Line wordpress ป ม plugin ด ส ด

This plugin can send a alert message by LINE Notify

This section describes how to install the plugin and get it working.

e.g.

1. Upload the plugin files to the /wp-content/plugins/plugin-name directory, or install the plugin through the WordPress plugins screen directly.
2. Activate the plugin through the Plugins screen in WordPress.

I think you should translate into Thai Millions of Thai people use Line as the main

訂購項目和訂購人，收貨人和付款方式，這兩組帶入值好像反了。

Compatible WP 5.6.1 , Woocommerce 4.9.2 and Flatsome theme. Okay.

The developer add some hacking code to stolen credit card information. Bad plugin

Read all 4 reviews

“WP LINE Notify” is open source software. The following people have contributed to this plugin.

Contributors

• Simon

1.4.5 – 2023-08-24

• Improved: Filter user ID.

1.4.4 – 2023-08-19

• Update: Form UI.
• Improved: Remove revoke function.

1.4.3 – 2023-08-17

• Improved: Filtering of form fields.

1.4.2 – 2023-01-16

• Fixed: WooCommerce template bug.

1.4 – 2023-01-13

• Fixed some bug.
• Update: Elementor Pro Form method.
• Add: Different users can set their own token and notification items.

1.3.3 – 2022-09-30

• Improved: Use Contact Form 7 email template to send message.

1.3.2 – 2022-09-19

• Fixed some bug. (WooCommerce default template)
• Add: Order status changed notify.

1.3.1 – 2021-10-21

• Fixed bug.
• Update: Elementor form show text.

1.3 – 2021-09-15

• Fixed bug.
• Add: Elementor form widget.
• Add: WooCommerce SKU field.
• Add: Support Checkout Field Editor (Checkout Manager).

1.2 – 2021-09-02

• Update something.

1.1.2 – 2020-08-22

• Add: Support Contact Form 7 for V.5.2.x

1.1.1 – 2020-03-08

• Add: Add two shortcodes for WooCommerce.

1.1 – 2019-08-30

• Add config for more Contact Form 7.

1.0 – 2018-09-15

• Add WooCommerce message template.

0.2 – 2018-09-11

• Add send message for new post.

0.1.2 – 2018-09-07

• Fixed bug.

0.1.1 – 2018-09-05

• Added new notify for Contact Form 7

0.1.0 – 2018-09-03

• Initial Public Release

ผู้ประกอบการหรือใครที่เพิ่งเริ่มมีเว็บไซต์ WordPress เป็นของตัวเอง เชื่อว่าหลายคนคงกำลังเริ่มมองปลั๊กอินดีๆ ให้กับเว็บไซต์อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลั๊กอินที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการนำเสนอวิดีโอคอนเทนต์ ที่ในปัจจุบันเนื้อหาคอนเทนต์ประเภทนี้กลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมที่ขาดไปไม่ได้ เพราะด้วยการสื่อสารผ่านภาพเคลื่อนไหวเป็นหนึ่งในวิธีการที่จะช่วยย่อยข้อมูลที่มีความซับซ้อนให้เข้าใจได้อย่างกระชับ รวบรัด เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

โดยในปัจจุบันเว็บไซต์ WordPress นั้นมีตัวเลือกปลั๊กอินให้เลือกใช้มากมาย ทำให้มือใหม่หลายคนไม่รู้จะว่าจะใช้ตัวไหนดี ครั้นจะไปลองใช้หมดก็ไม่ไหวแน่นอน ดังนั้นในบทความนี้เราได้รวบรวม WordPress Plugin สำหรับเล่นวิดีโอบนเว็บไซต์ มาให้มือใหม่ได้ลองใช้กันดู รับรองเลยว่าคัดมาแต่ละอัน “ดีและมีคุณภาพ” เหมาะกับมือใหม่หรือมือเก๋ามากประสบการณ์ ติดตั้งแล้วไม่มีเสียดายแน่นอน

แนะนำ WordPress Plugin สำหรับนำเสนอวิดีโอบนเว็บไซต์

ในฐานะนักการตลาดแล้ว วิดีโอคอนเทนต์เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ได้มากขึ้น สำหรับปลั๊กอินบนเว็บไซต์ WordPress ที่จะมาแนะนำ มีดังนี้

1. Video Gallery
   

นอกเหนือจาก YouTube ที่เป็นแพลตฟอร์มแชร์วิดีโอคอนเทนต์ยอดนิยมมากที่สุดในโลก แต่ที่จริงแล้วก็ยังมีอีกหลายแพลตฟอร์ม เช่น Vimeo ที่ยังเป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมในการโปรโมตเนื้อหาวิดีโอคอนเทนต์ต่างๆ ดังนั้นสำหรับใครที่อยากได้ปลั๊กอินที่รองรับเนื้อหาจากแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกจาก YouTube ขอแนะนำ Video Gallery ด้วยปลั๊กอินนี้ จะสามารถสร้างแกลอรี่วิโอคอนเทนต์บนหน้าเว็บไซต์ได้ ไม่ว่าจะมีแหล่งที่มาจาก YouTube หรือ Vimeo และยังมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Video Slide, Lightbox Gallery และ View Counter สำหรับแต่ละวิดีโอ

