ประวตั ิศาสตร เอกสารประกอบคูม อื ครู 1ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ กลุมสาระการเรยี นรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สําหรบั ครู ลักษณะเดน คูมือครู Version ใหม ขยายพน้ื ทรี่ ูปเลมใหญข้นึ กวา เดมิ จัดแบงพ้นื ท่ีออกเปน โซน เพ่ือคนหาขอ มลู ไดง าย สะดวก รวดเรว็ และดูเปนระเบียบ กระตนุ Enคgวagาeมสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Evaluate Engage Explore Explain Expand Evaluate Explore เปาหมายการเรยี นรู สมรรถนะของผูเ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค โซน 1 หนา หนา โซน 1 หนังสือเรียน หนังสือเรียน กระตนุ ความสนใจ Engage สาํ รวจคน หา Explore อธบิ ายความรู Explain ขยายความเขา ใจ Expand ตรวจสอบผล Evaluate ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT ขอ สอบเนน กาNรTคดิ เกร็ดแนะครู แนว นักเรียนควรรู ขอ สอบ O-NET บูรณาการเช่ือมสาระ โซน 2 โซน 2 โซน 3 โซน 3 บเศรู ณราษกาฐรกจิ พอเพยี ง กจิ กรรมสรา งเสรมิ กิจกรรมทา ทาย บรู ณาการอาเซียน No. คมู อื ครู มมุ IT คูม ือครู No. โซน 1 ข้ันตอนการสอนแบบ 5Es โซน 2 ชว ยครเู ตรยี มสอน โซน 3 ชวยครูเตรียมนกั เรียน เพอื่ ใหค รเู ตรยี มจดั กจิ กรรมการเรยี น เพ่อื ชวยลดภาระครผู สู อน โดยแนะนํา เพอื่ ใหค รสู ะดวกตอ การจดั กจิ กรรม โดยแนะนาํ การสอน โดยแนะนําขัน้ ตอนการสอนและ เกรด็ ความรูสาํ หรับครู ความรูเสรมิ สาํ หรับ กิจกรรมบูรณาการเช่ือมระหวางกลุมสาระ วิชา การจัดกจิ กรรมแบบ 5Es อยางละเอียด นกั เรียน รวมท้งั บูรณาการความรสู อู าเซยี น กจิ กรรมสรา งเสรมิ กจิ กรรมทา ทาย รวมถงึ เนอ้ื หา เพ่อื ใหนกั เรยี นบรรลตุ ามตวั ชีว้ ดั และมุม IT ทเ่ี คยออกขอ สอบ O-NET เกง็ ขอสอบ O-NET และแนวขอสอบเนน การคดิ พรอมคาํ อธบิ าย และเฉลยอยา งละเอียด แถบสีและสัญลักษณ ทีใ่ ชใ นคมู อื ครู 1. แถบสี 5Es แถบสีแสดงขนั้ ตอนการสอนและการจดั กิจกรรม แบบ 5Es เพือ่ ใหครทู ราบวา เปนขนั้ การสอนขั้นใด สีแดง สเี ขียว สีสม สีฟา สมี ว ง กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล 2เสร�ม Engage Explore Explain Expand Evaluate • เปน ขัน้ ที่ผูสอนเลือกใช • เปน ข้นั ที่ผสู อน • เปนขั้นท่ีผสู อน • เปนขัน้ ท่ผี ูสอน เทคนิคกระตุน ใหผ เู รียนสาํ รวจ • เปน ขั้นทผ่ี ูสอน ความสนใจ เพ่ือโยง ปญ หา และศึกษา ใหผ ูเ รียนคนหา ใหผ ูเรยี นนําความรู เขา สูบทเรียน ขอมูล คําตอบ จนเกดิ ความรู ไปคิดคนตอ ๆ ไป ประเมินมโนทัศน เชงิ ประจักษ ของผเู รียน 2. สัญลักษณ สญั ลกั ษณ วตั ถปุ ระสงค สญั ลกั ษณ วตั ถปุ ระสงค • แสดงเปา หมายการเรยี นรทู นี่ ักเรียน ขอ สอบ O-NET • ชแ้ี นะเนอื้ หาทเี่ คยออกขอ สอบ ตองบรรลุตามตัวชว้ี ัด ตลอดจนสมรรถนะ (เฉพาะวชิ า ชน้ั ทส่ี อบ O-NET) O-NET โดยยกตวั อยา งขอ สอบ ที่จะตอ งมี และคุณลักษณะทพี่ งึ เกิดขน้ึ พรอ มวเิ คราะหค าํ ตอบ ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT อยา งละเอยี ด เปา หมายการเรียนรู กับนักเรียน • เปน ตวั อยา งขอ สอบทมี่ งุ เนน หลักฐานแสดง • แสดงรอ งรอยหลักฐานตามภาระงาน ผลการเรียนรู การคดิ ใหค รนู าํ ไปใชไ ดจ รงิ เกรด็ แนะครู ท่คี รูมอบหมาย เพือ่ แสดงผลการเรียนรู รวมถงึ เปน การเกง็ ขอ สอบ O-NET ตามตวั ชี้วดั ทจี่ ะออก มที ง้ั ปรนยั - อตั นยั พรอ มเฉลยอยา งละเอยี ด • แทรกความรูเ สริมสําหรับครู ขอ เสนอแนะ ขอ สอบเนน กาNรTคิด • แนวขอ สอบ NT ในระดบั ขอ ควรระวงั ขอ สังเกต แนวทางการจดั แนว กจิ กรรมและอน่ื ๆ เพอื่ ประโยชนในการ ประถมศกึ ษา มที ง้ั ปรนยั - อตั นยั จดั การเรียนการสอน พรอ มเฉลยอยา งละเอยี ด • ขยายความรเู พ่ิมเติมจากเนื้อหา เพอื่ ให (เฉพาะวชิ า ชน้ั ทส่ี อบ NT) นักเรียนควรรู ครูนาํ ไปใชอธิบายเพ่ิมเติมใหน ักเรยี น • แนะนาํ แนวทางการจดั กจิ กรรม ไดม ีความรูม ากข้นึ บรู ณาการเชอ่ื มสาระ เชอื่ มกบั กลมุ สาระ ชน้ั หรอื วชิ าอนื่ ทเ่ี กยี่ วขอ ง • กิจกรรมเสรมิ สรางพฤตกิ รรมและปลกู ฝง คานิยมตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง บูรณาการ เศรษฐกจิ พอเพยี ง • แนะนาํ แนวทางการจดั กจิ กรรม • ความรหู รือกิจกรรมเสรมิ ใหค รสู รา ง กจิ กรรมสรา งเสรมิ ซอ มเสรมิ สาํ หรบั นกั เรยี น ความเขา ใจใหกับนกั เรียนเก่ียวกับการ ทย่ี งั ไมเ ขา ใจเนอื้ หา เปน สวนหนง่ึ ของประชาคมอาเซยี น • แนะนาํ แนวทางการจดั กจิ กรรม บรู ณาการอาเซยี น โดยบูรณาการกบั วิชาที่กาํ ลงั เรยี น ตอ ยอดสาํ หรบั นกั เรยี นทเ่ี รยี นรู • แนะนาํ แหลงคนควาจากเว็บไซต เพื่อให กิจกรรมทา ทาย เนอื้ หาไดอ ยา งรวดเรว็ และ ตอ งการทา ทายความสามารถ ครูและนกั เรยี นไดเ ขา ถึงขอมูลความรู ในระดบั ทส่ี งู ขนึ้ มุม IT ทีห่ ลากหลาย ท้ังไทยและตา งประเทศ คมู อื ครู 5Es การจัดกจิ กรรมตามข้ันตอนวัฏจกั รการเรียนรู 5Es ข้ันตอนการสอนที่สัมพันธกับขั้นตอนการคิดและการทํางานทางสมองของผูเรียนท่ีนิยมใชอยางแพรหลาย คือ วัฏจักรการเรียนรู 5Es ซ่ึงผูจัดทําคูมือครูไดนํามาใชเปนแนวทางออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในแตละหนวย ตามลําดับขน้ั ตอนการเรียนรู ดงั นี้ ขั้นที่ 1 กระตนุ ความสนใจ (Engage) เส3ร�ม เปน ขนั้ ทผี่ สู อนนาํ เขา สบู ทเรยี น เพอ่ื กระตนุ ความสนใจของผเู รยี นดว ยเรอื่ งราวหรอื เหตกุ ารณท นี่ า สนใจโดยใชเ ทคนคิ วธิ กี ารสอน และคําถามทบทวนความรูหรือประสบการณเ ดิมของผูเ รยี น เพอ่ื เช่ือมโยงผเู รยี นเขา สูค วามรขู องบทเรียนใหม ชวยใหผเู รยี นสามารถ สรุปประเดน็ สําคญั ทเ่ี ปนหวั ขอ และสาระการเรียนรขู องบทเรยี นได จึงเปน ข้ันตอนการสอนทส่ี ําคญั เพราะเปนการเตรยี มความพรอม และสรางแรงจงู ใจใฝเ รยี นรูแกผูเรยี น ข้นั ที่ 2 สาํ รวจคน หา (Explore) เปน ขนั้ ทผี่ สู อนเปด โอกาสใหผ เู รยี นลงมอื ศกึ ษา สงั เกต หรอื รว มมอื กนั สาํ รวจ เพอ่ื ใหเ หน็ ขอบขา ยของปญ หา รวมถงึ วธิ กี ารศกึ ษา คนควา การรวบรวมขอ มูลความรูทีจ่ ะนําไปสูก ารสรา งความเขาใจประเดน็ ปญ หานัน้ ๆ เม่ือผเู รยี นทําความเขาใจในประเดน็ หัวขอทจ่ี ะ ศึกษาคนควาอยา งถองแทแลว กล็ งมอื ปฏบิ ตั ิเพ่ือเก็บรวบรวมขอมูลความรู สํารวจตรวจสอบ โดยวธิ กี ารตางๆ เชน สัมภาษณ ทดลอง อานคน ควา ขอมลู จากเอกสาร แหลง ขอ มลู ตา งๆ จนไดขอ มลู ความรตู ามทต่ี ้ังประเด็นศกึ ษาไว ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู (Explain) เปน ข้นั ทีผ่ ูสอนมปี ฏสิ ัมพนั ธกับผเู รยี น เชน ใหการแนะนาํ ตง้ั คาํ ถามกระตุนใหคิด เพ่ือใหผ ูเรยี นคนหาคาํ ตอบ และนําขอ มูล ความรูจากการศึกษาคนควาในข้ันที่ 2 มาวิเคราะห สรุปผล และนําเสนอผลท่ีไดศึกษาคนความาในรูปแบบสารสนเทศตางๆ เชน เขียนแผนภูมิ แผนผังแสดงมโนทัศน เขียนความเรียง เขียนรายงาน เปนตน ในขั้นตอนน้ีฝกใหผูเรียนใชสมองคิดวิเคราะหและ สงั เคราะหอยางเปน ระบบ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขาใจ (Expand) เปนข้นั ทผ่ี ูสอนเลอื กใชเทคนิควธิ กี ารสอนตา งๆ ที่สง เสริมใหผูเ รียนนาํ ความรทู ี่เกดิ ขนึ้ ไปคิดคน สบื คนตอๆ ไป เพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรูและการทํางานรวมกันเปนกลุม ระดมสมองเพ่ือคิดสรางสรรครวมกัน ผูเรียนสามารถนําความรูท่ีสรางข้ึนใหมไปเช่ือมโยง กบั ประสบการณเ ดมิ โดยนาํ ขอ สรปุ ทไ่ี ดไ ปใชอ ธบิ ายเหตกุ ารณต า งๆ หรอื นาํ ไปปฏบิ ตั ใิ นสถานการณใ หมๆ ทเี่ กยี่ วขอ งกบั ชวี ติ ประจาํ วนั ของตนเอง เพื่อขยายความรูความเขาใจใหกวางขวางย่ิงข้ึน ในข้ันตอนนี้ฝกสมองของผูเรียนใหสามารถคิดริเร่ิมสรางสรรคอยางมี คุณภาพ เสริมสรา งวสิ ยั ทัศนใหก วางไกลออกไป ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) เปน ขน้ั ทผี่ สู อนประเมนิ มโนทศั นข องผเู รยี น โดยตรวจสอบจากความคดิ ทเี่ ปลย่ี นไปและความคดิ รวบยอดทเี่ กดิ ขน้ึ ใหม ตรวจสอบ ทักษะ กระบวนการปฏิบัติ การแกปญหา การตอบคําถามรวบยอด และการเคารพความคิดหรือยอมรับเหตุผลของคนอื่น เพ่ือการ สรา งสรรคค วามรรู ว มกนั ผเู รยี นสามารถประเมนิ ผลการเรยี นรขู องตนเอง เพอ่ื สรปุ ผลวา มคี วามรอู ะไรเพม่ิ ขน้ึ มาบา ง เกดิ ความเขา ใจ มากนอยเพียงใด และจะนําความรูเหลาน้ันไปประยุกตใชในการเรียนรูเร่ืองอ่ืนๆ ไดอยางไร ผูเรียนจะเกิดเจตคติและเห็นคุณคาของ ตนเองจากผลการเรียนรทู เี่ กดิ ขน้ึ ซ่งึ เปน การเรยี นรทู ม่ี คี วามสขุ อยางแทจ รงิ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรูต ามข้นั ตอนวัฏจักรการสรางความรแู บบ 5Es จงึ เปน รูปแบบการเรียนการสอนท่เี นน ผเู รยี นเปน สาํ คญั อยา งแทจ รงิ เพราะสง เสรมิ ใหผ เู รยี นไดล งมอื ปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนของกระบวนการสรา งความรดู ว ยตนเอง และฝกฝนใหใชกระบวนการคิดและกระบวนการกลุม อยางชาํ นาญ กอใหเ กิดทักษะชีวติ ทกั ษะการทํางานและทักษะการ เรยี นรทู ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ สง ผลตอ การยกระดบั ผลสมั ฤทธข์ิ องผเู รยี น ตามเปา หมายของการปฏริ ปู การศกึ ษาทศวรรษท่ี 2 (พ.ศ. 2552-2561) ทกุ ประการ คมู อื ครู คําอธิบายรายวิชา กลุมสาระการเรยี นรู สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภาคเรยี นท่ี 1-2 รายวิชา ประวัตศิ าสตร ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง/ป รหสั วิชา ………………………………… เส4ร�ม ศกึ ษา วิเคราะห บอกช่อื วนั เดือน ป และการนับชว งเวลาตามปฏทิ นิ ทีใ่ ชในชวี ติ ประจาํ วนั เรยี งลําดบั เหตุการณในชวี ิตประจําวนั ตามวนั เวลาทเ่ี กิดขนึ้ ประวัตคิ วามเปนมาของตนเองและครอบครวั โดยสอบถาม ผูเก่ียวของ ความเปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอม ส่ิงของ เคร่ืองใช หรือการดําเนินชีวิตของตนเองกับ สมัยของพอ แม ปยู า ตายาย เหตุการณทีเ่ กดิ ข้ึนในอดตี ทม่ี ผี ลกระทบตอตนเองในปจจบุ นั ความหมายและ ความสําคัญของสัญลักษณสําคัญของชาติไทย สถานที่สําคัญซ่ึงเปนแหลงวัฒนธรรมในชุมชน ส่ิงท่ีตนรัก และภาคภมู ิใจในทองถนิ่ โดยใชกระบวนการคิด กระบวนการสืบคนขอมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุม กระบวนการเผชญิ สถานการณและแกปญ หา เพอื่ ใหเ กดิ ความรู ความเขา ใจ สามารถนาํ ไปปฏบิ ตั ใิ นการดาํ เนนิ ชวี ติ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี ณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงคใ นดา นรกั ชาติ ศาสน กษัตริย ซือ่ สัตยส จุ ริต มีวนิ ยั ใฝเ รยี นรู รักความเปนไทย มีจติ สาธารณะ สามารถดาํ เนินชวี ิตอยางสนั ตสิ ุขในสงั คมไทยและสังคมโลก ตวั ช้ีวดั ส 4.1 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ส 4.2 ป.1/1 ป.1/2 ส 4.3 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 รวม 8 ตวั ชวี้ ดั คมู อื ครู กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ ÃÒÂÇªÔ Ò¾é×¹°Ò¹ »ÃÐÇµÑ ÔÈÒʵà ».ñ ªéѹ»ÃжÁÈ¡Ö ÉÒ»·‚ èÕ ñ ¡Å‹ØÁÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ 椄 ¤ÁÈÖ¡ÉÒ ÈÒÊ¹Ò áÅÐÇѲ¹¸ÃÃÁ µÒÁËÅ¡Ñ ÊµÙ Ã᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ¢Ñé¹¾¹×é °Ò¹ ¾·Ø ¸ÈÑ¡ÃÒª òõõñ ¼ŒÙàÃÂÕ ºàÃÕ§ ÃÈ. Ç²Ø ªÔ Ñ ÁÅÙ ÈÔÅ»Š ¼µŒÙ ÃǨ ´Ã. ¡Ñ³°Ô¡Ò ÈÃÕÍ´Ø Á ¼È. ´Ã. Çþà À‹Ù¾§È¾¹Ñ ¸Ø ¹ÒÂÀÞÔ âÞ ÊØ»¡Òà ºÃóҸ¡Ô Òà ¼È. ÈÃÔ Ô¾Ã ´Òºà¾ªÃ พมิ พครง้ั ท่ี ๙ สงวนลขิ สิทธต์ิ ามพระราชบัญญตั ิ ISBN : 978-616-203-531-9 รหัสสินคา ๑๑๑๓๐๕๗ ¾ÁÔ ¾¤ çéÑ ·Õè 11 ÃËÊÑ ÊÔ¹¤ÒŒ 1143043 กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate ¤Òí ¹íÒ ´ŒÇ¡ÃзÃÇ§È¡Ö ÉÒ¸¡Ô ÒÃä´ŒÁÕ¤íÒÊÑè§ãË㌠ªŒËÅ¡Ñ ÊٵáÒÃÈ¡Ö ÉÒ¢¹éÑ ¾é×¹°Ò¹ ¾Ø·¸È¡Ñ ÃÒª òõôô ã¹âçàÃÂÕ ¹·ÇÑè ä»·¨èÕ ´Ñ ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ¢¹éÑ ¾¹×é °Ò¹ã¹»¡‚ ÒÃÈ¡Ö ÉÒ òõôö áÅШҡ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒÇ¨Ô ÂÑ áÅе´Ô µÒÁ ¼Å¡ÒÃãªËŒ Å¡Ñ ÊµÙ Ã¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ¢¹Ñé ¾¹×é °Ò¹ ¾·Ø ¸È¡Ñ ÃÒª òõôô ¨§Ö ¹Òí ä»Ê¡Ù‹ Òþ²Ñ ¹ÒËÅ¡Ñ ÊµÙ Ã᡹¡ÅÒ§ ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ¢¹éÑ ¾¹é× °Ò¹ ¾·Ø ¸È¡Ñ ÃÒª òõõñ «§Öè Á¤Õ ÇÒÁàËÁÒÐÊÁáÅЪ´Ñ ਹ à¾Í×è ãËÊŒ ¶Ò¹È¡Ö ÉÒä´¹Œ Òí ä» ãªàŒ »¹š ¡Ãͺ·ÈÔ ·Ò§ã¹¡Òè´Ñ ËÅ¡Ñ ÊµÙ ÃÊ¶Ò¹È¡Ö ÉÒáÅШ´Ñ ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹à¾Íè× ¾²Ñ ¹Òà´¡ç áÅÐàÂÒǪ¹ ·¡Ø ¤¹ã¹ÃдºÑ ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ¢¹Ñé ¾¹é× °Ò¹ãËÁŒ ¤Õ ³Ø ÀÒ¾´ÒŒ ¹¤ÇÒÁÌ٠áÅз¡Ñ Éз¨Õè Òí ໹š ÊÒí ËÃºÑ ¡ÒôÒí çªÇÕ µÔ ã¹Êѧ¤Á·ÁÕè ¡Õ ÒÃà»ÅÂèÕ ¹á»Å§ áÅÐáÊǧËÒ¤ÇÒÁÃŒàÙ ¾Íè× ¾²Ñ ¹Òµ¹àͧÍÂÒ‹ §µÍ‹ à¹Í×è §µÅÍ´ªÕÇÔµ ˹ѧÊ×ÍàÃÂÕ ¹ »ÃÐÇѵÈÔ Òʵà ».