Adapter notebook แอมป มากกว า ม ผลเส ยย งไง

Adapter (อะแดปเตอร์) อุปกรณ์ชาร์จไฟที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยมีผลิตออกมามากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งตามปกติแล้วเมื่อเราซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น มือถือ กล้องถ่ายรูป โน้ตบุ๊ก ก็มักจะมี Adapter แถมมาให้ด้วย แต่พอใช้งานไปนานๆ ก็อาจจะมีการชำรุดหรือสูญหาย และต้องซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยน คำถามคือเราจะเลือกอย่างไรถึงจะเหมาะสม เพราะแค่สัญลักษณ์ต่างๆ ที่ติดมาบนตัวหัวชาร์จก็เล่นเอางงแล้ว ดังนั้นในบทความนี้เราเลยจะพาคุณมาทำความรู้จักกับสัญลักษณ์ต่างๆ บนอุปกรณ์นี้ การใช้งาน และวิธีเลือกซื้อกันครับ

สัญลักษณ์ต่างๆ บน Adapter หมายถึงอะไรบ้าง

Adapter notebook แอมป มากกว า ม ผลเส ยย งไง

เชื่อว่าแทบทุกคนผ่านการใช้งาน Adapter กันมามากกว่า 1 ตัว และมากกว่า 1 อุปกรณ์ และอาจจะเคยพลิกไปพลิกมาบ้างตอนซื้อมาใหม่ๆ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าตัวเลขหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ประทับเอาไว้บนเครื่องคืออะไรและเกี่ยวข้องกับการชาร์จไฟอย่างไรบ้าง และส่งผลต่อการชาร์จอย่างไร ทั้งกับ Adapter มือถือและอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งคำศัพท์สำคัญๆ ที่เราควรต้องรู้นั้นประกอบไปด้วย

-Amps หรือ แอมป์ อธิบายง่ายๆ ก็คือแรงดันของกระแสไฟฟ้าที่วิ่งเข้าสู่แบตเตอรี่หรือหัวชาร์จ แล้วส่งต่อไปยังอุปกรณ์ที่เราต้องการชาร์จ โดยบนตัวหัวชาร์จจะระบุเป็นค่า Input (ไฟเข้า) และ Output (ไฟออก) ยกตัวอย่างเช่น 1 A ก็คือมีค่าของแรงดันไฟฟ้า 1.0 Amp ซึ่งเป็นค่าพื้นฐานที่เราใช้กันมานาน แต่ในปัจจุบันถือว่าค่อนข้างช้าเพราะเทคโนโลยีตอนนี้จะเป็น 2.0 Amps, 2.1 Amps ไปจนถึง 2.4 Amps หากถามว่าควรซื้อแบบไหนก็ควรซื้อ Adapter ที่มีแรงดันไฟฟ้า 2.0 Amps ขึ้นไป หรือซื้อตามที่ระบุเอาไว้ในคู่มือของอุปกรณ์นั้นๆ จะเหมาะสมที่สุด

– Voltage เป็นค่าแรงดันไฟที่เข้าชาร์จประจุไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ โดยมาตรฐานจะอยู่ที่ 5 Volts (5 โวลต์) ซึ่งในกรณีเป็นหัวชาร์จแบบ Quick Charge ที่รองรับการชาร์จเร็ว ก็ต้องดูประกอบกันทั้ง V และ A ว่ามี Input และ Output เท่าไหร่

– Input คือค่าของการชาร์จไฟเข้าสู่หัวชาร์จ เช่น 5V / 2.0A, 5V / 2.1A หรือ 5V / 2.4A ยิ่งเยอะก็ยิ่งชาร์จเร็วขึ้น

– Output ก็คือค่าการจ่ายไฟเข้าสู่อุปกรณ์ต่างๆ ของเรา ซึ่งปกติแล้วจะมีการระบุเอาไว้ชัดเจนบน Adapter อาทิ 5V / 2.0A, 5V / 2.1A หรือ 5V / 2.4A เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อย

Q: ในการใช้งานจริง Volt เท่ากันแต่ Amps ต่างกัน ใช้กันได้ไหม ถ้าใช้เกินกำลังจะทำให้อุปกรณ์พังหรือไม่?

A: สามารถใช้งานแทนกันได้ แต่ควรเป็นกรณีที่ Volt เท่ากันแต่ Amps มากกว่า ไม่ควรใช้ที่เกินกำลังเพราะอาจทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไป เช่น ถ้า Adapter เดิมที่มากับเครื่องกำหนดไว้ที่ 19.5V/6.2A ของใหม่ 19.5V/7.7A แบบนี้ใช้กันได้ แต่ถ้าต่ำกว่า 6.2A ไม่ควรใช้ ทั้งนี้ขั้วบวกและขั้วลบก็ต้องต้องกันด้วย

Q: กรณีที่อุปกรณ์รองรับการชาร์จ 2.0A เอาหัวชาร์จแบบ Fast Charge หรือ Super Fast Charge ไปชาร์จได้หรือไม่?

