การตรวจร่างกายหลังคลอดเมื่อคุณแม่คลอดลูกเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะออกจากโรงพยาบาลหมอจะนัดให้มาตรวจหลังคลอดอีกครั้ง ในกรณีที่การคลอดผิดปกติ มีปัญหา หรือคุณแม่มีโรคบางอย่าง หมออาจนัดมาตรวจก่อน 4 สัปดาห์ก็ได้ สำหรับคุณแม่ที่คลอดปกติหรือผ่าคลอดถ้าไม่มีปัญหาอะไร หมอก็มักจะนัดมาตรวจใน 4-6 สัปดาห์หลังคลอด (โดยทั่วไปคุณหมอจะนัดมาตรวจเมื่อครบ 6 สัปดาห์ แต่ถ้าคุณแม่มีปัญหาในระหว่างการคลอดหมอจะนัดมาตรวจเร็วกว่านั้น เช่น ในช่วง 4 สัปดาห์หลังคลอด) ซึ่งคุณแม่ไม่ควรจะละเลยเป็นอันขาด เนื่องจากการตรวจสุขภาพหลังคลอดนั้นมีความจำเป็นและมีประโยชน์อย่างมาก เพราะจะทำให้รู้ว่าอวัยวะต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปในขณะตั้งครรภ์และตอนคลอดนั้นกลับคืนสู่สภาพปกติแล้วหรือยัง คุณแม่จะมีโรคแทรกซ้อนอะไรหรือไม่ Show ในรายที่ตรวจพบว่ามีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นขณะคลอดหรือหลังคลอดใหม่ ๆ หมอก็จะได้มาตรวจดูว่าโรคแทรกซ้อนนั้นหายแล้วหรือยัง รวมทั้งหมอจะให้คำแนะนำเรื่องการคุมกำเนิดทั้งแบบชั่วคราวและแบบถาวรด้วยวิธีการทำหมัน (ถ้าคุณแม่ไม่ต้องการมีลูก) เพื่อมิให้คุณแม่ตั้งครรภ์เร็วเกินไป เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยที่เกิดมาแล้วเท่านั้น ยังอาจเป็นอันตรายกับลูกคนต่อไปอีกด้วย นอกจากนี้ถ้าคุณแม่มีข้อสงสัยก็ขอให้เตรียมคำถามเอาไว้ได้เลยครับ โดยอาจจะถามเรื่องการเปลี่ยนแปลงของร่างกายของคุณแม่เองและคำถามเกี่ยวกับลูกน้อยก็ได้ คุณแม่บางคนอาจคิดว่าร่างกายของตนเองฟื้นตัวได้เร็ว คงไม่มีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น จึงเลือกที่จะละเลยไม่ไปตรวจสุขภาพหลังคลอด แบบนี้ไม่ควรทำครับ เพราะภายหลังการคลอดร่างกายของคุณแม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ขนาดของมดลูกที่ใหญ่ขึ้นและกลับหดตัวเล็กลงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของเต้านม การมีน้ำคาวปลา รวมถึงภาวะทางด้านจิตใจของคุณแม่หลังคลอด ดังนั้นการตรวจสุขภาพหลังคลอดจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากและเป็นเรื่องที่คุณแม่ทุกคนไม่ควรละเลย หมอจะซักถามอะไรบ้างคุณแม่หลังคลอดมักสงสัยว่าเมื่อกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลหมอจะซักถามหรือตรวจอะไรบ้าง ส่วนใหญ่แล้วหมอจะถามถึงอาการผิดปกติที่พบตั้งแต่ตอนออกจากโรงพยาบาล อาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการพักฟื้น เช่น แผลหายดีหรือยัง มีอาการเจ็บแผลหรือแผลเป็นหนองหรือเปล่า น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นหรือมีสีผิดปกติหรือไม่ น้ำคาวปลาหมดหรือยัง ถ่ายปัสสาวะได้เป็นปกติดีหรือมีอาการแสบขัด คุณแม่มีไข้หรือมีอาการท้องผูกหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งอาการต่าง ๆ เหล่านี้ ถ้าผิดปกติมากคุณแม่ควรรีบไปพบหมอก่อนถึงวันนัดโดยด่วน สำหรับคุณแม่ที่ไม่มีอาการผิดปกติอะไร หมอก็จะซักถามถึงอาการเจ็บป่วยของลูกน้อย