อยากรู้วิโฝเก็บรักษาค่ะ เวลาเลิกใช้ต้องถอดแบตออกมัย แล้วสามรถเก็บฟิล์มที่เหลือไว้ในเครื่องได้ป่าว ขอบคุณค่ะ
0
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว Fujifilm เคยออกเครื่องพิมพ์ภาพบนฟิล์ม Instax รุ่นแรกอย่าง SP-1 กันมาแล้ว ซึ่งแบไต๋เองก็เคยรีวิวไปว่าคุณภาพภาพยังไม่เนี๊ยบเท่าภาพถ่ายจากกล้อง Instax เอง ล่าสุดฟูจิออก Instax Share รุ่นใหม่คือ SP-2 เรียบร้อย มันจะดีกว่ารุ่นแรกแค่ไหน บีขอรีวิวให้ดูกัน
รูปลักษณ์ของเครื่อง
Fujifilm Instax Share SP-2 มาในรูปลักษณ์ที่ดูหรูหรากว่ารุ่นแรก มี 2 สีให้เลือกคือสีทองและเงิน รอบๆ ตัวเครื่องก็มีรายละเอียดไม่มาก เริ่มตั้งแต่ปุ่มเปิดเครื่องและไฟแสดงจำนวนฟิล์มที่เหลือในเครื่องบริเวณด้านบนนี้ ด้านล่างก็เป็นช่องเปิดเพื่อเสียบสายชาร์จแบบ MicroUSB และช่องเปิดแบตเตอรี่ ทำให้ใช้สะดวกกว่ารุ่นแรกมาก เพราะเสียบชาร์จได้เลย ไม่ต้องซื้อถ่าน CR2 มาเปลี่ยนแล้ว
ที่บีอยากเตือนคือปุ่มอันตรายบนเครื่องที่ทำให้เราสูญเสียฟิล์มได้ เริ่มตั้งแต่ปุ่ม Reprint ด้านข้างเครื่องนี้ เพื่อสั่งพิมพ์รูปล่าสุดอีกครั้งหนึ่ง และตัวสไลด์เปิดช่องเก็บฟิล์มนี้ที่อันตรายขั้นสุด ถ้าเอาเครื่องไปใช้กับเพื่อนๆ แล้วเห็นใครจะเปิดช่องนี้ ตีมือให้เจ็บเลยนะคะ ฟิล์มราคาหลายร้อยของเราอาจเสียได้ถ้าช่องเปิดออกมา
การใช้งาน
ที่นี้มาดูการใช้เครื่องกันบ้าง ใช้ไม่ยากค่ะ ก่อนอื่นให้ดาวน์โหลดแอป Instax Share จาก App Store หรือ Google Play Store มาก่อน จากนั้นเปิดเครื่องพิมพ์แล้วสั่งให้สมาร์ทโฟนให้เชื่อมต่อกับ Wifi ชื่อ Instax ก็เปิดแอปสั่งพิมพ์ภาพที่อยู่ในสมาร์ทโฟนได้เลย ง่ายใช่ไหมล่ะ
นอกจากนี้ตัวแอป Instax Share ยังมีความสามารถอีกหลายอย่าง ทั้งปรับขนาด ตำแหน่ง หรือหมุนภาพที่จะพิมพ์ ใส่ฟิลเตอร์ให้ภาพคมชัดขึ้น หรือใส่กรอบภาพซ้อนเข้าไปพร้อมเขียนข้อความเพิ่มก็ได้ ทีน่าสนใจคือเราสามารถพิมพ์ภาพเดียวกันลงฟิล์ม instax 2 ใบมาต่อกันด้วยก็ได้
See also
คุณภาพภาพเป็นอย่างไร
มาถึงประเด็นที่หลายคนสนใจกันบ้าง คือคุณภาพภาพที่พิมพ์ออกมาเป็นยังไง ลองเทียบดูพร้อมๆ กับบีเลยนะคะ ก็ภาพจาก Instax share จะออกมาใกล้เคียงกับภาพต้นฉบับ แต่ contrast อาจจะสูงหน่อย แล้วภาพจะดูมีความฟุ้งนิดหนึ่ง ไม่ได้คมกริบแบบในจอ ก็เป็นลักษณะภาพจากฟิล์ม instax นะคะ ที่ทำงานด้วยการเอาแสงตกกระทบแผ่นฟิล์มจนกลายเป็นภาพ ไม่ได้ใช้หมึกพิมพ์ลงบนกระดาษ ซึ่งถ้าเทียบกับ Instax Share SP-1 รุ่นแรก ถือว่า SP-2 ให้ภาพที่ดีกว่ามาก ด้วยความละเอียดที่เพิ่มขึ้นเป็น 320 dpi แถมใช้เวลาในการพิมพ์รูปราว 10 วินาทีต่อแผ่นเอง
ที่นี้มาดูข้อสังเกตของ Instax Share SP-2 กันบ้าง อย่างแรกคือมันสามารถพิมพ์รูปจาก facebook, instagram พร้อมแสดงข้อความบรรยายรูปได้ แต่ต้องตัด Wifi ที่เชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ก่อนถึงจะดึงรูปจาก Social Network ได้ แล้วพอจะพิมพ์ค่อยเชื่อมเครื่องพิมพ์ใหม่ ก็เป็นขั้นตอนที่แปลกๆ หน่อยนะคะ นอกจากนี้ก็มีเรื่องราคาฟิล์ม Instax ที่สูงสำหรับหลายคนเหมือนกัน สำหรับฟิล์มกรอบขาวหาได้ถูกๆ หน่อยก็ประมาณกล่องละ 250 บาท หรือตกรูปละ 25 บาทนะคะ แต่ไม่มีค่าหมึกอะไรอีกแล้ว ใช้ฟิล์มอย่างเดียว ส่วนเครื่องพิมพ์ราคา 6,490 ค่ะ
Intellectual Property Protection - Privacy Policy - แผนผังเว็บไซต์ - Terms of Use - - Terms and Conditions for EU/EEA/UK Consumers - User Information Legal Enquiry Guide ©️ 2010-2023 AliExpress.com. All rights reserved.