A: ปกติแล้วเวลาที่มีการผลิตวงจรการชาร์จทางผู้ผลิตมักจะตั้งค่าเอาไว้อย่างเหมาะสมอยู่แล้ว ดังนั้นหากอุปกรณ์รองรับการชาร์จ 2.0A แล้วเราเอาระบบชาร์จเร็ว 4.5A ไปชาร์จ ก็ไม่มีผลอะไร เพราะไฟจะเข้าแค่ 2.0A หรือในกรณีเลวร้ายสุดอาจจะเกิดความร้อนสูงจนเกิดการชำรุดได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เรานำไปชาร์จด้วย

Q: ถ้าเราเอาที่ชาร์จเร็วของ iPhone หรือ มือถือ Samsung ไปชาร์จบุหรี่ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อื่นที่รองรับกำลังไฟ 1.0A จะทำให้ชาร์จเร็วขึ้นหรือไม่ มีผลดีผลเสียอย่างไร

A: หลายคนน่าจะเคยเอาที่ชาร์จมือถือไปชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ กันมาบ้าง หากสังเกตดีๆ จะพบว่า แม้เราจะเอาที่ชาร์จเร็ว 2.4A หรือ 4.5A ไปชาร์จก็ไม่มีผลให้ชาร์จเร็วขึ้น เพราะอุปกรณ์ระบุเอาไว้ว่ารองรับการชาร์จ 1A เท่านั้น คำถามต่อมาคือแล้วมันจะเกิดการสะสมความร้อนจนทำให้เกิดการลุกไหม้ได้หรือเปล่า ตรงนี้ก็ขึ้นกับว่าวงจรที่ออกแบบมารับได้แค่ไหน ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น เรากินมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดการจุกท้องหรือปวดท้องตามมาได้นั่นเองครับ ทางที่ดีเลือกใช้อย่างเหมาะสมจะดีกว่า

-สัญลักษณ์ขั้วบวก-ขั้วลบ บน Adapter

Adapter notebook แอมป มากกว า ม ผลเส ยย งไง

นอกจากสัญลักษณ์ดังกล่าวข้างต้นแล้วอีกตัวที่เรามักเห็นกันบน Adapter ก็คือสัญลักษณ์ขั้วบวก-ขั้วลบ ที่ติดเอาไว้ ซึ่งเราต้องเลือกให้ตรงกับอุปกรณ์ของเราด้วยไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้หรือต้องมาทำการดัดแปลงซึ่งทำให้เสียเวลาและยุ่งยาก รวมถึงอาจเกิดการชำรุดเสียหายได้ นอกจากนี้ยังต้องเลือกแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมด้วย เช่น 12V / 5A หรือ 12V / 2A

Adapter notebook แอมป มากกว า ม ผลเส ยย งไง

Adapter notebook แอมป มากกว า ม ผลเส ยย งไง
การสังเกตขั้วบวก-ขั้วลบ ว่าขั้วไหนอยู่ในหรือนอก จากสัญลักษณ์บน Adapter ควรเลือกให้ตรงกัน

-ขนาดของรูบนหัวแจ๊ค

Adapter notebook แอมป มากกว า ม ผลเส ยย งไง

หากเราสังเกตให้ดีจะพบว่า Adapter แต่ละรุ่นจะมีขนาดของรูบนหัวแจ๊คหรือ Connector Size ที่ไม่เท่ากัน ทำให้หากเลือกผิดก็จะไปเสียบเข้ากับอุปกรณ์ของเราไม่ได้ โดยขนาดของเจ้า Connector Size จะมีระบุเอาไว้เป็นตัวเลข 2 ชุดด้วยกัน เช่น 5.5×2.5mm ซึ่งตัวเลขแรก (5.5mm) คือ เส้นผ่าศูนย์กลางวงกลมรอบนอกของหัวแจ๊ค ส่วนตัวเลขข้างหลัง (2.5mm) ก็คือเส้นผ่าศูนย์กลางวงกลมรอบในของหัวแจ๊ค ทั้งนี้หากไม่แน่ใจเวลาจะซื้อ Adapter ควรนำอุปกรณ์หรือ Adapter ตัวเดิมไปเทียบ จะได้ซื้อมาใช้อย่างถูกต้อง

-สัญลักษณ์การรับรองมาตรฐานหรือแหล่งผลิต

Adapter notebook แอมป มากกว า ม ผลเส ยย งไง

สุดท้ายที่เราควรสังเกตและทราบเอาไว้ก็คือสัญลักษณ์การรับรองมาตรฐานสินค้าหรือความปลอดภัยรวมถึงแหล่งผลิต ที่มักจะติดเอาไว้ที่ตัวอุปกรณ์ อาทิ