รวมทั้งปัญหาการเลี้ยงดูลูกด้วยนมแม่ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ และพูดคุยซักถามปัญหาต่าง ๆ จนเป็นที่เข้าใจ นอกจากนี้หมอก็จะให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องของการคุมกำเนิด เพื่อให้คุณแม่ได้เลือกวิธีการคุมกำเนิดตามความเหมาะสม (ส่วนใหญ่หมอจะแนะนำให้คุมกำเนิดโดยใช้ห่วงอนามัยหรือยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว) อาการหลังคลอดที่ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีก่อนถึงวันนัดตรวจหลังคลอด คุณแม่ควรหมั่นใส่ใจดูแลร่างกายของตัวเองอยู่เสมอ หากพบว่ามีอาการผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้น คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์ทันที (หรือภายใน 12 ชั่วโมง)
หมอจะตรวจอะไรบ้างเมื่อคุณแม่เลือกวิธีการคุมกำเนิดแล้ว ในขั้นตอนต่อไปหมอก็จะตรวจร่างกายของคุณแม่ดังต่อไปนี้
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบได้ในบ่อยในสตรีไทย ผู้ที่เริ่มเป็นมักจะไม่มีอาการใด ๆ จนกว่าจะเป็นมากจนเกิดอาการตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือมีเลือดออกผิดปกติ หรือมีเลือดออกภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งถ้าเป็นระยะสุดท้ายที่มะเร็งลุกลามแล้วก็ยากที่จะรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีครับที่ในปัจจุบันเราสามารถตรวจและสืบค้นได้ตั้งแต่เซลล์เริ่มผิดปกติ เพราะปากมดลูกจะอยู่ในตำแหน่งที่สามารถตรวจได้ง่ายกว่าอวัยวะอื่น ประกอบกับการดำเนินโรคจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้เวลานานหลายปีกว่าจะเป็นถึงขั้นลุกลาม จึงทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก จะกระทำได้โดยวิธีที่เรียกว่า “แปปสเมียร์” (Pap smear) ที่สามารถทำได้ในระหว่างการตรวจภายในที่ห้องตรวจ ซึ่งแพทย์จะใช้เวลาเพียง 1 นาทีในการเก็บตัวอย่างเซลล์เยื่อบุผิวปากมดลูกแล้วป้ายลงบนแผ่นสไลด์แก้ว หรือเก็บใส่ขวดพิเศษ ซึ่งจะส่งไปห้องปฏิบัติการย้อมสี แล้วให้พยาธิแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจผ่านทางกล้องจุลทรรศน์เพื่อดูว่ามีเซลล์ผิดปกติหรือไม่ คุณแม่หลังคลอดหรือผู้แท้งบุตรทุกคนควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยปกติแล้วผู้หญิงควรได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งในการตรวจหลังคลอดนี้หมอจะตรวจมะเร็งปากมดลูกให้ด้วย และหลังจากนั้นควรตรวจเป็นประจำทุก ๆ 1-3 ปี ในกรณีที่พบความผิดปกติ แพทย์จะแนะนำให้มาตรวจซ้ำหรือตรวจถี่ขึ้นตามความเหมาะสม สำหรับผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกนั้น โดยปกติแล้วจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์จึงจะทราบผล ซึ่งหมอจะนัดให้ไปพบเพื่อฟังผลหรือให้โทรศัพท์ถาม (บางแห่งก็มีบริการส่งผลการตรวจมะเร็งมาให้ที่บ้านทางไปรษณีย์ โดยที่คุณแม่ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง) เพื่อฟังผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างเดียว การคุมกำเนิดหลังคลอดเมื่อเลือกวิธีการคุมกำเนิดได้แล้ว