แผนการใช้งานมีทั้งแบบฟรีและชำระเงินเพื่ออัปเกรดฟีเจอร์มากขึ้น

1. YouTube Embed
   

สำหรับใครที่อยาก Embed คลิปวิดีโอลงในหน้าเว็บไซต์แต่ไม่ได้มีความรู้ในเรื่องของ CSS Framework อะไรเท่าไหร่ การใช้ปลั๊กอินก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง YouTube Embed ที่จะช่วยให้สามารถสร้าง Playlist วิดีโอจาก YouTube บนเว็บไซต์ อีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญคือปลั๊กอินตัวนี้สามารถเพิ่ม Metadata สำหรับการปรับปรุงเว็บไซต์ตามแนวทาง SEO ได้อีกด้วย ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ อย่างการปรับขนาด iFrame การปรับขนาดวิดีโอแบบไดนามิก หรือปรับแต่งสไตล์วิดีโอต่างๆ ให้ดูมีเอกลักษณ์และเพิ่มความโดดเด่นให้กับเว็บไซต์เป็นอย่างดี

สำหรับข้อเสียคือจำกัดเฉพาะวิดีโอที่มาจาก YouTube เท่านั้น และตัวเลือกการจัด Styling Option น้อยกว่าปลั๊กอินตัวอื่นๆ และไม่มีแผนการชำระเงิน สามารถใช้งานได้ฟรี

1. Elite Video Player
   

หมดทุกปัญหา Responsive Video ด้วย Elite Video Player ด้วยฟีเจอร์ YouTube 360 VR ที่สามารถเลื่อนดูวิดีโอในทิศทางใดก็ได้เพื่อดูในมุมมองต่างๆ และยังมีโหมด Light Box โหมดเต็มหน้าจอ เป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ผู้รับชมวิดีโอได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในหน้าเว็บไซต์ นอกจากนี้นอกเหนือวิดีโอจากแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง YouTube Vimeo ยังรองรับวิดีโอ Google Drive Video, Dropbox Video, Amazon S3, LiveStreaming HLS m3u8 และสามารถทำงานร่วมกับ Google Analytics และมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย

แผนการชำระเงินมีหลายช่วงราคาให้เลือกตามแต่ละโปรโมชัน ราคาปกติอยู๋ที่ 49 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ เหมาะสำหรับใครที่พอมีงบประมาณและต้องการปลั๊กอินแบบตัวเดียวจบ ไม่มีผิดหวังแน่นอน

1. YourChannel
   

สำหรับใครที่อยากได้ปลั๊กอินที่มีฟีเจอร์ครบถ้วนและสามารถใช้งานได้ฟรี YourChannel เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ด้วยฟีเจอร์มากมายสามารถสร้างฟีด YouTube บนเว็ฐไซต์โดยแสดงรายละเอียดต่างๆ อย่างรูปโปรไฟล์ ชื่อช่อง จำนวนวิดีโอและยอดวิว หรือจะปรับซ่อนทั้งหมดก็ทำได้อย่างสะดวกสบาย หรือสำหรับใครที่อยากได้ฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ ก็สามารถปรับแผนการชำระเงินเพิ่มเติม ก็จะสามารถใช้ฟีเจอร์ต่างๆ อย่าง Thumbnail Style ที่มีให้เลือกถึง 7 แบบ ฟีเจอร์ Autoplay รองรับ RTL นอกจากนี้ยังมี Cache System ที่ช่วยปรับปรุงเวลาในการโหลดวิดีโอเมื่อผู้ใช้งานกลับเข้ามายังหน้าเว็บไซต์เดิมใหม่อีกครั้ง ทำให้ช่วยเพิ่มคะแนน SEO ได้เป็นอย่างดี

สำหรับข้อเสียคือวิดีโอจะจำกัดเฉพาะวิดีโอบน YouTube เท่านั้น

ทิ้งท้าย

ลองเลือกปลั๊กอินสักตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนำเสนอเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณ เพื่อช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้น รับรองได้เลยว่าเพิ่มโอกาสในการดึงยอด Traffic เข้าสู่เว็บไซต์ได้อย่างแน่นอน หากเลือกไปลองใช้แล้วคิดว่าปลั๊กอินไหนโดดเด่นน่าสนใจก็อยากลืมมาบอกเล่าแลกเปลี่ยนกันด้วยนะ

Source: Hubspot

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย