เผยแพร่: 8 ก.ค. 2549 14:07 โดย: MGR Online
คอลัมน์ "ขอบสนามฟุตบอลโลก 2006" โดย จักริน วงษ์พิทักษ์
“ดักแสบ” เป็นภาษาเหนือที่แปลออกเป็นไทยอย่างสละสลวยว่า “เงียบกริบ” นี่คือบรรยากาศที่เกิดขึ้นหลังจากเยอรมันเจ้าภาพพ่ายแพ้ให้กับอิตาลี ทีมที่ต้องยอมรับว่า รักษามาตราฐานของตนเองได้เป็นอย่างดีและเริ่มแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
เริ่มต้นวันด้วยความหวัง ผู้คนชาวเยอรมันเริ่มต้นให้แรงสนับสนุนทีมของตนเองตั้งแต่บ่าย ตามเนื้อตัวจะถูกแต่งแต้มด้วยสี ดำ แดง เหลือง และในมือแต่ละคนจะมีเบียร์หลากหลายยี่ห้อเป็นตัวเพิ่มพลังในการเชียร์ พวกเขาร้องเพลงที่ผมคุ้นเคยตั้งแต่วันแรก ๆ “ฟินาลเล่อร์ เอ่อ เอ่อ เอ้อ เออ” , “เวียร์ ฟาห์เร่น นาค แบร์ลิน” วนเวียนกันอยู่อย่างนั้นโดยไร้ซึ่งความเหน็ดเหนื่อยเกาะกุมร่างกาย
จุดหมายของผมอยู่ที่ร้านไอติมร้านเดิมครับ ผู้คนบางตากว่าที่คิดอาจจะเป็นเพราะทางเมืองได้เพิ่มจอใหญ่ยักษ์อีกถึงสองจอตรงลานกว้างบริเวณสะพาน “ด๊อยท์เซอร์ ไฟรไฮ่ท์” เพื่อรองรับบริเวณแฟนบอลที่ไม่สามารถเข้าชม ร่วมเชียร์ ในส่วนที่ฟี่ฟ่าจัดให้
เกมเริ่มโดยที่เยอรมันขาดกลางรับคนสำคัญอย่าง ทอร์สเท่น ฟริงส์ ไปในกรณีพิพาทกับอาร์เจนติน่าหลังเกม จากภาพช้า แม้จะถูกผู้คนรอบข้างเอามือไม้กันไว้แต่หมัดของฟริงส์ยังอุตสาห์ยื่นไปกระทบปลายคางของ ฮูลิโอ ครูซ พอดิบพอดีโดยเขายืนยันว่าเป็นการป้องกันตัว จึงถูกแบนไปตามระเบียบ
เกมนี้ คลิ้นสมันน์ เปลี่ยนผู้เล่นแดนกลางสองตำแหน่ง เซบาสเตียน เคห์ล เด็กดอร์ทมุนด์ได้รับโอกาสให้มาตัดเกมแดนกลาง ขณะที่ ทิม โบรอฟสกี้ มาทำเกมทางกราบแทน บาสเตียน ชไวน์ชไตเกอร์ รูปเกมเป็นไปอย่างสูสี อิตาลีเล่นช้าตามสไตล์ เหนียวหนึบตั้งแต่หลังยันหน้า เหล่าสปาเก็ตตี้แมนพยายามครองเกมและเจาะแนวรับทางริมเส้น ตัวจี๊ดอย่าง ซามบร็อตต้า และ กรอสโซ่ ป่วนสองแบ็คของเยอรมันจนต้องตัดฟาวล์บ่อยครั้ง เห็นแบบนี้คิดในใจเองว่า สงสัยโดนใบแดงแหงม ๆ แต่กลับไม่เป็นดังคาด
กรรมการนั้นตัดสินเข้าข้างเจ้าภาพอย่างน่าเกลียด บางช็อตที่เยอรมันตัดเกมนั้นน่าจะแจกใบเหลืองแต่กลับไม่ทำ เวลาผ่านไปสักระยะท่านเปาเริ่มรู้ตัว กลัวว่าจะน่าเกลียดเลยชูเหลืองให้เจ้าภาพบ้าง
