5 เมนูอาหารเช้า สำหรับเด็กก่อนไปโรงเรียนเพราะอาหารมื้อเช้าเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้พลังงานและสมองของเด็ก ๆ ที่โรงเรียน คุณพ่อคุณแม่จึงควรเตรียม "เมนูอาหารเช้า" สำหรับลูกในทุก ๆ วัน ซึ่งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า เมนูมื้อเช้าง่าย ๆ แต่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ ก็เพียงพอแล้วที่จะเริ่มต้นวันของเด็ก ๆ วันนี้ Motherhood เลยนำเอาไอเดีย 5 เมนูอาหารเช้าสำหรับน้อง ๆ หนูๆ วัยเรียนมาฝากกันค่ะ อาหารเช้าสำคัญต่อสมองและร่างกายเด็กอย่างไรในช่วงระยะเวลาระหว่างอาหารเย็นถึงเช้า แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คนเรานอนหลับพักผ่อน แต่ร่างกายก็ยังเผาผลาญสารอาหารตามปกติ จึงทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง หากเด็กไม่กินอาหารเช้าเพิ่มเข้าไป ร่างกายจะไปดึงสารอาหารสะสมสำรองในยามจำเป็นมาใช้แทน ทำให้ร่างกายมีอาการอ่อนเพลีย หงุดหงิด อารมณ์เสีย ไม่มีสมาธิในการเรียน อาจถึงขั้นหน้ามืดเป็นลมได้ เนื่องจากสมองได้รับน้ำตาลกลูโคสไปเลี้ยงไม่เพียงพอ และการงดกินอาหารมื้อเช้าอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในเด็กวัยเรียน เด็กวัยเป็นวัยที่ยังเจริญเติบโต จึงมีความต้องการพลังงานและสารอาหารไม่น้อยไปกว่าผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องสร้างนิสัยที่ดีในการกินอาหารเช้าของเด็ก เพราะเด็ก ๆ ต้องใช้สมองและพลังงานมากที่โรงเรียน อาหารเช้าจึงจำเป็น วิธีฝึกลูกกินอาหารเช้า
5 เมนูอาหารเช้าทำง่ายสำหรับเด็ก#1 ฟักทองผัดไข่ ในฟักทองอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน และน้ำมันจากการผัดจะช่วยร่างกายดูดซึมเข้าไปและเปลี่ยนเป็นวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี ส่วนไข่แดงก็เต็มไปด้วยลูทีนและซีแซนทีนที่ช่วยชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา หากให้เด็ก ๆ กินร่วมกับข้าวไม่ขัดสี ก็จะได้รับวิตามินบีเพิ่มเติม รสหวานมันถูกใจเด็ก ๆ แถมได้วิตามินเอมากมาย เครื่องปรุง ฟักทอง 300 กรัม ไข่ไก่ 3 ฟอง กระเทียมสับ 2 ช้อนชา ใบโหระพา 1 กำ ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนชา น้ำมันหอย 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา วิธีการปรุง ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันพืช นำกระเทียมกับไข่ไก่ลงมาผัดให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย นำฟักทองมาผัดให้สุก เมื่อฟักทองสุกแล้ว ให้ใส่ใบโหระพา แล้วตักใส่จาน #2 แซนด์วิชอกไก่ แซนด์วิชเป็นเมนูที่สามารถทำได้ง่ายและสะดวกที่จะให้เด็กได้กินระหว่างเดินทางไปโรงเรียน หากเลือกใช้ขนมปังโฮลวีทที่อุดมไปด้วยวิตามินบีก็จะยิ่งดีมาก อีกทั้งยังได้รับโปรตีนจากไข่ไก่และเนื้ออกไก่ด้วย หากเด็กวัยเรียนได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอและกินอาหารครบ 5 หมู่ จะส่งผลให้ร่างกายเจริญเติบโตดี อีกเมนูที่ทำง่ายและพกพาไปกินบนรถสะดวก เครื่องปรุง ขนมปังโฮลวีท 1 แผ่น อกไก่ต้มสุก 50 กรัม น้ำสลัดไขมันต่ำ 50 กรัม ผัดกาดหอม/ มะเขือเทศ / แตงกวาญี่ปุ่น 1 ถ้วย มัสตาร์ด / ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ วิธีการปรุง นำอกไก่ต้มสุกมาหั่นเต๋า จากนั้นนำไปคลุกเคล้ากับน้ำสลัดไขมันต่ำ แล้วพักไว้ก่อน จากนั้นนำขนมปังโฮลวีทมาหั่นในแนวนอน เพื่อใส่ผักกาดหอม มะเขือเทศ แตงกวาญี่ปุ่น ตามด้วยสลัดอกไก่ไว้บนสุด เสิร์ฟคู่กับมามัสตาร์ดและซอสมะเขือเทศ #3 หมูคะน้าน้ำมันหอย ในผักคะน้ามีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานด้วย จึงทำให้เด็ก ๆ มีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนั้นยังมีวิตามินซี มีสารลูทีนช่วยบำรุงสายตา และแคลเซียมที่ช่วยในการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง มีวิตามินจากผักคะน้าที่เด็กจะได้รับไปเต็ม