-CE หรือ European Conformity (เดิมใช้ EC) คือผ่านการรับรองจากสหภาพยุโรปว่าปลอดภัย ได้มาตรฐาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือบางตัวอาจหมายถึง China Export เท่านั้น

-FCC หรือ Federal Communications Commission คือผ่านการรับรองจากคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของประเทศสหรัฐอเมริกา

-RoHS หรือ Restriction of Hazardous Substances มาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป

-CCC หรือ China Compulsory Certification มาตรฐานด้านด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของคน สัตว์ สิ่งแวดล้อม จำนวน 132 รายการของประเทศจีน

วิธีเลือกซื้อ Adapter

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นว่าในการพิจารณาเลือกซื้อ Adapter เอาไว้ใช้งานนั้นสิ่งที่เราต้องพิจารณาก็คือค่า Volt, Amps, Input, Output, ประเภทของขั้วไฟฟ้า, ชนิดของ หัวแจ๊คหรือ Connector Size รวมถึงมาตรฐานการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น และควรเป็น Adapter Original หรือผลิตโดยผู้ผลิตเดียวกันกับอุปกรณ์ที่เราจะใช้ชาร์จ หลีกเลี่ยง Adapter ปลอม ที่มักมีราคาถูกแต่คุณภาพและความปลอดภัยต่ำ ซึ่งอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ราคาแพงของเราเสียหายได้

Adapter ในปัจจุบันนี้มีมากมายหลายแบบ หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ราคาก็แตกต่างกันออกไปตามคุณภาพและมาตรฐานต่างๆ ซึ่งเราหวังว่าข้อมูลที่เรานำมาฝากนี้จะช่วยให้คุณรู้จักกับอุปกรณ์ชาร์จไฟตัวนี้กันมากขึ้น และสามารถใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อในเบื้องต้นได้ โดยในบทความต่อๆ ไป เราจะมาเจาะลึกกันถึงระบบการชาร์จแบบต่างๆ ว่ามีอะไรบ้าง อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ

Adapter แอมป์สูงกว่า ใช้ได้ไหม

: Watt ควรหา Adapter โน๊ตบุ๊คที่มีกำลังไฟเท่ากับของเดิม หรือสูงกว่าเดิมไม่มาก เพราะหากสูงเกินไปจะทำให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อมสภาพไวขึ้น เนื่องจากชาร์จไฟเร็วกว่าปกติ ขณะเดียวกัน ถ้ากำลังไฟต่ำกว่าเดิม ก็จะชาร์จไฟช้ากว่าปกติและโน๊ตบุ๊คอาจทำงานผิดปกติเพราะได้รับกำลังไฟไม่เพียงพอ โดยมากที่ตัว Adapter หรือด้านใต้โน๊ตบุ๊ค มัก ...

อเเดปเตอร์โน๊ตบุ๊ค ยีห้อไหนดี

8 หัวชาร์จคุณภาพ ที่คุ้มค่ากับการครอบครอง.

หัวชาร์จ Anker PowerPort PD (35W) Fast Charge Adapter..

หัวชาร์จ Aukey PA-B7 Omnia 100W 4-Port USB C Charger..

หัวชาร์จ Energea Ampcharge PD (20W).

หัวชาร์จ Remax (RP-U32) 2in1 2.1A USB Charger..

หัวชาร์จ Belkin USB-C + USB-A Wall Charger 30W..

หัวชาร์จ Eloop C6 GaN 45W Port Adapter..

หัวชาร์จ วัตต์สูง ดีไหม

การใช้หัวชาร์จวัตต์สูงเกินกว่าที่มือถือของเรารับได้ เช่น หัวชาร์จ 65W ชาร์จกับมือถือ 18W ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เพราะทั้งหัวชาร์จและมือถือในปัจจุบันจะมีระบบความปลอดภัยที่ตรวจสอบปริมาณวัตต์สูงสุดที่มือถือจะรับได้โดยอัตโนมัติ และจ่ายไฟให้ตามนั้น ดังนั้น หากเราใช้หัวชาร์จ 65W กับมือถือ 18W ก็จะมีการจ่ายไฟเข้ามือถือแค่ 18W ...

อะแดปเตอร์ โน๊ตบุ๊ค ใช้ด้วยกันได้ไหม

A: สามารถใช้งานแทนกันได้ แต่ควรเป็นกรณีที่ Volt เท่ากันแต่ Amps มากกว่า ไม่ควรใช้ที่เกินกำลังเพราะอาจทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไป เช่น ถ้า Adapter เดิมที่มากับเครื่องกำหนดไว้ที่ 19.5V/6.2A ของใหม่ 19.5V/7.7A แบบนี้ใช้กันได้ แต่ถ้าต่ำกว่า 6.2A ไม่ควรใช้ ทั้งนี้ขั้วบวกและขั้วลบก็ต้องต้องกันด้วย