ñ àÅÁ‹ ¹¨éÕ Ñ´·íÒ¢¹Öé ÊíÒËÃºÑ ãªŒ»ÃСͺ¡ÒÃàÃÂÕ ¹¡ÒÃÊ͹ ª¹Ñé »ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»·‚ Õè ñ â´Â´íÒà¹¹Ô ¡ÒèѴ·íÒãËŒÊÍ´¤ÅÍŒ §µÒÁ¡Ãͺ¢Í§ËÅѡʵ٠÷¡Ø »ÃСÒà ʋ§àÊÃÁÔ ¡Ãкǹ¡Òä´Ô ¡ÒÃÊº× àÊÒÐËÒ¤ÇÒÁÌ٠¡ÒÃá¡Œ»Þ˜ ËÒ ¤ÇÒÁÊÒÁÒö㹡ÒÃÊ×èÍÊÒà ¡ÒõѴÊԹ㨠¡ÒùíÒä»ãªŒã¹ªÇÕ µÔ ÃÇÁ·§Ñé ʧ‹ àÊÃÁÔ ãËŒ¼ÙŒàÃÕ¹ÁÕ ¤³Ø ¸ÃÃÁ ¨ÃÔ¸ÃÃÁ áÅФ‹Ò¹ÂÔ Á·Õ趡٠µÍŒ §àËÁÒÐÊÁ ¡ºÑ ¡ÒôÒí çªÇÕ µÔ ã¹Êѧ¤Áä·Â ˹ѧÊÍ× àÃÕ¹ »ÃÐÇµÑ ÔÈÒʵà ».ñ àÅ‹Á¹éÕ ÁÕ ó ˹‹Ç ã¹áµ‹ÅÐ˹Nj Âẋ§à»š¹º·Â‹ÍÂæ «èÖ§»ÃСͺ´ŒÇ ñ. ໇ÒËÁÒ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ»ÃШíÒ˹Nj  ¡íÒ˹´ÃдºÑ ¤ÇÒÁÃÙŒ ¤ÇÒÁÊÒÁÒö¢Í§¼ÙŒàÃÂÕ ¹ Ç‹ÒàÁ×Íè àÃÂÕ ¹¨ºã¹áµ‹ÅÐ˹Nj ¡ÒÃàÃÕ¹Ì٠µŒÍ§ºÃÃÅÁØ ÒµÃ°Ò¹µÇÑ ªéÕÇ´Ñ ·Õè¡Òí ˹´äÇŒã¹ËÅ¡Ñ ÊµÙ Ã¢ŒÍã´ºÒŒ § ò. á¹Ç¤Ô´ÊÒí ¤ÞÑ á¡‹¹¤ÇÒÁ÷ٌ àÕè »¹š ¤ÇÒÁÌ٤ÇÒÁࢌÒ㨤§·¹µ´Ô µÇÑ ¼ÙŒàÃÂÕ ¹ ó. à¹×éÍËÒ ¤ÃºµÒÁËÅÑ¡ÊÙµÃ᡹¡ÅÒ§ ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢éѹ¾×é¹°Ò¹ ¾.È. òõõñ ¹íÒàÊ¹Í àËÁÒÐÊÁ¡ºÑ ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹ã¹áµ‹ÅÐÃдºÑ ªé¹Ñ ô. ¡Ô¨¡ÃÃÁ ÁÕËÅÒ¡ËÅÒÂû٠Ẻã˹Œ ¡Ñ àÃÕ¹»¯ÔºµÑ Ô áº§‹ ໹š (ñ) ¡Ô¨¡ÃÃÁ¹Òí Ê‹¡Ù ÒÃàÃÕ¹ ¹íÒà¢ÒŒ ʺ‹Ù ·àÃÂÕ ¹à¾×èÍ¡ÃеŒ¹Ø ¤ÇÒÁʹã¨á¡¼‹ àŒÙ ÃÂÕ ¹ (ò) ¡Ô¨¡ÃÃÁ¾²Ñ ¹Ò¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ã˼Œ ÙàŒ ÃÕ¹½ƒ¡»¯ÔºÑµàÔ ¾×Íè ¾²Ñ ¹Ò¤ÇÒÁÃáŒÙ Åз¡Ñ ÉлÃШíÒ Ë¹‹Ç (ó) ¡¨Ô ¡ÃÃÁÃǺÂÍ´ ãËŒ¼ŒàÙ ÃÕ¹»¯ºÔ ѵÔà¾Í×è áÊ´§¾ÄµÔ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÌ٠ǺÂÍ´ áÅÐ »ÃÐàÁÔ¹¼Å¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙµŒ ÒÁÁҵðҹµÇÑ ªÕÇé ´Ñ »ÃШÒí ˹‹Ç ˹ѧÊ×ÍàÃÕ¹ »ÃÐÇѵÔÈÒʵà ».ñ àÅ‹Á¹Õé ¹íÒàʹ͡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒãËŒàËÁÒÐÊÁ¡ÑºÇÑ¢ͧ ¼ÙŒàÃÕ¹㹪éѹ»ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»‚·èÕ ñ «è֧໚¹¡ÒÃÈÖ¡ÉÒÊèÔ§·Õè¼ÙŒàÃÕ¹à¡ÕèÂÇ¢ŒÍ§ã¹¡ÒôíÒà¹Ô¹ªÕÇÔµ»ÃШíÒÇѹ â´Â㪌ÀÒ¾ á¼¹ÀÙÁÔ µÒÃÒ§¢ÍŒ ÁÅÙ ª‹ÇÂ㹡ÒùÒí àʹÍÊÒÃе‹Ò§æ «Ö觨Ъ‹ÇÂã˼Œ ŒàÙ ÃÕ¹ÊÒÁÒöàÃÂÕ ¹ÃÙŒ ä´§Œ Ò‹ ¢éÖ¹ ¤³Ð¼Ù¨Œ Ñ´·íÒ¨Ö§ËÇѧ໹š ÍÂÒ‹ §Â§èÔ Ç‹Ò Ë¹Ñ§ÊÍ× àÃÕ¹ »ÃÐÇѵÔÈÒʵà ».ñ àÅÁ‹ ¹Õé ¨Ð໹š Ê×èÍ¡ÒÃàÃÕ¹¡ÒÃÊ͹·èÕÍíҹǻÃÐ⪹µ‹Í¡ÒÃàÃÕ¹»ÃÐÇѵÔÈÒʵà à¾è×ÍãËŒÊÑÁÄ·¸Ô¼ÅµÒÁÁҵðҹ µÇÑ ªÇéÕ Ñ´·èÕ¡Òí ˹´äÇ㌠¹ËÅѡʵ٠Ã᡹¡ÅÒ§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ¢Ñ¹é ¾é¹× °Ò¹ ¾.È. òõõñ ·Ø¡»ÃСÒà ¤³Ð¼ŒÙ¨Ñ´·Òí กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate คำ� ชแ้ี จงในกำรใช้สื่อ กจิ กรรมน�ำสู่กำรเรยี น นำ�เข้�สูบ่ ทเรยี นโดยใช้ ภำพหน้ำหนว่ ยกำรเรียนรู้ กระตุน้ คว�มสนใจเพือ่ เป็นภ�พประกอบ เชื่อมโยงสู่เร่ืองที่จะเรียน ขน�ดใหญช่ ว่ ยกระตุน้ คว�มสนใจของผู้เรียน ñº··èÕ ¡ÒÃ㪻Œ ¯Ô·Ô¹ã¹ªÕÇµÔ »ÃШíÒÇѹ มกราคม 2564 กจิ กรรมนาํ สกู ารเรียน January 2021 อาทติ ย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ ñหนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ 1 34 Çѹ¢é¹Ö »ã‚ ËÁ‹ 2 Ç¹Ñ àÇÅÒ áÅÐàÃèÍ× §ÃÒÇ·Ò§»ÃÐÇµÑ ÈÔ Òʵà 10 11 เปาหมายการเรียนรูประจําหนว ยที่ ๑ 17 18 5678 9 24 25ä»àÂèÕÂÁ แรม 8 ค�ำ่ เดอื น 2 เม่ือเรียนจบหนว่ ยนี้ ผ้เู รยี นจะมีควำมรู้ควำมสำมำรถต่อไปนี้ 31ค³Ø Âา 15 Ç¹Ñ à´ç¡áË‹§ªÒµÔ ๑. บอกวนั เดอื น ปี และกำรนบั ชว่ งเวลำตำมปฏิทนิ ท่ีใชใ้ นชวี ิตประจ�ำวนั [มฐ. ส ๔.๑ ป.๑/๑] 12 13 14 ๒. เรียงล�ำดับเหตกุ ำรณในชีวติ ประจำ� วันตำมวนั เวลำทเี่ กิดขึน้ [มฐ. ส ๔.๑ ป.๑/๒] แรม 15 ค�่ำ เดอื น 2 16 ๓. บอกประวตั คิ วำมเปน็ มำของตนเองและครอบครวั โดยสอบถำมผูเ้ กย่ี วขอ้ ง [มฐ. ส ๔.๑ ป.๑/๓] มำตรฐำนตัวช้วี ดั 22 ระบตุ วั ชี้วัดทก่ี ำ�หนดไว้ 19 20 21 Çѹ¤ÃÙ เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ ในแตล่ ะหนว่ ย ข้นึ 8 คำ�่ เดอื น 3 กำ�หนดระดับคว�มรู้ เน้ือหำ 23 คว�มส�ม�รถของผ้เู รียน ครบต�มหลกั สตู ร 26 27 28 29 เม่ือเรยี นจบหน่วย แกนกล�งฯ ’๕๑ นำ�เสนอ วันเกิดค³Ø ¾่Í ขนึ้ 15 คำ่� เดือน 3 30 โดยใช้ภ�ษ�ทีเ่ ข�้ ใจง�่ ย เหม�ะกบั วัยของเดก็ เพอ่ื นๆ ดภู าพปฏิทนิ กจิ กรรมพฒั นำกำรเรยี นรู้ แลวชว ยกันบอกวารขู อมลู ให้ผ้เู รยี นฝึกปฏิบตั เิ พือ่ อะไรบางคะ พัฒน�คว�มรแู้ ละทักษะ แนวคิดสําคัญ ประจำ�หน่วย ● Çѹ àÇÅÒ Á¤Õ ÇÒÁà¡ÕÂè Ǣ͌ §¡ÑºªÕÇÔµ»ÃШÒí Çѹ¢Í§àÃÒ ● ¤Òí ºÍ¡Ç¹Ñ àÇÅÒ ÁËÕ ÅÒÂẺ હ‹ àÁèÍ× ÇÒ¹¹éÕ Ç¹Ñ ¹éÕ ¾Ã§‹Ø ¹éÕ àªŒÒ ÊÒ ºÒ‹  à¹ç ● ¤Òí ºÍ¡àÇÅÒ·èÕµÒ‹ §¡¹Ñ ·íÒãËàŒ ÃÒÃŌ٠Òí ´Ñº¡‹Í¹ËÅѧ¢Í§àÃÍ×è §ÃÒǵҋ §æ ● à¤Ã×èͧÁ×Í·Õè㪌ºÍ¡Ç¹Ñ à´×͹ »‚ àÃÂÕ ¡Ç‹Ò »¯·Ô Ô¹ ● ¡ÒÃà¢Õ¹àÃè×ͧÃÒÇÊÒí ¤ÑޢͧàÃÒäÇŒº¹»¯·Ô ¹Ô ªÇ‹ ÂãËàŒ ÃÒ¨´¨Òí àÃèÍ× §ÃÒǵҋ §æ ä´Œ ● »¯·Ô Ô¹ª‹ÇÂãËàŒ ÃÒÅÒí ´ºÑ àÃ×èͧÃÒÇ·àèÕ ¡´Ô ¢éֹ䴌 ๒ แนวคดิ ส�ำคัญ แก่นคว�มรู้ท่เี ป็น คว�มเข้�ใจคงทน ตดิ ตัวผเู้ รียน ชีวิตประจำ� วนั ของคนเรำมีเรือ่ งรำวตำ่ งๆ เกดิ ขน้ึ มำกมำย ใน ๑ วัน แบ่งเป็น กลำงวนั และกลำงคืน จนท�ำให้ในบำงครั้งเรำอำจลืมเรื่องรำวท่ีผ่ำนมำนำนแล้ว ค�ำที่ใชบ้ อกเวลำชว่ งกลำงวัน เช่น เชำ้ เท่ียง เย็น บำงครงั้ เรำตอ้ งนดั หมำยหรอื วำงแผนเพอ่ื จะทำ� สงิ่ ตำ่ ง ๆ ในวนั คำ� ท่ีใชบ้ อกเวลำช่วงกลำงคืน เชน่ ขำ้ งหน้ำ ดังนนั้ กำรจดบนั ทึกวัน เดือน ปี เก่ยี วกบั เรอื่ งรำว หัวค่�ำ ดกึ ตำ่ งๆ ทเี่ กดิ ในอดตี ปจ จบุ นั และในอนำคตจะชว่ ยเตอื นควำมจำ� เวลำเชำ้ พระอำทติ ยข น้ึ ทำงทศิ ตะวนั ออก วำ่ ต้องท�ำสิง่ ใดในวันใด เคร่ืองมือที่ช่วยใหร้ ู้ วัน เดอื น ปี และ เวลำเที่ยง พระอำทิตยอ ยู่ตรงศีรษะ เตือนควำมจ�ำเรำได้อย่ำงดี เรยี กวำ่ ปฏทิ ิน เวลำเย็น พระอำทติ ยต กทำงทิศ ตะวนั ตก กรกฎำคม 0722506170 ▲ เวลำเท่ียง พระอำทิตยอยู่ตรงศีรษะ July กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรูท ี่ ๗ Sอuาnทdติ aยy์ Mจoนั nทdaร์y Tอuังeคsdาaรy Wedพneุธsday Tพhฤuหrsัสdบaดyี Fศriุกdaร์y Saเtสuาrdรa์ y เขยี นบนั ทกึ วำ่ ในวนั นนี้ กั เรยี นทำ� กจิ กรรมใดบำ้ ง โดยใชค้ ำ� บอก 1 ชว่ งเวลำ 2345678 9 10 11 12 13 14 15 กิจกรรมรวบยอด ๑. สอบถำมสมำชกิ ในบำ้ นเกย่ี วกบั วนั เดอื น ปเี กดิ ของทกุ คน 16 17 18 19 20 21 22 นำ� มำเทียบกับปฏทิ ินในปจจุบันว่ำ ตรงกับวนั ใด แล้วบันทกึ ลงในสมดุ ๒. ดูปฏิทินแล้วบันทึกวันส�ำคัญต่ำงๆ ท่ีน่ำสนใจลงในสมุด 23 24 25 26 27 28 29 โดยบอกวนั ทงั้ ทำงสุริยคติและทำงจันทรคติให้ถูกตอ้ ง 30 31 ๓. เขยี นบนั ทกึ เหตกุ ำรณป ระจำ� วนั เปน็ เวลำ ๑ สปั ดำห นำ� มำเลำ่ 8 วันอำสำฬหบูชำ ให้เพ่ือนฟง โดยระบุว่ำจะน�ำบันทึกนี้ไปใช้ประโยชนในชีวิตประจ�ำวัน 9 วันเขำ้ พรรษำ ไดอ้ ยำ่ งไร 10 วันหยุดชดเชยวันอำสำฬหบูชำ 11 วนั หยุดชดเชยวันเข้ำพรรษำ 28 วันเฉลิมพระชนมพรรษำสมเด็จพระเจำ้ อยหู่ วั มหำวชิรำลงกรณ บดินทรเทพยวรำงกรู ัวนพุธ ่ที ๑๙ ก.