ท ต งเคหะช มชนผ ม รายได น อย จ.กาฬส น

ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาล ลูกจ้าง พนักงานจ้าง เทศบาลตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธ์

แพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'นิพนธ์ มาตสะอาด' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานทัศนศึกษาดูงานนอกสถานที่เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ผู้บริหารสมาชิกสภาเทศบาล ขรก. พนักงาน ปีงบประมาณ 2553 เป็นเท็จ และออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษ จำคุก 5 ปี พวกอีก 8 รายโดน คนละ 3 ปี 4 เดือน ได้รอลงอาญา 3 ยกฟ้อง 1 -ป.ป.ช.ค้านอสส.ไม่อุทธรณ์สู้

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายนิพนธ์ มาตสะอาด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ และพวก 9 ราย คือ พันจ่าเอกหรือนายอัครเดช โชติพงษ์ นายสุภาวดี สิงห์สุ่ถ้ำ นายวริทธิ์นันท์ ยะวร จ่าเอกหรือนายสมคิด ศรีแพงมน นางจอมขวัญ ยุบลมาตย์ นางสุพรรณี มีสุข นางอมรรัตน์ สอนสุด นางปาริชาติ กุลชาติ นางคำกอง กองสุข จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและทัศนศึกษาดูงานนอกสถานที่เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ผู้บริหารสมาชิกสภาเทศบาล ข้าราชการ และพนักงานเทศบาลประจำปี งบประมาณ 2553 เป็นเท็จ และออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ.มาตรา 151 , 157 และ 162 (1) , (4) ประกอบมาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษา ดังนี้

1. นายนิพนธ์ มาตสะอาด จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 151 จำคุก 5 ปี

2. พันจ่าเอกหรือนายอัครเดช โชติพงษ์ จำเลยที่ 2 นายสุภาวดี สิงห์สุ่ถ้ำ จำเลยที่ 3 นายวริทธิ์นันท์ ยะวร จำเลยที่ 4 จ่าเอกหรือนายสมคิด ศรีแพงมน จำเลยที่ 5 นางจอมขวัญ ยุบลมาตย์ จำเลยที่ 6 นางสุพรรณี มีสุข จำเลยที่ 7 นางอมรรัตน์ สอนสุด จำเลยที่ 8 และ นางคำกอง กองสุข จำเลยที่ 10 มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 จำคุก คนละ 3 ปี 4 เดือน

3. ปรับนางจอมขวัญ ยุบลมาตย์ จำเลยที่ 6 นางสุพรรณี มีสุข จำเลยที่ 7 และ นางคำกอง กองสุข จำเลยที่ 10 คนละ 40,000 บาท

นางจอมขวัญ ยุบลมาตย์ จำเลยที่ 6 นางสุพรรณี มีสุข จำเลยที่ 7 และ นางคำกอง กองสุข จำเลยที่ 10 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง

คงจำคุกจำเลยที่ 6 ที่ 7 และที่ 10 คนละ 1 ปี 8 เดือน และปรับคนละ 20,000 บาท

โทษจำคุกจำเลยที่ 6 ที่ 7 และที่ 10 ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ให้คุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ภายในกำหนด 1 ปี

หากจำเลยที่ 6 ที่ 7 และที่ 10 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ.มาตรา 29, 30

4. ยกฟ้องโจทก์สำหรับ นางปาริชาติ กุลชาติ จำเลยที่ 9

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ลงมติไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ในกรณียกฟ้องจำเลยที่ 9

ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