ผมเคยคุยกับเหล่าพี่ ๆ ที่คลุกคลีอยู่กับแวดวงฟุตบอล ทัศนะที่ได้รับคือ นี่แหละพลังแห่งการเป็นเจ้าภาพ ท่านเปาจะมีอาการเกร็งเสมอ ๆ ในเกมที่เจ้าภาพเตะ เวลาเกมสูสี การฟาวล์นิด ๆ หน่อย ๆ แล้วโดนเหลืองเนี่ย จะทำให้เล่นง่ายขึ้นเพราะคู่ต่อสู้จะไม่กล้าฟาวล์ กลัวถูกส่งออกไปนั่งข้างสนาม เกมที่อาร์เจนเจอเจ้าภาพเป็นตัวชี้ให้เห็นชัดเจนขึ้น พาโบล โซริน ไม่กล้าทำฟาวล์หลังจากโดนเหลืองแรก ขุนพลคะนองศึกอย่าง โอดอนคอร์ เลยลากเลื้อยได้สะดวก เหล่านี้เป็นจุดเปลี่ยนของเกมได้ทั้งสิ้น
จบเกม 90 นาทียังเหนียวแน่นกันอยู่ โอกาสทำประตูมีมากมายพอกัน แต่ทั้งสองทีมไม่สามารถฉกฉวยโอกาสที่มีไว้ได้ มาเซลโล่ ลิปปี้ คงเห็นแล้วว่า เยอรมันไม่สามารถเจาะแนวรับทีมตนเองได้ จึงจัดการส่งแนวรุกลงเพิ่มมาอีก จนเกมเข้าถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ภาพที่เห็น จิลลาดิโน่ ยิงหักข้อแล้วชนเสา ตามด้วยลูกชนคานของ ซามบร็อตต้า ผมหันไปกระซิบกับคนข้าง ๆ ว่า จบแล้ว อิตาลีไม่ชนะแล้วหละ ไม่มีดวงซะขนาดนั้น
ยิ่งใกล้หมดเวลาผมและเหล่าผู้สนับสนุนเยอรมันอย่างเป็นทางการแสยะยิ้มน้อย ๆ มั่นใจเหลือเกินว่า เยอรมันจะชนะจุดโทษเข้าไปรอชิง แม้อิตาลีจะมีมือหนึ่งของโลกอย่าง จิอานลูจิ บุฟฟ่อนเฝ้าเสาอยู่แต่พวกเรามี “แฮนออฟก๊อด” เยนส์ เลห์มันน์ อยู่ทั้งคน ฉายานี้ได้รับหลังจากเซฟโทษได้สองลูกในเกมก่อน อีกเพียงสองนาทีเท่านั้น เราก็จะได้ลุ้นจุดโทษกันอีกครั้ง
โอ้ พระเจ้า ย๊อด ! ปิร์โล่ ยอดกองกลางจาก เอซี มิลาน เก็บบอลได้บริเวณกรอบโทษ จ่ายให้ข้อให้ กรอสโซ่ ปั่นโค้งผ่านมือเลห์มันน์เข้าไป เสียงพี่เลี่ยนดังกระหึ่มร้าน สลับกับเสียงสบถและให้กำลังใจต่อสู้ในอีกสองนาทีที่เหลือ เยอรมนีพยามบุก แต่สุดท้ายโดนโต้กลับและตะปูตัวที่ 2ก็ถูกตอกในนาทีสุดท้ายโดย เดล ปิเอโร่
น้ำตาลูกผู้ชายหลั่งไหลจากสองดวงตาของเหล่านักเตะและแฟนบอล เสียงปรบมือให้กำลังใจดังกระหึ่ม ฟีฟ่า สตาดิโอน บ่งบอกว่า ทุกคนภูมิใจแค่ไหนกับทีมชุดนี้ สปิริต ฟอร์มการเล่นที่พวกเขาแสดงออกให้เห็นตลอดทัวร์นาเม้นต์ ทำให้ทีมชุดนี้เป็นทีมที่ยืนอยู่ในหัวใจของทุกผู้คน
เสียงเพลงที่แทนความรู้สึกจากแฟนบอลทุกคนกระหึ่มดังขึ้น “You’ll never walk alone” สู้ต่อไปนะ คลินซี่และอินทรีน้อย
ถ้าปั๊มติ๊กเสีย รถจะมีอาการยังไงบ้างครับ
กำลังสงสัยว่ารถผมปั๊มติ๊กจะเสีย เพราะซ่อมไปหลายอย่างแล้วยังสตาร์ตยาก
อยากถามอาการคร่าวๆที่แสดงว่าปั๊มติ๊กเสีย หรือกำลังจะเสีย
ใครมีประสบการณ์ช่วยแชร์กันหน่อยนะครับ
0
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ รถยนต์