ค. ๒๕๖๐ 3 ๑4 ภำพประกอบเน้ือหำ กิจกรรมรวบยอด เปน็ ภ�พประกอบ ๔ สี ให้ผูเ้ รียนฝกึ ปฏบิ ตั ิเพ่อื แสดง แทรกอยตู่ ลอดเล่ม พฤตกิ รรมก�รเรียนรู้รวบยอดและ ชว่ ยเสรมิ สร้�งคว�มเข้�ใจ ประเมนิ ผลก�รเรยี นรตู้ �มม�ตรฐ�น ตัวช้ีวดั ประจำ�หนว่ ย กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate สารบญั หนวยการเรยี นรูที่ ๑ วนั เวลา และเรอื่ งราวทางประวัตศิ าสตร ๑ บทท่ี ๑ ก�รใชป้ ฏทิ นิ ในชีวติ ประจำ�วนั ๒ บทที่ ๒ คว�มเปน็ ม�ของเร� ๑๕ หนวยการเรียนรทู ่ี ๒ การดําเนินชีวิต ๒๐ บทท่ี ๑ ชีวติ ท่ีเปลี่ยนแปลง ๒๑ บทที่ ๒ เหตกุ �รณในอดีตท่ีมผี ลกับปจจุบัน ๓๒ หนวยการเรียนรูที่ ๓ ชาติไทย ๓๗ บทที่ ๑ สญั ลกั ษณข องช�ติไทย ๓๘ ● คําสําคญั ๕๒ ● บรรณานุกรม ๕๒ ● ดรรชนีภาพประวตั ศิ าสตร พเิ๑ศษ กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Evaluate Engage Expand Engage กระตนุ ความสนใจ 1. ครเู ตรยี มปฏิทนิ หลากหลายแบบมาให นกั เรยี นดู แลว ชวนนักเรยี นสนทนา เชน • ปฏทิ นิ ที่ครูนาํ มาใหด ู มลี ักษณะอยางไร (แนวตอบ เปนปฏทิ ินแบบตง้ั โตะ ปฏิทิน แบบแขวน) • นักเรียนชอบปฏิทินแบบไหน เพราะอะไร (แนวตอบ คาํ ตอบมีหลากหลายข้นึ อยกู ับ คําตอบของนกั เรียนแตละคน เชน ชอบปฏิทนิ แบบตง้ั โตะ เพราะดูงาย และสะดวกในการใชงาน) 2. ใหน ักเรยี นชว ยกนั สงั เกตวา ในปฏทิ ิน แตล ะแบบบอกขอ มูลอะไรบา ง 3. ใหน ักเรียนแสดงความคิดเหน็ วา ปฏทิ นิ มีความจาํ เปน ตอนักเรียนหรอื ไม อยา งไร ñหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี Ç¹Ñ àÇÅÒ áÅÐàÃÍè× §ÃÒÇ·Ò§»ÃÐÇѵÔÈÒʵà เปาหมายการเรียนรปู ระจาํ หนวยที่ ๑ เม่อื เรยี นจบหน่วยน้ ี ผเู้ รยี นจะมคี วามรคู้ วามสามารถต่อไปนี้ ๑. บอกวัน เดอื น ป และการนบั ช่วงเวลาตามปฏทิ นิ ที่ใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั [มฐ. ส ๔.๑ ป.๑/๑] ๒. เรียงลําดับเหตุการณ์ในชวี ิตประจําวนั ตามวันเวลาที่เกดิ ขนึ้ [มฐ. ส ๔.๑ ป.๑/๒] ๓. บอกประวตั คิ วามเปน็ มาของตนเองและครอบครวั โดยสอบถามผ้เู กยี่ วข้อง [มฐ. ส ๔.๑ ป.๑/๓] เกรด็ แนะครู ครอู าจนาํ ตัวอยา งปฏทิ ินหลากหลายแบบมาใหนักเรียนดู หรือถา ไมม ตี ัวอยางปฏทิ นิ อาจอธบิ ายลักษณะปฏทิ นิ ใหน กั เรยี นฟง หรอื ใหดูตวั อยา งภาพกไ็ ด เชน ปฏิทนิ แบบตง้ั โตะ ปฏิทินแบบแขวน ปฏทิ ินแบบฉีก คมู อื ครู 1 กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Expand Evaluate Engage Explore เปาหมายการเรยี นรู 1. บอกวนั เดือน ป และการนับชวงเวลา ñº··èÕ ¡ÒÃ㪌»¯·Ô Թ㹪ÇÕ Ôµ»ÃШÒí Ç¹Ñ ตามปฏทิ นิ ท่ีใชใ นชวี ติ ประจาํ วนั (ส 4.1 ป.1/1) กจิ กรรมนําสูการเรียน 2. เรียงลาํ ดับเหตุการณในชีวติ ประจําวัน ตามวันเวลาทเ่ี กดิ ขนึ้ (ส 4.1 ป.1/2) สมรรถนะของผเู รยี น มกราคม 2564 January 2021 อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พธุ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1 2. ความสามารถในการคดิ Çѹ¢é¹Ö »‚ãËÁ‹ 2 3. ความสามารถในการใชทกั ษะชีวติ 5678 9 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค 3 4 แรม 8 ค�่ำ เดอื น 2 10 11 15 Ç¹Ñ à´ç¡á˧‹ ªÒµÔ 1. มวี ินยั รบั ผิดชอบ 17 18 12 13 14 2. ใฝเรียนรู 24 ä»àÂÕèÂÁ 25 แรม 15 ค�่ำ เดอื น 2 16 3. มงุ ม่นั ในการทาํ งาน 31ค³Ø Âา 22 19 20 21 Ç¹Ñ ¤ÃÙ ขน้ึ 8 คำ�่ เดอื น 3 กระตนุ ความสนใจ Engage 23 26 27 28 29 วนั เกิดคس¾่Í ขึ้น 15 ค�่ำ เดือน 3 30 ใหน ักเรียนดูภาพ หนา 2 และชวยกันบอกวา เพ่อื นๆ ดภู าพปฏิทิน • ปฏทิ นิ นบี้ อกขอ มูลอะไรบาง แลว ชว ยกันบอกวา รูข อ มลู (แนวตอบ ขอ มลู ชอื่ เดอื น ป พ.ศ. และป ค.ศ. อะไรบา งคะ ช่ือวัน จาํ นวนวนั ในเดือนน้ี วนั สาํ คัญใน เดือนนี้ ขอมลู ที่เตอื นความจาํ ) แนวคดิ สําคัญ • การจดเร่ืองราวหรอื เหตกุ ารณสาํ คัญตา งๆ ลงบนปฏทิ ิน มปี ระโยชนอ ยางไร ● Çѹ àÇÅÒ ÁÕ¤ÇÒÁà¡ÂèÕ Ç¢ŒÍ§¡ÑºªÇÕ Ôµ»ÃШÒí Ç¹Ñ ¢Í§àÃÒ (แนวตอบ เพ่อื ชว ยเตอื นความจาํ ) ● ¤Òí ºÍ¡Çѹ àÇÅÒ ÁËÕ ÅÒÂẺ હ‹ àÁÍè× ÇÒ¹¹éÕ Çѹ¹éÕ ¾Ã§‹Ø ¹éÕ • นกั เรยี นเคยจดบนั ทกึ เหตกุ ารณอ ะไรลงบน ปฏทิ นิ บา ง àªŒÒ ÊÒ ºÒ‹  à¹ç (แนวตอบ คําตอบมีหลากหลาย ข้ึนอยกู บั ● ¤Òí ºÍ¡àÇÅÒ·èµÕ Ò‹ §¡Ñ¹ ·Òí ãËàŒ ÃÒÃŒÙÅÒí ´ºÑ ¡‹Í¹ËÅ§Ñ ¢Í§àÃ×èͧÃÒǵҋ §æ คาํ ตอบของนักเรียนแตละคน เชน วันเกิด ● à¤ÃèÍ× §ÁÍ× ·èãÕ ªºŒ Í¡Çѹ à´Í× ¹ »‚ àÃÂÕ ¡ÇÒ‹ »¯Ô·Ô¹ คุณพอ วนั เกดิ คณุ แม กาํ หนดวันท่ีตอ ง ● ¡ÒÃà¢ÂÕ ¹àÃè×ͧÃÒÇÊíÒ¤ÞÑ ¢Í§àÃÒäǺŒ ¹»¯·Ô ¹Ô ªÇ‹ ÂãËŒàÃÒ¨´¨íÒàÃèÍ× §ÃÒǵҋ §æ ä´Œ สงงานครู เปนตน ) ● »¯·Ô Ô¹ªÇ‹ ÂãËŒàÃÒÅÒí ´ºÑ àÃèÍ× §ÃÒÇ·àèÕ ¡´Ô ¢éֹ䴌 ๒ เกรด็ แนะครู ครูจัดกระบวนการเรยี นรโู ดยการใหน กั เรยี นปฏิบัติ ดังน้ี • สงั เกต และเปรยี บเทียบขอมูลในปฏทิ นิ แบบตา งๆ • แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับการใชป ฏิทนิ • อธบิ ายเกยี่ วกับปฏิทนิ และการแบงชว งเวลา • ตอบคาํ ถามเกย่ี วกบั ปฏิทนิ และการแบงชว งเวลา จนเกิดเปน ความรูความเขา ใจวา ปฏทิ นิ เปน เครื่องมือทใ่ี ชบ อกวัน เวลา และชวยใหลาํ ดบั เร่ืองราวที่เกิดขน้ึ ได 2 คมู ือครู กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explain Expand Evaluate Explore สาํ รวจคน หา Explore ชีวิตประจาํ วนั ของคนเรามเี รือ่ งราวตา งๆ เกิดขึน้ มากมาย 1. ใหน กั เรยี นดูภาพ หนา 3 และบอกวา จนทําใหในบางคร้ังเราอาจลืมเร่ืองราวท่ีผานมานานแลว • เด็กที่เขียนหนงั สอื กาํ ลงั นึกถึงเรอื่ งอะไร บางครงั้ เราตอ งนดั หมายหรอื วางแผนเพอื่ จะทาํ สงิ่ ตา ง ๆ ในวนั (ตอบ ไปโรงเรยี น ไปทัศนศึกษา) ขางหนา ดังน้นั การจดบันทึกวัน เดอื น ป เก่ียวกับเรื่องราว • นักเรยี นมีวธิ ีใดท่ีจะทาํ ใหเ ด็กคนนจ้ี ดจํา ตา งๆ ทเี่ กดิ ในอดตี ปจ จบุ นั และในอนาคตจะชว ยเตอื นความจาํ เรื่องราวตา งๆ ท่ผี านไปแลว ได วเตา อืตนอ คงทวาํามสจง่ิ ใําดเรในาไวดนั อใดยาเงคดรี อื่เรงยี มกอื วทา ีช่ ปวฏยใทิ หินร1ู วนั เดือน ป และ (แนวตอบ การบันทึกเร่ืองราวเอาไว ทําไดด ว ย การเขยี นบันทกึ การถา ยภาพ หรอื กรกฎาคม Tอuังeคsdาaรy Wedพneุธsday Tพhฤuหrsสั dบaดyี 0722056129 การถายเปน วดิ ีโอ) July 234 Fศriกุdaรy Saเtสuาrdรa y 2. ครซู กั ถามนกั เรยี นวา เคยใชป ระโยชนจ ากปฏทิ นิ Sอuาnทdิตaยy Mจoนั nทdaรy หรอื ไม อยา งไร 56 1 3. ใหนักเรียนทเี่ คยใชป ระโยชนจากปฏทิ นิ บอกวา เคยใชทําอะไรบาง 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 4. ครนู าํ ปฏทิ นิ แบบตา งๆ ทง้ั แบบทม่ี คี รบ 12 เดอื น ในแผนเดยี ว และแบบทแ่ี ยกเปน รายเดอื น มาใหนกั เรียนดู และสงั เกตวา ในปฏทิ ิน บอกรายละเอียดอะไรบาง 5. ใหนกั เรียนศึกษาขอ มลู ในหนังสอื • หัวขอ ท่ี 1 รูจักปฏิทนิ หนา 4-9 • หัวขอที่ 2 ความสําคัญของปฏิทนิ หนา 10-12 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 16 วนั อาสาฬหบชู า 17 วันเขาพรรษา 28 วนั เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรสี ินทร มหาวชริ าลงกรณ พระวชริ เกลา เจาอยูหัว 29 วนั หยุดชดเชยวันเฉลมิ พระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดศี รีสนิ ทร มหาวชิราลงกรณ พระวชริ เกลา เจาอยหู ัว ัวนพุธ ่ที ๑๙ ก.