Intellectual Property Protection - Privacy Policy - แผนผังเว็บไซต์ - Terms of Use - - Terms and Conditions for EU/EEA/UK Consumers - User Information Legal Enquiry Guide ©️ 2010-2023 AliExpress.com. All rights reserved.
สวัสดีทุกคน! เรา @torcnn คนเดิม รอบนี้ไม่ได้มารีวิวกล้อง แต่จะมารีวิวอะไรที่ไม่ได้หนีไปจากเรื่องเดิมๆเท่าไหร่ นั่นก็คือเครื่องปรินต์รูปสไตล์ Instant Camera (ถ่ายปุ๊บได้รูปปั๊บ) หรือที่เรียกว่า Fujifilm Instax Share รุ่น SP-2 นั่นเอง
Fujifilm Instax Share SP-2
Background
ฟูจิฟิล์มเป็นค่ายที่มักจะพาคนในยุคปัจจุบันย้อนกลับไปสัมผัสความรู้สึกเก่าๆอยู่เสมอครับ กล้อง Instant Camera (กล้อง Instax) ก็เป็นหนึ่งในสินค้าของฟูจิฟิล์มที่หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันดีว่าเป็นกล้องที่พอถ่ายปุ๊บก็จะปรินต์ภาพออกมาให้ในทันที เรารู้ว่าหลายๆคนก็คงเคยหยิบแผ่นฟิล์มพวกนี้ออกมาสะบัดรัวๆเพื่อเร่งให้สีสันมันออกมาเร็วๆใช่มะ 5555
กล้อง instax
ทีนี้รูปแบบการปรินต์ภาพแบบนี้มันไม่ได้มีเฉพาะในกล้อง Instant Camera อีกต่อไปละ เพราะบางคนก็อยากจะปรินต์ภาพความทรงจำที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนเก็บไว้ หรือบางคนอาจจะอยากใช้กล้องตัวอื่นถ่ายเพื่อให้ภาพที่ปรินต์ออกมาดูดีมีสกุลกว่าเดิม
ฟูจิเลยทำปรินเตอร์ Instax Share ออกมาเพื่อการนี้เลย ทีนี้ใครอยากจะปรินต์ภาพสากกะเบือยันเรือรบจากสมาร์ทโฟนก็สามารถปรินต์ได้หมด ไม่ต้องถ่ายผ่านกล้อง Instant Camera อีกต่อไป ในขณะที่ยังได้ภาพฟิล์มสไตล์คลาสสิคๆอยู่ สำหรับรุ่น SP-2 นี่เป็นรุ่นใหม่ถัดจาก SP-1 อีกทีนะ โดยรุ่นนี้จะให้ภาพที่คมชัดกว่าเดิม สีสันดีขึ้น และปรินต์ได้เร็วมากขึ้นด้วย
การใช้งานปรินเตอร์ตัวนี้คือโคตรง่ายครับ ไม่ซับซ้อนอะไรเลย เดี๋ยวเราจะอธิบายให้เป็นส่วนๆนะจ๊ะ
การชาร์จ
เครื่องนี้ชาร์จแล้วเอาออกไปใช้นอกบ้านได้ครับ ไม่ต้องหาปลั๊กเสียบเวลาที่จะใช้งาน ในกล่องมีแบตเตอรี่มาให้ พร้อมกับสายชาร์จแบบUSB
แบตเตอรี่
การชาร์จกินเวลาไม่นาน พอเสียบแล้วจะขึ้นไฟสีแดงกะพริบๆ พอเต็มก็จะขึ้นสีเขียว
ไฟสีแดงๆขึ้นเวลาชาร์จ
การใส่ฟิล์ม
ฟิล์มที่ใช้เนี่ยเป็น INSTAX mini instant color film ชนิดเดียวกับที่ใส่ในกล้อง Instax เลยแหละ ในกล่องจะมีมาให้เลย บรรจุ10แผ่น ใช้หมดนี่ก็ต้องไปซื้อมาใส่ใหม่ กล่องนึงมันประมาณ200–300บาทอะ ปรินต์รูปนึงหวดไปเกือบ30บาท เพราะฉะนั้นหากจะปรินต์รูปไหนให้คิดดีๆก่อนนะ 555
