร์กบุ๊กในเทมเพลตเป็นครั้งแรก เริ่มต้น ด้วยการตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งเทมเพลตส่วนบุคคลเริ่มต้น:

    1. คลิก ไฟล์ แล้วคลิก ตัวเลือก

    2. คลิก บันทึก จากนั้นภายใต้ บันทึกเวิร์กบุ๊ก ให้ป้อนเส้นทางไปยังตำแหน่งที่ตั้งเทมเพลตส่วนบุคคลในกล่องตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นของเทมเพลตส่วนบุคคล

      เส้นทางนี้ โดยทั่วไปจะเป็น C:\ผู้ใช้\เอกสารของฉัน\เทมเพลตของฉัน

    3. คลิก ตกลง

      เมื่อได้ตั้งค่าตัวเลือกนี้แล้ว เทมเพลตแบบกำหนดเองทั้งหมดที่คุณบันทึกในโฟลเดอร์ เทมเพลตของฉัน จะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติภายใต้ ส่วนบุคคล บนหน้า ใหม่ (ไฟล์ > ใหม่)

  2. คลิก ไฟล์ แล้วคลิก ส่งออก

  3. ภายใต้ ส่งออก ให้คลิก เปลี่ยนชนิดไฟล์

  4. ในกล่อง ชนิดไฟล์ของเวิร์กบุ๊ก ให้ดับเบิลคลิกที่ เทมเพลต

  5. ในกล่อง ชื่อไฟล์ ให้พิมพ์ชื่อที่คุณต้องการใช้เป็นชื่อของเทมเพลต

  6. คลิก บันทึก แล้วปิดเทมเพลต

สร้างเวิร์กบุ๊กโดยยึดตามเทมเพลต

  1. คลิก ไฟล์ แล้วคลิก ใหม่

  2. คลิก ส่วนบุคคล

  3. ดับเบิลคลิกที่เทมเพลตที่คุณเพิ่งสร้างขึ้น

    Excel จะสร้างเวิร์กบุ๊กใหม่โดยยึดตามเทมเพลตของคุณ

7.การคำนวณตัวเลข

สมมุติว่าคุณต้องการหาค่าเฉลี่ยของจำนวนวันที่ใช้ทำงานหลักของโครงการเสร็จสมบูรณ์ หรือค่าเฉลี่ยอุณหภูมิของวันที่เฉพาะเจาะจงในช่วงเวลา 10 ปี มีวิธีคำนวณค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวเลขหลายวิธี

ฟังก์ชัน AVERAGE จะวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง ซึ่งก็คือตำแหน่งที่ตั้งของจุดกึ่งกลางของกลุ่มตัวเลขในการแจกแจงทางสถิติ การวัดทั่วไปที่สุดสามค่าของแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางได้แก่

  • Average     ซึ่งคือค่าเฉลี่ยเลขคณิต และคำนวณได้ด้วยการเพิ่มกลุ่มของตัวเลข จากนั้นหารด้วยจำนวนนับของจำนวนเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น ค่าเฉลี่ยของ 2 3 3 5 7 และ 10 คือ 30 หารด้วย 6 ซึ่งเท่ากับ 5

  • Median     ซึ่งคือจำนวนที่อยู่ตรงกลางของกลุ่มของตัวเลข ซึ่งหมายถึง จำนวนครึ่งหนึ่งของตัวเลขมีค่ามากกว่าค่ามัธยฐาน และอีกครึ่งหนึ่งมีค่าน้อยกว่าค่ามัธยฐาน ตัวอย่างเช่น ค่ามัธยฐานของ 2 3 3 5 7 และ 10 คือ 4

  • Mode     ซึ่งคือตัวเลขที่ซ้ำกันบ่อยที่สุดในกลุ่มของตัวเลข ตัวอย่างเช่น ค่าฐานนิยมของ 2 3 3 5 7 และ 10 คือ 3

สำหรับการแจกแจงสมมาตรของกลุ่มของตัวเลข การวัดของแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางทั้งสามนี้จะเหมือนกันทั้งหมด ส่วนการแจกแจงเบ้ของกลุ่มของตัวเลข การวัดของแนวโน้มกลางทั้งสามนั้นสามารถแตกต่างกันได้

คำนวณค่าเฉลี่ยของตัวเลขในแถวหรือคอลัมน์ที่ติดกัน

  1. คลิกเซลล์ด้านล่างหรือด้านขวาของตัวเลขที่คุณต้องการหาค่าเฉลี่ย

  2. บนแท็บ หน้าแรก ในกลุ่ม การแก้ไข ให้คลิกลูกศรที่อยู่ถัดจาก 

     ผลรวมอัตโนมัติ คลิก ค่าเฉลี่ย แล้วกด ENTER

คำนวณค่าเฉลี่ยของตัวเลขที่ไม่อยู่ในแถวหรือคอลัมน์ที่ติดกัน

เมื่อต้องการทำงานนี้ ให้ใช้ฟังก์ชัน AVERAGE

ตัวอย่าง

ถ้าคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้แผ่นงานปล่าจะทำให้เข้าใจตัวอย่างยิ่งขึ้น

วิธีการคัดลอกตัวอย่าง

  1. สร้างสมุดงานหรือแผ่นงานเปล่า

  2. เลือกตัวอย่างในหัวข้อวิธีใช้

    หมายเหตุ: ไม่ต้องเลือกส่วนหัวแถวหรือคอลัมน์

    การเลือกตัวอย่างจากวิธีใช้

  3. กด CTRL+C

  4. ในแผ่นงาน ให้เลือกเซลล์ A1 แล้วกด CTRL+V

  5. เมื่อต้องการสลับระหว่างการแสดงผลลัพธ์และการแสดงสูตรที่ส่งกลับผลลัพธ์ ให้กด CTRL+` (ตัวกำกับเสียงกราฟ) หรือบนแท็บ สูตร ในกลุ่ม ตรวจสอบสูตร ให้คลิกปุ่ม แสดงสูตร

1

2

3

4

5

6

7

A

ข้อมูล

10

7

9

27

0

4

สูตร

คำอธิบาย (ผลลัพธ์)

=AVERAGE(A2:A7)

หาค่าเฉลี่ยของตัวเลขทั้งหมดในรายการข้างต้น (9.5)

=AVERAGE(A2:A4,A7)

หาค่าเฉลี่ยของตัวเลขสามตัวข้างบนรายการและตัวเลขสุดท้ายในรายการ (7.5)

=AVERAGEIF(A2:A7, "<>0")

หาค่าเฉลี่ยของตัวเลขในรายการ ยกเว้นตัวเลขที่มีค่าเป็นศูนย์ เช่น เซลล์ A6 (11.4)

คำนวณค่าเฉลี่ยตามน้ำหนัก

เมื่อต้องการทำงานนี้ ให้ใช้ฟังก์ชัน SUMPRODUCT และฟังก์ชัน SUM

ตัวอย่าง

ถ้าคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้แผ่นงานปล่าจะทำให้เข้าใจตัวอย่างยิ่งขึ้น

วิธีการคัดลอกตัวอย่าง

  1. สร้างสมุดงานหรือแผ่นงานเปล่า

  2. เลือกตัวอย่างในหัวข้อวิธีใช้

    หมายเหตุ: ไม่ต้องเลือกส่วนหัวแถวหรือคอลัมน์

    การเลือกตัวอย่างจากวิธีใช้

  3. กด CTRL+C

  4. ในแผ่นงาน ให้เลือกเซลล์ A1 แล้วกด CTRL+V

  5. เมื่อต้องการสลับระหว่างการดูผลลัพธ์และการดูสูตรที่ส่งกลับผลลัพธ์ ให้กด CTRL+` (อักขระเน้นเสียง) หรือบนแท็บสูตร ในกลุ่ม การตรวจสอบสูตร ให้คลิกปุ่ม แสดงสูตร

ตัวอย่างนี้คำนวณราคาเฉลี่ยต่อหน่วยทั้งการซื้อสามประเภท การซื้อแต่ละประเภทมีจำนวนหน่วยที่ซื้อและราคาต่อหน่วยที่ต่างกัน

1

2

3

4

A

B

ราคาต่อหน่วย

จำนวนหน่วย

20

500

25

750

3.5

200

สูตร

คำอธิบาย (ผลลัพธ์)

=SUMPRODUCT(A2:A4,B2:B4)/SUM(B2:B4)

หารผลรวมค่าใช้จ่ายของการสั่งซื้อทั้งสามประเภทด้วยผลรวมของจำนวนหน่วยที่สั่งซื้อ  (24.66)

คำนวณค่าเฉลี่ยของตัวเลข โดยละเว้นค่าศูนย์ (0)

เมื่อต้องการทำงานนี้ ให้ใช้ฟังก์ชัน AVERAGE และฟังก์ชัน IF

ตัวอย่าง

ถ้าคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้แผ่นงานปล่าจะทำให้เข้าใจตัวอย่างยิ่งขึ้น

วิธีการคัดลอกตัวอย่าง

  1. สร้างสมุดงานหรือแผ่นงานเปล่า

  2. เลือกตัวอย่างในหัวข้อวิธีใช้

    หมายเหตุ: ไม่ต้องเลือกส่วนหัวแถวหรือคอลัมน์

    การเลือกตัวอย่างจากวิธีใช้

  3. กด CTRL+C

  4. ในแผ่นงาน ให้เลือกเซลล์ A1 แล้วกด CTRL+V

  5. เมื่อต้องการสลับระหว่างการแสดงผลลัพธ์และการแสดงสูตรที่ส่งกลับผลลัพธ์ ให้กด CTRL+` (ตัวกำกับเสียงกราฟ) หรือบนแท็บ สูตร ในกลุ่ม ตรวจสอบสูตร ให้คลิกปุ่ม แสดงสูตร

1

2

3

4

5

6

7

A

ข้อมูล

10

7

9

27

0

4

สูตร

คำอธิบาย (ผลลัพธ์)

=AVERAGEIF(A2:A7, "<>0")

หาค่าเฉลี่ยของตัวเลขในรายการ ยกเว้นตัวเลขที่มีค่าเป็นศูนย์ เช่น เซลล์ A6 (11.4)


Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ศัพท์ทางทหาร military words แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 พจนานุกรมศัพท์ทหาร ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง ไทยแปลอังกฤษ ประโยค lmyour แปลภาษา การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ประปาไม่ไหล วันนี้ ฝยก. ย่อมาจาก หยน ห่อหมกฮวก แปลว่า เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาจีน ่้แปลภาษา onet ม3 การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 1 ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง ตตตตลก บบบย ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ เขียน อาหรับ แปลไทย เนื้อเพลง ห่อหมกฮวก แปลไทย asus zenfone 2e กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การประปานครหลวง ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบภาษาอังกฤษ ม.ปลาย พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ชขภใ ชื่อเต็ม ร.9 คําอ่าน ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน นยน. ย่อมาจาก ทหาร บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ฝสธ. ย่อมาจาก มัดหัวใจเจ้าชายเย็นชา 2 ซับไทย มัดหัวใจเจ้าชายเย็นชา 2 เต็มเรื่อง ยศทหารบก เรียงลําดับ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 รัชกาลที่ 10 ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คอร์ด