ค. ๒๕๖๐ ๓ ขอ สอบเนนการคดิ เกรด็ แนะครู การจดบันทึกเก่ยี วกบั เร่อื งราวตางๆ ท่ีเกดิ ขึน้ ในชีวิตประจําวัน มีผลดี ครคู วรใหนกั เรียนนําปฏทิ นิ แบบตา งๆ มาคนละ 1 ชิ้น จากน้ันใหนกั เรยี นชว ยกนั ตอผูบนั ทึกอยางไร เลอื กปฏิทินท่เี หมาะสมกบั การจดบนั ทึก แนวตอบ ทาํ ใหรวู ามเี หตกุ ารณอ ะไรเกดิ ข้นึ บา งในอดีตทผี่ า นมา และ ทาํ ใหรูวาในอนาคตควรจะทาํ สิง่ ใดบา ง ทัง้ น้คี รูอาจเสนอรปู แบบปฏทิ นิ อเิ ล็กทรอนกิ ส อยางเชน ปฏทิ ินทอ่ี ยใู น Tablet หรือเคร่ืองคอมพวิ เตอรใ หนักเรยี นรูจกั และสงั เกตความแตกตางดวย นกั เรยี นควรรู 1 ปฏทิ นิ ปฏิทินสากลหรอื ปฏิทินแบบสุริยคติ เริม่ มใี ชใ นประเทศไทย สมัยรัชกาลที่ 5 โดยเดือนแรกของปในปฏิทิน คือ เดือนเมษายน และเดอื นสุดทา ย ของปใ นปฏทิ นิ คอื เดอื นมีนาคม ตอมาสมยั จอมพล ป. พิบูลสงครามไดม กี าร ปรับเปลีย่ นการนบั เดอื นแรกของปฏทิ ินตามแบบสากล โดยเดือนแรกของป ในปฏิทิน คอื เดอื นมกราคม และเดือนสุดทายของปใ นปฏทิ นิ คือ เดือนธนั วาคม และใชเชนน้ีมาจนถึงปจ จุบัน คูมอื ครู 3 กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ใหนกั เรียนรวมกนั อธบิ ายเกยี่ วกบั ส่ิงท่ี ๑. รูจ้ ักปฏิทนิ สังเกตเหน็ ในปฏิทนิ ปฏิทนิ เปน็ เครือ่ งมือท่บี อกวัน เดอื น ปี ในปฏทิ ินจงึ มีวัน 2. ใหนกั เรยี นเขยี นสรุปส่งิ ท่สี ังเกตเห็นจากปฏิทนิ เดอื น ปี และวันส�ำคัญต่ำงๆ ในชว่ งเวลำ ๑ ปี บอกไว้ ดงั นั้น ลงในสมุด หำกเรำต้องกำรรู้วัน เดือน ปี และวันส�ำคัญต่ำงๆ ที่ถูกต้อง จงึ ควรดปู ฏทิ ิน 3. ใหน กั เรียนชว ยกันบอกวา ปฏทิ ินมีความสาํ คญั อยางไรบาง บอกปี พ.ศ. บอกปี ค.ศ. (แนวตอบ เชน บอกวนั สาํ คญั ชวยเตือนความจาํ เปนตน) บอกเดอื น มกราคม 2564 January 2021 บอกวนั พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ 4. ครแู ละนักเรียนรว มกันสรปุ ขอมลู ทบ่ี อกไวใน อาทิตย์ จนั ทร์ องั คาร ปฏิทินและประโยชนข องปฏิทิน บตำอมกแวันบบท่ี 1 2 สรุ ิยคติ 5. ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ ใหน ักเรียนฟง วา 3 4 5 6 7 8 9วันขึน้ ปีใหม่ • ใน 1 ป มี 365 วัน หรือ 366 วัน • ถา ปใดเดอื นกุมภาพนั ธมี 28 วัน ในปนั้น จะมี 365 วนั • ถา ปใ ดเดอื นกมุ ภาพนั ธม ี 29 วนั ในปน น้ั จะมี 366 วัน ซ่งึ จะเกดิ ขึ้นทุกๆ 4 ป แรม 8 ค่ำ� เดือน 2 วันเด็กแห่งชาติ 10 11 12 13 14 15 16 แรม 15 ค่�ำ เดือน 2 วนั ครู 17 18 19 20 21 22 23 ข้นึ 8 ค�ำ่ เดอื น 3 2431 25 26 27 28 29 30ขน้ึ 15 ค�ำ่ เดือน3 ตบำอมกแวนับทบจ่แี นัละทเรดคอื ตนิ ใบนอแกตว่ลนั ะสป�ำีคญั วนั แรกของปีในปฏิทนิ คอื วนั ท่ี ๑ เดอื น มกรำคม วันสดุ ท้ายของปีในปฏิทิน คอื วนั ท่ี ๓๑ เดอื น ธนั วำคม 4 บรู ณาการอาเซยี น ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมใหน กั เรียนฟงวา ประเทศสมาชกิ ในกลุม อาเซียนใชป ฏทิ นิ แบบสากลเปนเคร่ืองมือในการบอกวัน เดือน ป เชนเดยี วกนั กับประเทศไทย อาจแตกตา งกนั บา งตามรายละเอยี ดปลกี ยอ ย เชน ปฏทิ ินของไทยจะมีการบอกวนั แบบจนั ทรคติ เพม่ิ ขนึ้ มา เปนตน นอกจากนี้ ปฏทิ ินยงั เปนเคร่อื งมือทใี่ ชบอกวันสาํ คญั ของแตล ะประเทศดว ย เชน วนั ชาติ วนั สาํ คญั ทางศาสนา วนั หยุด เปนตน ตัวอยา งวนั หยุดซึง่ เปนวันชาติของประเทศสมาชิกอาเซยี นทป่ี รากฏบนปฏิทนิ ไดแ ก ประเทศ วันชาติ ประเทศ วันชาติ บรไู น 23 กมุ ภาพนั ธ เมยี นมา 4 มกราคม กมั พูชา 9 พฤศจกิ ายน ฟลปิ ปน ส 12 มิถนุ ายน อินโดนเี ซีย 17 สิงหาคม สงิ คโปร 9 สงิ หาคม ลาว 2 ธันวาคม ไทย 5 ธนั วาคม มาเลเซีย 31 สงิ หาคม เวียดนาม 2 กันยายน 4 คมู อื ครู กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Expand Evaluate Explain อธบิ ายความรู Explain ในปฏิทิน จะบอกวนั เวลา ๒ แบบ 1. ใหน กั เรยี นชว ยกนั บอกวนั เดอื น ป ของวนั นี้ ๑) แวันบตบาสมุรยิแคบตบิสุรยิ คติ 1ม ี ๗ วัน นับเปน็ ๑ สปั ดาห ์ หรอื 2. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ใหน กั เรยี นเขา ใจวา การบอก ๑ อาทิตย์ วันทงั้ ๗ มชี ่ือเรยี ก ดงั น้ี วัน เดอื น ป แบบทนี่ กั เรียนตอบ ขอ 1 วันอาทติ ย์ อำ่ นว่ำ วัน - อำ - ทดิ เปนการบอกแบบสรุ ยิ คติ วนั จนั ทร์ อ่ำนวำ่ วนั - จัน 3. ครูนาํ ปฏทิ นิ มาใหนักเรียนดู และใหนกั เรยี น วนั อังคาร อำ่ นวำ่ วัน - องั - คำน สงั เกตวาใน 1 แถว (แนวนอน) มีกวี่ นั มีวนั วนั พธุ อ่ำนวำ่ วัน - พดุ อะไรบาง วนั พฤหัสบดี อ่ำนว่ำ วัน - พะ - รึ - หัด - สะ - บอ - ดี 4. ใหน ักเรียนฝกอานออกเสยี งชือ่ วันบนปฏิทนิ วันศกุ ร์ อำ่ นว่ำ วัน - สกุ ใหถ กู ตอ ง โดยครูคอยชวยแนะนาํ วนั เสาร์ อ่ำนว่ำ วัน - เสำ 5. ครูอธบิ ายเพิ่มเติมวา การบอกวันตามแบบ สุริยคติมีทั้งหมด 7 วนั นบั เปน 1 สัปดาห กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรูท่ี ๑ (ผลการปฏิบัติกิจกรรมขนึ้ อยูกบั ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) 6. ใหน ักเรียนชวยกนั ตอบคําถาม • วนั เริ่มตนของสัปดาห คือวนั อะไร สาํ รวจนักเรยี นในห้องว่า ใครเกิดวนั อะไรบา้ ง จากนน้ั จัดกลุ่ม นกั เรียนตามวันท่ีเกิด แล้วให้นักเรยี นคิดหาสญั ลักษณแ์ ทนวนั เกิด (ตอบ วนั อาทิตย) • วันสุดทายของสัปดาห คอื วนั อะไร (ตอบ วันเสาร) • วันท่ีอยูกอนวันพุธ คอื วันอะไร (ตอบ วนั อังคาร) • วันทีอ่ ยูหลังวันศุกร คอื วันอะไร (ตอบ วันเสาร) • วนั ใดท่ีเราหยดุ เรยี น (ตอบ วนั เสาร วันอาทิตย และวนั อ่นื ๆ ทเี่ ปน วันหยุดราชการ) 7. ใหนกั เรยี นจัดกลุมเพื่อนท่เี กิดวนั เดียวกนั กบั ตนเอง จากนนั้ คิดสญั ลกั ษณแทนวันเกดิ ของกลมุ ตนเอง แลวนําเสนอหนาชัน้ 5 ขอสอบเนนการคดิ เกร็ดแนะครู “นนุ เกดิ วันอาทติ ยท่ี 7 เดือนกนั ยายน แตงเกิดวันที่ 18 กนั ยายน ปเดียวกนั ” แสดงวาแตงเกิดวนั ใด และเดอื นที่นนุ และแตงเกิดมีก่วี นั ก. วนั พฤหัสบดี และเดือนท่เี กิดมี 30 วนั ครูควรสอนใหนกั เรียนจดจาํ ชอ่ื วนั ควบคูกบั การเรยี งลําดับวนั และสปี ระจําวัน และใหนักเรียนฝกทอ งเปน จงั หวะ เพื่อใหจ ดจําไดงา ยขึน้ ดงั นี้ ข. วนั อังคาร และเดอื นท่เี กิดมี 31 วนั 1) วันอาทิตย สแี ดง 2) วันจนั ทร สเี หลอื ง ค. วันเสาร และเดอื นท่เี กดิ มี 30 วัน ง. วันพุธ และเดือนที่เกิดมี 31 วัน 3) วนั องั คาร สีชมพู 4) วันพุธ สีเขยี ว 5) วนั พฤหสั บดี สแี สด (สีสม ) 6) วนั ศุกร สีฟา แนวตอบ ถา วนั ที่ 7 ตรงกบั วนั อาทิตย วันท่ี 18 ตรงกบั วนั พฤหสั บดี 7) วันเสาร สีมวง และเดือนกนั ยายนมี 30 วนั ดงั นน้ั ขอ ก. จงึ เปน คาํ ตอบท่ีถูก ครคู วรอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ใหน กั เรยี นฟง วา ปฏทิ นิ แบบสรุ ยิ คตกิ ค็ อื ปฏทิ นิ แบบสากล ซ่งึ ใน 1 ป มี 365 วัน หรอื 366 วัน นัน่ เอง นักเรียนควรรู 1 สุริยคติ คอื วธิ ีนับวนั และเดอื นแบบสากล โดยถอื กาํ หนดตาํ แหนง ดวงอาทติ ย เปนหลกั คูมือครู 5 กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ใหนกั เรยี นดูปฏทิ ินอีกคร้งั จากปฏทิ นิ อันเดมิ เดือนตามแบบสรุ ยิ คติ มี ๑๒ เดอื น มชี ่อื ดงั นี้ ทค่ี รูนํามาใหด ู และชว ยกันนับจํานวนเดอื น ๑(มะม-กกระา-รคำม-คม) ๒ (กกุมมุ ภ-พาพำ-นัพธัน์ )1 ๓ (มม-ีนี นาำค-คมม) ในปฏทิ นิ วามที ้งั หมดกีเ่ ดอื น จากนน้ั ใหนักเรยี น ชวยกนั ตอบคําถาม ๔(เเมม-ษสาำย-ยนน) ๕(พพรึดฤ-ษสะภ-าพคำม-คม) ๖(มมิ-ถิถุน-ุ นาำย-นยน) • ใน 1 ป มกี ่เี ดอื น (ตอบ 12 เดือน) ๗(กะ-กรระก-กฎะา-คดมำ-คม) ๘(สสงิงิ -หหาำค-คมม) ๙(กกนันั -ยยาำย-ยนน) • เดอื นแรกของป คอื เดอื นอะไร (ตอบ มกราคม) ๑๐(ตตุ-ลุ ลาำค-คมม) ๑๑(พรพดึ ฤ-สศะจ-กิจา-ิ กยำน-ยน) ๑๒(ทธันนั -ววาำค-มคม) • เดอื นสุดทา ยของป คอื เดอื นอะไร (ตอบ ธันวาคม) เดอื นที่ลงท้ายดว้ ยคําวา่ “คม” ม ี ๓๑ วัน เดือนทล่ี งท้ายดว้ ยคําวา่ “ยน” ม ี ๓๐ วนั 2. ใหนักเรยี นฝก อานช่ือเดือน โดยดูคําอา น เดอื นกุมภาพนั ธ ์ มี ๒๘ หรือ ๒๙ วนั จากหนงั สอื เรียน หนา 6 กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรทู ี่ ๒ (ผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมขึน้ อยูกับดุลยพนิ ิจของครผู สู อน) 3. ใหน ักเรยี นดูปฏิทิน แลว ชว ยกนั บอกวา • เดอื นใดบา งท่ีมี 30 วัน สํารวจนักเรียนในห้องว่า ใครเกิดเดือนอะไรบ้าง แล้วจัดกลุ่ม (ตอบ เมษายน มถิ นุ ายน กันยายน ตามเดือนท่ีเกิด จากน้ันให้แต่ละกลุ่มเข้าแถวเรียงตามลําดับเดือน และพฤศจกิ ายน) ท่ีเกิด • เดอื นใดบางทีม่ ี 31 วัน (ตอบ มกราคม มีนาคม พฤษภาคม ๖ กรกฎาคม สิงหาคม ตุลาคม และธนั วาคม) • เดือนใดบา งที่มจี าํ นวนวนั นอ ยกวา 30 วัน (ตอบ กุมภาพนั ธ) 4. ใหน ักเรียนดูชื่อเดือนในหนังสือเรยี น หนา 6 แลววงชื่อเดอื นทลี่ งทา ยวา “ยน” และชวยกัน บอกวา เดอื นที่ลงทา ยดวย “ยน” มีกวี่ ัน จากนัน้ ใหน กั เรียนขดี ✓ ทบั ชอื่ เดอื นที่ลงทา ย ดว ย “คม” แลว ชวยกนั บอกวา เดอื นที่ลงทาย ดว ย “คม” มีกีว่ นั 5. ใหน ักเรยี นรวมกนั สรุปใหไดว า เดือนท่ีลงทาย ดว ย “ยน” มี 30 วนั เดอื นทีล่ งทายดวย “คม” มี 31 วนั สว นเดือนกมุ ภาพันธม ี 28 หรือ 29 วนั จากน้ันรว มกันนับจาํ นวนเดือนในหน่งึ ป ทีล่ งทายดวย “ยน” และ “คม” เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนนการคิด เดือนในขอใดจดั อยใู นจาํ พวกเดียวกนั ครคู วรอธบิ ายเพิม่ เติมวา การทท่ี ุกๆ 4 ป จะมวี ันเพ่ิมข้นึ 1 วนั ทําใหเดอื น ก. มนี าคม เมษายน กมุ ภาพนั ธใ นปน ้ันมี 29 วนั และปนัน้ มี 366 วัน เนอ่ื งมาจากหลักการทว่ี า โลกโคจร ข. สงิ หาคม กนั ยายน รอบดวงอาทิตย 1 รอบ ใชเวลา 365 วัน กบั อีก 1 ใน 4 ของวนั แตในการนบั ป ค. มกราคม กมุ ภาพนั ธ เราใช 365 วนั = 1 ป ทาํ ใหเวลาขาดหายไป 1 ใน 4 ของวัน ดงั น้ันจึงตองทดเอาไว ง. มถิ นุ ายน พฤศจิกายน เม่ือครบรอบ 4 ป ก็จะไดเ ทา กบั 1 วันพอดี จงึ ทําใหตอ งเพม่ิ 1 วนั ในทกุ ๆ 4 ป วิเคราะหคําตอบ หากสังเกตจากช่ือเดอื นจะเหน็ วา เดอื นมิถุนายน และเดือนพฤศจิกายน เปนเดือนทลี่ งทา ยดว ย “ยน” เหมือนกนั จึงมี ในป พ.ศ. 2555 เปนปอธกิ สรุ ทิน ดังน้ัน ปอธิกสุรทนิ ครง้ั ตอ ไปเปน ป จํานวนวนั เทา กัน คอื 30 วนั ดงั น้ัน ขอ ง. จึงเปน คําตอบทถี่ กู พ.ศ. 2559 (ค.ศ. 2016) นกั เรียนควรรู 1 กมุ ภาพนั ธ ในปท ี่เดือนกุมภาพันธม ี 29 วัน หรือปน น้ั มี 366 วนั เรยี กวา ปอ ธกิ สรุ ทนิ (อะ-ทิ-กะ-ส-ุ ระ-ทิน) ซง่ึ จะเกดิ ขน้ึ ทกุ ๆ 4 ป 6 คมู อื ครู กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ตัวอยา ง การเรยี ก วัน เดือน ป แบบสรุ ิยคติ 1. ใหนกั เรยี นจดั กลุมตามเดอื นเกดิ และให เขาแถวเรยี งลําดับตามเดอื นเกดิ จากนัน้ ครู มนี าคม / 2560 วนั พธุ ที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ และนักเรียนรว มกันสรปุ ชื่อเดอื นตามแบบ อา นวา สรุ ิยคตอิ กี ครงั้ อา จ อ พ พฤ ศ ส วนั - พดุ - ที่ - หนึง่ - มี - นา - คม - 2. ใหน ักเรียนฝก อา นและเขยี นวนั เดือน ป พุด - ทะ - สัก - กะ - หราด - ตามแบบสุริยคติ โดยจับคกู ับเพอ่ื น แลว ให สอง - พัน - หา - รอ ย - หก - สบิ ฝา ยหน่ึงชท้ี ่วี นั ใดกไ็ ดในปฏทิ นิ แลวใหค ู ของตนเขียน วัน เดือน ป ลงในกระดาษ กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรทู ี่ ๓ (ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมขนึ้ อยกู ับดลุ ยพนิ จิ ของครูผูสอน) และอานใหค ขู องตนฟง เขียนวัน เดือน ป ของวันเกิดของตนเอง และวัน เดือน ป 3. ใหน ักเรียนเขยี นวัน เดือน ป ของวันเกดิ ของวนั นล้ี งในสมุด พรอมทงั้ เขียนคําอา น ของตนเอง และวนั เดอื น ป ของวนั นี้ ลงในสมดุ พรอ มกับเขยี นคาํ อา น ๒) แบบจันทรคติ 1เรยี กวา วนั ตามแบบจันทรคติ 4. ใหนกั เรียนดภู าพดวงจันทร หนา 7 และให นกั เรยี นชวยกันบอกวาเปน ภาพเก่ยี วกบั อะไร 5. ใหน ักเรียนชว ยกันตอบคําถาม • การมองเห็นดวงจนั ทรมีรูปรา งแตกตา ง กนั ไปในแตล ะคืนเกีย่ วกับปรากฏการณใ ด (ตอบ ขา งขน้ึ ขางแรม) วันขา งขึน้ วนั