คุณแม่ที่ตัดสินใจคุมกำเนิดโดยเว็บไซต์เมดไทย (การใส่ห่วงอนามัย ก่อนตรวจเสร็จหมอจะใส่ห่วงอนามัยให้เลย ส่วนคุณแม่ที่จะใช้ยาฝังคุมกำเนิดหรือฉีดยาคุมกำเนิดหมอก็จะทำให้ แล้วนัดมาตรวจเพื่อติดตามผลต่อไป ส่วนคุณแม่ที่ต้องการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดและไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หมอก็จะจ่ายยาเม็ดคุมกำเนิดให้เลย สำหรับคุณแม่ที่ยังเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อไป หมอจะเลือกยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียวให้ เพื่อมิให้มีผลต่อการหลั่งน้ำนมของคุณแม่ (โปรเจสโตเจนจะไม่ยับยั้งการหลั่งน้ำนมและไม่ทำให้คุณภาพของน้ำนมเสื่อมลงเหมือนยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม) หรืออาจจะแนะนำให้คุณแม่คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ ไปก่อนจนกว่าจะถึงเวลาที่ลูกหย่านมแล้วจึงค่อยให้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมที่ใช้กันทั่วไป สำหรับรายละเอียดเรื่องการคุมกำเนิดคุณแม่สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ การคุมกำเนิด ผ่าคลอดทำไมมีเลือดออกสาเหตุของการตกเลือดในภายหลัง
การตกเลือดในภายหลัง ส่วนมากจะแสดงอาการภายใน 1-2 สัปดาห์หลังคลอดบุตร สาเหตุเกิดจากการที่มดลูกไม่สามารถหดรัดตัวเพื่อลดระดับกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ร่วมกับมีเลือดออกผิดปกติหรืออีกนัยหนึ่งคือมดลูกไม่สามารถเข้าอู่ได้นั่นเอง โดยมีสาเหตุเกิดจาก มีภาวะติดเชื้อภายในโพรงมดลูก มีเศษรกค้างภายในโพรงมดลูก
เลือดออกหลังคลอดมากี่วันระดูขาวมีกลิ่นเหม็น น้ำคาวปลามีสีแดงตลอดภายใน 15 วันหลังคลอด โดยปกติแล้วหลังคลอด 3-4 วันแรก น้ำคาวปลาจะออกมาเป็นเลือดสด ๆ แต่หลังจากนี้อีก 10-14 วันจะเป็นน้ำปนเลือด มีสีน้ำตาลดำ แล้วจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นน้ำสีขาวออกเหลืองจนหมดไปภายใน 4 สัปดาห์ ถ้าพบว่ามีน้ำคาวปลาออกมาเป็นสีผิดปกติหรือยังเป็นเลือดอยู่ก็อาจมาจาก 2 สาเหตุ ...
น้ำคาวปลาออกมาเป็นก้อนปกติไหมอาการผิดปกติที่ควรไปพบแพทย์
มีน้ำคาวปลาในลักษณะเป็นลิ่มเลือดขนาดใหญ่กว่าลูกกอล์ฟไหลออกมานานหลายชั่วโมง น้ำคาวปลามีกลิิ่นเหม็นมากขึ้น น้ำคาวปลากลับมาเป็นสีแดงสดอีกครั้งหลังจากเริ่มจางได้ 2-3 วันแล้ว น้ำคาวปลามีสีแดงสดตลอด 4 วันหลังคลอดหรือนานกว่านั้น และอาการไม่ดีขึ้นแม้นอนหรือพักผ่อนแล้ว
ตกเลือดหลังคลอดอันตรายไหมภาวะของการตกเลือดหลังคลอด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความอันตรายที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าหลังการคลอดจะมีเลือดเสียจำนวนหนึ่งถูกขับออกมาจากร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ดูเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าพบว่าการออกของเลือดนั้นมีปริมาณสูงมากและไม่ยอมหยุดไหล ก็ก่อให้เกิดปัญหาถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน โดยสาเหตุของการตกเลือดหลังคลอดถูกแบ่งออกเป็น 2 ...
|