ๆ เครื่องปรุง เนื้อหมูหั่นชิ้น 1/2 ถ้วย วิธีการปรุง นำเนื้อหมูมาหมักกับไข่ไก่ นมสด และซอสปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อหมักหมูได้ที่แล้ว ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตามด้วยกระเทียมและพริก เจียวจนหอม จากนั้นใส่เนื้อหมูหมักลงไปผัดพอสุก ตามด้วยผักคะน้า ปรุงด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย แล้วผัดให้เข้ากัน ถ้ารู้สึกว่าแห้งเกินไปสามารถเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย แล้วผัดจนผักสุกทั่วกัน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ #4 ข้าวผัดทะเลยกทะเลมาไว้ในจานข้าวของเด็ก ๆ ตั้งแต่เช้า เพราะอาหารทะเลเป็นแหล่งของไอโอดีน ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมองและระบบประสาท ส่งผลต่อระดับสติปัญญาและการเรียนรู้ของเด็กในช่วงวัยเรียน ยกทะเลมาไว้บนจาน ให้เด็ก ๆ ได้รับคุณค่าจากซีฟู้ด เครื่องปรุง ข้าวสวยแช่เย็น 400 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลัง 100 กรัม หอยแมลงภู่ 50 กรัม ปลาหมึกหั่นชิ้นพอคำ 50 กรัม หัวหอมใหญ่หั่นเสี้ยวบาง ¼ ถ้วยตวง มะเขือเทศหั่นเสี้ยวบาง ¼ ถ้วยตวง น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ วิธีการปรุง เริ่มจากลวกกุ้ง ปลาหมึก และหอยแมลงภู่ในน้ำเดือดพอสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำพักไว้ จากนั้นตอกไข่ใส่ชามคนให้เข้ากันพักไว้ ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟจนร้อน ใส่กระเทียมลงไปผัดพอหอม ใส่กุ้ง หอย และปลาหมึกที่ลวกไว้ลงไป ผัดสักครู่ ใส่ไข่ผัดพอสุก ใส่หอมใหญ่และมะเขือเทศลงไปผัดพอเข้ากัน ใส่ข้าวสวยผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยและน้ำตาลทราย ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดสุกและเข้ากันดี ใส่ต้นหอมลงไปผัดต่ออีกเล็กน้อย ก็จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้ #5 ตับไก่ผัดหน่อไม้ฝรั่ง จุดเด่นของหน่อไม้ฝรั่งในเมนูนี้คือมีโฟเลทสูง ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้เป็นอย่างดี เพราะเด็กบางคนมีภาวะโลหิตจางง่าย ซึ่งสิ่งนี้กลายเป็นอุปสรรคในการเรียนโดยไม่รู้ตัว และตับไก่ก็ให้ธาตุเหล็กที่บำรุงเลือดได้ดีมากเช่นกัน หน่อไม้ฝรั่งอุดมไปด้วยโฟเลท ตับก็มีธาตุเหล็กสูง ช่วยป้องกันโลหิตจางได้ดี เครื่องปรุง ตับหมู หั่นชิ้นพอคำ 1 จาน หน่อไม้ฝรั่ง หั่นชิ้นพอคำ 1 จาน น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ น้ำซุป 3 ช้อนโต๊ะ วิธีการปรุง นำตับหมูไปลวก จากนั้นนำไปน็อคในน้ำเย็นและพักไว้ก่อน ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นใส่ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล และน้ำมันหอย ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่หน่อไม่ฝรั่งลงไปผัด ตามด้วยน้ำซุป แล้วผัดจนหน่อไม้ฝรั่งเริ่มอ่อนตัว ใส่ตับลงไปผัดให้เข้ากับส่วนผสมทั้งหมด ก็สามารถตักเสิร์ฟใส่จานได้ สำหรับเมนูอาหารเช้าทั้ง 5 เมนูที่ได้แนะนำไปนี้ เป็นเมนูที่สามารถทำได้ไม่ยาก หรือหากจะหาซื้อตอนเช้าก็มีวางขาย ข้อสำคัญคือ อาหารเช้าของเด็กวัยเรียนควรเป็นอาหารเช้าที่มีประโยชน์ ให้สารอาหารอย่างครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ เพราะวัยเรียนมีกิจกรรมมากมาย มีหน้าที่ศึกษาหาความรู้ ซึ่งต้องอาศัยสารอาหารที่มีประโยชน์ไปเลี้ยงสมอง ดังนั้น อาหารเช้าจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็ก พ่อแม่ต้องเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์มาให้ลูกกินในช่วงเช้า และจัดเมนูสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในทุก ๆ วัน เพื่อที่ลูกจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและไม่ซ้ำซากจำเจ อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th |