ขางแรม วนั แรม ๘ คาํ่ วนั แรม ๓ ค่าํ วนั แรม ๑๕ คาํ่ วันขนึ้ ๑๕ ค่ํา วนั ขน้ึ ๓ ค่าํ วันข้ึน ๘ คํา่ ๗ ขอสอบเนนการคิด เกร็ดแนะครู “หนนู าไปทําบุญวันมาฆบชู ากบั คุณแมทวี่ ดั ” จากขอความนีแ้ สดงวา หนูนาไปทําบญุ ในวันใด และเปน การบอกวันเวลาแบบใด ครูอธิบายเพ่ิมเติมใหน กั เรียนฟง วา • วันแรม 15 คา่ํ เปน วันท่ีมองไมเห็นดวงจนั ทร โดยจะเรยี กวา คืนเดอื นดับ ตารางกลมุ คาํ ตอบ • วนั ขน้ึ 15 คา่ํ เปนวันทมี่ องเห็นดวงจันทรส วา งเตม็ ดวง โดยจะเรียกวา กลมุ คําตอบที่ 1 กลุมคําตอบท่ี 2 คืนเดอื นเพ็ญ 1) วนั ข้ึน 8 ค่าํ A สุริยคติ นักเรยี นควรรู 2) วันขนึ้ 15 คํ่า B จันทรคติ 1 จนั ทรคติ เปน วิธนี ับวนั และเดอื นโดยถอื เอาการโคจรของดวงจนั ทรเ ปน หลัก 3) วนั แรม 15 คา่ํ C อธิกสรุ ทนิ วเิ คราะหค ําตอบ วันมาฆบชู าตรงกบั วนั ข้ึน 15 คา่ํ เดือน 3 ซ่งึ เปนการ บอกวนั เวลาตามแบบจนั ทรคติ ดังนั้น ขอ 2), B จงึ เปนคําตอบท่ีถูก มมุ IT ครคู น ควาขอมูลเพ่มิ เติมเก่ียวกบั ปฏทิ ินทางจันทรคตไิ ดจาก www.myhora.com/ปฏิทิน-จนั ทรคติไทย.aspx 7 คูมอื ครู กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ใหน กั เรยี นอธบิ ายความหมายของขา งขนึ้ ขา งแรม ขา้ งขน้ึ หมายถงึ วนั ทเี่ รา ตามความเขา ใจจากปฏิทนิ เหน็ พระจนั ทรค์ อ่ ยๆ สวา่ งขน้ึ เรมิ่ จากวนั ขน้ึ ๑ คา่ํ ถงึ วนั ขนึ้ 2. ใหนกั เรียนรว มกนั แสดงความคิดเห็นวา ๑๕ คา่ํ เชน่ วันแบบจนั ทรคตวิ นั ใดบาง ทีม่ ีการจัดกจิ กรรม และนกั เรยี นเคยเขารว มกิจกรรมน้ัน โดยสงั เกต ▲ วันวิสาขบชู า ตรงกับวนั ขนึ้ ๑๕ คํ่า เดือน ๖ จากปฏทิ ินทคี่ รนู ํามาใหดู วันข้ึน ๑๕ คา่ํ เดอื น ๖ 3. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ใหน กั เรยี นเขา ใจวา เปน็ วนั วสิ าขบชู า วนั ขนึ้ ๑๕ คาํ่ • ระยะเวลาขา งข้ึนมี 15 วัน ตัง้ แตวันขึ้น 1 คา่ํ ▲ วันเขา้ พรรษา ตรงกบั วันแรม ๑ ค่ํา เดอื น ๘ เดอื น ๑๒ เป็นวันลอยกระทง ถึงวันข้นึ 15 ค่ํา ข้างแรม หมายถึง วันที่ • ระยะเวลาขางแรมมี 15 วัน ตงั้ แตว ันแรม เราเหน็ พระจนั ทร์ค่อยๆ มืดลง 1 ค่าํ ถึงวันแรม 15 คา่ํ เรม่ิ จากวนั แรม ๑ คาํ่ ถงึ วนั แรม ซึง่ เม่ือรวมกนั แลวจะเปน 1 เดือน พเ๑ป๕ร็นะ คสวาํ่งัน ฆเชเขจ์น่ ะ้า วจพนัาํ รพแรรรษมรษา ๑1 า 2คทราํ่ะว่ี หดเั ดตวอื ล่านอง ๘นดี้ ๓ เดอื น▲ วนั ลอยกระทง ตรงกับวนั ข้นึ ๑๕ คํา่ เดือน ๑๒ 4. ใหน ักเรียนดูปฏิทนิ ของเดือนน้ี และเขียนวนั ทางจันทรคตทิ ปี่ รากฏอยูบ นปฏทิ ิน และบันทึก กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรทู ่ี ๔ (ผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมขน้ึ อยูกบั ดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู อน) ลงในสมุด ดูปฏิทินของเดือนน้ี แล้วเขียนวันทางจันทรคติที่ปรากฏ บนปฏทิ ินลงในสมุด 8 นักเรียนควรรู กจิ กรรมสรา งเสรมิ 1 วันเขา พรรษา เปนวนั ท่พี ระสงฆอ ธิษฐานวา จะพักประจาํ อยู ณ ที่ใดท่หี นง่ึ ใหน ักเรียนหาภาพเหตุการณที่เก่ียวของกบั ขา งขน้ึ ขางแรม มา 1 ภาพ เปน เวลา 3 เดอื น เรม่ิ ต้ังแตว นั แรม 1 คา่ํ เดอื น 8 จนถงึ วนั ออกพรรษา ในวนั ขน้ึ และเขียนชอ่ื ของเหตุการณน ั้น 15 คาํ่ เดอื น 11 2 พรรษา หมายถงึ ฤดฝู น จาํ พรรษา หมายถงึ การทพี่ ระสงฆต อ งอยปู ระจาํ กิจกรรมทา ทาย ทว่ี ดั เปน เวลา 3 เดือน ในฤดฝู น ซ่งึ สาเหตทุ พี่ ระพุทธเจา ทรงอนุญาตใหพ ระสงฆ อยูจาํ พรรษาเปนเวลา 3 เดอื น ณ ท่ใี ดท่ีหนึ่ง กเ็ พือ่ ใหพ ระสงฆไ ดหยุดพกั การ ใหนักเรียนจดั ทาํ สมุดภาพเหตุการณท ่ีเกย่ี วของกบั ขางขน้ึ ขางแรม เผยแผศาสนา เพราะในชว งฤดฝู นจะเดนิ ทางยากลําบาก และยังเปน การปองกัน (อาจนาํ รปู ภาพมาตดิ หรอื วาดภาพกไ็ ด) จากนนั้ เขยี นชือ่ ของเหตกุ ารณน ้ัน ไมใ หพ ระสงฆเดนิ เหยยี บยํ่าขา วกลาหรือพชื ผลของชาวบานท่ีเรม่ิ ลงแปลงปลูก พรอ มกับเขยี นอธิบายเกยี่ วกบั เหตุการณมาส้นั ๆ ในฤดฝู น 8 คมู อื ครู กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Expand Evaluate Explain Explain อธบิ ายความรู การเรยี กชอื่ เดอื นแบบจนั ทรคติ เรยี กชอ่ื เดอื นงา ยๆ ดงั น้ี 1. ใหน ักเรียนทบทวนการเรียกชื่อเดอื นแบบ สรุ ิยคติวา มีช่ือเดอื นอะไรบาง และมที ง้ั หมด ๑. เดอื นอาย (เดอื นท่ี ๑) ๒. เดือนยี่ (เดอื นที่ ๒) กเ่ี ดอื น ๓. เดือนสาม ๔. เดือนส่ี ๕. เดอื นหา ๖. เดอื นหก 2. ใหน ักเรยี นชว ยกันแสดงความคดิ เห็นวา ๗. เดอื นเจด็ ๘. เดอื นแปด การเรยี กช่ือเดอื นแบบจันทรคตกิ บั แบบสุริยคติ ๙. เดือนเกา ๑๐. เดอื นสบิ เหมอื นกันหรอื แตกตา งกนั อยางไร ๑๑. เดอื นสิบเอ็ด ๑๒. เดือนสบิ สอง (แนวตอบ ตางกัน คอื การเรียกช่อื เดอื นแบบ จนั ทรคติ จะเรียกช่อื เดือนตามลาํ ดบั ของเดือน ปฏิทินท่ีเราใชทุกวันนี้ จะบอกท้ังวันแบบสุริยคติ เชน เดอื นอา ย (เดือนทีห่ นง่ึ ) เดือนสาม และจนั ทรคติ เดอื นแปด เปนตน สวนการเรยี กชือ่ เดือน แบบสุริยคติจะเรยี กตามช่ือของเดอื นนน้ั ๆ แบบสรุ ิยคติ กรกฎาคม / 2560 แบบจันทรคติ เชน มกราคม กมุ ภาพนั ธ กนั ยายน เปนตน) วันเสารที่ ๘ อา จ อ พ พฤ ศ ส วันข้ึน ๑๕ คาํ่ 3. ครอู ธิบายเพม่ิ เติมเก่ยี วกบั การเรยี กช่ือเดือน กรกฎาคม เดือน ๘ ปนี้ แบบจนั ทรคติใหน ักเรียนเขาใจ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้ึน ๘ คำ่ เดอื น ๘ เอปานสวาันฬหบชู า1 เปนวัน ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ 4. ครแู ละนกั เรียนชวยกนั เปรียบเทยี บการบอก อาสาฬหบชู า วนั เดอื น ป แบบสรุ ยิ คตแิ ละแบบจนั ทรคติ แรม ๘ คำ่ เดือน ๘ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ 5. ใหนักเรียนดูปฏิทนิ และใหน กั เรยี น อานออกเสยี งวนั ตามแบบจนั ทรคติ ขน้ึ ๘ คำ่ เดอื น ๙ 6. ใหน กั เรยี นเขียนช่ือวนั เดอื น ป ของวนั นี้ ã¹ÇѹÍÒÊÒÌËºÙªÒ à¾Íè× ¹æ ·íÒ¡¨Ô ¡ÃÃÁ ตามแบบจันทรคติ และบันทึกลงในสมดุ ÍÐäáѹºŒÒ§¹Ð 7. ใหน กั เรียนเขยี นช่อื วัน เดอื น ป ของเดือนนี้ ทีต่ รงกบั วนั พระตามแบบจนั ทรคติ และบนั ทกึ ลงในสมดุ กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรูที่ ๕ (ผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมข้นึ อยูกับดลุ ยพินิจของครผู สู อน) ๑. เขยี นชอื่ วนั เดอื น ป ของวนั นตี้ ามแบบจนั ทรคตลิ งในสมดุ ๒. เขียนชอ่ื วนั เดือน ปาผขภูองเดอื นนที้ ต่ี รงกบั วนั พระตามแบบ จนั ทรคตลิ งในสมุด มสะามหเมาตดานขม�พิ เอืรหดล ๙ 1. ขางขึ้น ขางแรม ขอสอบเนน การคิด นักเรยี นควรรู 2. วนั จันทร 3. เดอื นอาย 1 วนั อาสาฬหบูชา ตรงกบั วนั ขน้ึ 15 ค่ํา เดอื น 8 เปนวันทพี่ ระพทุ ธเจา 4. เดือนกมุ ภาพันธ ไดแ สดงธรรมโปรดปญ จวคั คยี ณ อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั ซง่ึ ถือเปน การแสดงธรรม 5. 