ฟิล์มมาเป็นกล่องหน้าตาแบบนี้ มี10แผ่น
ให้เราเปิดช่องใส่ฟิล์มด้วยการเลื่อนปุ่มโยกไปทางขวา ฝาก็จะเด้งออกมา ข้างในก็จะเป็นช่องว่างโล่งๆ
จากนั้นให้เราแกะกล่องฟิล์มออกมา จะเจอกล่องใส่ฟิล์มสีดำๆ ให้เราใส่กล่องนี้เข้าไปใน Fujifilm Instax Share SP-2 ครับ จะมีเครื่องหมายสีเหลืองๆ ก็ใส่ให้เครื่องหมายสีเหลืองๆมันตรงกัน ใส่ปุ๊บก็ปิดฝาให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จ
ปรินต์ภาพ
เริ่มที่การเปิดเครื่องกันก่อน ปุ่มเปิดจะอยู่ที่บริเวณด้านข้าง
พอเปิดเครื่องปุ๊บ หากว่าเราเพิ่งใส่ฟิล์มไป เจ้า Fujifilm Instax Share SP-2 จะคายแผ่นสีดำๆออกมา ให้เราดึงออก เท่านี้ก็พร้อมปรินต์ฟิล์มแผ่นแรกละ
แผ่นสีดำๆ ให้ดึงแผ่นนี้ออก
เวลาจะปรินต์ ให้เราโหลดแอปชื่อว่า instax SHARE เก็บไว้ในสมาร์ทโฟน(หรือแท็บเล็ต)ก่อนด้วย
พอต่อ Wifi สมาร์ทโฟน(หรือแท็บเล็ต)เข้ากับปรินเตอร์ ให้เปิดแอป instax SHARE ขึ้นมา จะมีให้ทำตามขั้นตอนอะไรนิดๆหน่อยๆ แล้วก็จะเข้าสู่หน้านี้ ซึ่งเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะปรินต์ภาพที่มีในสมาร์ทโฟน จะถ่ายภาพใหม่เพื่อปรินต์ หรือจะใส่ข้อมูลอะไรลงไปด้วย ลองกดๆเล่นดูได้
อันนี้เราเลือกภาพที่มีอยู่ในGallery เป็นภาพนี้ครับ พอกดปุ่ม Connect and Print เครื่องก็จะทำการปรินต์ให้ทันที
ออกมาแล้วววววววววววววว
ใช้เวลาไม่เกิน10วิ เท่านี้ก็ได้ละ รูปสวยๆจากแผ่นฟิล์มInstax
ถ้าอยากจะปรินต์รูปเดิมอีกก็กดปุ่ม Reprint ได้ เครื่องก็จะปรินต์รูปเดิมให้อีกรอบนึง พอปรินต์เสร็จก็ปิดเครื่องด้วยนะ
ราคาและช่องทางการสั่งซื้อ
ราคาปกติ 6,490 บาท แต่ในลาซาด้า 5,690 บาท
ใครที่สนใจก็ซื้อได้ผ่าน link นี้เลยนะครับ //ho.lazada.co.th/SHJcRa
สรุป
ใครที่อยากได้รูปฟิล์มแผ่นๆแบบนี้ไว้เก็บ หรือไว้เป็นของขวัญให้เพื่อนในโอกาสสำคัญๆ เราว่าเครื่องนี้โอเคมากเลย ไม่จำเป็นต้องถ่ายด้วยกล้องInstax ก็สามารถมีรูปแบบนี้ได้ ใช้งานไม่ยากด้วย แต่จะปรินต์รูปนึงก็คิดดีๆนะครับ เพราะราคาค่าฟิล์มนี่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
จบแล้วกับรีวิว Fujifilm Instax Share SP-2 ครับ เราชอบนะ เป็นเครื่องที่เล่นสนุกดี หากอยากจะพูดคุยแลกเปลี่ยนหรือติดตามรีวิวอื่นๆเกี่ยวกับกล้องและการถ่ายภาพ สามารถติดตามได้ทั้งทาง Facebook และ Twitter นะครับ