1 สัปดาห ครง้ั แรกของพระองค (ปฐมเทศนา) และทําใหเ กิดเหตกุ ารณส าํ คญั ดงั นี้ จากขอ มลู ทก่ี าํ หนด ขอใดสมั พนั ธก ับการบอกวัน เดือน ป ตามแบบจนั ทรคติ • เปน วนั แรกทพี่ ระพุทธเจาทรงประกาศศาสนาและแสดงธรรม ก. 1 และ 3 ข. 2 และ 4 • มพี ระสงฆอ งคแรกเกิดขนึ้ ในพระพุทธศาสนา ค. 3 และ 5 ง. 4 และ 5 • มีพระรตั นตรัยครบองคสาม ไดแก พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ เมื่อถงึ วันอาสาฬหบชู า พุทธศาสนิกชนควรปฏิบตั ิตน ดงั นี้ วิเคราะหคําตอบ หมายเลข 2, 4 และ 5 เปนการบอกวัน เดือน ป • ทําบญุ ตกั บาตรพระสงฆ ตามแบบสุริยคติ สวนหมายเลข 1 และ 3 เปน การบอกวนั เดอื น ป • บรจิ าคทาน ตามแบบจันทรคติ ดังนนั้ ขอ ก. จึงเปนคาํ ตอบท่ีถูก • ปลอ ยนกปลอยปลา • รกั ษาศลี ทําใจใหบรสิ ทุ ธิ์ • ไปเวียนเทียนทวี่ ดั คมู ือครู 9 กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Evaluate Engage Expand Expand ขยายความเขา ใจ 1. ใหนกั เรียนชว ยกันบอกวา ๒. ความสาํ คญั ของปฏทิ นิ ๕ธันวาคม • เราใชป ระโยชนอะไรจากปฏทิ นิ ๑๓เมษายน (แนวตอบ บอกวนั เดือน ป บอกวนั สาํ คัญ ปฏทิ นิ มีความสาํ คญั ดังนี้ ๒๙กรกฎาคม ตางๆ ชวยเตอื นความจําวาตอ งทาํ อะไร ๑) บอกความสาํ คญั ในวนั ใดบาง) ของวนั เชน 2. ใหน ักเรยี นนําปฏทิ ินที่บอกวนั สําคญั ในปน้ี วนั ที่ ๕ ธนั วาคม เปน มาใหเพ่ือนในชน้ั เรียนดู และชว ยกนั บอกวา วนั คลา ยวนั พระบรมราชสมภพ ในปฏิทนิ บอกวันสาํ คญั ใดบา ง ตรงกบั วนั ที่ ของพระบาทสมเด็จพระบรม- เทา ใด ชนกาธเิ บศรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มหาราช บรมนาถบพติ ร* เปน 3. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เรอื่ งความสาํ คญั ของวนั สาํ คญั วนั ชาติ และวันพอ แหง ชาติ ในปฏทิ ิน และใหน ักเรียนเลาเหตกุ ารณ ที่เคยทําใหเพอ่ื นฟงหนา ชัน้ เรียน วนั ท่ี ๑๓ เมษายน เปน วันสงกรานต และวันผูสูงอายุ 4. ครูซักถามนักเรียนวา ถามสี งิ่ ทจ่ี ะตองทํา นกั เรยี นไปทาํ บญุ ทวี่ ดั ไหวป ยู า หลายอยางและกลวั วา จะจําไมไ ด นกั เรียน ตายาย รดนาํ้ ดาํ หวั ผใู หญ และ จะทาํ อยา งไร เลน สาดนา้ํ กนั อยา งสนกุ สนาน เปน วันภวัานษทา่ี ไท๒ย๙แหกงรชกาฎตา1ิ คซมงึ่ 5. ใหนักเรยี นบันทึกกิจกรรมสําคัญท่ีไดท ําไปแลว คนไทยทกุ คนตอ งใชภ าษาไทย กาํ ลังทาํ และจะทาํ ในอนาคตลงในปฏทิ นิ ใหถ กู ตอ ง เพอื่ รกั ษาภาษาไทย เดอื นน้ี และออกมาเลา ใหเพ่ือนฟงทห่ี นาชนั้ ใหค งอยูค ูคนไทยตลอดไป 6. ใหนกั เรยี นรวมกนั สรปุ เกย่ี วกบั • ความสาํ คญั ของปฏิทิน • การบอกวนั เวลาตามแบบสุริยคติ และตามแบบจนั ทรคติ โดยสรุปเปน ขอ ๆ ๑๐ * อา นวา พระ-บาด-สม-เดด็ -พระ-บอ-รม-ชะ-นะ-กา-ท-ิ เบด-มะ-หา-พ-ู ม-ิ พน-อะ-ดนุ -ยะ-เดด-มะ-หา-ราด- บอ-รม-มะ-นาด-บอ-พดิ นกั เรยี นควรรู บูรณาการเชอื่ มสาระ ครบู ูรณาการความรใู นสาระสงั คมศึกษาฯ วิชาประวัตศิ าสตรก บั สาระ 1 วันภาษาไทยแหง ชาติ ตรงกบั วนั ที่ 29 กรกฎาคม ของทุกป เหตุผลท่ี ภาษาไทย เรอ่ื งวนั สาํ คญั ในปฏทิ นิ โดยใหน กั เรยี นเขยี นเลา เหตกุ ารณท ป่ี ระทบั ใจ กําหนดใหวนั น้ีเปน ภาษาไทยแหงชาติ เนื่องในวนั ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 ในวนั สาํ คญั ที่นักเรยี นเคยเขา รวม จากนั้นออกมาอา นใหเ พื่อนฟง ทีห่ นาช้ัน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช เพือ่ ใหน ักเรียนมคี วามรคู วามเขา ใจเก่ยี วกบั วนั สาํ คญั ในปฏิทินเพ่มิ มากขึน้ บรมนาถบพติ ร ทรงรวมอภิปรายในหัวขอปญ หาการใชคําไทยที่คณะอักษรศาสตร จฬุ าลงกรณม หาวิทยาลยั ซง่ึ แสดงถึงพระปรีชาสามารถและความหว งใยใน ภาษาไทย ดังนน้ั ทางราชการจึงไดกําหนดใหว ันที่ 29 กรกฎาคม ของทกุ ป เปน วนั ภาษาไทยแหง ชาติ 10 คูม ือครู กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Expand Evaluate Explain Explain อธบิ ายความรู ธงชาตไิ ทย 1 เรยี กว่า ธงไตรรงค์ แปลว่า ธงสามสี 1. ครถู ามนกั เรยี นวา สีแดง หมายถงึ ชาติ • สิง่ ท่ีจะพบคูกับเพลงชาติไทยคือสง่ิ ใด สีขาว หมายถึง ศาสนา (ตอบ ธงชาตไิ ทย) สีนา้ํ เงิน หมายถงึ พระมหากษตั รยิ ์ 2. ใหน ักเรยี นวาดภาพธงชาติไทย และระบายสี ลงในแตล ะแถบ จากนน้ั แสดงผลงาน ของตนเอง และใหเพ่อื นตรวจสอบวาถูกตอง หรือไม 3. ครูสอนนักเรียนรอ งเพลงธงไตรรงคเ พื่อชว ย อธบิ ายความหมายของสใี นธงชาติ ไตรรงคธงไทย ปลวิ ไสวสวยงามสงา สแี ดงคอื ชาติ สขี าวศาสนา นา้ํ เงนิ หมายวา พระมหากษตั ริยไทย 4. ใหนกั เรยี นรวมกนั สรปุ ความหมายของ แถบสใี นธงชาติไทย 5. ใหน ักเรยี นชวยกันแสดงความคดิ เห็นวา เราจะพบธงชาติไทยในสถานทีใ่ ดบาง เชน ธงชาติไทย แสดงถงึ ความเป็นชาตไิ ทย เช่น คนไทยโบก โรงเรยี น โรงพยาบาล ที่วาการอาํ เภอ ธงชาติเพื่อใหก้ ําลงั ใจนกั กฬี าไทย สถานทตู ไทยในตา่ งประเทศ สถานีตํารวจ เปนตน ตอ้ งประดบั ธงชาตไิ ทยเพอื่ แสดงวา่ เปน็ สถานทข่ี องประเทศไทย 6. ใหนกั เรียนสังเกตรอบๆ ชุมชนวามสี ถานท่ี ใดบา งท่ีประดบั ธงชาตไิ ทย และออกมาเลา ใหเ พื่อนฟง 7. ครเู นน ยํา้ ใหนกั เรยี นเห็นความสาํ คัญของ ธงชาติไทยและเพลงชาตไิ ทยวา เปน สัญลักษณ สากลทแี่ สดงถงึ ความเปน เอกราชของชาติ ทีท่ ัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ดังน้ันเราจึงควร ภาคภมู ิใจ และแสดงความเคารพดว ยการ ยืนตรงเม่ือไดย นิ เพลงชาตไิ ทยและอัญเชิญ ธงชาติขึน้ สูยอดเสา 4๑ นกั เรยี นควรรู 1 ธงชาติไทย มี 3 สี หมายถึง สถาบันหลักของชาตไิ ทย ไดแ ก สถาบนั ชาติ สถาบนั ศาสนา และสถาบันพระมหากษตั ริย ซ่งึ เปนสิ่งที่คนไทยใหความสาํ คัญและเคารพนับถือ ดังนน้ั จงึ ไมมกี ารนําแถบสขี องธงชาตไิ ปใชใ นการออกแบบเปน สินคา อน่ื ๆ เชน เสื้อ กางเกง กระโปรง เพราะเปนสง่ิ ท่ไี มเ หมาะสมและขดั กบั วัฒนธรรมไทย บูรณาการอาเซียน ครนู ําภาพธงชาตขิ องประเทศในกลมุ อาเซยี นท่ีนอกเหนือจากประเทศไทยมาใหนกั เรยี นดแู ละเปรียบเทียบกบั ธงชาตไิ ทย ธงชาติบรไู น ธงชาติกมั พชู า ธงชาติอินโดนีเซีย ธงชาติลาว ธงชาตมิ าเลเซยี ธงชาตเิ มยี นมา ธงชาตฟิ ล ปิ ปน ส ธงชาติสงิ คโปร ธงชาติเวยี ดนาม คูมอื ครู 41 |